2. รูฟัส ที ไฟร์ฟลาย (Rufus T. Firefly) จาก Duck Soup (1933)

           Duck
Soup หนังคอมเมดี้ที่ดีที่สุดของพี่น้องตระกูลมาร์กซ์
ครอบครัวนักแสดงตลกของอเมริกัน ที่สร้างหนังแบบที่ โรเจอร์ อีเบิร์ต
นักวิจารณ์และเขียนบทหนังได้กล่าวว่า
เป็นตัวอย่างหนังเบาสมองอันไร้ซึ่งแก่นสาร ไม่มีความต่อเนื่อง
และเนื้อเรื่องแปลกเกินความเข้าใจ แต่ทั้งหมดทั้งมวลนี่เองที่สอดประสานให้
Duck Soup กลายเป็นหนังคอเมดี้ในตำนานและดีที่สุดของพี่น้องตระกูลมาร์กซ์
           โดย "รูฟัส ที ไฟร์ฟลาย" ตัว
เอกของเรื่อง คือผู้ที่บุญหล่นทับได้ขึ้นเป็นผู้ปกครองของประเทศฟรีโดเนีย
เพราะเขาเป็นคนโปรดของ มิสซิสทิสเดล สตรีเงินหนักผู้หนุนหลังประเทศนี้
แต่เรื่องราวก็เกิดโกลาหลเมื่อคนอย่าง รูฟัส ที ไฟร์ฟลาย
จัดเป็นคนประเภทที่เรียกง่าย ๆ ว่าเพี้ยนสุดขั้ว
แล้วให้คนประเภทนี้มาบริหารประเทศ
จะนำพาฟรีโดเนียไปสู่ทิศทางไหนคงพอจะเดาได้...

           ด้วย
ความตลกโปกฮาในคาแรคเตอร์ของหนุ่มเพี้ยน ทำให้ชื่อของ รูฟัส ที ไฟร์ฟลาย
เป็นที่จดจำของนักดูหนังทั้งหลาย
แถมคนเขียนบทก็เข้าใจตั้งชื่อแบบแฝงนัยให้ขบขันด้วยว่า การมีชื่อเล่น
หรือชื่อกลางที่ขึ้นต้นด้วยตัวอักษร T หรือ J
สำหรับคนมะกันแล้วถือว่าช่างน่าขบขัน ทั้งยังการจงใจเล่นเสียง f ในชื่อท้าย
ทั้งพยางค์ต้นและปลาย ที่ทำให้ออกเสียงแล้วฟังดูแปลกพิลึก
ยิ่งตอกย้ำให้ตัวละคร รูฟัส ที ไฟร์ฟลาย
กลายเป็นตัวตลกที่คอหนังเก่าจดจำได้ขึ้นใจ

  3. พุซซี่ กาลอร์ (Pussy Galore) จาก GoldFinger (1964)

           ชื่อ
สาวบอนด์ที่นับได้ว่าเป็นสาวบอนด์ที่ดีที่สุดของ ชอน คอนเนอรี่
จากหนังสายลับ เจมส์ บอนด์ 007 ตอน Gold Finger ชื่อของเธอ แปลก แหวกแนว
และ สื่อความหมายสองแง่สองง่าม ทั้งคำว่า พุซซี่ (pussy) ที่แปลว่า
แมวเหมียว หรืออีกความหมายหนึ่งคือ จุดสงวนของผู้หญิง และคำว่า กาลอร์
(galore) ที่แปลว่ามีอยู่มากมาย
ทำให้ความหมายที่ได้ออกจะสะดุดใจคนดูอยู่สักหน่อย
เลยทำให้ชื่อของเธอเป็นที่จดจำสำหรับคอหนังรุ่นเดอะอยู่ไม่น้อย

  4. เดิร์ค ดริกเกลอร์ (Dirk Diggler) จาก Boogie Nights (1997)

 
         จาก เอ็ดดี้ อดัมส์ หนุ่มแคลิฟอร์เนียที่ฝันอยากจะเป็นดาราดัง
แต่กลับไร้ซึ่งความสามารถ แถมหน้าตาก็ไม่ได้หล่อเหลา
แต่เมื่อเขาได้เข้ามาสู่ธุรกิจหนังโป๊ (ว้าว!)
สิ่งหนึ่งที่เขาได้เรียนรู้ก็คือจะต้องสร้างชื่อที่เป็นที่จดจำและสะดุดหูคน
ทั่วไป ชนิดที่ว่าถ้าพูดถึงหนังโป๊ก็ต้องนึกถึงชื่อนี้เท่านั้น

           และชื่อที่พ่อหนุ่ม เอ็ดดี้ อดัมส์ บอกว่า
หลับตาลงปุ๊บก็เห็นแต่ตำนี้ลอยเข้ามาในหัว
มันช่างเป็นคำที่เหมาะเจาะเหมาะเหม็งกับเขาเหลือเกิน ก็คือ "เดิร์ค
ดริกเกลอร์" (Dirk Diggler) นั่นเอง ช่างฟังดูแล้วชวนสยิวกิ้วเสียจริง ๆ เพราะได้ยินแล้วมันชวนให้คิดไปถึงคำว่า Dick ที่แปลว่าอวัยวะเพศชายเสียอย่างนั้น

  5. สเนค พลิสสเก็น (Snake Plissken) จาก Escape from New York (1981)

           หนังแนวฮีโร่กู้วิกฤตที่สร้างชื่อให้กับ เคิร์ท รัสเซล กับบทของ "สเนค พลิสสเก็น" ทหาร
ผู้ต้องข้อหากลับกลายเป็นคนร้ายเสียเอง
ได้ถูกยื่นข้อเสนอเพื่อลบล้างข้อกล่าวหาทั้งหมดโดยต้องปฏิบัติภารกิจเสี่ยง
ตายไปช่วยประธานาธิบดีที่ถูกผู้ก่อการร้ายจับตัวไปที่เกาะแมนฮัตตัน
และสิ่งที่ทำให้คาแรคเตอร์ของ สเนค พลิสสเก็น เป็นที่จดจำก็คือ
ภาพชายหนุ่มกำยำล่ำสัน ใส่ผ้าปิดตาข้างเดียวแบบโจรสลัด
พร้อมกับเสื้อกล้ามสีดำ ที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของฮีโร่แบบเถื่อน ๆ
ไปโดยปริยาย

  6. บักกิ้น เอาท์ (Buggin' Out) จาก Do the Right Thing (1989)

           จากหนังดราม่าคอมเมดี้เรื่อง Do the Right Thing ที่เรื่องราวต่าง ๆ เกิดขึ้นในชุมชนอัฟริกัน-อเมริกัน กับตัวละคร "บักกิ้น เอาท์" (เกียนซาโล เอสโพซิโต้)

ที่พยายามเรียกร้องให้เพื่อนร่วมชุมชนหันมาตระหนักถึงเชื้อชาติและวัฒนธรรม
ที่กำลังจะถูกกลืนกิน แต่ก็สนุกตรงที่การร้องเรียกความสนใจของ บักกิ้นส์
ออกจะเป็นแนวประหลาด พิลึก น่าขัน
ก็เลยไม่ได้รับความสนใจจากเพื่อนบ้านเท่าที่ควร
ส่วนตัว บักกิ้นส์ เองเป็นที่จดจำจากหน้าตาโอเวอร์แอ็คติ้งสุดพิลึก
กับภาพที่เขาอ้าปากหวอ เบิกตากว้างอยู่หลังกรอบแว่นทรงกลมที่ดูเนิร์ดสุด ๆ
รวมทั้งผมหยิกหยองที่ตั้งชัน เรียกได้ว่าใครที่รู้จักชื่อของ "บักกิ้น เอาท์" แล้วล่ะก็ จะต้องนึกถึงเขาในสภาพนี้แน่นอน 

  7. เชฟ เชลิออส (Chev Chelios) จาก Crank: High Voltage (2009)

           หนัง
ภาคต่อเนื่องจาก Crank (2006) เปิดฉากที่นาย เชฟ
ตัวเอกของเราตกแอ้กจากเฮลิคอปเตอร์
มานอนแอ้งแม้งที่สี่แยกใจกลางเมืองลอสแองเจลิส
ก่อนจะถูกแก๊งมาเฟียจีนอุ้มไปทำการผ่าตัดประหลาด ถอดหัวใจของพี่แกออกไป
แล้วใส่หัวใจแบตเตอรี่มาให้แทน
งานนี้พี่เชฟเลยต้องบู๊ระห่ำเพื่อตามหาหัวใจของตัวเองกลับคืนมาให้จงได้
และแลกเวลาชีวิตระหว่างตามหาหัวใจคืน
ด้วยการชาร์จไฟฟ้าเข้าร่างเพื่อกระตุ้นการทำงานของหัวใจเทียม
เราก็เลยได้เห็นฉากนาย เชฟ เชลิออส ระห่ำดุเดือด
สลับกับการพักชาร์จไฟให้หัวใจ
ตั้งแต่เอานิ้วแหย่ปลั๊กไฟไปจนกระทั่งใช้คีมปากจิ้งจกนำไฟฟ้าหนีบลิ้นหนีบ
หัวนมตัวเอง ให้เราได้หวาดเสียวแทนอย่างที่เห็น >_< 

  8. เฮ็ดลีย์ ลามาร์ (Hedley Lamarr) จาก Blazing Saddles (1974)
           เรื่อง
นี้เป็นหนังตลกเสียดสีโลกตะวันตกยุคอินเดียนแดง ที่หยันชาวผิวขาวได้พอแสบ ๆ
คัน ๆ
แต่จุดที่เรียกเสียงหัวเราะของหนังเรื่องนี้ได้ก็คือตัวละครนักการเมืองขี้
ฉ้อ "เฮ็ดลีย์ ลามาร์" ที่นอกจากจะขี้โกงสุดโต่งแล้ว
ยังแฝงความขบขันที่เขาต้องคอยแก้ชื่อตัวเองให้ถูกอยู่เสมอ
เพราะคนอื่นมักจะเรียกเขาว่า "เฮดี้ ลามาร์"
ซึ่งนั่นเป็นชื่อของนักแสดงสาวชาวอเมริกันคนหนึ่งต่างหาก
(เธอมีตัวตนอยู่จริง ๆ)
แก้ไปแก้มามันก็น่าขันตรงที่ช่างขยันตามแก้เหลือเกินนี่แหละ ทำให้ชื่อของ "เฮ็ดลีย์ ลามาร์"
กลายเป็นชื่อที่ถูกคอหนังจดจำไปอีกชื่อหนึ่ง (แถมมีข่าวว่านักแสดงสาว
เฮดี้ ลามาร์
ตัวจริงได้ฟ้องต่อศาลกรณีนำชื่อของเธอมาล้อเลียนในหนังด้วยล่ะ)

  9. ฟิวเรียส สไตล์ส (Furious Styles) จาก Boyz n the Hood (1991)

           ตัว
ละคร ฟิวเรียส สไตล์ส เรียกได้ว่าเป็นพ่อตัวอย่าง
ที่พยายามเลี้ยงลูกอย่างดีที่สุด สอนให้ลูกรู้จักผิดชอบชั่วดี
และทนต่อสิ่งยั่วยุ อบายมุขทั้งหลาย ทั้ง ๆ
ที่ดำเนินชีวิตอยู่ในย่านชาวผิวสี รัฐแคลิฟอร์เนีย แต่ชื่อที่ฟังดู
มีพลังอย่าง ฟิวเรียส สไตล์ส
ก็สะท้อนให้เห็นอารมณ์คุกกรุ่นที่ระอุอยู่ภายในจากการอยู่ในสภาพสังคมที่กด
ดัน แต่โชคดีที่ ฟิวเรียส ผลักดันมันออกมาในทางที่เหมาะสมนั่นเอง

  10. จอห์นนี่ ยูทาห์ (Johnny Utah) จาก Point Break (1991)

           ชื่อ
ที่ฟังดูแล้วสุดแสนจะธรรมดาอย่าง จอห์นนี่ ยูทาห์
กลับกลายเป็นความธรรมดาที่ถูกปั้นแต่งขึ้นอย่างจงใจ
เมื่อความจริงแล้วเขาเป็นตำรวจลับจากเอฟบีไอ
ที่ถูกมอบหมายให้แฝงกายเข้ามาในกลุ่มนักเล่นกระดานโต้คลื่น
ซึ่งต้องสงสัยว่าจะเป็นแก๊งคนร้ายปล้นธนาคาร
โดยพรางใบหน้าไว้ภายใต้หน้ากากของบรรดาอดีตประธานาธิบดีของสหรัฐฯ
แต่ว่าความจริงแล้วท่าทางบทบาทนี้น่าจะเป็นที่จดจำสำหรับนักดูหนังเพราะว่า
ถูกแสดงโดยนักแสดงหน้าหยกอย่าง คีอานู รีฟ เสียมากกว่า
(ตอนเล่นหนังเรื่องนี้กำลังเอ๊าะ ๆ เลยทีเดียวล่ะ)