ตู้เย็น เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดหนึ่งที่ต้องเสียบปลั๊กอยู่ตลอดเวลา เพื่อเก็บรักษาอาหารและวัตถุดิบในการทำอาหารของเราให้มีความสดใหม่ สภาพสมบูรณ์แบบอยู่เสมอ จึงไม่แปลกเลยที่
ตู้เย็น เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ค่อนข้างที่จะกินไฟพอสมควร
ภาพจาก notforboring.blogspot.com
ดังนั้นถ้าหากเราต้องการที่จะลดค่าใช้จ่ายตรงส่วนนี้ การเลือกตู้เย็นที่ช่วยประหยัดไฟ และเหมาะกับการใช้งานจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
บทความเกี่ยวข้อง : มือใหม่หัดเลือก
ตู้เย็นประหยัดไฟ !
นอกจากการเลือก
ตู้เย็นประหยัดไฟกับขนาดที่เหมาะสมกับการใช้งานแล้ว พฤติกรรมการใช้งาน
ตู้เย็น ก็เป็นอีกปัจจัยที่จะสามารถช่วยประหยัดค่าไฟได้อีก โดยเริ่มจาก
อย่าแช่ของร้อนในตู้เย็น
หลายคนชอบแช่ของร้อนใน
ตู้เย็น แบบว่าไม่รออุ่นหรือรอเย็นเลย คุณรู้หรือไม่ว่าการกระทำแบบนี้ยิ่งทำให้
ตู้เย็นกินไฟมากยิ่งขึ้น เพราะ
ตู้เย็นจะยิ่งทำงานหนักมากขึ้นเพื่อรักษาอุณภูมิภายในให้คงที่อยู่เสมอ ดังนั้นการเก็บอาหารเข้า
ตู้เย็น จะต้องรอให้อาหารหายร้อนเสียก่อนนำเข้าแช่
ตู้เย็นถึงจะดีที่สุดค่ะ
ภาพจาก Wonderful Engineering
ช่องแช่แข็งแช่ให้พอดี
ช่องแช่แข็งเป็นส่วนที่กินไฟค่อนข้างมาก ดังนั้นการจัดแบ่งโซนพื้นที่ หรือจัดการวัตถุดิบ ว่าจะแช่งช่องเย็น หรือช่องแข็ง จึงมีความสำคัญอย่างมาก จะช่วยให้ความเย็นสามารถกระจายตัวเข้าไปได้ทั่วทุกส่วนของอาหารโดยที่ใช้ไฟฟ้าไม่มากเกินความจำเป็น
ภาพจาก Real Simple
ตู้เย็นอย่าตั้งใกล้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น
หากเป็นได้แนะนำให้ตั้ง
ตู้เย็นแยกออกจากเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทอื่น เนื่องจาก
ตู้เย็นต้องใช้ไฟอยู่ตลอดเวลา หากมีเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทอื่นมาทำงานอยู่ใกล้ๆ
ตู้เย็นอาจจะทำงานมากขึ้น เนื่องจากได้รับความร้อนจากการทำงานของเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทอื่น ส่งผลให้ค่าไฟเพิ่มมากขึ้น
ภาพจาก Monogram Appliances
ละลายน้ำแข็งและทำความสะอาด
การละลายน้ำแข็ง และการทำงานสะอาด จะต้องทำอย่างน้อยเดือนละ 1-2 ครั้ง เพื่อจัดเก็บและระบายสิ่งของที่ไม่ใช้แล้ว อาหารที่ใกล้หมดอายุออกไปให้หมด ลดปัญหากลิ่นอับอันไม่พึงประสงค์ อากาศภายใน
ตู้เย็นจะมีความสดชื่นอยู่เสมอค่ะ
ภาพจาก bloggang.com
บทความเกี่ยวข้อง :
เคล็ดลับการทำความสะอาดตู้เย็น ง๊ายง่าย ต้องบอกต่อ ! ไม่จำเป็นอย่าเปิดปิดบ่อย
การเปิดปิด
ตู้เย็นแต่ละครั้ง ภายใน
ตู้เย็นจะสูญเสียอุณภูมิเป็นจำนวนมาก ซึ่ง
ตู้เย็นจะต้องทำความเย็นขึ้นมาใหม่เพื่อทดแทนส่วนที่เสียไป ซึ่งเป็นการสิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้าเป็นอย่างมาก ดังนั้นการเปิดปิด
ตู้เย็น ไม่ควรเปิดทิ้งเอาไว้นานๆ หากไม่จำเป็นจริงๆ
หรือคุณอาจจะเลือก
ตู้เย็นแบบ Door in Door จะช่วยให้เพื่อนๆเลือกหยิบอาหารออกจาก
ตู้เย็นได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องเปิดประตู
ตู้เย็นทั้งหมด ช่วยลดการสูญเสียลมเย็นได้ถึง 41% เมื่อเทียบกับ
ตู้เย็นประตูแบบธรรมดา