เนื่องด้วยอากาศบ้านเราก็เอาแน่เอานอนไม่ได้ วันนึงร้อนตับแล่บ อีกวันเกิดฝนตกสะงั้น เป็นปัญหาชวนหนักอกหนักใจของคุณพ่อบ้านแม่บ้าน ที่ต้องซักทำความสะอาดเสื้อผ้า และหวังว่าแดดจะแรงตากผ้าแห้งหอมแดดพร้อมสวมใส่

แต่ความฝันที่คิดเอาไว้กลับดับสลาย เพราะวันใดที่เริ่มลงมือซักผ้า ฟ้าจะมืดครึ้มขึ้นมาทันที โอ้โห สวรรค์เหมือนจะหลั่นแกล้งกัน จากเสื้อผ้าที่ควรแห้งหอมแดด กลายเป็นเสื้อผ้าที่อับชื้น และมีกลิ่นอับติดตัว สวมใส่ไปไหนมาไหน ก็ไม่สบายทั้งกายและใจ

เครื่องอบผ้าสิช่วยได้นะ !
ปัญหาเหล่านี้ เราสามารถแก้ไขได้ หากที่บ้านของเรามีเครื่องอบผ้า ตัวช่วยอบผ้าแห้งแม้ในวันที่ฝนตก เสื้อผ้าหอมสะอาดไร้กลิ่นอับชื้น พร้อมสวมใส่ออกไปโลดแล่น บอกเลยว่ามีเครื่องอบผ้าไว้ที่บ้านแล้ว สะบัดบ๊อบไม่ง้อแดดอีกต่อไป!

เครื่องอบผ้ามีให้เลือกกี่แบบ ?
หากใครที่สนใจอยากจะได้เครื่องอบผ้ามาใช้งานที่บ้าน บอกเลยว่าจะต้องพิจารณาถึงเรื่องของประเภทการใช้งานด้วยนะคะ เพราะเครื่องอบผ้า มีให้เลือกอยู่ 2 ประเภท คือ เครื่องอบผ้าแบบลมร้อน และ เครื่องอบผ้าแบบควบแน่น

ซึ่งเครื่องอบผ้าทั้ง 2 แบบก็จะสามารถช่วยทำให้เสื้อผ้าแห้งหอมสดชื่นได้เหมือนกัน แต่จะมีความแตกต่างที่หลักการทำงาน และการติดตั้ง การเลือกเครื่องอบผ้าจึงต้องพิจารณาจากตรงจุดนี้นี่แหละ … งั้นเรามาดูกันดีกว่าว่า เครื่องอบผ้าท้ง 2 ประเภท ทำงานต่างกันอย่างไร เริ่มจาก …

เครื่องอบผ้าแบบลมร้อน
เครื่องอบผ้าแบบลมร้อน มีหลักการทำงานโดยเป่าลมร้อนใส่เสื้อผ้าภายภายในเครื่อง และระบายลมออกผ่านทางท่อระบาย ในบางรุ่นจะสามารถตั้งค่าเวลาการทำงานได้ด้วยว่ จะอบแห้งเป็นระยะเวลาเท่าใด แต่ปกติแล้วการตั้งเวลาก็จะเป็นแบบอัตโนมัติ

เครื่องอบผ้าแบบลมร้อนก็จะทำงานไปเรื่อยๆ จนกว่าเสื้อผ้าจะแห้งดี โดยจะหยุดการทำงานก็ต่อเมื่อเสื้อผ้าในตัวเครื่องแห้งสนิท โดยตรวจสอบจากเซ็นเซอร์ตรวจจับความชื้นนั่นเอง

เครื่องอบผ้าแบบควบแน่น
เครื่องอบผ้าแบบควบแน่น เป็นระบบความควบแน่นความชื้น กลั่นออกมาเป็นน้ำ เก็บไว้ในช่องบรรจุน้ำ ซึ่งผู้ใช้งานจะต้องเป็นคนหยิบยกออกมาเททิ้งด้วยตัวเอง

เครื่องอบผ้าแบบไหนดีกว่ากัน ?
ในความจริงแล้ว เครื่องอบผ้า จะแบบไหนก็สามารถช่วยทำให้ผ้าแห้งได้เหมือนกัน แต่สิ่งที่เป็นตัวชี้วัดว่า จะเลือกเครื่องอบผ้าแบบไหรมาใช้งาน มันอยู่ที่การติดตั้งนีแหละ

เพราะเครื่องอบผ้าทั้ง 2 ประเภท จะมีการติดตั้งที่แตกต่าง โดยเครื่องอบผ้าแบบลมร้อน จะต้องมีการต่อท่อเพื่อระบายความร้อนออกนอกตัวบ้าน ซึ่งจะเหมาะกับที่อยู่อาศัยประเภท บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์มากกว่า เพราะมีพื้นที่ในการติดตั้ง

แต่หากอาศัยอยู่ตามคอนโดหรืออพาร์ทเม้นต์ ก็แนะนำให้เลือกเป็นเครื่องอบผ้าแบบควบแน่นมาใข้งานจะเหมาะมากกว่า เพราะไม่ต้องมีการต่อท่อระบายอากาศ เพียงแค่นำมาวาง เสียบปลั๊ก ก็พร้อมใช้งานได้เลยทันที

เครื่องอบผ้า + เครื่องซักผ้า
เทคโนโลยีสมัยนี้ก็เพิ่มความสะดวกมากขึ้น ด้วยการผสมผสานประสิทธิภาพการทำความสะอาดเสื้อผ้า และการอบผ้าแห้งเข้าด้วยกันในเครื่องเดียว ถึงจะราคาแพงสักหน่อย แต่ถ้าแลกกับความสะดวกสบายในการใช้งาน บอกเลยว่ามีแต่คุ้มกับคุ้มค่ะ

เครื่องอบผ้ารุ่นแนะนำ
สำหรับวันนี้ก็มีเครื่องอบผ้ามาแนะนำ เผื่อว่าใครที่กำลังมองหาเครื่องอบผ้ามาใช้งานที่บ้าน หลีกเลี่ยงปัญหาสภาพอากาศที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ ซักเสื้อผ้าอย่างสบายใจ พร้อมสวมใส่ทุกสถานการณ์

เครื่องอบผ้า ELECTROLUX EDH3497RDW
เครื่องอบผ้า ELECTROLUX EDH3497RDW สามารถรองรับน้ำหนักของเสื้อผ้าได้ 9 กิโลกรัม พร้อมกับระบบ Heat Pump และเทคโนโลยี Inverter ช่วยประหยัดพลังงาน และประหยัดค่าไฟฟ้า ได้มากกว่า 50%


เครื่องอบผ้า ทำงานเงียบ ไร้เสียงรบกวน โปรแกรมการอบ 14 โปรแกรม ได้รับการรับรองจาก Woolmark ระดับโกลด์คลาส ระบบ Condensing ไม่ต้องต่อท่อระบายอากาศ เครื่องอบผ้าประเภทควบแน่นที่มีระบบ Auto Sensing ช่วยวัดระดับความชื้นในผ้า

สั่งซื้อhtmlentities(' >') https://www.homepro.co.th/product/1015005

เครื่องอบผ้า BEKO DU8133PA0W
เครื่องอบผ้า BEKO DU8133PA0W สามารถรองรับน้ำหนักได้ 8 กิโลกรัม พร้อมกับโปรแกรมการอบ 16 โปรแกรม ประกอบด้วย ระบบตรวจจับความชื้น OpiSense ทำการตรวจจับความชื้นและอุณหภูมิ ช่วยให้คุณประหยัดเวลาในการอบและเลือกระดับความชื้นได้เอง


โปรแกรมผ้าละเอียดอ่อน ที่มีเซ็นเซอร์ควบคุมในโปรแกรมการดูแลพิเศษสำหรับซักผ้าที่ละเอียดอ่อนของคุณ เพื่อให้มั่นใจว่าผ้าจะแห้งเบาจากการใช้อุณหภูมิที่ต่ำมาก

พัฒนาโปรแกรมกีฬาสำหรับผู้ที่รักการเล่นกีฬาและการฝึกกีฬา ใช้อุณหภูมิที่ 40 องศา เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผ้าสังเคราะห์ ผ้าฝ้าย ผ้าออกกำลังกายแบบผสม

ตัวเลือกป้องกันเด็ก สามารถใช้งานเพื่อป้องกันไม่ให้มือเล็กๆ ไปยุ่งเกี่ยวกับปุ่มต่างๆ เพื่อไม่ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่เกิดขึ้นกับโปรแกรมที่เลือกเอาไว้

สั่งซื้อhtmlentities(' >') https://www.homepro.co.th/product/1061340