เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอมขอขอบคุณภาพประกอบจาก
ททท. สายลมอ่อน ๆ ปะทะเข้าใบหน้า ทำให้รู้สึกชื่นอกชื่นใจกับความเย็นสบาย เมื่อได้มายืนมองวิวทิวทัศน์บริเวณ
เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เขื่อนดินกักเก็บน้ำที่ยาวที่สุดในประเทศไทย ตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วม ซึ่งนอกจากจะเยียวยาความเดือดร้อนของประชาชนได้แล้วนั้น
เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮอตฮิตอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดลพบุรี และวันนี้กระปุกดอทคอมจะพาเพื่อน ๆ ไปชมกินลมชมวิว สัมผัสความงามของ
เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ กันค่ะ...
เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ตั้ง อยู่บริวเณบ้านหนองบัว อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี เป็นเขื่อนดินที่ยาวที่สุดในประเทศไทย เริ่มดำเนินการก่อสร้างในวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2537 ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาลุ่มน้ำป่าสัก อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นเขื่อนดินแกนดินเหนียวกักเก็บน้ำเพื่อการชลประทาน ความยาวตัวเขื่อน 4,860 เมตร สามารถเก็บน้ำได้ 785 ล้านลูกบาศก์เมตร ณ ระดับความสูง 42 เมตร จากระดับน้ำทะเล ซึ่ง เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มี อาณาเขตครอบคลุมพื้นที่ในอำเภอพัฒนานิคม อำเภอท่าหลวง อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี และอำเภอวังม่วง จังหวัดสระบุรี เริ่มกักเก็บน้ำได้ตั้งแต่เดือนมิถุนายน พ.ศ.2541
เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์
ประวัติความเป็นมา สืบเนื่องจากปัญหาการเกิดน้ำท่วมในบริเวณลุ่มแม่น้ำป่าสักในฤดูน้ำหลาก และขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูร้อน อันเกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงพระราชทานพระราชดำริให้กรมชลประทานศึกษาความเหมาะสมถึงการสร้างเขื่อน เพื่อแก้ปัญหา จนกระทั่งวันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2537 คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติให้เปิดโครงการก่อสร้างเขื่อนกักเก็บน้ำแม่น้ำป่าสัก ภายหลังการศึกษาความเหมาะสม และผลกระทบจากสิ่งแวดล้อมแล้ว
โดย เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ใช้เวลาดำเนินการก่อสร้างกว่า 5 ปี ตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2537 ถึงวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2542 และทำพิธีปฐมฤกษ์กักเก็บน้ำเขื่อนในวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2541 โดย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี เสด็จมาเป็นองค์ประธาน ในวันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2541 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานนามเขื่อนแห่งนี้ว่า
"เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์" อันหมายถึง "เขื่อนแม่น้ำป่าสักที่เก็บกักน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ" และ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ทรงทำพิธีเปิดเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ในวันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2542
เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์
เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์
สถานที่ท่องเที่ยว สิ่งน่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยว
เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ได้แก่ จุดชมวิวบริเวณสันเขื่อน พิพิธภัณฑ์ลุ่มน้ำป่าสัก ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์เฉพาะเรื่อง จัดแสดงเนื้อหาความรู้ด้านธรรมชาติและวัฒนธรรมในบริเวณพื้นที่อ่างเก็บน้ำ นอกจากนี้ ยังมีเส้นทางรถไฟตัดผ่านบริเวณ อ่างกักเก็บน้ำเหนือเขื่อนหลายช่วง ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถนั่งรถไฟชมทัศนียภาพ อันสวยงามได้ด้วย รวมไปถึงการแวะชม
ทุ่งทานตะวัน ที่ขึ้นเรียงรายอยู่บริเวณสองข้างทาง โดยนักท่องเที่ยวสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ โครงการพัฒนาลุ่มน้ำป่าสัก โทร. (036) 494031 - 4
ทุ่งทานตะวัน
การเดินทาง จากตัวเมืองลพบุรี ใช้เส้นทางสายลพบุรี-โคกตูม พัฒนานิคม (ทางหลวงหมายเลข 3017) ระยะ ทาง 48 กิโลเมตร มีบริการรถสองแถวลพบุรี - วังม่วง ผ่านหน้าเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ รถออกจากสถานีขนส่งลพบุรี ระหว่างเวลา 06.00 - 17.30 น.
นอกจากนี้ ยังมีบริการท่องเที่ยวทางรถไฟขบวนพิเศษ ไป-กลับ กรุงเทพฯ - เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ในวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดราชการ ออกจากสถานีหัวลำโพง เวลา 07.30 น. ถึง เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เวลา 12.00 น. เที่ยวกลับออกจาก เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เวลา 14.40 น. ถึงกรุงเทพฯ เวลา 18.00 น. อัตราค่าโดยสารคนละ 200 บาท ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. (02) 220-4334 สายด่วน 1690 หรือ //www.srt.go.thขอขอบคุณข้อมูลจาก
โดย: Kavanich96 9 มิถุนายน 2554 7:29:27 น.
สถานที่ท่องเที่ยว เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์
ข้อมูลเพิ่มเติม เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์
เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เป็นชื่อที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานให้กับ เขื่อนแห่งนี้ สร้างภายใต้โครงการพัฒนาลุ่มแม่น้ำป่าสัก อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นเขื่อนแกนดินเหนียวที่ยาวที่สุดในประเทศไทย มีความยาว 4,860 เมตร ความสูงที่จุดสูงสุด 36.50 เมตร จุดเด่นที่น่าสนใจภายในเขื่อน ได้แก่ จุดชมวิวสันเขื่อน พิพิธภัณฑ์ลุ่มน้ำป่าสัก ซึ่งแสดงความรู้ด้านธรรมชาติ และวัฒนธรรม เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ได้ทำพิธีเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2542
โดย: nonguide 9 มิถุนายน 2554 16:02:24 น.