bloggang.com mainmenu search

คลอดธรรมชาติ หรือ ผ่าคลอด

คลอดธรรมชาติ หรือ ผ่าคลอด ดีนะ


การคลอดในปัจจุบัน แบ่งได้เป็น 2 วิธีการหลักๆ คือ การคลอดเองตามธรรมชาติ และการผ่าตัดคลอด

การเลือกว่าจะ คลอดธรรมชาติ หรือ ผ่าคลอด ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย คุณแม่ควรตัดสินใจร่วมกับสูติแพทย์ที่ฝากครรภ์ โดยดูจากข้อจำกัดหรือปัจจัยต่างๆ หมอจะอธิบายคร่าวๆ นะคะว่า การผ่าตัดคลอดเกิดขึ้นในกรณีใดบ้าง


1. คุณแม่ตัวเล็ก, ทารกตัวโต หรือแพทย์ตรวจพบว่า อุ้งเชิงกรานของแม่ไม่สมดุลกับขนาดของทารก
2. ท่าของทารกไม่เหมาะสม เด็กไม่เอาหัวลงมาในอุ้งเชิงกรานของแม่ แต่เอาก้นหรือเท้าลงมาแทน เด็กบางคนอาจนอนขวางกลางหน้าท้องของแม่เสียเลย อย่างนี้คลอดเองไม่ได้ค่ะ
3. ภาวะครรภ์แฝด ท้องคุณแม่ใหญ่มาก แพทย์จะแนะนำว่า ควรผ่าตัดคลอด
4. คุณแม่เคยมีประวัติผ่าตัดคลอดในท้องแรก หากท้องนี้คลอดเอง อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการที่มดลูกจะแตกในช่วงเจ็บท้องหรือช่วงเบ่งคลอด การผ่าตัดคลอดจึงปลอดภัยกว่า
5. คุณแม่มีโรคประจำตัวที่ทำให้เบ่งคลอดไม่ได้ เช่น โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง หรือแม่อายุมาก ไม่มีแรงเบ่งคลอด อย่างหลังนี่พบบ่อยในยุคปัจจุบัน เพราะผู้หญิงแต่งงานช้า ทำให้มีบุตรช้า กว่าจะมีลูกคนแรกก็อายุมากแล้ว
6. เกิดภาวะที่ทำให้คลอดเองไม่ได้ หรือคลอดไม่ออกในช่วงที่รอคลอด เช่น ปากมดลูกเปิดค้างอยู่แค่ 6 เซนติเมตร หัวลูกเริ่มบวม ปากมดลูกไม่เปิดต่อ หรือกราฟหัวใจเด็กลดลง หากมีภาวะเหล่านี้ สูติแพทย์จะตัดสินใจผ่าตัดคลอดเพื่อความปลอดภัยของทั้งแม่และทารกค่ะ


อยากคลอดเองแต่กลัวเจ็บ…มีทางแก้

สำหรับคุณแม่ที่อยาก คลอดธรรมชาติ แต่กลัวว่า ช่วงที่เจ็บท้องคลอดจะเจ็บจนทนไม่ไหว หมอแนะนำให้เลือกวิธี ฉีดยาชาที่ไขสันหลัง หรือที่เรียกว่า บล็อกหลัง อย่างที่ได้ยินกันอยู่บ่อยๆ ค่ะ


ส่วนใหญ่แพทย์จะบล็อคหลังเมื่อคุณแม่เริ่มเจ็บครรภ์พอประมาณ ปากมดลูกเปิดประมาณ 4-5 เซนติเมตร จะทำให้คุณแม่ไม่รู้สึกเจ็บท้องคลอด ตอนที่คุณหมอเย็บซ่อมแผลช่องคลอดก็จะไม่เจ็บเหมือนกัน ยาชานี้ไม่ผ่านไปสู่ทารก ดังนั้นจึงปลอดภัยกับลูก คุณแม่ที่ตั้งใจจะผ่าตัดคลอด ก็สามารถเลือกวิธีบล็อคหลังได้เช่นเดียวกัน ตอนผ่าตัดจะไม่เจ็บ และได้เห็นหน้าลูกทันทีที่ลูกเกิด ไม่จำเป็นต้องดมยาสลบแล้วหลับตลอดการผ่าตัด แต่ถ้าคุณแม่กลัวบรรยากาศตอนผ่าตัด ก็เลือกใช้ยาสลบแทนได้

ปรับตัวหลังผ่าคลอด


ในการคลอดแต่ละครั้ง ไม่ว่าจะคลอดด้วยวิธีใด คุณแม่จะต้องเสียเลือดมาก ดังนั้นคุณแม่จึงควรกินยาบำรุงเลือดเตรียมไว้ตั้งแต่ตอนที่ท้องอ่อนๆ (ประมาณสัปดาห์ที่ 12) ไปจนถึงช่วงคลอด จะได้มีเรี่ยวแรงไว้เลี้ยงเจ้าตัวเล็กที่คลอดออกมา ถ้าคุณแม่ซีดเพราะไม่ได้กินยาบำรุงเลือด หลังคลอดคุณแม่อาจมีอาการวิงเวียนและหมดแรงได้ค่ะ
สำหรับคุณแม่ที่ผ่าตัดคลอด หลังผ่าตัด 1 วัน คุณแม่ก็สามารถลุกเดินเองได้ตามปกติแล้วค่ะ ลุกเดินไปดูลูกที่ห้องเด็กอ่อน และสามารถเดินเข้าห้องน้ำเองได้ อาจจะรู้สึกปวดแผลบ้าง แต่จะไม่ปวดมากเท่าใด สายน้ำเกลือและสายปัสสาวะที่ระโยงระยางช่วงผ่าตัดคลอดก็เอาออกไปได้หมด


ข้อควรระวังก็คือ ในช่วง 2-3 เดือนหลัง ผ่าคลอด คุณแม่ไม่ควรยกของหนักหรือทำงานหนัก เพราะจะทำให้แผลผ่าตัดบวมนูน กลายเป็นแผลเป็นไม่สวย ระหว่างนี้ หมอแนะนำให้ใช้ครีมทาป้องกันแผลเป็น เริ่มทางได้ตั้งแต่ปลายสัปดาห์แรกหลังผ่าตัด และทาต่อไปเรื่อยๆ จนถึงเดือนที่สาม แต่ถ้าแผลผ่าตัดยังเป็นแผลนูนอยู่ คุณแม่อาจปรึกษาแพทย์ผิวหนัง เพื่อฉีดสเตียรอยด์ หรือรักษาด้วยเลเซอร์ก็ได้ค่ะ

ผู้เขียน: แพทย์หญิง สิรนาถ นุชนาถ สูตินรีแพทย์ ศูนย์สุขภาพสตรี โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท
คุณแม่ของน้องมะปราง เด็กหญิงปรางญรีย์ มีแต้ม วัย 3 ขวบ 8 เดือน และน้องปังปอนด์ เด็กชายธีทัต มีแต้ม วัย 2 ขวบ 2 เดือน

ที่มา: MTHAI
Create Date :27 กุมภาพันธ์ 2556 Last Update :27 กุมภาพันธ์ 2556 22:23:24 น. Counter : 1290 Pageviews. Comments :0