bloggang.com mainmenu search

"แพทยสภา" เตรียมดันไทยเป็นเมืองศัลกรรมในอาเซียน หลังเปิด AEC

หวังแข่งเกาหลี เรียกรายได้เข้าประเทศกว่าปีละ 2 แสนล้านบาท

ปัจจุบันธุรกิจศัลยกรรมเสริมความงามในประเทศไทย กำลังได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก ทั้งประเทศแถบยุโรป อเมริกา และทางเอเชียด้วยกันเอง ซึ่งมีการคาดการณ์ว่า หลังการเปิดประชาคมอาเซียน ในปี 2558 จะทำให้ตลาดความงามภายในประเทศ ขยายตัวเพิ่มมากขึ้นกว่าเท่าตัว โดยเฉพาะทาง "แพทยสภา" มีแผนผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางเมืองศัลยกรรมอาเซียน ตามรอยประเทศเกาหลี มองเห็นรายได้ที่จะเข้าประเทศกว่า 2 แสนล้านบาท/ปี โดยใช้โอกาสเปิดประชาคมอาเซียน ตีตลาดประเทศเพื่อนบ้าน
แพทยสภาร่วมกับสมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าแห่งประเทศไทย ราชวิทยาลัย โสต ศอ นาสิกแพทย์ แห่งประเทศไทย และสมาคมศัลยกรรมและเวชศาสตร์เพื่อการเสริมสวยประเทศไทย แถลงความพร้อม ในการจัดการประชุมวิชาการเชิงปฏิบัติการให้กับแพทย์ด้านศัลยกรรมตกแต่งความ งาม(Masterclass Project : Rhinoplasty) เพื่อถ่ายทอดเทคนิคการทำศัลยกรรมจมูกขั้นสูงด้วยไขมัน ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 2 - 3 มี.ค. นี้ ณ โรงแรมอีสติน แกรนด์ สาทร โดยนายแพทย์สัมพันธ์คมฤทธิ์ เลขาธิการแพทยสภา บอกว่า ปัจจุบันธุรกิจบริการทางการแพทย์และความงามทั่วโลก กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยอ้างอิงตามผลวิจัยที่ระบุว่า ประชาชนประเทศแถบยุโรปและอเมริกา จะให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพและความงามมากขึ้น โดยมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นปีละประมาณ 10% ในขณะที่ผลวิจัยพฤติกรรมของประชาชนในกลุ่มประเทศอาเซียนก็พบว่า คนในภูมิภาคนี้จะยอมทุ่มเงินจำนวนมากกว่าประชาชนแถบยุโรปและอเมริกา เพื่อใช้ในการศัลยกรรมตกแต่งและเสริมความงาม ซึ่งในอนาคตก็จะยิ่งมีสัดส่วนเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน
"จากข้อมูลของสมาคมเสริมความงามนานาชาติ ระบุว่าปริมาณการทำศัลยกรรม ทั้งประเภทที่ต้องผ่าตัดและไม่ผ่าตัดนั้น ในภูมิภาคเอเชียพบว่า จีนมีสัดส่วนการทำศัลยกรรมสูงสุด รองลงมาคือ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และไต้หวัน ซึ่งประเทศไทยถือเป็นชาติเดียว ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ติดผลการจัดอันดับครั้งนี้ จึงยืนยันได้ว่าการทำศัลยกรรมในประเทศไทย มีความแพร่หลาย และได้รับความไว้วางใจจากทั้งคนไทยและคนต่างชาติ" นายแพทย์สัมพันธ์ กล่าว
"ด้วยเทรนด์ความงามแบบเกาหลียังคงอยู่ในกระแสของคนไทย ทางเราพบว่าปัจจุบันคลินิกความงามหลายแห่ง ได้ชูจุดเด่นเฉพาะทางด้วยการผันตัวเองเป็นตัวแทนโรงพยาบาลเกาหลี เพื่อส่งลูกค้าไปทำศัลยกรรม หรือนำหมอเกาหลีเข้ามาสอนหมอไทย รวมถึงการนำหมอเกาหลีมาผ่าตัดศัลยกรรมในประเทศไทย ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย อีกทั้งยังไม่น่าเชื่อมั่นถึงประสิทธิภาพการทำด้วย"นายแพทย์ชลธิศ กล่าว
'ปัญหาคือภาครัฐขาดการสนับสนุนไม่ผลักดันเป็นนโยบายที่เป็นรูปธรรมทั้งที่เรามีความพร้อม'
ที่มา:
voice tv 22 กุมภาพันธ์ 2556
รูปจากกูเกิ้ล
Create Date :22 กุมภาพันธ์ 2556 Last Update :22 กุมภาพันธ์ 2556 21:54:12 น. Counter : 2738 Pageviews. Comments :0