bloggang.com mainmenu search
S M I L E




  I HAVE A DREAM 

ซีรีย์เปิดตัวด้วยคำสั้นๆ คำนี้ และเปิดเรื่องราวแต่ละตอนด้วยการบอกก่อนให้รู้ว่า


นี่เป็นเรื่องราวของความรักและการเรียกหาความยุติธรรม
ของชายหนุ่มผู้ซึ่งใช้ชีวิตอย่างกล้าหาญ


ผมมีความฝัน
นั่นคือ  การเปิดร้านอาหาร
เป็นร้านที่รวมทุกเชื้อชาติไว้ด้วยกัน
เป็นร้านที่คุณสามารถลิ้มรสอาหารนานาชาติได้
ผมปรารถนา
จะสร้างร้านนั้นกับเธอ
แค่เราสองคน
ผมยังไม่ได้คิดชื่อร้านเอาไว้เลย
แต่ว่าทุกคนที่ได้เข้ามาทานอาหารที่นั่น
จะต้องเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
แม้แต่คนที่รู้จักกันแค่ผิวเผิน
ก็สามารถนั่งด้วยกัน 
ที่โต๊ะตัวเดียวกันได้
และ .. ยิ้มได้


เห็นชื่อเรื่องสั้นๆ ง่ายๆ น่ารักดี คิดว่าคงจะใสๆ ดูสบายๆ
ที่ไหนได้ ...เครียดแฮะ
แบบว่า เป็นพวกอ่อนไหวง่าย เซ้นซิทีพสูง เลยทนไม่ค่อยได้ กับเรื่องราวของคนดีๆ ที่ถูกกระทำ ..

กระทำโดยคนเลวๆ อย่างหนึ่ง
กระทำโดยโชคชะตาอย่างหนึ่ง ที่กำหนดนำพาคนเลวๆ มาให้

ดูไป ก็ไม่เข้าใจ ... ว่าทำไม คนเลวๆ คนนึง ทำไมถึงได้มีอิทธิพลมากมายต่อชีวิตของคนดีๆ คนนึง และคนดีๆ อีกหลายคนที่แวดล้อมเกี่ยวข้อง

ดูไป ก็ขัดใจ ไม่รู้ว่าเพราะพระเอกอ่อนแอเกินไป
หรือเพราะ นายตัวร้าย (ที่ไม่มียัยเจี๋ยมเจี้ยมคอยขัดเกลา)
เลวร้ายมากเกินไป จนคนดีๆ อย่างพระเอก
ไม่มีเรี่ยวแรงกำลังจะกล้าหือ หรือคิดสู้
ทั้งที่ก็มีสองมือ สองตีนคือๆ กัน

หากแม้เป็นเพราะไม่มีดีกรีความโหดสักน้อยนิดไปต่อกร
แต่ก็ไม่อยากให้คุกเข่าลงอ้อนวอนแก่ใครง่ายๆ

แต่เพราะความร้ายกาจของคน และสังคมของคนใจแคบไม่กี่คน
ซึ่งเป็นคนล้าสมัย ยังดูถูกเหยียดหยามในเชื้อชาติอันเป็นสายเลือดกำเนิด
ไม่ต่างกับการ "เหยียดสีผิว"
พระเอก จึงเลือก ...จะห่อตัวเองไว้ ด้วยรอยยิ้มอยู่เสมอ

ดูแรกๆ ก็เกิดความสงสัย แล้ว...นั่นเป็นการใช้ชีวิต "อย่างกล้าหาญ" ตรงไหน?

ดูๆ ไป จึงเข้าใจ นั่นคงหมายถึง

การกล้าที่จะยิ้ม กล้าที่จะยอมรับมัน และมีชีวิตอยู่ต่อไป

"สิ่งใดเกิดขึ้นแล้ว สิ่งนั้นดีเสมอ"

คงจะใช้กับชีวิตพระเอกเรื่องนี้ไม่ได้ เพราะสำหรับบิโตะ
สิ่ง(ซวย)ใดเกิดขึ้นแล้ว ซวยตลอด และจะซวยชั่วชีวิต
ถ้าไม่มีคนดีๆ ที่รักและเอื้ออารีย์แท้จริง
และที่สำคัญคือ เป็นคนดีที่ไม่ถอดใจไปซะก่อน

ก็นั่นแหละ .... แสดงว่าพระเอก ก็ดีพอ ถึงไม่ถูกลอยแพในยามยาก

ที่เหมือนจะบ่นๆ มานี่ ไม่ได้หมายความว่าหมั่นไส้คนดีศรีสังคมอะไรหรอกนะคะ

แต่กำลังจะเล่าถึง ฮายาคาวะ บิโตะ (Matsumoto Jun)
หนุ่มลูกครึ่งฟิลิปปินส์ที่พ่อตายและแม่หายไป
หายไป นี่ไม่ใช่ใครมาอุ้มให้หายสาบสูญนะคะ แต่อยู่ๆ ก็หายไป
คงเป็นเพราะทนลำบากเลี้ยงลูกคนเดียวไม่ไหว
แถมยังเป็นลูก "ลูกครึ่ง" จากสามีฟิลิปปินส์อีกด้วย

เรื่องสามีต่างชนชาตินี้ มันดูจะเป็นขี้ปากชาวบ้านอย่างหนึ่งเหมือนสาวไทยได้ฝรั่ง
เพียงแต่กลิ่นขี้ปากคงไม่เหมือนกัน
เพราะสาวไทยได้ฝรั่งคนส่วนหนึ่งมักจะคิดว่าถูไถเอาเป็นว่า นั่นน่ะสิเออ เอ็งเจ๋ง
แต่ถ้าสาวไทยได้กับแรงงานพม่า .... จุด จุด จุด ....
ก็นั่นล่ะ บิโตะที่เป็นลูกครึ่งฟิลิปปินส์ก็เหมือนลูกสาวไทยที่เกิดจากแรงงานพม่านั่นแหละค่ะ
ทำนองนั้นเลย

เรียกว่าซวยตั้งแต่เกิด จนโตขึ้นมาเลยทีเดียว
ไปไหนซ้ายขวา ก็จะเจอคนที่มีสปีชีส์เป็นสายพันธุ์ใจแคบ
คือ มองเป็นแรงงานต่างด้าว ที่อาจจะเป็นตัวก่อปัญหา และถ้ามันมีเรื่องที่ไหน
แล้วมีแรงงานต่างด้าวอยู่ใกล้ๆ ก็ต้องกลายเป็นตัวไม่ดี
เป็นที่ต้องสงสัยที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ไม่ดีไม่งามนั้นๆ

ความฝันของบิโตะที่อยากจะเปิดร้านอาหารนานาชาติ ..
คงเข้าใจที่มาของความฝันกันแล้วนะคะ




ทั้งที่ บิโตะ เกิดที่ญี่ปุ่น โตที่ญี่ปุ่น กินอาหารญี่ปุ่น หน้าตาก็ญี่ปุ่น และไม่เคยไปฟิลิปปินส์เลยสักครั้ง แต่ก็ต้องมีชีวิตถูกกดไว้อยู่ภายใต้สายตาของคนใจแคบอื่นในสังคมว่าเป็นคนต่างด้าว
ถ้าเป็นคนต่างด้าว ก็มีเค้ารางว่าจะเป็นคนไม่ดี และเป็นคนที่ผิดกฏหมายไปด้วย

เรื่องมันเปลี่ยนได้ง่ายๆ แค่บิโตะจะเปลี่ยนชื่อเรียกตัวเอง
เพราะหน้าตาเป็นญี่ปุ่นอยู่แล้ว แต่เพราะไม่เปลี่ยน

ชื่อ บิโตะ จึงเป็นประตูสู่คำถามแรก

"เธอเป็นลูกครึ่งหรอกเหรอ? " และเมื่อตอบว่า เออ สิวะ ลูกครึ่ง
(อันนี้เขียนเองนะ ถ้าเป็นบิโตะเขาจะสุภาพเรียบร้อยมากๆ )

สายตาที่มองมา และผลการตัดสินคนครั้งแรกจะเป็นอย่างไร
ก็ขึ้นอยู่กับความกว้างแคบของใจคนถาม และคนที่รับรู้ อยู่แถวๆ นั้น

แต่เหตุที่ชื่อนี้ อุโต้ซัง โอก้าซัง ตั้งมา ...บิโตะจึงไม่เคยคิดเปลี่ยน

เป็นการยอมรับชื่อบิโตะ และยอมรับตัวเอง ด้วยรอยยิ้มอย่างหน้าชื่น

ทนายความคาซึม่า (Nakai Kiichi) ทนายความแก่ๆ มีฝีมือว่าความพอตัว
เจ้าตัวเค้าเองก็อยากจะดัง อยากจะเด่นออกรายการทีวีอยู่เหมือนกัน
เพราะมันมีปมด้อยบางอย่างอยู่ภายในใจ
ภายนอกดูเหมือนเป็นคนเรื่อยเปื่อยไม่ใส่ใจกับอะไร
แต่จริงๆ แล้วผ่านประสบการณ์ร้อนหนาวในชีวิตมามาก
บิโตะ จึงเป็นตัวกระทบใจให้ทนายความคาซึม่า
สนใจในรูปแบบการดำเนินชีวิต และทำให้คิดได้
คนเราเมื่อคิดได้ ก็เปลี่ยนได้

มิชิมะ ฮานะ (Aragaki Yui) เด็กสาวที่เรื่องราวบาดแผลของจิตใจในอดีต
ส่งผลต่อร่างกายให้เสียงหายไป
พูดไม่ได้ แต่ก็ยังคงมองโลกในแง่ดี
และมีรอยยิ้มพิมพ์ใจอันแสนหวานประดับอยู่บนใบหน้าเสมอ
(ความจริงแล้ว ไม่ค่อยจะเข้าใจสาเหตุที่นางเอกพูดไม่ได้นัก
และสงสัยว่า ... มันเป็นไปได้ด้วยเหรอ ? หรือเราเข้าใจอะไรผิดไป )

ตัวอันตรายฮายาชิ เซจิ (Oguri Shun) คนเลวก็มีหัวใจ อาจจะเคยหวั่นไหว
แต่ก็ยังเลวไม่เปลี่ยนใจ เป็นคนเลวที่ไม่มีใครเชื่อใจ
จึงยังเลวอยู่อย่างนั้นต่อไปไม่เปลี่ยนแปลง

อัยการคิตากาวะ
...(Ikeuchi Hiroyuki) อัยการที่ทะเยอทะยานในงานอาชีพ
เมื่อดำเนินคดีแล้วไม่อยากให้มีคำว่าแพ้ ....เพราะไม่อยากแพ้
ก็เลยหลงหน้ามืดไปชั่วขณะเพื่อชัยชนะ

ตำรวจฟุราเสะ (Kitami Toshiyuki ).... เป็นตำรวจที่เกลียดพวกแรงงานต่างด้าว
จึงเกลียดบิโตะหนักหนา และตามเกลียดกันมาตั้งแต่เด็กจนโต

ครอบครัวมาชิมูระ เจ้าของร้านที่เป็นบริษัทโภชนาการขนาดเล็กๆและบิโตะทำงานประจำอยู่
ที่มีคุณพ่อโซสุเกะ (Maeda Gin) คุณแม่มิโดริ(Ishida Ayumi)
และลูกสาวชิโดริ (Koike Eiko)
ถ้าเปรียบบิโตะได้ว่าเป็นคนต่างด้าวที่เกิดและโตขึ้นมาแบบคนญี่ปุ่นแท้
แต่ไม่มีที่จะอยู่ในสังคม
ครอบครัวมาชิมูระก็เป็นที่แห่งเดียวที่บิโตะ"อยู่ได้"
และอยู่อย่างคนได้รับความรักและความเชื่อใจด้วย
รวมถึงเพื่อนสนิทอีกสอง 2 คน คือ คินตะ & บูล (Tokuyama Hidenori /Suzunosuke)
ที่ได้รับการดูแลและให้โอกาสจากครอบครัวนี้
จึงรักและนับถือเหมือนเป็นคนครอบครัวเดียวกัน

และ ผู้คุมนักโทษในเรือนจำเคย์สุเกะ (Katsumura Masanobu)

พวกเขาเหล่านี้จะมาเกี่ยวข้องกันเป็นเรื่องราว
ด้วยความรัก ความเชื่อใจ ความมุ่งร้าย และปรารถนาดี

สร้างปมให้สนใจด้วยการให้ปัจจุบันเป็นศูนย์กลางของการดำเนินเรื่อง
นั่นคือ การเป็นนักโทษในเรือนจำของบิโตะ ...
เป็นนักโทษจำคุกมาแล้ว 5 ปีที่ยังมีรอยยิ้มแย้มเปิดกว้างอยู่เสมอ



ทำไมพระเอกมาติดคุกได้ล่ะ ?
นั่นคือการสร้างความสนใจอย่างแรก ที่เกิดความสนใจที่สองตามมา
และจะได้ออกจากคุกได้ไหม (คงได้แหละ ก็เป็นพระเอกนี่ คนเขียนบทคงไม่ซ้ำเติมคนดีให้ตายคาคุก) และความสนใจที่สาม จะออกจากคุกมาได้ยังไง ?

จากนั้นก็ดำเนินเรื่องราว ย้อนไปสู่ตอนต้นบ้าง ตอนกลางบ้างของอดีต
มาสู่สถานะนักโทษในปัจจุบัน

บิโตะ หนุ่มลูกครึ่งผู้น่าสงสารที่ต้องกลายเป็นแพะรับบาป

และต้องมีบาปเป็นของตัวเอง เพราะบางที...ฟางเส้นสุดท้ายที่คนดีๆ
ยื้อยุดไว้ด้วยความอดทนอดกลั้น ก็มีอันขาดผึงได้เหมือนกัน

เพราะฉะนั้น ... อย่าไปทำร้ายคนดีกันนะคะ
(เอ๊ะ พูดยังไง พวกเราๆ ไม่ใช่นางร้ายสายสมรที่จะไปรังแกใคร
ด้วยการตบกระจายนะ ก็เดี๋ยวนี้นางเอกละครทีวีบ้านเรา ตบกันเก่งมากกกกก เผื่อเรา
จะเผลอคิดว่าตัวเองเป็นนางเอกในชีวิตจริงกับเค้าบ้างไง อิอิ )

เลือกหามาดู เพราะเห็นหน้ายูอิค่ะ เรื่องนี้ดูอ่อนเยาว์ น่ารัก ใสกิ๊กกว่าเรื่องอื่น ที่เคยดูมา และก็ยิ้มสวยมากๆ เพิ่งสังเกตนะเนี่ย ก็ตอนดู Colde Blue , Dragon Sakura (เอ...เคยดูเรื่องไหนอีกหรือเปล่านะ ) จะไม่ค่อยเห็นตอนยิ้มน่ะค่ะ เรื่องนี้น่ารักดี แสดงเป็นฮานะ คนที่มอบความรักความเชื่อใจให้บิโตะอย่างมากมาย

" การเรียกหาความรักและความยุติธรรม"
ในที่นี้ จึงมองว่าเป็นการมองหาความรัก
และความยุติธรรมจากเพื่อนมนุษย์ในสังคมด้วยกันซะมากกว่า

ชอบนักแสดงหญิงอีกคนคือ ชิโดริ ที่แสดงโดย โคอิเกะ เอโกะ (คุณทนายหญิงจาก Hero
และคุณหมอสาว จาก IRYU 2 ) ชิโดริในเรื่องนี้ทำงานเป็นผู้ช่วยทนายความ (ทนายคาซึม่า)
และในร้านมาชิมูระ ชิโดริก็เหมือนเป็นพี่สาวใหญ่ของ บิโตะ คินตะ และบูล

ส่วนคุณลุง นากาอิ คิอิจิ ที่รับบททนายคาซึม่า หน้าตาลุงไม่ถูกโฉลกด้วยเลย
เห็นหน้าลุงในละครเรื่องไหน เหมือนเรื่องนั้นจะไม่ค่อยมีใครได้อยู่เป็นสุข
(และก็จริงๆ ด้วย เห็นมั้ยล่ะ )

และโอกูริ ชุน ที่รับบทตัวร้ายหน้าตาถูกโฉลก
ชอบชุนตอนเล่นเป็นพระเอกหนังเรื่อง Spring Story หน้าตาออกแนว badboy
เห็นหน้าแล้วต้องสันนิษฐานว่าไม่ใช่คนดี ที่หงิมๆ ติ๋มๆ แต่เป็นเด็กเกเร
และเป็นจุดมืดดำในชีวิตของบิโตะ

ความเป็นจริงแล้ว ตอนที่คุณมองไปที่บิโตะ
คุณคิดว่าหัวใจจริงๆ ของเขาอยู่ที่ไหน

คุณหมายถึง รอยยิ้มของเขาเป็นของจริงหรือโกหกงั้นหรือครับ?
ผมคิดแต่ต้นว่ามันเป็นของจริง
เขาคงจะคิดว่า ถึงเขากลับเข้าสู่สังคม
ก็คงไม่มีอะไรดี

ดูแล้วเหนื่อยแทน ทั้งที่เรื่องก็ไม่ได้เครียดมากมายหรอกนะคะ แต่จะออกแนวสงสารซะมากกว่า

แต่ก็ดู ... เพราะเขาอุตส่าห์เชิดชูรอยยิ้มนักสู้ของคนดี

ทนายความคาซึม่าถามบิโตะ

"นายยอมรับทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตได้ยังไง
ตอนที่ฉันมองนาย
นายเอาชนะความเจ็บปวด ด้วยรอยยิ้มได้ยังไง"


นั่นน่ะสิ ก็สงสัยด้วยเหมือนกัน

และบิโตะ ผู้ชายที่ร้องไห้ไม่น้อย แต่ก็ยังยิ้มอยู่ได้บ่อยๆ ..เสมอ
จะมีคำตอบให้ว่า ทำไมต้องยิ้ม? ---> Smiley

ถ้าอยากรู้..... ต้องดูเอง

Smileyสวัสดีปีใหม่  ขอให้มีความสุข มีคนที่รักและห่วงใยกันมากๆ  นะคะSmiley

-----------------------------------------------
ชื่อหนัง (ญี่ปุ่น/Eng) : スマイル/ SMILE
กำกับโดย : Ishii Yasuharu
จำนวนตอน : 11 ประเภท : Romance (ตรงไหน?)
ผลิตโดย : Setoguchi Katsuaki, Takanari Mahoko
Written By : Takuma Takayuki
ปี : 2009
-------------------------------------------------
โอกูริ ชุน


โคอิเกะ เอโกะ



ภาพและข้อมูลจาก BLike.net และ Dekdee.com
Create Date :30 ธันวาคม 2552 Last Update :25 กุมภาพันธ์ 2556 17:26:22 น. Counter : Pageviews. Comments :4