bloggang.com mainmenu search







พระอาทิตย์ชิงดวง



.....................................


กลอนลำในวัฒนธรรมลาวสองฝั่งโขง มีพัฒนาการเป็นโคลงในราชสำนักอยุธยาและล้านนา

แล้วราชสำนักทั้งสองต่างก็แต่งโคลงนิราศเป็นวรรณกรรมของคนชั้นนำร่วมยุคร่วมสมัยกัน ราวเรือน พ.ศ. 2000 หรือหลังจากนั้นไม่นาน


โคลงนิราศร่วมสมัย.
อยุธยามีกำสรวลสมุทร ส่วนล้านนามีนิราศหริภุญชัย เป็นวรรณกรรมโคลงนิราศร่วมสมัย

สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงอธิบายโคลงนิราศหริภุญชัยไว้เมื่อ พ.ศ. 2467 (คัดจากหนังสือวรรณกรรมสมัยอยุธยา เล่ม 2 กรมศิลปากรพิมพ์ พ.ศ. 2530 หน้า 3-4) ว่า

"โคลงนิราศหริภุญชัยเป็นโคลงโบราณ เติมแต่งเป็นโคลงลาวที่เมืองเชียงใหม่ แล้วมีกวีครั้งกรุงศรีอยุธยามาแต่งซ่อมแปลงให้เป็นโคลงไทย นับถือกันว่าเป็นโคลงตำราเรื่องหนึ่ง พวกกวีที่แต่งโคลงแต่ก่อนมักเอาอย่างกระบวนความในโคลงนิราศ หริภุญชัยนี้ไปแต่งมีอยู่หลายเรื่อง .. "

"อาจเป็นต้นแบบอย่างของนิราศที่แต่งเป็นโคลงและกลอนกันในกรุงศรีอยุธยามาตลอดจนรัตนโกสินทร์ ถ้ามิได้เป็นต้นแบบอย่างก็เป็นนิราศชั้นเก่าสุด มีนิราศเรื่องอื่นที่แต่งใกล้ยุคกัน คือโคลงกำศรวลกับโคลงทวาทศมาส"

แต่ในที่นี้เห็นว่ากำสรวลสมุทรกับนิราศหริภุญชัยเป็นวรรณกรรมร่วมสมัยกัน

กำสรวลสมุทร ม.จ. จันทร์จิรายุ รัชนี (พ. ณ ประมวญมารค) ทรงอธิบายว่า แต่งเป็นโคลงดั้นที่อยุธยา ระหว่าง พ.ศ. 2025-2034

นิราศหริภุญชัย ศ.ดร. ประเสริฐ ณ นคร อธิบายว่า แต่งเป็นโคลงสี่สุภาพ ที่เชียงใหม่ เมื่อ พ.ศ. 2060



กำสรวลสมุทร ไม่มี "ศรีปราชญ์".

กำสรวล-? เป็นชื่อวรรณคดีไทยเล่มหนึ่ง ต้นฉบับเดิมเป็นตัวเขียนบนสมุดไทยที่คัดลอกกันต่อๆมา เริ่มด้วยร่ายแบบโบราณ 1 บท แล้วตามด้วยโคลงดั้นราว 129 บท (ตามที่กรมศิลปากรชำระแล้วพิมพ์อยู่ในหนังสือวรรณกรรมสมัยอยุธยา เล่ม 2 เมื่อ พ.ศ. 2530)

วรรณคดีเล่มนี้ไม่มีชื่อเรื่องเขียนบอกไว้ในต้นฉบับตัวเขียน

แต่การคัดลอกต้นฉบับที่ทำกันต่อๆมา ได้มีผู้เขียนโคลงบานแผนก จารึกหน้าโคลงกำสรวล เขียนไว้ว่า

๏ กำสรวลศรีปราชญ์ร้าง - - - แรมสมร
เสาะแต่ปางนคร - - - ล่มแล้ว
ไป่พบไป่พานกลอน - - - โคลงท่าน จบแฮ
จวบแต่ต้นปลายแคล้ว - - - หนึ่งน้อยยืมถวาย

เมื่อโคลงบานแผนก ซึ่งแต่งเพิ่มขึ้นโดยผู้คัดลอกยุคต้นกรุงเทพฯ มีคำว่า กำสรวลศรีปราชญ์ จึงเป็นเหตุให้นักค้นคว้าสืบค้น จนถึงนักปราชญ์และนักวิชาการสมัยหลังๆ เรียกชื่อวรรณคดีเรื่องนี้ให้สะดวกปาก และรู้ตรงกันว่า "กำสรวลศรีปราชญ์" ด้วยความเชื่อสืบต่อกันมาว่ากวียุคกรุงศรีอยุธยาคนหนึ่งชื่อ "ศรีปราชญ์" เป็นผู้แต่งไว้ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์ (ครองราชย์ระหว่าง พ.ศ. 2199-2231) นับแต่นั้นก็ยึดถือเป็นตำราแพร่หลายทั่วประเทศสืบจนปัจจุบัน

แต่โคลงบานแผนกเขียนจ่าหน้าไว้บนสมุดไทย ก็ใช่ว่าจะมีเหมือนกันหมด หากมีเพียงฉบับเดียวเท่านั้น อีกหลายฉบับไม่มี แสดงให้เห็นว่าวรรณคดีเรื่องนี้ไม่มีชื่อเฉพาะเจาะจงมาแต่แรกแต่งขึ้นในยุคต้นกรุงศรีอยุธยามากกว่า 500 ปีมาแล้ว

ส่วนชื่อที่เรียกกำสรวลศรีปราชญ์ ก็สมมุติขึ้นมาเมื่อไม่เกิน 100 ปีมานี้เอง

ชื่อ "ศรีปราชญ์" ไม่เคยพบหลักฐานในทำเนียบนามสำคัญๆ ไม่ว่าศิลาจารึกหรือพระไอยการตำแหน่งนาพลเรือนและทหารหัวเมืองที่ตราขึ้นสมัยต้นกรุงศรีอยุธยา แล้วใช้สืบมาถึงสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ แต่มีชื่อ "ศรีปราชญ์" ในคำบอกเล่าที่มีผู้จดจำได้ราวปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา แล้วบันทึกเป็นภาษาพม่า 2 ชุด เมื่อถอดเป็นภาษาไทย ให้ชื่อว่า คำให้การชาวกรุงเก่า กับ คำให้การขุนหลวงหาวัด

อันที่จริง "ศรีปราชญ์" ไม่มีตัวตนจริงๆ แต่เป็นชื่อตัวเอกในนิทานเช่นเดียวกับเรื่อง "ศรีธนญชัย" และแพร่หลายทั่วไปในบ้านเมืองใหญ่ของภูมิภาคอุษาคเนย์ เช่น พม่า ฯลฯ (อาจารย์ฉันทิชย์ กระแสสินธุ์ อ้างไว้ในหนังสือ ประชุมวรรณคดี ภาค 1 พิมพ์ครั้งแรก พ.ศ. 2494 หน้า 2)

น่าเชื่อว่านิทาน 2 เรื่องนี้ รับจากวัฒนธรรมอินโด-อิหร่าน(เปอร์เซีย) เพื่อ "ผ่อนคลายความตึงเครียด" ของราษฎรที่มีต่อการปกครองตามจารีตโบราณที่ห้ามวิพากษ์วิจารณ์พระเจ้าแผ่นดิน เลยหาทางออกด้วยการเล่านิทานที่มี "พล็อต" ตรงข้ามกันคู่หนึ่งคือ

ศรีปราชญ์ กล้าหาญ ซื่อตรง แข็งกร้าว และเป็นธรรม

ศรีธนญชัย กะล่อนปล้อนปลิ้น เล่ห์เหลี่ยม คดโกง และเอารัดเอาเปรียบ

วิธีผ่อนคลายความตึงเครียดด้วยนิทานวิจารณ์พระเจ้าแผ่นดิน ยังมีอยู่ในละครชาวบ้านที่เรียกทั่วไปว่าละครนอกด้วย จะเห็นว่าองค์กษัตริย์ในละครล้วนมีปัญหาเหมือนๆกัน เช่น กลัวมเหสี, ไม่ฉลาด, ขี้ขลาดตาขาว, มีพฤติกรรมผิดปกติที่คนปกติไม่ทำ จึงชวนให้ขบขัน ตลกคะนอง เป็นต้น [มีรายละเอียดในคำนำเสนอของ สุจิตต์ วงษ์เทศ หนังสือ เสียดสีกวีสยามจักรๆ วงศ์ๆ ของสองผู้ยิ่งใหญ่แห่งวง "วรรณอำ" กรุงรัตนโกสินทร์ รวมงานนิพนธ์ของพระมหามนตรี (ทรัพย์) และคุณสุวรรณ สำนักพิมพ์มติชน พ.ศ. 2359]



ศรีปราชญ์ไม่ได้แต่งกำสรวลศรีปราชญ์.
บรรดานักปราชญ์กับนักค้นคว้า รวมถึงนักวิชาการเกือบหมดประเทศต่างเชื่อถือ แล้วแต่ง “ตำรา” ใช้สอนในสถาบันทุกระดับว่า ศรีปราชญ์แต่งกำสรวลศรีปราชญ์

แต่ พ. ณ ประมวญมารค (หม่อมเจ้าจันทร์จิรายุ รัชนี) คัดค้านเรื่องนี้ไว้นานแล้ว ทรงมีพระนิพนธ์เป็นหนังสือเล่มโตชื่อกำศรวญศรีปราชญ์-นิราศนรินทร์ พิมพ์ครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2502 (แล้วปรับปรุงพิมพ์ใหม่เมื่อ พ.ศ. 2510) มีความตอนหนึ่งโดยสรุปว่า

"ข้าพเจ้าจะแสดงจากตัวบทกำสรวญว่าปฏิภาณกวีในสมัยพระนารายณ์ที่เรารู้จักกันว่าศรีปราชญ์มิได้แต่งนิราศที่เรารู้จักกันว่ากำสรวญศรีปราชญ์ (นิราศนครศรีธรรมราชก็เรียก กำสรวญเฉยๆ ก็เรียก กำสรวญสมุทรก็เรียกในจินดามณีบางฉบับ)"

พ ณ. ประมวญมารค เรียกชื่อวรรณคดีเล่มนี้ว่ากำสรวลสมุทร (ตามชื่อในจินดามณี) แทนชื่อเรียกผิดๆว่า กำสรวลศรีปราชญ์


กำสรวลสมุทร เป็นพระราชนิพนธ์.
พ. ณ ประมวญมารค มีพยานหลักฐานต่างๆ และจากลักษณะกวีวรโวหารฉันทลักษณ์ รวมถึงประวัติศาสตร์โบราณคดีที่กรุงศรีอยุธยา สอดคล้องกันว่ากำสรวลเป็นพระนิพนธ์ในสมเด็จพระบรมราชาธิราช (โอรสสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ) และแต่งในระหว่าง พ.ศ. 2025-2034 มีคำอธิบายดังนี้

1. กำสรวลสมุทรกล่าวไว้ในโคลงวรรคหนึ่งว่า "ฤๅกล่าวคำหลวงอ้า อ่อนแกล้ง เกลาฉันท์"

"คำหลวง" ในที่นี้หมายถึง "มหาชาติคำหลวง" ซึ่งเป็นพระราชนิพนธ์ในพระบรมไตรโลกนาถ เมื่อ พ.ศ. 2025 ที่เมืองพิษณุโลก ดังนั้น กำสรวลจะต้องแต่งขึ้นหลังการพระราชนิพนธ์มหาชาติคำหลวง

พระบรมราชาธิราชที่ 3 ขึ้นครองราชย์ที่กรุงศรีอยุธยา แล้วสวรรคต ในปี พ.ศ. 2034 ดังนั้นพระองค์จะต้องพระราชนิพนธ์กำสรวลก่อน พ.ศ. 2034

2.โคลงกำสรวลสมุทรใช้ราชาศัพท์ในการครวญหา "ศรีจุฬาลักษณ์" ประกอบกับเนื้อหาในโคลงแสดงอยู่เสมอว่า "ศรีจุฬาลักษณ์" เป็นผู้มีศักดิ์สูง จึงเชื่อว่ากำสรวลสมุทรเป็นพระราชนิพนธ์พระบรมราชาธิราชที่ 3 ที่ทรงครองกรุงศรีอยุธยา เมื่อ "ศรีจุฬาลักษณ์" ตามเสด็จพระบรมไตรโลกนาถไปประทับอยู่เมืองพิษณุโลก

ด้วยเหตุดังกล่าว จึงเชื่อได้ว่าโคลงกำสรวลสมุทรเป็นพระราชนิพนธ์ในพระบรมราชาธิราชที่ 3


ที่มา .. สุจิตต์ วงษ์เทศ.

.....................................



ร่าย

ศรีสิทธิวิวิทธบวร - - นครควรชม
ไกรพรหมรังสรรค์ - - สวรรค์แต่งแต้ม
แย้มพื้นแผ่นพสุธา - - มหาดิลกภพ
นพรัตนราชธานี - - บูรียรมย์เมืองมิ่ง แล้วแฮ
ราเมศไท้ท้าวตั้ง - - แต่งเอง ฯ

.
.
โคลง ๔

อยุทธยายศยิ่งฟ้า - - ลงดิน แลฤา
อำนาถบุญเพรงพระ - - ก่อเกื้อ      
เจดีลอออินทร - - ปราสาท      
ในทาบทองแล้วเนื้อ - - นอกโสรม ฯ 
.
แปล ..
เกียรติยศแห่งอยุธยานั้นยิ่งกว่าสวรรค์ลอยลงมาสถิตอยู่บนแผ่นดิน
ด้วยอำนาจแห่งบูรพกษัตริย์ทุกพระองค์สร้างสมไว้
พระเจดีย์ทุกองค์งดงามดุจปราสาทของพระอินทร์
ภายในองค์พระเจดีย์ทาบด้วยแผ่นทอง และภายนอกปิดทองแลดูอร่าม
    
.
.

พรายพรายพระธาตุเจ้า - - จยรจนนทร แจ่มแฮ      
ไตรโลกยเลงคือโคม - - ค่ำเช้า      
พิหารรเบียงบรร - - รุจิเรข เรืองแฮ      
ทุกแห่งห้องพระเจ้า - - น่งงเนือง ฯ
.
แปล ..
พระมหาธาตุแวววาวเหมือนพระจันทร์
ดุจดังโคมที่ส่องทั้งสามโลก
มีพระระเบียงคด
มีพระพุทธรูปนั่งเรียงรายอยู่ในระเบียงคด
      
.
.

ศาลาอเนขสร้าง - - แสนเสา โสดแฮ      
ธรรมาศจูงใจเมือง - - สู่ฟ้า      
พิหารย่อมฉลักเฉลา - - ฉลุแผ่น ไส่นา
พระมาศเลื่อมเลื่อมหล้า - - หล่อแสง ฯ      


ตระการหน้าวัดแหว้น - - วงงพระ      
บำบวงหญิงชายแชรง - - ชื่นไหว้
บูรรพาท่านสรรคสระ - - สรงโสรด      
ดวงดอกไม้ไม้แก้ว - - แบ่งบาล ฯ      


กุฎีดูโชติช้อย - - อาศํร      
เต็มร่ำสวรรคฤาปาง - - แผ่นเผ้า
เรือนรัตนพิรํยปราง - - สูรยปราสาท      
แสนยอดแย้มแก้วเก้า - - เฉกโฉม ฯ      


สนํสนวนสอาดต้งง - - ตรีมุข      
อร่ามเรืองเสาโสรม - - มาศไล้      
เรือนทองเทพแปลงปลุก - - ยินยาก      
ยยวฟ้ากู้ไซ้ - - ช่วยดิน ฯ


อยุทธยายศโยกฟ้า - - ฟากดิน      
ผาดดินพิภพดยว - - ดอกฟ้า      
แสนโกฎบยลยิน - - หยาดเยื่อ
ไตรรัตนเรืองรุ่งหล้า - - หลากสวรรค์ ฯ      


อยุทธยาไพโรชไต้ - - ตรีบูร      
ทวารรุจิรยงหอ - - สรหล้าย      
อยุทธยายิ่งแมนสูร - - สุระโลก รงงแฮ      
ถนัดดุจสวรรคคล้ายคล้าย - - แก่ตา ฯ      


ยามพลบสยงกึกก้อง - - กาหล แม่ฮา      
สยงแฉ่งสยงสาวทรอ - - ข่าวชู้      
อยุทธยายิ่งเมืองทล - - มาโนช กูเอย
เขตรตระหลบข่าวรู้ - - ข่าวยาม ฯ

๑๐
สายาเข้าคว้าเหล้น - - หลายกล      
เดอรดีดเพลี้ยเพลงพาล - - รยกชู้      
สายาอยู่ในถนน - - ถามข่าว รยมฤา      
ยงงที่สาวน้อยรู้ - - รยกขวนน ฯ      

๑๑
สายาบววบ่าวเกลี้ย - - จักมา      
สาวส่งงอย่ามาวนน - - สู่น้อง      
สายากรรแสงคลา - - สองสู่ กนนนา      
สาวบ่าวอยู่ในห้อง - - รยกคืนหาคืน ฯ      

๑๒
สายารักอยู่เท้อญ - - อย่าไป      
ยยวจรรจับแขนขืน - - เดอดดิ้น      
สายากล่าวเอาใจ - - โลมสวาสดิ      
สาวบ่าวรู้ใช้มลิ้น - - ลื่นใจโลมใจ ฯ      

๑๓      
หน้าเจ้าชู้ช้อยฉาบ - - แรมรักษ์
สาวสื่อมาพลางลืม - - แล่นให้      
บาศรีจุฬาลักษณ์ - - เสาวภาค กูเออย      
รยมรยกฝูงเข้าใกล้ - - ส่งงเทา ฯ      

๑๔
โฉมแม่จักฝากฟ้า - - เกรงอินทร หยอกนา      
อินทรท่านเทอกโฉมเอา - - สู่ฟ้า      
โฉมแม่จักฝากดิน - - ดินท่าน แล้วแฮ      
ดินฤขัดเจ้าหล้า - - สู่สํสองสํ ฯ
      
๑๕
โฉมแม่ฝากน่านน้ำ - - อรรณพ แลฤา      
ยยวนาคเชยชํอก - - พี่ไหม้      
โฉมแม่รำพึงจบ - - จอมสวาสดิ กูเอย      
โฉมแม่ใครสงวนได้ - - เท่าเจ้าสงวนเอง ฯ      
      
๑๖
สรเหนาะนิราษน้อง - - ลงเรือ      
สาวส่งงเลวงเต็ม - - ฝ่งงเฝ้า      
สระเหนาะพี่หลยวเหลือ - - อกส่งง      
สารด่งงข้าส่งเจ้า - - ส่งงตน      
      
๑๗
สรเหนาะน้ำคว่งงคว้งง - - ควิวแด      
สํดอกแดโหยหล - - เพื่อให้      
จากบางกระจะแล - - ลิวโลด      
ลิวโลดชวนนน้องไข้ - - ข่าวตรอม ฯ
      
๑๘
จากมาให้ส่งงโกฎ - - เกาะรยน      
รยมร่ำทั่วเกาะขอม - - ช่วยอ้าง      
จากมามืดตาวยน - - วองว่อง      
วองว่องโหยไห้ช้าง - - ชำงือ ฯ
      
๑๙
จากมาลำห้นนล่อง - - ลุะขนอน      
ขนอนถือเลยละ - - พี่แคล้ว
จากมากำจรจนนทน - - จรุงกลิ่น      
จรุงกลิ่นแก้มน้องแก้ว - - ไป่วาย ฯ      
      
๒๐
จากมานักนิ่นเนื้อ - - นอนหนาว      
หนาวเหนื่อยเพราะลํชาย - - ซาบชู้      
จากมาทระนาวนาว - - นํแม่
หนาวเหนื่อยมือแก้วกู - - มุ่นมือ ฯ      
      
๒๑
จากมามาแกล่ไกล้ - - บางขดาน      
ขดานราบคือขดาน - - ดอกไม้      
มาเกาะกำแยลาญ - - ลุงสวาสดิ กูเอย      
ถนัดกำแยย้าใส้ - - พี่คาย ฯ
      
๒๒
พระใดบำราศแก้ว - - กูมา      
มาย่านขวางขวางกาย - - ด่งงนี้
จากมาเลือดตาตก - - เตมย่าน      
เตมย่านบรู้กี้ - - ถ่งงแถม ฯ      
      
๒๓
จากมาอกน่านน้ำ - - นองกาม      
กามกระเวนแรมรศ - - ร่วงไส้      
จากมาราชครามคราม - - อกก่ำ      
อกก่ำเพราะชู้ให้ - - ตื่นตี ฯ      
      
๒๔
จากมาแก้วกูค่ำ - - ชรอกแขวะ
โพรงชรอกโชรมแขวะศรี - - โศรกศร้อย
จากมาพิบูลแบะ - - บูนแม่
บูนแม่ลห้อยไห้ - - ข่าวตรอม ฯ
      
๒๕
จากมาแก้วผึ้งแผ่ - - ใจรักษ มาแม่      
ยยวอยู่เลวไผ่ผอม - - ผ่าวใส้
จากศรีสำลักใคร - - สกิดอ่อน อวนแม่
รยมร่ำไห้หาเจ้า - - ชำงาย
      
๒๖
จากมาเรือร่อนท้ง - - พญาเมือง      
เมืองเปล่าปลิวใจหาย - - น่าน้อง      
มาจากเยิยมาเปลือง - - อกเปล่า      
อกเปล่าว่ายฟ้าร้อง - - ร่ำหารนหา ฯ
      
๒๗
จากมาเมืองเก่าเท้า - - ลเท ท่านรา      
เทท่าบึงบางบา - - บ่าใส้      
จากมาอ่อนอาเม - - บุญบาป ใดนา      
เมืองมิ่งหลายเจ้าไว้ - - รยกโรย ฯ      
      
๒๘
เดชานุภาพเรื้อง - - อารักษ์ ท่านฮา      
รักเทพจำสารโดย - - บอกบ้าง      
บาศรีจุฬาลักษณ์ - - ยศยิ่ง พู้นแม่      
ไปย่อมโหยไห้อ้าง - - โอ่สาร ฯ
      
๒๙
ไก่ใดขนนนิ่งน้อง - - นางเฉลอย
เชอญท่านทยานเปนฝนน - - ฝากแก้ว      
เยียมาบลุะเสบอย - - เชองราค      
ไฟราคดาลแพร้วแพร้ว - - พร่างตา ฯ      
      
๓๐
เยียมาเยียจากเจ้า - - กูเจ็บ      
เห็นรหนโหยหา - - จไจ้      
เยียมาเยียหนามเหน็บ - - อกอยู่      
อกอยู่เพราะน้องไห้ - - ตากตน ฯ      
      
๓๑
เยียมาเรือเก้ากู่ - - การุญ ย่านนา
นบเทพอรชุนบน - - บอกถ้อย      
มือพันพ่อมีบุญ - - แลส่อง ดูรา      
เชอญพ่อเด็จดวงช้อย - - ซาบศรีสํศรี ฯ      
      
๓๒
เยิยมาเรือล่องใกล้ - - กรยนสวาย
สวายสวาสดิธรณีนาง - - มิ่งไม้      
เพล็จพวงดุจดวงถวาย - - ทุกกิ่ง ไซ้แฮ      
แม้นม่วงรศฟ้าไล้ - - ลูกหวาน ฯ      
      
๓๓
มุ่งเหนน้ำหน้าวิ่ง - - วยรตา แลแม่      
ถนัดม่วงมือนางฝาน - - ฝากเจ้า      
เททรวงทุเรมา - - บางภูด พี่แม่      
หมากพูจรู้ลับเล้า - - พูจพราง ฯ      
      
๓๔
ต้นไม้ชรลูดลิ้น - - บ่มี แม่ฮา      
ถามข่าวนวลนางฤา - - พูจได้      
รฦกกระลาศรี - - เสาวภาค กูเอย      
สารส่งงทุกต้นไม้ - - ลนนลุง ฯ      
      
๓๕
อาเมจยรจากเจ้า - - กินใจ บานี      
ยรรย่อนทงงเพาะพุง - - พร่นนกว้า      
อาเมอยู่ฉันใด - - ดวงสวาสดิ กูเอย      
นอนน่งฤาให้ผ้า - - ผูกแด ฯ      
      
๓๖
เยียมานิราษร้อน - - ไฟกาม      
ลุะบมีเลอยแล - - รยกฟ้า      
ศรีมาสำโรงงาม - - อายแก่พี่แม่      
ถนัดสำโรงเจ้าถ้า - - อกโรง      
      
๓๗
รฦกน้องน้อยแง่ - - ลีลา ฤาแม่      
ผืนแผ่นบโยงฤา - - อยู่ได้      
แลที่ร่ำไพตา - - เลงโลกย พูนแม่      
แผ่นผูกแมกฟ้าไว้ - - จึ่งคง ฯ      
      
๓๘
ศรีมาพิโยคพื้น - - รัตนภูม
ถนัดดุจพระภูมผจง - - แผ่นแผ้ว      
เล็งแลเยียฟ้าฟูม - - ชลเนตร      
เพราะพี่เจ็บเจ้าแคล้ว - - คลาศไกล ฯ      
      
๓๙
ศรีมาเทวศศร้อย - - สงสาร      
ทุกย่านอกฟูมไฟ - - น่าน้อง      
ศรีมาองงคารฉมัก - - ฉมวยใหญ่      
แลลบับไล้ท้อง - - ท่งขยว ฯ
      
๔๐      
เนื้อเบื้อละไล่ล้ำ - - สงงขยา      
ควายประชลเพราะพรยว - - ตื่นเต้น
กวางทราบประนงงหา - - หวงเถื่อน
บางลวบบ้างเหล้นบ้าง - - ง่าเงย ฯ
      
๔๑      
รฦกชู้แก้วเกื่อน - - ใจตาย แลแม่      
รยมร่างเปนต้นเลอย - - น่าน้อง      
เลือดตายิ่งฝนราย - - ราย่าน      
อกพี่พ้นฟ้าร้อง - - รยกศรี ฯ      
      
๔๒      
ต้งงใจรักษเจ้าอาจ - - อุปรมา ถึงฤา      
ชีไฝ่ยามปูปี - - ไป่แล้ว      
ดวงดยวแม่คงตรา - - ไตรโลกย กูเอย      
ดินและฟ้าได้แก้ว - - ก่อโฉมเกลาโฉม ฯ      
      
๔๓      
ฝ่ายสยงสุโนกไห้ - - หานาง แม่ฮา      
รยมทนนทึงแทงโลม - - ลิ่นเล้า      
มาดลบำรุะคราง - - ครวญสวาสดิ      
ให้บำรุะหน้าเหน้า - - จอดใจ ฯ      
      
๔๔
บำรุะบำราษแก้ว - - กูมา
จักบำรุงใครใคร - - ช่วยได้      
บรับบเร่อมอา - - บ่ร่าง ละเลอย
โอ้บเร่อมน้องให้ - - ไฝ่เหนสองเหน ฯ      
      
๔๕
รยมมาบสว่างไข้ - - ขวนนบิน บ่าแฮ      
กระอืดอกเซนเซน - - ช่วยเหน้า      
ลุจุงจรลึงยิน - - จรหล่ำ แล้วแฮ      
อ้าจรลึงรักษเจ้า - - จำงาย ฯ      
      
๔๖
จรลิวไต้ฟ้าต่ำ - - เตือนยาม      
โหยบเหนสายใจ - - จรคล้าย      
บลุแม่เมากาม - - กาเมศ กูเออย      
ลพี่หว้ายน้ำหน้า - - มืดเมา ฯ      
      
๔๗
มาทุ่งทุเรศพี้ - - บางเขน      
เขนข่าวอกนํเฉลา - - พี่ต้งง      
ปืนกามกระเวนหวว - - ใจพี่ พระเออย      
ฤาบให้แก้วก้งง - - พี่คงคืนคง ฯ      
      
๔๘
กำศรดสร้อยฟ้าคลี่ - - ควรรักษ ฤาแม่      
รอยอยู่แรมรศรงค์ - - พี่เต้า      
ศรีมาย่อมดักดัก - - ใจจอด คืนนา      
คร่นนกล่าวคร่นนให้เกล้า - - เกลือกเรือ ฯ
      
๔๙
ศรีมาใจขาดข้อน - - ทางวนน
แลลนนลุงเหลืออก - - น่าน้อง      
ศรีมาย่อมรับขวนน - - แขวนปาก ไซ้แม่      
ดาลตื่นตีอกร้อง - - ร่ำหารนหา ฯ      
      
๕๐
ฤารยมให้ชู้พราก - - กนนเพรง ก่อนฤา      
กรรมแบ่งเอาอกมา - - ด่งงนี้      
เวรานุเวรของ - - พระบอก บารา
ผิดชอบใช้นี้หน้า - - สู่สํสองสํ ฯ
      
๕๑
เยียมาสํดอกแห้ง - - ฤทย ชื่นแฮ      
เครงย่อมถงวลถงํอก - - ค่ำเช้า      
เยียมาเยิยไกลกลาย - - บางกรูจ      
ถนัดกรูจเจ้าสระเกล้า - - กลิ่นขจร ฯ      
      
๕๒
รศใดด้าวหน้าดุจ - - รศผํ แม่เลย      
ผมเทพสาวอับษร - - รูปแพ้      
พระเออยเมื่อสองสํ - - สุเกษ นางนา      
บนขอดกลางเกล้าแก้ - - จ่ำเลอย ฯ      
      
๕๓
เยียมาพิเศศพี้ - - บางพลู      
ถนัดเหมือนพลูนางเสวอย - - พี่ดิ้น      
รยมรักษเมื่อไขดู - - กระหนยก นางนา
รศรำเพอยต้องมลิ้น - - ล่นนใจลานใจ ฯ      
      
๕๔
เรือมาจยรจยดใกล้ - - ฉมงงราย      
ฉมงงนอกฉมงงใน - - อกช้ำ      
ชาวขุนสรมุทรหลาย - - เหลือย่าน      
อวนหย่อนยงงท่าน้ำ - - ถูกปลา ฯ      
      
๕๕
กล้วยอ้อยเหลืออ่านอ้าง - - ผักนาง      
จรหลาดเลขคนหนา - - ฝ่งงเฝ้า      
เยียมาลุดลบาล - - รมาต
ถนัดรมาตเต้นเต้า - - ไต่ฉนยร ฯ      
      
๕๖
ชรดือดาษชุ้งชื่อ - - ปลอมแปล
ไพรพนํอากยร - - แรดร้อง      
ดวงดยวจากจยรแด - - ยรรสวาดิ      
นอนน่งงฤาไห้พร้อง - - เพื่อนใคร ฯ      
      
๕๗
ดวงดยวบววมาศแพ้ - - พิมทอง พี่เออย      
รยมบหลับใหลหา - - ค่ำเคี้ย      
ดวงดยวแม่มองหน - - หาพี่ พู้นแม่      
ใครช่วยชูเกล้าเกลี้ย - - กล่อมแถง ฯ      
      
๕๘
รยมรักษสุดที่อ้าง - - เอวสมร แม่อา
กามลนนลุงลานแด - - เดือดไหม้      
เยียมาเทพสาคร - - ครวญสวาดิ      
สยงสาครร้องไห้ - - ส่งสยงสุดสยง ฯ

๕๙
มุ่งเหนดยรดาษสร้อย - - แสนส่วน
แมนม่วนขนุนไรรยง - - รุ่นสร้อย      
กทึงทองรำดวรโดร - - รศอ่อน พี่แม่      
ปรางประเหล่แก้มช้อย - - ซาบฟนน ฯ
      
๖๐
เยียมาแอ้วไส้ย่อน - - บางฉนงง
ฉนงงบ่อมาทนนสาย - - แสบท้อง      
ขนํทิพยพงารงง - - รจเรข มาแม่      
ยินข่าวไขหม้อน้อง - - อิ่มเอง ฯ      
      
๖๑
ด้าวห้นนอเนขชื้อ - - ขนํขาย      
วอนว่อนเลวงคิด - - ค่าพร้าว      
หมากสรุกซระลายปลง - - ปลิดใหม่      
มือแม่ค้าล้าวล้าว - - แล่นชิงโซรมชิง ฯ      
      
๖๒
มลักเหนน้ำหน้าไน่ - - ไนตา พี่แม่      
รยมตากตนติงกาย - - น่าน้อง
ลนนลุํพี่แลมา - - บากจาก
จยรจากตีอกร้อง - - รยกนางหานาง ฯ      
      
๖๓
ลนนลุงสองฟากฟุ้ง - - ผกาสลา      
โดรลอองอบตาง - - กลิ่นเกล้า      
รอยมือแม่ธารทา - - หอมหื่น ยงงเลอย      
จนนทนกระแจะรศเร้า - - รวจขจร ฯ      
      
๖๔
เสียดายหน้าช้อยชื่น - - บววทอง กูนา      
ศรีเกษเกศรสาว - - ดอกไม้      
มาดลบนนลุะนอง - - ชลเนตร      
ชลเนตรชู้ช้อยไห้ - - ร่วงแรงโรยแรง ฯ      
      
๖๕
ขอมเพรงบงงเหตุเต้น - - ตัดหวาย      
หวายเท่าแทงตนขอม - - ตอกต้อง      
ขอมถือทอดตนตาย - - ดด่าว      
ห้ยมว่าเพรงใดพร้อง - - ที่น้นนหวายยงง ฯ      
      
๖๖
สระเหนาะหน้าเจ้าแว่น - - ไวจนน      
ปางจากอยุทธยานาน - - จึ่งเต้า      
สระเหนาะกรรายนน - - อกหย่อน      
เมรุทุเท่าหน้า - - กำศรวญ ฯ
      
๖๗
รฦกรศช้อยซาบ - - พระทนต
อวายปากไปนารศ - - รอจเร้า      
มิลุะแล่งตนเปน - - สองซีก      
ซีกหนึ่งไว้น้องเหน้า - - หนึ่งมา ฯ      
      
๖๘
รฦกหน้าช้อยชื่น - - บววทอง กูนา      
หอมหื่นใครเหนตา - - ภู่ได้      
รฦกดลหลับสองนํ - - นาภิศ กูนา      
ยยวอยู่หาชู้ใช้ - - อื่นตาง ฯ
      
๖๙
โกกิลกรวิกษอ้ยง - - ยูงยาง
จับกิ่งยูงยางเยาว - - เพื่อนพร้อง      
พละลบกัลโหยลาง - - โลมลูบ      
จับกิ่งยางแล้วร้อง - - ไร่เฌอ ฯ      
      
๗๐
ปารนี้แก้วข้าตื่น - - ฤาหลับ อรเออย
นอนน่งงฉนนใดดู - - ด่งงนี้      
ยอมือบนนทับอก - - โดยแม่ กูเออย
เจ็บยิ่งล้ำพ้นผี้ - - หมื่นทวีแสนทวี ฯ
      
๗๑
เยียมาบางผึ้งแผ่ - - รวงรยง
ถนัดแผ่นธรณีปาน - - แผ่นผึ้ง      
เหอรหวรทรหึงสยง - - ตววต่าง      
ยยวตววแตนขึ้ง - - ต่อแตน ฯ
      
๗๒
ปารนี้อรเช้าแม่ - - เกลาองค์ อยู่ฤา
ต่างกรดานจตุรงคมยง - - ม่ายม้า
ฤาวางสกาลง - - ทายบาท      
ฤากล่าวคำหลวงอ้า - - อ่อนแกล้งเกลาฉนนท ฯ      
      
๗๓
อันเชิญอาทาษท้าว - - เทียมสอง
เหาะบันหารโฉมฝัน - - ฝากแก้ว      
ถนัดเรียมตื่นตามอง - - เหนอื่น      
พอผุดลุกฟ้าแผ้ว - - มืดมลาย ฯ      
      
๗๔
พระเออยสรโรชสร้อย - - ศรีสรง กูนา
ตระบอกบววศรีไส - - กลีบกล้ยง      
พระเออยคร้นนเหนหงษ - - สอนย่าง น้นนนา      
ศรีกระไดเล้าล้ยง - - ลูบโลม ฯ      
      
๗๕
พระเออยน้ำหน้าหล่งง - - เหลือสินธุ โสดแฮ
ยากอยู่ทงงวนจำ - - จวดเจ้า
พระเออยจงเตือนกิน - - เตือนอยู่ บ้างฮา      
เจ็บจรเทอญทนเศร้า - - สุดหมอง ฯ
      
๗๖
รักเนื้อชรอ่อนเนื้อ - - เขมนเขมา อยู่นา
แถงถงาดมุดดาดัด - - ดอกไม้      
ดำแดงบภักเอา - - วยรมาศ เจอมนา      
เดอรดุจล้วงใส้ - - ร่าวยนน ฯ      
      
๗๗
รฦกแก้วกินสี้ - - นางสอง ไซ้แม่
อร่อยสรทึกถนำ - - ปากป้อน
จนนท์จรุงออกธารทา - - ยงงรุ่ง
บยายยวเนื้อร้อน - - เร่งวี ฯ      
      
๗๘
แม่วีชู้ช้อยชุ้ง - - นอนหลับ แลแม่
ตื่นมเมอหาศรี - - แอบข้าง      
ถอนมมือบนนทับหลงง - - โลมลูบ กนนนา      
รยมตื่นชํเจ้าค้าง - - ค่างเชอย ฯ      
      
๗๙
แก้มกล้ยงขจรทูปฟ้า - - ชวยฉํ แม่ฮา
ถนัดอยู่ในฝนนเลอย - - ไป่แล้ว      
รฦกคนนหลับนํนวล - - นาภิศ นางแม่      
ถนัดมเมอคล้ายแคล้ว - - แก่ตา ฯ      
      
๘๐
เมื่อมาแก้วพี่ปลิด - - ปล่ยนแด พี่แม่
ขวนนอยู่อยุทธยาตน - - ต่างหม้าย      
รฦกกระลาแถง - - จยรจาก เจบมา      
รยมร่ำหว้ายฟ้าหว้าย - - แผ่นดิน ฯ      
      
๘๑
เยียมาปิ้มปิ้มปาก - - พระวาล      
พระหากวานวงงสินธุ - - คว่างคว้าง      
สมุทรพิศารลิว - - คิววคว่งง แลนา      
แลชรเลลานท้าง - - ทุลาย ฯ
      
๘๒
ล่วงฦกสุดหย่งงพ้น - - คณนา      
รลอกพรยนพรายดู - - แพร่งน้ำ
เยียมาเยิยสุดตา - - แสนโยชน์      
เรือแล่นผ้ำผ้ำผ้าย - - ผ่าวใจ ฯ      
      
๘๓
เยียมาลิงโลดฟ้า - - ฟองฟัด
สยงสมุทรครางใคร - - อยู่ได้      
เยียมาตระบัดลํ - - ลิวล่าว แลแม่      
เดือนยี่หนาวชักไส้ - - ฉ่ำชวย ฯ      
      
๘๔
เยียมาน้ำหน้าคล่าว - - ครางตาย พี่แม่      
รยมรทวยตีนมือ - - มืดหน้า      
เยียและพี่ใจหาย - - หววหาด
เงาชรแลไล่ฟ้า - - ม่ายมยง ฯ
      
๘๕
เยียมากระดาษท้ง - - ขาวขยว อยู่นา      
ววู่สยงลํลง - - ล่นนไส้      
เยียมาเยิยแลหลยว - - ชรอ่ำ      
ชรอ่ำอกฟ้าไข้ - - ข่าวตรอม ฯ      
      
๘๖
มุ่งเหนอรรถ้ำท่ง - - ทิวเขา      
เขาโตกอำภิลจอม - - แจกฟ้า
สรมุทรเงื่อนเงามุข - - มยงม่าย      
ดูดุจมุขเจ้าถ้า - - ส่งศรี ฯ
      
๘๗
มุ่งเหนลล่ายน้ำ - - ตาตก แม่ฮา      
เกาะสรชงงชลธี - - โอบอ้อม      
บลักเหนไผ่รยงรก - - เกาะไผ่ พูนแม่      
ขยวสระดือล้ำย้อม - - ญอดคราม ฯ

๘๘
ระฦกรศน้องไน่ - - ในตา พี่แม่      
เออสมุทรอยงกาม - - กล่อมเหน้า
เยียแลลนนลุงมา - - บางค่อม      
ถนัดค่อมน้อยข้าเจ้า - - ส่งงจนนทน์ ฯ
      
๘๙
จากมาแก้วพี่ห่อม - - หิวใจ แลแม่
คร้นนกล่าวโหยหนนอก - - สู่ฟ้า      
ตนดยวแบ่งตับไต - - สองภาคย      
รลอกจนน่าเจ้า - - หน่วงหลงง ฯ
      
๙๐
ตนดยวมาจากเจ้า - - เจบอก อ่อนเออย      
เรือกลอกกลางวงงใจ - - ขาดขว้ำ      
จากนางยิ่งตนตก - - เมรุมาศ      
รลอกล้ำฟ้าซ้ำ - - ซ่านดิน ฯ      
      
๙๑
จากมาสายสวาดิไว้ - - อยุทธยา แลนา
อกเปล่าอกสายสินธุ์ - - หากรู้
ลุะดานกนนชาววา - - ลวงใหญ่ แล้วแฮ      
วาลยิ่งสารสับสู้ - - เสริฐชล ฯ      
      
๙๒
วาลเลขลํไล่ปรุ้ย - - ไปมา
วารถ่าววยรวงงวล - - ลล้าว      
วาลโทลประลองปลา - - ปลักปล่น
หางกวาดหววแอ้วอ้าว - - ปากปาม ฯ      
      
๙๓
เยียมาม่ายน้องขวล - - ขวายแด แลแม่
นอนน่งงฤากวนกาม - - แกว่งไส้      
ลุกยืนวงงเวงแล - - ลิวโลด      
คืนน่งงลห้อยไห้ - - บ่ำบวง ฯ      
      
๙๔
พระเออยสระโรชท้อง - - ชลธี ท่านแฮ      
เชอญเทพมาทับทรวง - - ที่ร้อน      
แมนเมขลาศรี - - เสวยภาคย กูเออย      
มาแม่อย่าทนนข้อน - - ขาดใจข่นใจ ฯ
      
๙๕
ไหว้เจ้ารักษาฝากน้อง - - นางรักษ พี่ฮา
พรัดพิพรายหลงงใคร - - บ่รู้
ต้งงใจเท่าเจบหนัก - - ในแม่ พูนแม่      
ยยวกลอกกล่นนใจชู้ - - ตากตาย ฯ
      
๙๖
โอ้อกสระแอ่แก้ว - - กูมา แม่ฮา      
เยียพรากพรัดเพรางาย - - เยี่ยแคล้ว      
พลบค่ำลนนลุงหา - - สายสวาดิ คืนแม่      
สยวยิ่งสาวใส้แก้ว - - ผ่านเผา ฯ
      
๙๗
ไกรพรยงตววอาจเต้น - - เห็จเหน      
สาวเชือกชักเรือเรา - - พี่ร้อง      
นางนุชแม่มวยเพญ - - พิโยค กูเออย      
ยามหนึ่งไกลน้องค้ำ - - ขวบปี ฯ      
      
๙๘
ฝ่ายสยงสุโนกไห้ - - หานาง      
วว่องวยรดาศรี - - ผ่าวพ้น
มาลุะดำบลบาง - - นายหญี่      
นายหญี่โซรเหล้าต้น - - ช่างโซร ฯ      
      
๙๙
หลายผู้ผํคลี่กล้ยง - - จำยาม
เมามี่อยงโอนหวว - - ผูกผ้า      
ถนัดสาวสมุทรตาม - - ตวงแพ่ง      
ชาวพี่พยงถ้วมหน้า - - รากรณ ฯ      
      
๑๐๐
เรือมามาแบ่งแก้ว - - กูไกล      
ไกลตื่นตำบลมา - - ลห้อย
เยียมาเยิยไฟฟูน - - อกพี่ นาแม่      
ขอพี่เหนหน้าน่อย - - หนึ่งเจ้ายาใจ ฯ
      
๑๐๑
เรือมามาที่ท้าง - - สวาโถกน      
คร่นนพี่ถึงโถกนไท - - แม่เต้า
บเหนยิ่งไฟโรน - - รุ่นสวาดิ      
อกพี่ดาลร้อนเร้า - - ยิ่งรามไกรราม ฯ      
      
๑๐๒
รามาธิราชใช้ - - พานร      
โถกนสมุทรวายาม - - ย่านฟ้า      
จองถนนเปล่งศิลปศร - - ผลาญราพ (ณ์)      
ใครอาจมาขวางฆ่า - - ก่ายกอง ฯ      
      
๑๐๓
เพรงพรัดนรนารถสร้อย - - ษีดา      
ยงงขวบคืนสํสอง - - เศกไท้
สุทธนูประภาฟอง - - ฟัดจาก จยรแฮ      
ยงงคอบคืนหว้ายได้ - - สู่สํสองสํ ฯ      
      
๑๐๔
ผยองม้ามณีกากเกื้อ - - ฤทธี ก็ดี      
สองสู่สองเสวอยรํย - - แท่นไท้      
เพรงพินธุบดีพรัด - - พระโฆษ      
ขอนขาดสองหว้ายไส้ - - จากจยร ฯ      
      
๑๐๕
พร่ำพบมาโนชเนื้อ - - นางเมือง      
สองสู่สํมณฑยร - - แท่นแก้ว      
เท่าบาเปล่าเปลองอก - - ในอ่อน อรแม่
สองพรากพรัดแคล้วชู้ - - ชำงือ ฯ
      
๑๐๖
เท่าบาแส้วไส้หย้อน - - ในนาง ไซ้แม่
ครางอยู่ฮือฮือตา - - เลือดไล้      
เท่าบาจากอกคราง - - ครวญแม่      
รยมเท่าหววใจให้ - - แม่ดิ้นโดยดู ฯ      
      
๑๐๗
บได้กล้ำเข้าแต่ - - วนนมา      
กลืนแต่ยาคูกวน - - กึ่งช้อน      
รฦกกระลาพิม - - พระมาศ กูเออย      
ดาลกนนหายเร้าร้อน - - ราคคืน ฯ      
      
๑๐๘
เยียมามาให้สวาดิ - - จำรศ      
ถนัดดุจวานใจฝืน - - ฝากน้อง      
ชลธีรนนทดเลือน - - รลอก      
เรือเยิยเต้นน้ำต้อง - - ตื่นพยง ฯ      
      
๑๐๙
โออกสดวกไส้ - - เสาโขดง
ลํโบกใบบินอยง - - แล่นผ้ำ      
ขทิงทองรนนทดโยง - - ลยวแล่ง      
ลํช่วยขวาซ้ายล้ำ - - แล่งเรือ ฯ      
      
๑๑๐
สลาตนนตราษหน้าแต่ง - - พลยุทธ      
ลํสเภาลํเสือ - - ต่างต้อง      
ตรึงตราโขดงทรุด - - ปลงยาก      
สายสมุทรไห้ร้อง - - รยกศรี ฯ      
      
๑๑๑
น้ำหน้าสองฟากฟุ้ง - - ผกาแจรง      
ฟองฟ่องตามตีอก - - คลื่นเคล้า      
รนนชลรนนแชงอึง - - อากาศ      
เรือยิ่งอยงน้ำเข้า - - ขาดใจข่นใจ ฯ      
      
๑๑๒
พนนฦกน้ำบ่าสาด - - พกเพญ มาแม่
เรือคระแครงตับไต - - ขาดขว้ำ      
สัดจองกำเบญบก - - พกพึ่ง แล้วแฮ      
อกพี่อกฟ้าช้ำ - - ช่วยตรอมรยมตรอม ฯ      
      
๑๑๓
เลงแลตลึงแกล้ง - - เกลาสาร แม่ฮา      
นพเทพชํชอมทุก - - ย่านย้งง      
พระเออยจำศรีคราญ - - คืนคอบ สํรา      
อย่ารยกลํให้พล้งง - - พลยกเรือลงเรือ ฯ
      
๑๑๔
พระเออยได้ชู้ชอบ - - ใจจง ฤาแม่      
อย่าเล่นลํพัดเหลือ - - พร่นนกว้า      
พระเออยชุ่งอรองค - - สํพี่      
อย่าโบกโบยลํบ้า - - เฟื่องฟองฟูมฟอง ฯ      
      
๑๑๕
สัตยาบัดม้วยมี่ - - สยงสินธุ แลแม่      
สาวสมุทรนองเนือง - - เน่งน้ำ      
อารักษร่วมรักยิน - - อาราทธน แล้วแม่      
ใส่ส่างอกฟ้าล้ำ - - ดาษดยร ฯ      
      
๑๑๖
อัศจรรย์โอ้อำนาจ - - สารสัตย ไซ้แม่      
ฟองอย่าฟัดฟยนภํ - - แล่นแล้
ขนัดตราตระบัดเขน - - โขดงเล่า
ชาวเพื่อนพรัดกว่าแก้ - - อยู่บางนอนบาง ฯ
      
๑๑๗      
โออกครวญเคร่าถ้า - - เรือมูน มากแฮ      
ลุะรุ่งรางราศรี - - โศกเศร้า      
รฦกแม่มาธูร - - ทุเรศ กูเออย      
เอาสใบชู้ช้อย - - หํ่ตาง ฯ      
      
๑๑๘
รฦกเนื้อกรรเกษสร้อย - - สาวสวรรค กูเออย
กรกอดหมอนเหมือนนาง - - ร่ำไห้      
รฦกกำจรจนนทน์ - - อายโอษฐ พู้นฦา      
ทรงกรรแสงไจ้ไจ้ - - จั่นจวญ ฯ      
      
๑๑๙
อ้าน้องมาโนชเนื้อ - - นางกระษัตร พี่เออย ฯ      
ศรีกระไดเครงครวญ - - ค่ำเช้า
อ้าอวรศยรสยดทัด - - มาลยมาศ กูเออย
ศรีกระไดกล้ววเกล้า - - กลิ่นฉํ ฯ      
      
๑๒๐
อ้าท้าวอ้าทาศแก้ม - - เปรมปราง      
ศรีกระไดเชอยชํ - - ช่างย้ำ      
อ้าอวรละไมยนาง - - นวลนารถ กูเออย      
ยยวกอดนักเนื้อช้ำ - - พี่ถนอม ฯ
      
๑๒๑
ดวงดือนาภิศน้อง - - นางสวรรค กูเออย
กระแหน่วแนวนาภี - - พี่ดิ้น      
ใครเหนออรเอววรร - - ใจวาบ วางฤา      
ปานปีกน้อยน้อยริ้น - - ฤาร้างกลววตาย ฯ      
      
๑๒๒
ตีนหลงลงแล่นเต้น - - ตามหลงง
หลงงไล่ตามขมองโกรย - - ตื่นเต้น
บงงกงทุกงงฉลาม - - เหนโห่
งวงฉนากคลุกเคล้าเคล้น - - เฟื่องฟอง ฯ      
      
๑๒๓
เรือมาฟองฟ่องฟ้อน - - กลหงษ      
จงงกูดต่างตีนกวัก - - แกว่งน้ำ
กางโขดงยรรยงกล - - กางปีก      
สยงสมุทรล้ำฟ้อน - - ย่านยาว ฯ      
      
๑๒๔
เจบจากเจบอีกอู้ม - - อกเรือ
เจบจากสาวสาคร - - เคลื่อนดิ้น      
เจบจากพี่เจบเหลือ - - อกอ่อน พูนแม่
อกอ่อนอกฟ้าปลิ้น - - เปล่าใจ ฯ      
      
๑๒๕
รยมมาเรือร้อนท่ง - - บางสบู      
ถนัดด่งงสบูบงงใบ - - แม่เร้น      
รยมรักษพูดโดยดู - - สายสวาดิ
มาย่อมหลายชู้เหล้น - - เพื่อนตน ฯ      
      
๑๒๖
กระไดเอาอาตมแก้ว - - พรีเพา ไซ้แม่      
จยรจากบางคลครวญ - - ใช่น้อย      
กระใดเงื่อนเงาเดือน - - โดยย่าง      
นอนน่งงนางพร้องถ้อย - - ดุจดยว ฯ      
      
๑๒๗
ถนัดแก้วกู้ต่าง - - เรือตาม      
แครงย่อมพรายหลยวหยุท - - อยู่ถ้ำ
ลุขนบดุจขนบกาม - - พระพี่ พี่แม่      
เรือเยิยมาช้าชู้ - - เยิยนาน ฯ      
      
๑๒๘
(เยียมาล่วงลับ)หลี้ - - เลอนาง แลแม่
คร่นนรฦกใจลาญ - - ลห้อย
บางสุตายภาคยพาง - - ถนัด
ถนัดภาคยชู้ช้อย - - แก่ตา ฯ      
      
๑๒๙
สารนุชนี้แนบไว้ - - ในหมอน      
อย่างแม่อย่าควรเอา - - อ่านเหล้น      
ยามนอนนารถเอานอน - - เปนเพื่อน      
คืนค่ำฤาได้เว้น - - ว่างใด ฯ


Create Date :20 พฤศจิกายน 2551 Last Update :28 ตุลาคม 2566 7:45:40 น. Counter : Pageviews. Comments :7