กำลังฮอตขึ้นแท่น งานชุกอีกคนหนึ่ง สำหรับนางเอกสาวหน้าแบ๊วอย่างออม-สุชาร์ มานะยิ่ง ที่เล่นละครหรือหนังอะไรก็ดังทุกเรื่อง เราเลยอยากพาไปย้อนวันวานวัยเรียนมหาลัยของออมเมื่อหลายปีก่อน จะมีเรื่องดราม่าหรือน่าประทับใจขนาดไหน ไปดูกัน ออม สุชาร์ กับวันวานวัยเรียน

ออม-สุชาร์ มานะยิ่ง

เรียนรู้สู่การเป็นนิสิตการแสดง
ตอนม.ปลาย ออมเรียนสายศิลป์-คำนวณ มา แต่จริงๆ ช่วงก่อนเข้ามหาวิทยาลัย ไม่รู้ตัวนะว่าชอบอะไร แค่รู้ว่าไม่ชอบเรียนอะไรที่เป็นวิชาการหนักๆ ก็เลยเลือกคณะศิลปกรรมศาสตร์ เอกการแสดง ที่มศว คิดว่าน่าจะเป็นอะไรที่รีแลกซ์ แล้วก็สนุก แต่ก็เข้ายากค่ะ คนอยากเข้ากันมาก แต่เขาเลือกแค่ 20 คน แต่ละคนที่เข้ามาก็ Profile ดีทั้งนั้น แต่เข้ามาก็สนุกมากนะ เป็นอะไรที่ใช่สำหรับออม ตอนนั้นออมก็เริ่มเข้าวงการแล้วตั้งแต่ปี 1 ก็เริ่มต้องแบ่งเวลามากขึ้น แต่ช่วงที่หนักที่สุดน่าจะเป็นปี 4 แต่หลักๆ ก็คือเอาเรื่องเรียนไว้ก่อน เพราะตอนนั้นออมคิดว่า ถ้าเราเรียนจบ เราก็สามารถจะทำงานในวงการได้ต่อ แต่ช่วงเวลาในสังคมมหาวิทยาลัยแบบนี้ มันหาไม่ได้อีกแล้ว นอกจากช่วงนี้

ความทรงจำสุดตื่นเต้นในมหาวิทยาลัย
ถ้าพูดถึงความประทับใจตอนเรียน ออมชอบตอนรับน้องนะ เพราะออมเป็นเด็กต่างจังหวัด เข้ามาในสังคมใหม่ เจอความกดดันมากมาย ทำไมรุ่นพี่ต้องให้ไปเต้นกลางสยาม เหนื่อยแทบจะเป็นลม แต่ว่าความกดดันต่างๆ ที่ได้เจอ มันก็เป็นประสบการณ์ที่ทำให้เราได้เอาไปใช้ในชีวิตการทำงานได้ แบบชั้นผ่านมาหมดแล้วนะ อย่างการเรียนแอกติงคลาสก็สนุกมากเหมือนกัน ทุกคลาสที่เข้า ไม่เหมือนกันสักอย่าง แล้วมีครั้งหนึ่งที่จำไม่ลืม เพราะเกิดอุบัติเหตุตอนสอบวิชา Movement คือมีจัดโชว์ที่หอศิลป์ แล้วออมต้องขึ้นไปลอยตัวบนอากาศ แล้วเกิดหล่นลงมา ทุกคนก็ร้องกรี๊ดเลยค่ะ สุดท้ายคือแขนหักต้องไปโรงพยาบาล พักฟื้นไป 2-3 เดือนได้ แต่อาจารย์ก็ยังให้แค่ B เองนะ

ออมกับวันแห่งความสำเร็จ

ตัวตน..สิ่งที่ใช่..ใช้ในชีวิตจริง

ตอนจบแรกๆ ไม่ได้แพลนอะไรไว้เลย ออมเป็นคนทำความรู้สึกของตัวเอง เหมือนเด็กนิดหนึ่งนะ ไม่ได้แพลนว่าจะต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้ แค่พอจบแล้วเริ่มมีงานแสดงเข้ามา ออมก็ทำตามโอกาสที่เข้ามาให้มันดีแค่นั้น แล้วก็รู้สึกว่าตัวเองโชคดี ที่ได้ทำงานในสายที่ตัวเองเรียนมา เพราะอย่างบางคนจบมาแล้วต้องไปทำอย่างอื่นที่ไม่ได้เรียนมา เช่น บางคนไม่ได้ชอบเป็นทนาย แต่เรียนนิติศาสตร์มา 4 ปี คือออมเห็นมาเยอะมาก เรียนแล้วไม่ได้ใช้ประโยชน์ที่เรียนจริงๆ ออมเลยอยากให้น้องๆ หาตัวตนของเราให้เจอเร็วๆ หรือถ้าบางคนเรียนไปปีสองปีแล้วไม่ชอบ ก็ไม่อยากให้ฝืนตัวเองอะ หาสิ่งที่ใช่ที่สุดสำหรับเราดีกว่า เพราะสุดท้าย มันจะดีมากถ้าเราได้ต่อยอดสิ่งที่เรียนมาในชีวิตจริง

ความสำเร็จที่ค่อยๆ ไต่ไปทีละขั้น
ออมคิดว่า แค่ทำวันนี้ให้ดีที่สุด บางคนชอบอยู่กับอดีตและอนาคตมากเกินไป จนลืมไปว่าปัจจุบันเรากำลังทำอะไรอยู่ ซึ่งปัจจุบันนี่แหละจะเป็นตัวบ่งบอกอนาคตและอดีตได้หมดนะ ออมเลยมองความสำเร็จของตัวเองตอนนี้เป็นแค่ไปตามสเต็ปของมันแค่นั้น เพราะเราค่อยๆ ทำโอกาสที่ได้มาให้มันดีที่สุด และพัฒนาให้ดีขึ้นเรื่อยๆ อย่างหนังผีทริลเลอร์เรื่องล่าสุด The Couple ออมก็ไม่เคยเล่นหนังแนวนี้มาก่อน ถือเป็นความท้าทายในการแสดงของออม เพราะเล่นยาก ต้องใช้ร่างกายและสมาธิสูงมาก ส่วนงานอื่นๆ ออมก็โชคดีที่ได้มีงานที่ต่างประเทศ ซึ่งก็ถือว่าเหมือนเป็นตัวแทนของคนไทยไปที่นั่น ทำให้เราต้องรอบคอบในการใช้ชีวิตมากขึ้น อนาคตออมก็อยากจะไปทำงานในโปรดักชั่นที่ใหญ่ขึ้นในระดับเอเชียหรือฮอลลีวูด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็คงอยู่ที่ตัวเราด้วยค่ะ

ดูบทสัมภาษณ์ดารานักศึกษาเพิ่มได้ที่นิตยสาร Campus Star www.facebook.com/campusstar หรือ อ่านเล่มใหม่ได้ที่ mbookstore

ที่มา  //teen.mthai.com/campus_star/90550.html