กาแฟ เรียกได้ว่าเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมระดับโลกเลยก็ว่าได้ กาแฟเป็นเครื่องดื่มที่หลายคนติดมากๆ ตื่นเช้ามาต้องชงดื่มแทบทุกวัน วันไหนไม่ได้ดื่มจะเกิดอาการง่วงนอน บางรายอาจจะเกิดอาการปวดหัวได้อีกด้วย
ภาพจาก SELF Magazine
แต่สำหรับบทความนี้ จะไม่ขอโฟกัสในเรื่องของอาการที่กล่าวมา
แต่เป็นเรื่องของการดื่มกาแฟ กับการออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนัก เป็นผลดีหรือผลร้ายต่อร่างกายกันแน่ ? กาแฟกับการออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนักดีหรือไม่ ?
เป็นเรื่องที่มีข้อโต้เถียงขัดแย้งกันอยู่บ่อยครั้งในกลุ่มคนที่กำลังลดน้ำหนัก คุณอาจจะเคยไดยินกันมาบ้างว่า
การดื่มกาแฟ จะช่วยทำให้ระบบเผาผลาญในร่างกายทำงานได้ดีขึ้น แต่ก็จะมีคนอีกกลุ่มบอกว่า กาแฟไม่ได้ช่วยอะไร และไม่ควรดื่ม ภาพจาก shape.com
มือใหม่ที่อยากจะ
ออกกำลังกายเพื่อลดน้ำนัก ฟังไปก็งงกันไป เพราะไม่รู้ว่าตกลงการดื่ม
กาแฟกับการ
ออกกำลังกายไปด้วยกัน มันดีหรือไม่ดีกันแน่ ?
ใครก็ได้ช่วยสรุปให้ทีค่ะ ! ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว !
จากการวิจัยพบว่าการดื่ม
กาแฟสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้การใช้พลังงานจากคาร์โบไฮเดรตและ
เพิ่มประสิทธิภาพการออกกำลังกายเพิ่มขึ้นได้อีกประมาณ 12% เพราะ
กาแฟทำให้เราตื่นตัว กระปรี้กระเปร่า สามารถ
ออกกำลังกายได้ยาวนานมากยิ่งขึ้น
แต่
. ภาพจาก Golden Pulse
การดื่มกาแฟส่งผลทำให้ใจของเราสั่น หลายคนอาจจะสังเกตุร่างกายของตัวเองหลังจากการดื่มกำแฟ แล้วรู้สึกใจเต้นตุ๊บๆแรงมาก แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนนะคะ สาเหตุหลักเกิดจากอาการแพ้คาเฟอีนที่มีใน
กาแฟ ส่งผลทำให้หัวใจเต้นผิดปกติ
ดังนั้นหากใครดื่มกาแฟแล้วใจเต้นแรง ควรงดการดื่มเอาไว้ แนะนำให้ออกกำลังกายอย่างเดียวก็เพียงพอ สรุปคือยังไงกันล่ะ ?
จากที่กล่าวมาข้างต้น บอกเลยว่าเป็นเรื่องจริงทั้งคู่ ว่าการดื่ม
กาแฟ สามารถช่วยเผาผลาญพลังงานได้มากขึ้น
(มีผลการวิจัยทางการแพทย์รับรอง) แต่ก็ไม่เหมาะสำหรับคนที่ดื่มแล้วมีอาการใจสั่น
ดังนั้นเวลาดื่มกาแฟ คุณจะต้องสังเกตุร่างกายตัวเองว่ามีอาการแพ้สารคาเฟอีนหรือไม่ หากมีโรคเกี่ยวกับหัวใจหรือมีอาการแพ้มาก ก็ไม่ควรดื่มเลยจะดีกว่าค่ะ
ภาพจาก ScrogeStore
สำหรับการดื่ม
กาแฟเพื่อการ
ออกกำลังกาย แนะนำให้ดื่มก่อน
ออกกำลังกายประมาณ 30 นาที เพียงแก้วเดียวเท่านั้น ที่สำคัญคือควรดื่มเป็น
กาแฟดำ เพราะมีปริมาณแคลอรี่ต่ำมากกว่า
กาแฟที่ผสมนมหรือน้ำตาล หากดื่มเข้มๆไม่ได้ ใส่น้ำเชื่อมสักครึ่งช็อตก็ได้ค่ะ