bloggang.com mainmenu search
ก่อนอื่นผมต้องขอขอบคุณมากๆครับสำหรับกำลังใจจากนิตยสารฉบับแนะนำคนหลังกล้อง ผมเองก็ไม่นึกว่าจะได้รับค่านิตยสารมากถึงขนาดนั้น รวมถึงคะแนน give อีกมากกว่า สองพันคะแนน กำลังใจที่ผมได้รับในครั้งนี้คงต้องขอบคุณทุกๆข้อความและทุกๆคะแนน give ที่มอบให้กันอีกครั้งนะครับ เป็นความรู้สึกดีๆที่ผมคงไม่ลืมและเป็นความรู้สึกที่คงหาซื้อที่ไหนไม่ได้

ฉบับนี้ผมจะพาลงใต้อีกครั้ง ผมมีโอกาสไปเยือนกระบี่เมื่อช่วงหยุดยาวต้นเดือนเมษาที่ผ่านมา หลังจากที่ผมได้เล็งๆรีสอร์ทนี้มานาน ในที่สุดก็ได้มีโอกาสมาเยือน Centara Grand Beach Resort & Villas Krabi ซึ่งเป็นรีสอร์ทในเครือ Centara แห่งที่สองของผม รีสอร์ทแห่งนี้เป็นรีสอร์ทขนาดใหญ่ทีเดียวครับมีห้องพักเกือบๆสองร้อยห้องพัก ตั้งอยู่บนอ่าวไผ่ปล้อง ถึงแม้ตัวรีสอร์ทจะอยู่ใกล้ๆกับอ่าวนาง แต่ก็ไม่สามารถเดินทางด้วยรถเข้าไปยังรีสอร์ทได้ ต้องอาศัยนั่งเรือของรีสอร์ท ประมาณ 15 นาที ทำให้เวลาอยู่ที่รีสอร์ทได้ความรู้สึกเหมือนอยู่บนเกาะ จุดเด่นของรีสอร์ทคงเป็นทำเลของรีสอร์ทที่ถูกล้อมรอบไปด้วยภูเขา มีความเป็นธรรมชาติ และวิวบริเวณหน้าหาดที่มีภูเขาเล็กๆคล้ายๆกับเขาตะปู ซึ่งสวยงามมากครับ ส่วนจุดด้อยคงเป็นที่การเข้าไปยังเมืองกระบี่อาจจะลำบากซักหน่อยยิ่งช่วงที่ผมไปมีฝนตกทุกวัน ทำให้ต้องพึ่งห้องอาหารในรีสอร์ทซึ่งราคาก็สูงเป็นปกติ สำหรับผมแล้วโดยรวมผมประทับใจกับการไปเยือน Centara Grand Beach Resort & Villas Krabi ครั้งนี้มากครับ ไม่ว่าจะเป็นห้องพักที่กว้าง สะดวกสบาย บรรยากาศในรีสอร์ทที่เป็นธรรมชาติและการบริการจากพนักงานทุกๆคน ลองมาชมภาพของ รีสอร์ทในเครือ เซนทารา ที่กระบี่แห่งนี้ในมุมมองของผม

ดูรีวิวที่เหมือนกันของผมจากห้อง BluePlanet ใน Pantip.com ได้ที่
//www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E7900375/E7900375.html

ผมขอวางแผงนิตยสาร ชานไม้ชายเขาฉบับที่ 49 ประจำเดือน พฤษภาคม 2552 กับรีสอร์ทวิวสวยๆที่ได้บรรยากาศเหมือนอยู่บนเกาะของจังหวัดกระบี่ที่ชื่อว่า Centara Grand Beach Resort & Villas Krabi


ผมขอเริ่มต้นด้วยภาพนี้ครับ บรรยากาศจากระเบียงห้องที่ผมพัก จะเห็นภูเขาสูงทางด้านซ้าย ซึ่งแนวภูเขานี้จะล้อมรีสอร์ททางด้านหลังทั้งหมด ทำให้รู้สึกเหมือนเป็นบริเวณที่ถูกซ่อนเอาไว้จากโลกภายนอก และทำให้ได้บรรยากาศธรรมชาติ


ตัวรีสอร์ทหันหน้าเข้าหาทิศตะวันตก ทำให้สามารถชมพระอาทิตย์ตกจากบริเวณรีสอร์ท ภาพนี้เป็นเวลาช่วงเย็นๆ บรรยากาศดีมากครับ


ย้อนกลับมาชม lobby ซึ่งออกแบบได้ดี โปร่งสบาย


ใกล้ๆกับ lobby จะเป็นห้องสมุด เวลาเดินเล่นร้อนๆ ผมชอบมานั่งเล่นตากแอร์ที่ห้องนี้ บันไดที่เห็นจะพาลงไปยัง บาร์ของรีสอร์ทที่ชื่อ Deep Blu ซึ่งผมจะพาชมในช่วงท้ายๆ


บรรยากาศที่ห้องสมุดอีกภาพครับ บริเวณห้องสมุดยังมีโต๊ะรับติดต่อการใช้บริการทัวร์ หรือกิจกรรมต่างๆ


เข้ามาชมห้องพัก ห้องพักที่ผมเข้าพักครั้งนี้เป็นแบบ Spa Deluxe Ocean Facing ซึ่งอยู่บนเนินสูง การเดินทางไปส่วนต่างๆของรีสอร์ท อยู่ในระยะที่เดินได้ หรือจะเรียกใช้รถกอล์ฟก็ได้ครับ


พอเปิดประตูห้องเข้าไปจะเจอระเบียงข้างห้องก่อนเลยครับ บรรยากาศดีมากๆ มีทั้ง daybed และโต๊ะที่เห็นในภาพ


ภาพนี้เป็นระเบียงหน้าห้อง ถ้าเป็นชนิดห้องที่มีคำว่า Spa แสดงว่าตรงระเบียงห้องจะมีเจ้าตัวนี้อยู่ครับ อ่าง Jacuzzi บรรยากาศดีๆที่สามารถแช่น้ำไปชมวิวไป


จากระเบียงห้องด้านหน้ามองเข้าไปยังห้องนอน


ที่ระเบียงหน้าห้องอีกภาพ สามารถแช่ Jacuzzi พร้อมๆกับชมพระอาทิตย์ตก ชมวิวสวยๆ ดอกไม้ลอยน้ำที่เห็นขอทางรีสอร์ทได้นะครับ ที่ระเบียงยังมีเตียงนอนเล่น อาบแดด อีกสองตัว


มาดูในห้องนอนต่อ สามารถนอนชมวิวจากเตียงนอนได้เลย ในห้องยังมี LCD TV และเครื่องเล่น DVD


ภาพนี้เป็นระเบียงด้านข้างแบบเต็มๆ จะมี Daybed และโต๊ะทานข้าว ที่พิเศษคือจะมีม่านที่ปิดเปิดด้วยระบบไฟฟ้าด้านข้าง พอปิดม่านจะทำให้ที่ระเบียงมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น


บรรยากาศที่ห้องนอน จะเห็น เขาเล็กๆ (Lime Stone) ซึ่งเหมือนกับเป็นสัญลักษณ์ของที่นี่


บรรยากาศที่นอนที่น่านอน เก้าอี้นั่งเล่นปลายเตียงก็นั่งเล่นชมวิวสบาย


ถัดจากที่นอนก็เป็นส่วนห้องน้ำครับ ประตูที่เห็นข้างอ่างอาบน้ำเลื่อนปิดเปิดได้ ประตูในสุดที่เห็นเป็นส่วนของห้องสุขา


ตรงหัวเตียงจะเป็นส่วนของโต๊ะทำงาน ที่นี่มี ผลไม้ต้อนรับให้ด้วยครับ


อ่างอาบน้ำในส่วนห้องน้ำ บริเวณข้างๆอ่างจะเป็น rain shower


วิวจากห้องพักช่วงเช้า เห็นฟ้าอย่างนี้พอตกบ่ายฝนตกทุกวัน


บรรยากาศบริเวณห้องพักช่วงฟ้าใส จะเห็นภูเขาเป็นฉากหลัง


อาคารส่วนนี้เป็นส่วน lobby กับสีเขียวๆของภูเขา


ท่าเรือที่เห็นเป็นแบบลอยน้ำครับ ภาพนี้เห็นเขาเล็กๆที่อยู่หน้ารีสอร์ทชัดเจน


บรรยากาศในรีสอร์ท ด้านหน้าของรีสอร์ทจะเป็นทะเล ส่วนด้านหลังจะเห็นภูเขา บรรยากาศธรรมชาติดีครับ


สะพานข้ามลำธารเล็กที่ทางรีสอร์ทสร้างขึ้น ใครไปใครมาก็ต้องมาถ่ายที่สะพานนี้


บรรยากาศที่ระเบียงห้องพัก สามารถแช่ Jacuzzi ไปชมวิวสวยๆไป


บรรยากาศดีๆที่ระเบียงห้องกับหนังสืออ่านเล่นที่พกมาด้วย เป็นแฟนคลับครอบครับ DOGHALL เจ้ฮอลล์ วู๊ดดี้ และอาตี๋สุขใจ


หรือจะมานอนชมวิวบนเตียงข้างอ่าง Jacuzzi ก็บรรยากาศดี


กลับมาดูห้องน้ำต่ออีกนิดครับ


ที่นี่มีอ่างล้างหน้าอ่างเดียว มูลี่ที่เห็นหลังอ่างล้างหน้า ต้องปิดให้สนิทนะครับ เพราะด้านนอกจะเป็นทางเดินไปยังห้องข้างๆ


น้ำที่นี่แรงดีครับ น้ำร้อนก็ร้อนไว เปิดไม่นานลงแช่อ่างได้เลย


ระเบียงห้องด้านข้างหลังจากเลื่อนม่านลงมาปิดเพื่อความเป็นส่วนตัว


ระเบียงด้านข้างกับระเบียงด้านหน้าจะต่อถึงกันครับ ถ้ารวมทั้งพื้นที่ในห้องและพื้นที่ที่ระเบียงถือว่าห้องกว้างสบายทีเดียว


บรรยากาศที่น่าอยู่ของห้องนอนอีกภาพ


มาดูบริเวณชายหาดและท่าเรือของรีสอร์ทบ้างครับ


บรรยากาศช่วงพระอาทิตย์ตกสวยมากๆ


บรรยากาศสวยๆ ช่วงพระอาทิตย์ตกอีกภาพ ช่วงที่ผมไปต้นเดือนเมษายน ทะเลเรียบครับ การเดินทางช่วงนั้นสะดวก


เป็นบรรยากาศที่น่าเดินเล่นริมทะเล


ต่อไปมาดูส่วนของห้องอาหาร ที่นี่มีห้องอาหารอยู่ 4-5 แห่งผมไม่อยากนั่งเรือออกไปทานข้าวในเมือง เลยทานอยู่ในรีสอร์ท ส่วนนี้เป็นบรรยากาศของห้องอาหาร ริมทราย ซึ่งบริการอาหารไทย อาหารทะเลครับ มื้อเย็นผมก็มาทานที่นี่


สามารถทานอาหารไป ชมทะเลฟังเสียงคลื่นไป


มาดูส่วนของบาร์ที่ชื่อว่า Deep Blu ซึ่งต้องลงจากบันใดบริเวณห้องสมุด


ที่นี่ออกแบบได้ดีทีเดียวครับ น่านั่งเล่นเพลินๆ


บรรยากาศที่บาร์อีกภาพ


เปลนอนเล่นข้างๆห้องสมุดครับ เห็นแล้วอยากกลับไปนอนเล่น


ภาพนี้ผมนำมาลงในนิตยสารฉบับที่แล้ว เป็นบรรยากาศท่าเรือของรีสอร์ทช่วงพระอาทิตย์ตก บรรยากาศดีมากๆครับ


และก็ปิดท้ายด้วยภาพจากปกเช่นเคย ด้วยภาพจะระเบียงห้องพักที่เห็นบรรยากาศดีๆของทะเลกระบี่ และเขาเล็กๆหน้ารีสอร์ท มุมนี้นั่งเล่นชมวิวได้เรื่อยๆเป็นมุมโปรดอีกมุมหนึ่งเวลาอยู่ที่ห้องพัก


จากที่เคยไปรีสอร์ทในเครือ Centara มาสองแห่ง สิ่งประทับใจเหมือนกันๆคือการบริการที่ดีจากพนักงานที่รีสอร์ททุกๆคน จุดเด่นที่สำคัญของ Centara กระบี่อีกอย่างคือ อาหารเช้าครับ ช่วงที่ผมไปมีแขกมาพักค่อนข้างเยอะ อาหารเช้ามีเยอะและหลากหลาย ไม่ว่าเป็นอาหารไทย ABF ติ่มซำ ซุป และคุณภาพอาหารดีมาก ผมอาจจะโชคไม่ดีที่ช่วงที่ผมไปพัก ฝนตกทุกวันตั้งแต่ลงเรือเข้า check in ที่รีสอร์ท มีแดดออกบ้างเป็นบางช่วง จากที่อากาศค่อนข้างไม่แน่นอนทำให้ผมยกเลิกแผนการที่จะไปทัวร์เกาะพีพี เสียดายเหมือนกัน คงไว้ไปกระบี่ครั้งหน้าจะหาโอกาสไปพีพีอีกซักครั้ง ในความคิดเห็นของผม รีสอร์ทแห่งนี้ เหมาะสำหรับการมาพักผ่อนทั้งแบบ ครอบครัว หรือจะมา Honeymoon ก็ได้เช่นกัน มีกิจกรรมหลายอย่างๆ มีชายหาดบรรยากาศดีๆไว้เดินเล่นหรือเล่นน้ำ สระว่ายน้ำส่วนกลางบรรยากาศดี แต่เนื่องจากรีสอร์ทแห่งนี้เป็นรีสอร์ทขนาดใหญ่ บรรยากาศของบริเวณส่วนกลางของรีสอร์ทจะมีแขกมาใช้บริการเยอะ บางช่วงอาจจะคึกคักไม่สงบมากนัก แต่บรรยากาศที่ห้องพักยังคงมีความเป็นส่วนตัวและเงียบสงบ ส่วนห้องพักของที่นี่มีทั้งแบบที่อยู่ใกล้หาดและอยู่บนเนินสูง แขกที่เข้าพักสามารถเรียกใช้รถกอล์ฟของรีสอร์ทได้ตลอดเวลา ห้องพักแต่ละชั้นจะมีสองห้องติดกัน ถ้ามากันเป็นครอบครัวแล้วเปิดห้องพักทั้งสองห้องที่อยู่ติดกัน สามารถเปิดระเบียงให้เชื่อมต่อกันได้ ลองมาดูสรุปจุดเด่นจุดด้อยในมุมมองของผม

จุดเด่น
- บรรยากาศในรีสอร์ทดีมาก มีภูเขาสูงเป็นฉากหลังล้อมรอบด้านหลังของรีสอร์ททั้งหมด ส่วนด้านหน้าเป็นชายหาดและวิวของภูเขาสวยๆ ไม่มีถนนหรือรถเข้าถึงบริเวณรีสอร์ท ทำให้รู้สึกเหมือนเป็นบริเวณที่ถูกซ่อนเอาไว้จากโลกภายนอก
- ห้อง Spa Deluxe Ocean Facing ที่ผมเข้าพัก ห้องกว้างสบาย มีระเบียงรอบห้อง มีอ่างอาบน้ำ LCD TV และเครื่องเล่น DVD ระเบียงห้องบรรยากาศดี สงบ วิวจากห้องพักสวยมากครับ ที่สำคัญมีอ่าง Jacuzzi ที่ระเบียงไว้แช่น้ำ ชมวิว
- การบริการจากพนักงานทุกๆคนดีมาก ยิ้มแย้มทักทายให้ความช่วยเหลือด้วยความเต็มใจ
- เป็นรีสอร์ทที่ติดทะเลและเหมือนมีหาดส่วนตัว ช่วงที่ผมไป (ต้นเดือนเมษายน) น้ำทะเลใสน่าเล่น มีกิจกรรมหลายอย่างไม่ว่าจะพายเรือ เล่นน้ำ เดินเล่น ให้เลือกทำ
- มีห้องอาหาร 4-5 แห่งในรีสอร์ทให้เลือกใช้บริการ
- อาหารเช้าช่วงที่ผมไปมีให้เลือกเยอะและคุณภาพอาหารดีมาก

จุดด้อย
- ถึงแม้ตัวรีสอร์ทอยู่บนฝั่งกระบี่ แต่การเดินทางมายังรีสอร์ทต้องนั่งเรือ อาจจะไม่สะดวกถ้าฝนตก หรือช่วงที่คลื่นลมแรงๆ
- เนื่องจากเป็นรีสอร์ทขนาดใหญ่ บริเวณพื้นที่ส่วนกลางเช่น ที่สระว่ายน้ำ ริมหาด ช่วงที่ผมไปจะมีแขกมาใช้บริการเยอะครับ อาจจะคึกคัก ไม่สงบมากนัก
- เนื่องจากตัวรีสอร์ทถูกล้อมรอบไปด้วยภูเขาและทะเล ไม่มีร้านอาหารอื่นๆใกล้เคียง ถ้าไม่นั่งเรือไปยังเมืองกระบี่ ก็ต้องพึ่งห้องอาหารของรีสอร์ทซึ่งราคาอาหารก็สูงเป็นปกติ (เรือที่ออกจากรีสอร์ทไปหาดนพรัตน์ธารา ออกเป็นเวลาและไม่มีค่าใช้จ่ายครับ)

ข้อสังเกตนิดนึงสำหรับการสั่งอาหารในรีสอร์ทคือ ราคาอาหารสำหรับสั่ง room service มาทานที่ห้อง กับ ไปทานที่ห้องอาหาร ถึงแม้จะเป็นอาหารชนิดเดียวกัน แต่ราคาจะต่างกันครับ ราคาสำหรับ การสั่ง room service จะสูงกว่าพอสมควร (ผมไม่แน่ใจว่าปริมาณจะเท่ากันหรือเปล่า เพราะยังไม่เคยสั่ง Room Service มาทานที่ห้อง)

โดยรวมแล้วผมประทับกับรีสอร์ทในเครือ Centara ที่กระบี่แห่งนี้มากครับ ทั้งบรรยากาศ ห้องพักและการบริการ ถือว่าคุ้มค่ากับการเดินทาง ขอบคุณ คุณฝน คุณหนุ่ย นะครับสำหรับการบริการที่ดีมากๆ มีโอกาสคงได้กลับไปอีก และขอขอบคุณรีวิวของที่นี่ก่อนหน้านี้ที่ผมค้นเจอจากคุณ tataweb คุณ Invisible angel คุณ anntam คุณsueko คุณZaezar(ชื่อเดิมของที่นี่คือ Central Krabi Bay เวลาใช้ Smart Search หรือค้นใน google อย่าลืมลองค้นชื่อนี้ด้วยนะครับ) ไว้เจอกันฉบับหน้าที่ Six Senses Hideaway Yao Noi


มีคำถามที่หลายๆคนถามผมเข้ามาต่อเนื่องจากนิตยสารฉบับที่แล้ว
อย่างแรกเลยคือ ในการถ่ายภาพของผม ผมจะเซ็ตกล้องให้บันทึกไฟล์ภาพเป็น JPEG โดยเลือกคุณภาพ เป็น fine มีหลายๆคนเลือกที่จะบันทึกไฟล์ภาพแบบ raw ไฟล์ภาพแบบนี้เป็นไฟล์ภาพชนิดที่ไม่ผ่านการบีบอัด คือภาพต้นฉบับจริงๆ แต่ข้อเสียคือ ไฟล์ภาพชนิดนี้จะใหญ่มากๆ ทำให้เก็บภาพใน memory card ได้จำนวนไม่มากและเปลืองพื้นที่ harddisk ในการเก็บภาพ ส่วนไฟล์ภาพ JPEG ถึงแม้จะผ่านการบีบอัดเพื่อลดขนาดไฟล์ซึ่งจะมีการสูญเสีย แต่ถ้าไม่ต้องการงานที่ละเอียดมากจริงๆการสูญเสียที่เกิดขึ้นแทบจะมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า และไฟล์ภาพที่ได้มีขนาดเล็กกว่าเยอะทีเดียวทำให้ไม่เปลืองเนื้อที่ ใน memory card

ส่วนคำถามที่ถามผมว่าเวลาไปถ่ายภาพที่รีสอร์ทมีเทคนิคอย่างไร ไม่ให้ทางรีสอร์ทเข้าใจว่า ผมจะมาก็อปไอเดียของรีสอร์ท
จริงๆแล้วตั้งแต่ถ่ายภาพรีสอร์ทมาผมเองยังไม่เคยเจอกรณีนี้เลยครับ เคยมีกรณีที่ทางเจ้าของเข้ามาถามด้วยความสุภาพมากๆครับว่าผมถ่ายภาพเก็บไว้ดูเองหรือเอาไปทำอะไร ผมก็อธิบายตามตรงว่า ผมชอบถ่ายภาพรีสอร์ทมากและจะนำไปรีวิวทาง internet ซึ่งเขาก็ไม่ได้ว่าอะไร ส่วนมากแล้วเวลาผมไปถ่ายภาพส่วนไหนของรีสอร์ท ผมจะเข้าไปบอกพนักงานก่อนเสมอว่า ผมขออนุญาตถ่ายภาพหน่อยครับ ซึ่งอาจจะช่วยได้ว่าเรามาขออนุญาตตรงๆ ไม่ได้มาแอบถ่ายแต่อย่างใด

คำถามอีกคำถามหนึ่งครับ เวลาที่ผมไปเที่ยวรีสอร์ท ผมออกค่าใช้จ่ายเอง หรือมี สปอนเซอร์
รีสอร์ทแรกๆที่ผมไป ผมออกเงินเอง จองเองทุกอย่าง พอผมพบว่า มีรีสอร์ทหลายๆแห่งติดต่อผมมาเพื่อขอใช้ภาพที่ผมถ่าย โดยให้ข้อเสนอแลกกับ package ที่พัก ซึ่งบางครั้งผมเองก็ไม่มีเวลากลับไปซ้ำที่เดิม ผมเลยเกิดไอเดียว่า เวลาผมอยากไปที่ไหนช่วงหลังๆ ผมจะลองติดต่อไปยังรีสอร์ท โดยขอ rate พิเศษ แลกกับการถ่ายภาพ และภาพที่ผมจะถ่ายให้ในอนาคต ซึ่งมีทั้งรีสอร์ทที่สนใจและรีสอร์ทที่ไม่สนใจครับ ผมเลยไม่ได้ลงราคาห้องพักไว้เพราะว่า rate ที่ผมได้จากบางแห่งเป็น rate พิเศษที่แลกด้วยการถ่ายภาพ ไม่ใช่ rate ทั่วๆไป หรือส่วนมากทางรีสอร์ทก็ไม่คิดค่าใช้จ่ายค่าที่พัก แต่ถ้าบางครั้งรีสอร์ทแจ้งกลับมาว่า เขาสามารถให้ rate พิเศษได้หรือแม้แต่ให้พักฟรีแต่ขอให้เขียนเชียร์เขาในรีวิวหน่อย อย่างนี้ผมจะปฏิเสธทันที ผมเพียงแต่อยากแลก rate พิเศษกับการถ่ายภาพ แต่ผมจะไม่แลกกับอิสระในการเขียนรีวิวของผม

ขอบคุณมากนะครับสำหรับทุกๆคำถาม ไว้เจอกันฉบับหน้าซึ่งเป็นฉบับที่ครึ่งร้อยพอดี
Create Date :25 พฤษภาคม 2552 Last Update :28 พฤษภาคม 2552 18:22:48 น. Counter : Pageviews. Comments :83