จากหลายๆทริปที่ผ่านมา ผมมีโอกาสเดินทางไปยังรีสอร์ทริมทะเลหลายๆแห่งที่มีการออกแบบโดดเด่นและสวยงาม และการเดินทางไปยังเขาหลักครั้งแรกของผมเมื่อปลายปี 54 ผมก็ได้พบกับรีสอร์ทหรู สไตล์โมเดิร์นอีกแห่งหนึ่งที่การออกแบบและการตกแต่งภายใน ถูกใจผมมากๆครับ และถือเป็นรีสอร์ทที่ผมประทับใจมากที่สุดอีกแห่งหนึ่งทางด้านงานสถาปัตยกรรมเลยทีเดียว Casa de La Flora เป็นรีสอร์ทริมทะเลขนาด 36 วิลลา ที่เพิ่งเปิดบริการมาไม่นาน ตั้งอยู่บนหาดบางเนียง เขาหลัก จังหวัดพังงา จุดเด่นที่สำคัญของที่นี่คือการออกแบบ ที่ทุกๆส่วนภายในรีสอร์ทได้รับการออกแบบอย่างปราณีต ลงตัวและสวยงาม ไม่ว่าจะเป็นห้องพัก พื้นที่ส่วนกลาง ห้องอาหาร การจัดสวน และที่เป็นเหมือนเอกลักษณ์ของรีสอร์ทแห่งนี้คือห้องพักที่มีรูปทรงเหมือนกล่องสี่เหลี่ยมที่ไม่เพียงแต่ดูแปลกตา สวยงามจากภายนอก แต่ภายในก็ยังน่าอยู่และมีสิ่งอำนวยความสะดวกหลายๆอย่าง นอกจากนี้จุดเด่นที่สำคัญอีกอย่างคือ ทำเลที่ตั้งของรีสอร์ทที่อยู่ติดทะเลและมีหน้าหาดยาว มีห้องพักบางส่วนที่อยู่ติดชายหาด สามารถชมวิวทะเลจากภายในห้องพักได้เลย สำหรับผมแล้วรีสอร์ทแห่งนี้ โดดเด่นทั้งการออกแบบและทำเลที่ตั้ง ส่วนจุดด้อยของที่นี่ในมุมมองของผมคือ ชายหาดบางเนียงหน้ารีสอร์ททรายจะไม่ขาวครับ ออกสีน้ำตาลแดง แต่น้ำทะเลช่วงปลายปีใสน่าเล่น และเป็นหาดที่สะอาด และตัวรีสอร์ทอยู่ค่อนข้างไกลจากสนามบินภูเก็ต

ลองมาชมภาพความประทับใจจากการไปเยือน Casa de La Flora ซึ่งเป็นการเดินทางไปเขาหลักครั้งแรกของผม ไปชมความสวยงามของการออกแบบที่ทำให้ผมถึงกับหลงรักรีสอร์ทเล็กๆแห่งนี้ ผมขอวางแผงนิตยสาร Online ชานไม้ชายเขา ฉบับที่ 97 ซึ่งเป็นฉบับที่ 2 ของเดือนมกราคมกับรีสอร์ทออกแบบสไตล์โมเดิร์นที่ชื่อว่า Casa de La Flora เขาหลัก พังงา



ผมเริ่มจากภาพนี้ครับ Casa de La Flora ตั้งอยู่บนหาดบางเนียง ช่วงปลายปีที่ผมไปพัก น้ำทะเลใสน่าเล่น


บรรยากาศโรแมนติกที่ห้องอาหารติดทะเล


จุดเด่นที่สำคัญของที่นี่คือ จากทำเลของรีสอร์ทที่หันหน้าเข้าทะเลด้านทิศตะวันตก ทำให้บริเวณรีสอร์ทเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม ภาพนี้เป็นบรรยากาศที่ห้องอาหารช่วงก่อนค่ำ


ทุกๆอย่างของที่นี่ผ่านการออกแบบมาอย่างดี ชื่นชมกับการออกแบบที่นี่มากๆครับ


ส่วนของห้องพัก มีการตกแต่งสไตล์โมเดิร์น สวยงามน่าอยู่ และมีห้องบางส่วนอยู่ติดชายหาด สามารถนอนชมวิวทะเลจากเตียงนอนได้เลย


เห็นภาพรวมๆของรีสอร์ทกันไปบ้างแล้ว มาไล่ชมบรรยากาศและการออกแบบของที่นี่ เริ่มตั้งแต่ lobby ภาพนี้เป็นทางขึ้นไปยัง lobby


ตัว lobby ถูกออกแบบให้เรียบง่าย สวยงาม


ภาพนี้จะเห็นได้ว่า lobby อยู่ติดถนนเลยครับ


เดินเข้ามาข้างใน เลี้ยวขวาไปอีกนิดจะเจอกับห้องอาหาร ดอกกล้วยไม้ในรีสอร์ทที่ทำให้บรรยากาศูสดชื่น


ห้องอาหารติดทะเล มี Bean Bag ไว้นั่งเล่น


ห้องอาหารนี้มีชื่อว่า La aranya ผมชอบการจัดสวนที่ทำได้สวยงาม


ชายหาดบางเนียงหน้าห้องอาหาร น้ำทะเลไส น่าเล่น เสียดายที่ทรายไม่ขาว ออกสีน้ำตาลแดงๆ


ทางลงไปยังชายหาดจากห้องอาหาร ถ้าวันฟ้าใส สีน้ำทะเลสวยมากครับ


ชั้นบนของห้องอาหาร ยังเป็นที่นั่งเล่น ชมวิว ผมจะพามายังที่นี่อีกครั้งช่วงพระอาทิตย์ตก


การจัดสวนที่สวยงาม เข้ากับแนวคิดของรีสอร์ท


ต่อไป ผมจะพาไปชมวิลลาแบบแรกซึ่งเป็นแบบ Studio เป็นห้องพักที่มีสระว่ายน้ำส่วนตัว


ภายในห้องได้รับการออกแบบอย่างสวยงาม แต่พื้นที่ในห้องค่อนข้างน้อย ไม่มีมุมให้นั่งเล่น นอนเล่นมากนัก อาจจะไม่เหมาะสำหรับคนที่ชอบห้องกว้างๆ


ในห้องมีอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ แช่น้ำสองคนได้สบาย


บริเวณภายในห้องน้ำ จะมีฝักบัวฝนตกอยู่ข้างๆอ่างอาบน้ำ


ข้อจำกัดอย่างหนึ่งของห้องประเภทนี้คือ ห้องนอนกับห้องน้ำไม่มีประตูกั้นครับ เหมาะสำหรับคู่รักหรือพักคนเดียว ถ้ามากับเพื่อน อาจจะต้องให้เพื่อนไปนอนเล่นที่ระเบียงห้องริมสระด้านนอก


และสิ่งเล็กๆน้อยๆที่ผมชอบคือ มีขนมและผลไม้ให้ทุกวัน


สบู่และแชมพูใช้ของ Thann หอมมากๆ


บรรยากาศในห้องน้ำที่ออกแบบได้น่าใช้ เสียดายที่ห้องสุขา ไม่มีสายชำระ


ผมชอบการตกแต่งภายในห้องพักของที่นี่ ที่รู้สึกถึงความปราณีต และความสามารถของคนออกแบบ


สวิทช์เครื่องปรับอากาศและสวิทช์ไฟในห้องพัก ลองเล่นอยู่นานเหมือนกันกว่าจะจำได้ว่าปุ่มไหนไว้ทำอะไร (ที่จริงน่าจะมีคู่มือให้ด้วยนะครับ) และตรงไฟสีแดงคือปุ่ม Do not disturb ถ้าเผลอไปกด แม่บ้านจะไม่เข้ามาทำห้องให้นะครับ


ป้ายหมายเลขห้อง ขนาดป้ายยังออกแบบได้สวย ห้องนี้ไม่ใช่ห้องที่ผมพักนะครับ ชื่อห้องของที่นี่เป็นชื่อดอกไม้ทั้งหมด


บรรยากาศในรีสอร์ทที่นำงานศิลปะมาลดความแข็งของตัวอาคาร


ต่อไป มาชมไฮไลท์อย่างหนึ่งของที่นี่ครับ คือ บรรยากาศช่วงพระอาทิตย์ตก


มาชมพระอาทิตย์ตกบริวณห้องอาหารของรีสอร์ท บรรยากาศดีมากๆ


วันที่อากาศดีๆ สามารถมานั่งเล่น สั่งเครื่องดื่มเบาๆ ชมพระอาทิตย์ตกก่อนทานอาหารเย็น


ชอบบรรยากาศตอนนั้นมากๆ


ถ้าโชคดีเป็นวันฟ้าเปิด จะเห็นพระอาทิตย์ตกน้ำป๋อมแป๋มเลยครับ


แสงสวยๆช่วงพระอาทิตย์ตกที่ห้องอาหาร


สามารถนั่งดูฟ้าสวยๆ และทะเลยามเย็นหน้ารีสอร์ท


หรือมานั่งเล่นชมวิวบนชั้นสองของห้องอาหาร (ผมชอบบรรยากาศใกล้ชิดติดทะเลที่ห้องอาหารด้านล่างมากกว่า)


ลงมาข้างล่างต่อครับ แสงช่วงนี้ถ่ายภาพสนุกมากๆ


ผมโชคดีมากที่วันนั้น เมฆไม่มาก เป็นวันที่ได้เห็นพระอาทิตย์ตกสวยๆอีกวันหนึ่ง


นอกจากจะได้ชมวิวสวยๆแล้วยังได้ยินเสียงคลื่น เคล้าบรรยากาศ ชอบช่วงเวลาช่วงนั้นมากครับ


ถึงแม้พระอาทิตย์จะลับขอบฟ้าไปแล้ว แต่ยังทิ้งแสงสวยๆของท้องฟ้าไว้ก่อนที่จะมืด


บรรยากาศโรแมนติกที่โต๊ะอาหารริมทะเล ถ้าได้นั่งสบตากับใครซักคนในบรรยากาศอย่างนี้ ก็คงจะดีไม่น้อย^^


แสงสวยๆของท้องฟ้าที่ช่วยสร้างบรรยากาศ


ห้องอาหารที่ออกแบบได้สวยงามช่วงแสงทไวไลท์


ฟ้าสวยๆที่ไม่ได้เห็นกันทุกวันกับบรรยากาศที่ห้องอาหาร La aranya


โต๊ะอาหารเย็นกับทะเลและฟ้าสวยๆก่อนค่ำ


ถ้าเป็นช่วงอากาศดีๆ ที่นี่เป็นห้องอาหารที่เหมาะสำหรับมานั่งเล่น ปล่อยอารมณ์ ชมพระอาทิตย์ตก และนั่งยาวจนทานอาหารเย็นเลยครับ บรรยากาศดีมากๆ


ชมพระอาทิตย์ไปแล้ว ต่อไปมาชมพระจันทร์ต่อครับ แสงจันทร์สะท้อนผิวน้ำและทะเลหน้ารีสอร์ท


เป็นช่วงเวลาที่โรแมนติกอีกช่วงเวลาหนึ่งที่มีทั้ง พระจันทร์ ดวงดาว ทะเล และเสียงคลื่น


ต่อไปผมจะพาไปทานอาหารเช้าของที่นี่ ช่วงที่ผมไปบางวันมีไลน์บุฟเฟต์เล็กๆซึ่งเป็นพวก ผลไม้ เครื่องดื่ม เบเกอรี่ ส่วนอาหารจานหลักจะสั่งจากเมนูครับ


ชุดนี้เป็นเซ็ตอาหารญี่ปุ่น มีปลาแซลมอล ซุปมิโซ๊ะ ไข่ม้วน อาหารจานหลักจากเมนูมีให้เลือกหลายอย่างทั้งอาหารไทยและนานาชาติ ที่สำคัญสั่งทานได้เรื่อยๆจนกว่าจะอิ่มครับ


ถ้าวันไหนแขกไม่เยอะ จะไม่มีไลน์บุฟเฟต์ แต่พนักงานจะเสริฟผลไม้ น้ำผลไม้ เบเกอรี่มาให้


จานนี้เป็น egg benedict อร่อยมากๆ


ตามมาด้วยวาฟเฟิล อาหารเช้าที่นี่คุณภาพดีมาก


บรรยากาศตอนเช้าที่ห้องอาหารริมทะเล


ชายหาดหน้ารีสอร์ท


สามารถมานั่งทานอาหารริมทะเล หรือทานที่ห้องอาหารก็ได้ครับ


สระว่ายน้ำส่วนกลางของรีสอร์ท


ช่วงที่ผมไปไม่ค่อยเห็นแขกมาเล่นน้ำที่นี่ คงเป็นเพราะวิลลาทุกหลังมีสระว่ายน้ำส่วนตัวอยู่แล้ว


Daybed ที่ถูกออกแบบได้สวยงาม บริเวณสระว่ายน้ำส่วนกลาง


ช่วงที่ผมไปทุกวันศุกร์จะมี Cocktail party ที่สระแห่งนี้ด้วยครับ


ต่อไปผมจะพาไปชมห้องพักอีกแบบหนึ่งซึ่งถือเป็นไฮไลท์อย่างหนึ่งของที่นี่ คือห้องพักแบบ Beachfront suite pool villa


ห้องพักแบบนี้มีรูปทรงเหมือนกล่องสี่เหลี่ยม แปลกตา มีสระว่ายน้ำส่วนตัว


และที่สำคัญคือเป็นห้องที่อยู่ติดชายหาด


ภาพนี้เป็นมุมมองจากห้องนอนภายในวิลลา เห็นสระว่ายน้ำและทะเลสีสวย


และสามารถชมพระอาทิตย์ตกจากภายในห้องพักได้เลย


บรรยากาศที่ daybed ข้างๆสระว่ายน้ำส่วนตัว ช่วงพระอาทิตย์ตก


หรือจะมาชมพระอาทิตย์ตกในห้องปรับอากาศเย็นๆจากห้องนอน


บรรยากาศในห้องนอนที่ตกแต่งได้สวยงาม ปราณีต สามารถชมวิวทะเลจากเตียงนอนได้เลย


ห้องนอนช่วงแสงทไวไลท์


ผมชอบทั้งการออกแบบอาหารและการตกแต่งภายในของที่นี่มาก ทุกอย่างดูลงตัวและสวยงาม


ห้องนั่งเล่นของห้อง Suite ประตูที่เห็นคือประตูทางเข้าวิลลา นอกจากนี้สิ่งที่ผมชอบอีกอย่างของที่นี่คือ เครื่องดื่มในมินิบาร์ของห้องพักทุกประเภททานได้ฟรีครับ


ภายในห้องน้ำที่มีอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่


อีกด้านหนึ่งของอ่างอาบน้ำจะเป็นห้องอาบน้ำที่มีฝักบัวฝนตกสองอัน


สำหรับห้องประเภทนี้มีประตูกั้นระหว่างห้องน้ำและห้องนอน


ของใช้ภายในห้องน้ำ ที่มีการใส่ใจในรายละเอียดทุกๆอย่าง


อ่างล้างหน้าถูกออกแบบให้มีอ่างเดียวแต่ยาวครับ มีก๊อกน้ำคู่


ภาพมุมกว้างจากหน้าห้องพัก ประทับใจทั้งการบริการจากพนักงาน การออกแบบ การตกแต่ง การให้แสงของที่นี่มาก


ข้างๆ daybed จะเห็นกล่องไฟ สวยมากครับ เป็นกล่องไฟไร้สาย สามารถเปลี่ยนสีได้ และควบคุมโดยใช้รีโมท อยากได้กลับไปไว้ที่บ้านซักอัน


บรรยากาศจากห้องนอนที่เห็นวิวทะเลชัดเจน


สามารถมานอนเล่นตรงนี้ นอนนับดาวและฟังเสียงคลื่น


ทริปนี้ได้ถ่ายภาพทั้งพระอาทิตย์ พระจันทร์ และดวงดาว ครบเลยครับ


อาหารว่างและผลไม้ที่พนักงานจะเข้ามาเสริฟทุกวัน


ทีวีที่นี่เป็นแบบ Internet TV สามารถชมทีวีและเล่นอินเตอร์เน็ตได้ด้วยครับ จะมีคีย์บอร์ดไร้สายให้


จุดเด่นที่สำคัญอีกอย่างของที่นี่ ที่ทำให้บรรยากาศในทุกๆส่วนของรีสอร์ทดูน่าอยู่และสวยงาม คือการให้แสง


มาชมสระว่ายน้ำส่วนตัวในวิลลาช่วงกลางวัน ผมชอบ daybed ริมสระ สวยดี


รูปทรงเหมือนกล่องสี่เหลี่ยมของห้องพักกับสระว่ายน้ำส่วนตัว


ภาพนี้จากกล้องใต้น้ำ สามารถว่ายน้ำในสระหรือแช่อ่าง Jacuzzi ก็ได้


ประทับใจกับห้องพักของที่นี่ ที่อยู่แล้วก็ไม่อยากออกไปไหน


ช่วงท้ายของรีวิว มาเก็บตกส่วนต่างๆภายนีสอร์ทครับ ภาพนี้ที่บริเวณห้องอาหารกับทะเลสีสวย


ต่อด้วยภาพอาหารเช้าอีกสองภาพ


อาหารเช้าของผม กับเมนูอาหารไทยๆ กระเพราหมูไข่ดาว อร่อยมาก


Lobby ช่วงแสงทไวไลท์


ห้องสมุดที่อยู่ใกล้ๆกับ lobby ชั้นล่างของ lobby ยังมีห้องฟิตเนสด้วยครับ มีอุปกรณ์ยังไม่มากนัก


บรรยากาศบริเวณห้องอาหารในวันฟ้าใส


ป้ายชื่อรีสอร์ทกับบรรยากาศโต๊ะอาหารติดทะเล


ปิดท้ายด้วยภาพจากปก ห้องพักประเภท Beachfront suite pool villa ที่มีการออกแบบได้แปลกและสวยงาม


จากการไปเยือน Casa de La Flora ผมประทับใจกับการออกแบบ การตกแต่งภายในของที่นี่มากครับ เป็นรีสอร์ทที่ออกแบบได้สวยงาม ใส่ใจในรายละเอียดในทุกๆส่วน ทั้งห้องพัก ห้องอาหาร lobby การจัดสวน นอกจากนี้ทำเลที่ตั้งของรีสอร์ทติดทะเล มีห้องพักบางส่วนอยู่ติดชายหาด สามารถชมวิวทะเลจากภายในห้องพักได้เลย ส่วนการบริการทำได้ดีมากครับ มีอาหารว่าง ผลไม้ให้ทุกวัน และมีขนมไทยให้ช่วง turndown นอกจากนี้ เครื่องดื่มในมินิบาร์ทานได้ฟรี มีทั้งน้ำผลไม้ น้ำอัดลม เบียร์ ส่วนอาหารเช้า ช่วงที่ผมไปอาหารจานหลักสั่งจากเมนู และสั่งได้ไม่จำกัด มีทั้งอาหารไทยและนานาชาติ ในรีสอร์ทยังมีพนักงานในตำแหน่งที่เรียกว่า Dream Maker ซึ่งจะคอยทักทาย อำนวยความสะดวกต่างๆถ้าต้องการอะไรเพิ่มเติม ส่วนการเดินทางสามารถนั่งเครื่องบินมาลงที่ภูเก็ต และต่อด้วยรถยนต์อีกประมาณ 1 ชั่วโมง ลองมาดูสรุปจุดเด่น จุดด้อยของที่นี่ในมุมมองของผม

จุดเด่น
-การออกแบบแลตกแต่งภายใน การจัดสวน ทำได้ดีมากครับ มีการออกแบบที่สวยงาม ปราณีตในทุกๆส่วน
- ทำเลที่ตั้งของรีสอร์ทติดทะเล มีหน้าหาดกว้าง ช่วงปลายปีที่ผมไป น้ำทะเลใสน่าเล่น
- ห้องอาหารบรรยากาศดี ติดทะเล เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม
- ห้องพักทุกประเภทมีสระว่ายน้ำส่วนตัว ห้องพักบางประเภทติดชายหาด สามารถชมวิวทะเลจากภายในห้องพักได้เลย
- มีอาหารว่าง ผลไม้เสริฟในห้องพักทุกวัน มีขนมใทยให้ตอน Turndown และเครื่องดื่มในมินิบาร์ทานได้ฟรี
- ทีวีในห้องพักเป็นแบบอินเตอร์เน็ตทีวี สามารถชมทีวี เล่นอินเตอร์เน็ต ดู password ของสัญญาณ wi-fi มีคีย์บอร์ดไร้สายให้ครับ
- พนักงงานให้บริการเป็นอย่างดี มีใจบริการและช่วยเหลือทุกๆอย่างๆเป็นอย่างดี

จุดด้อย
-ชายหาดหน้ารีสอร์ททรายไม่ขาว ออกสีน้ำตาลแดง
- ห้องพักประเภท studio ห้องค่อนข้างเล็ก ไม่มีประตูกั้นระหว่างห้องนอนและห้องน้ำ
- ระยะทางที่ไกลจากสนามบินภูเก็ต ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 1 ชั่วโมง

จากทริป Casa de La Flora ในครั้งนี้ของผม ต้องขอบคุณ คุณเอ๋ คุณป๊อก และพนักงานที่ห้องอาหารทุกๆคน รวมทั้งพนักงานในส่วนอื่นๆ ที่ให้การบริการเป็นอย่างดี ขอบคุณพี่เก๋(ป้าพาฝัน) พี่ต๋อย เจ้าถิ่นผู้ใจดีที่พาไปทานอาหารทะเลรสเด็ดที่คนในพื้นที่เท่านั้นที่จะรู้จักร้านอร่อยๆอย่างนี้ ขอบคุณคุณ บอย The Sixthfloor ที่ทำให้ผมรู้จักกับรีสอร์ทออกแบบสวยๆแห่งนี้ มีโอกาสคงได้กลับไปอีก และขอบคุณทุกๆคนที่แวะมาทักทายจ่ายค่านิตยสารนะครับ ไว้เจอกันใหม่กับนิตยสารฉบับเปิดตัวกล้องใหม่ในเดือนแห่งความรักครับ