bloggang.com mainmenu search


พิมพ์ครั้งแรก ตุลาคม ๒๕๕๗


เธียรวัฒน์ นาวากุล สถาปนิกผู้รักสันโดษ อาชีพของเขาคาบเกี่ยวอยู่ระหว่างคำว่าศาสตร์และศิลป์ นี่อาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เขามักจะอยู่ในโลกส่วนตัว ชีวิตเรียบง่ายมันก็คงจะเป็นปกติดี ถ้าหากจะไม่มีใครคนหนึ่งพยายามที่จะทลายกำแพง เพื่อก้าวเข้ามาสู่โลกของเขา  ยายเมย น้องสาวนอกไส้สุดกระโหลกกะลาที่เอาแต่เฮฮาเริงร่าไปวันๆ (นาวาร้อยกวี จาก writer.dek-d.com)

เมื่อถูกสถานการณ์ที่มีชีวิตเขาเป็นเดิมพันบีบบังคับ ประกอบพร้อมกับอาญาประกาศิตจาก 'คุณนายศจี' แม่นี้บังเกิดเกล้า ยายเมยที่เคยอยู่ในสถานะ  'น้องสาว'  จึงเปลี่ยนมาเป็น 'ภรรยา' แม่หนอแม่ แม่นี้มีบุญคุณอันใหญ่หลวง งานนี้จึงต้องแต่งจริง จดทะเบียนจริง 

น้องก็คือน้อง  ต่อให้ไม่นับว่าเป็นน้องเพราะไม่ได้คลอดจากท้องเดียวตามกันมา ..ยายเมยโก๊ะกังกะละมังรั่วที่หน้าตาฉายรอยยิ้มแฉ่งแข่งตะวันอยู่เสมอ ก็ไม่ใช่สเป็คของเธียรวัฒน์อยู่ดี ผู้หญิงที่เขาจะเลือกมาเป็นภรรยานั้นจะต้องงามพร้อมทั้งกายและใจ ใครคนนั้นที่เขาเฝ้ารอคอย

แน่นอนว่าไม่ใช่ยายเมย อดีตน้องสาวที่กลายมาเป็นภรรยาแบบลับๆ ตามข้อแม้ที่ต้องตบแต่งกันเงียบๆ ในหมู่ญาติ (เพื่อรอวันหย่า) ไม่จำเป็นต้องเปิดเผยกับใครหรือจัดงานอะไรให้เอิกเกริก อยู่บ้านก็อยู่กับยายเมย แล้วชะตายังพัวพันหนักเมื่อบริษัทของเขาเทคโอเวอร์บริษัทของยายเมย แถมเขายังถูกส่งไปเป็นหัวหน้าแผนก และยายเมยก็เป็นลูกน้องตัวป่วนอันดับหนึ่งที่ก่อวีรกรรมทำชีวิตการงานเขายุ่งเหยิง จนต้องคอยไล่ต้อนจับให้ได้ไล่ให้ทัน 

ในที่สุดเธียรวัฒน์ ก็ได้รู้ว่าวิธีจัดการกับยายเมยได้ดีที่สุดคือการเก็บเอาไว้ใกล้ๆ ตัว ให้อยู่ในสายตา อยู่ในการควบคุม จะได้ไม่กล้าแผลงฤทธิ์มากนัก  เก็บไว้กลั่นแกล้ง ไว้ข่มขู่ ไว้ใช้งาน นับว่าคุ้ม...

พออยู่ใกล้น้อง พี่ก็เริ่มพบความผิดสังเกต ที่เคยสงสัยว่าทำไมยายเมยถึงตกปากรับคำกับผู้ใหญ่ยอมแต่งงานกับเขาโดยไม่คัดค้านอะไรสักนิด  เขาได้พบคำตอบแล้ว   ยายเมยแอบชอบเขา ..งานงอกล่ะทีนี้! เพราะพี่คงไม่อาจตอบแทนความรู้สึกได้ กับยายเมยเนี่ยนะ ไม่มีทาง เขาจึงต้องรีบวางแผนหย่าให้เร็วที่สุด ก่อนที่ยายเมยนางมารน้อยในคราบหน้าซื่อตาใสจะหาทางรวบหัวรวบหางเขาได้สำเร็จ

เธียรวัฒน์ไม่ได้เฉลียวใจสักนิดเลยว่า นี่จะเป็นการแต่งงานเพียงครั้งเดียวและครั้งสุดท้ายในชีวิต





นาวาร้อยกวี ถูกจัดเข้าสังกัด 'นักเขียนในดวงใจ' ของเพื่อนเราไปเรียบร้อยโรงเรียนนิยาย  ด้วยเหตุผลนี้เองที่ทำให้เราทุรนทุราย ไม่อาจจะทนรอขอยืมหนังสือจากเพื่อนที่คงจะได้พบกันอีกไม่เกินเดือนหรือสองเดือนข้างหน้า  นี่แหละหนาโทษของการมีร้านหนังสืออยู่ใกล้บ้าน


--ยายเมยเฮฮาเริงร่าได้ทั้งวัน เหมือนคนที่ไม่เคยทุกข์ร้อนกับเรื่องใดๆ ในชีวิต พอโดนดุก็แค่หงอยได้แป๊บเดียว สักพักก็กลับมาร่าเริงใหม่ เลยรู้แล้ว่าด่าไปก็เท่านั้น เข้าหูซ้ายทะลุหูขวาเหมือนเดิม ความจำสั้นเสียยิ่งกว่าปลาทอง ---

-- คนอย่างไอ้เธียร ถ้าพูดถึงรูปร่างหน้าตาและหน่วยก้าน ไม่ว่ามันจะเดินไปทางไหนก็มักเป็นจุดเด่นได้เสมอ ตัวสูง หลังไหล่ตรง ผิวขาวจัด ปากแดงระเรื่อจนผู้หญิงยังอิจฉา คิ้วเข้ม ตาโตดำสนิท ตาสองชั้นที่หลบในหน่อยๆ และหางตายาวรีตามเชื้อสายจีนที่ปนอยู่กว่าครึ่ง แค่นี้ก็สะกดทุกสายตาให้ต้องเหลียวหลังมอง เรียกว่าสมบูรณ์แบบตั้งแต่หัวจดเท้า เว้นแค่อย่างเดียวเท่านั้น  ... อย่าให้มันพูด!

--ปากนิด จมูกหน่อย แก้มใสระเรื่อ ความน่ารักนั้นสามารถสะกดทุกสายตา เสียแต่ว่าไม่มีใครสามารถเข้าถึงตัวได้เลย เพราะมีปิศาจในคราบมนุษย์อย่างเธียรวัฒน์คอยสิงสถิตอยู่ไม่ห่าง แถมยังคอยโขกสับจันทร์กระจ่างฟ้าดวงน้อยๆ ให้จมดินอย่างไร้ปราณี แต่อะไรก็ไม่เท่าที่ทำเอาฟ้าถล่มลงตรงหน้าทุกคนที่หมายปองจันทร์ดวงนี้ เมื่อชาติชายประกาศว่า  น้องเมยมีสามีแล้ว!

--คุณนายศจีก็บ่นว่าเขานิสัยไม่ดี ซึ่งมันก็จริง เพราะเขามันพวกไม่ง้อใคร ไม่ใส่ใจชาวบ้าน ปากก็ร้าย ใจ-ร้าย-ด้วย เรียกได้ว่าความดีต่ำกว่ามาตรฐานชายไทย แม่แช่งชักหักกระดูอยู่ทุกวัน ว่ากรรมทั้งหลายที่เขาทำกับยายเมยนั่นแหละ มันจะย้อนกลับมาหาตัว


ครึ่งแรกเรื่องสนุกด้วยความฮา  ภรรยาจีบสามี เริ่มจากคาแรคเตอร์เจ้าฤทธิ์เดชของเธียรวัฒน์ อันเป็นที่มาของฉายา "เต็คเธียร เกรียนนรก"  นิสัยคนดุ พูดน้อยสอยร่วง ของเขานั้นช่างต่างกับน้องเมยผู้ร่าเริงแจ่มใสอย่างสุดขั้ว หลังจากแต่งงานกันและน้องเมยพอจะปรับตัวให้หายเกร็งได้ ก็มีหลายครั้งคราที่ทำให้เราขำก๊าก โดยเฉพาะการโผล่มาของอารมณ์เจ้าบทเจ้ากลอนจีบสามี (มันมีที่มาที่ไป) คุณพี่สามีแม้จะนึกขุ่นใจแค่ไหนก็อดใจเล่นด้วยไม่ได้ แถมยังมีโมเมนท์ฟุบหน้าประหนึ่งสุดจะทนรับได้ แต่ที่จริงคือแอบซ่อนหน้าตาที่อยากจะขำกลิ้ง แต่ต้องเก๊กเอาไม่ให้ใครเห็นเพราะกลัวยายเมยจะได้ใจ 

 ยืนยันว่าเป็นนิยายร้อยแก้ว เพราะเห็นบทกลอนต่อไปนี้แล้วเดี๋ยวจะเข้าใจผิดว่าเป็นนิยายร้อยกลอน  เป็นจุดที่ชื่นชมผู้เขียนมากที่ร้อยเรียงบทกลอนมาสอดแทรกในเรื่องราวเป็นระยะๆ  มันทั้งตลก น่ารัก และน่าภูมิใจมากเพราะนี่เป็นศิลป์ภาษาไทยของเราเองที่คนรุ่นใหม่ยังคงสืบทอด 

สารภาพตามตรงว่าหลงรัก             แค่เห็นพักตร์ก็สุดภักดิ์รักแน่นเหนียว
ขอบอกว่ารักแรกพบจริงๆ เชียว             จะไม่เหลียวไม่แลกันหรือฉันใด
หยุดคำเสแสร้งแกล้งว่า                        โสดแล้วสบายกว่าเป็นไหนๆ
แต่งงานกันเสียเถิดจงเปิดใจ                 แล้วจะพาไปสวรรค์ชั้นวิมาน

(ยิ้มหน่อยหนาคนน่ารัก)
------

ผิดหรือที่ไม่รัก                         ใยทึกทึกจะหักหาญ
เกิดมาเป็นชายชาญ            กลับต้องผ่านการเกี้ยวพา
เป็นหญิงพึงสำรวม                   ไม่บ้าบวมเที่ยวชายตา
สตรีจะมีค่า                               เมื่อสงวนวาจาใจ

(หน้ามึน)
------

สามีฉันจะดุ ไปไหน
จีบยากยิ่งกว่าใคร                       แม่เอ๊ย
เกี้ยวมากก็ไม่ได้                         เดี๋ยวสั่ง งานโหด
ห้าฉบับแต่เช้าเล้ย                         แทบล้มประดาตาย

(ด้วยรักจากคูโบต้า)
-------

เช้าเช้าอยากมีเรื่อง                  ใช่ไหม
ยังไม่อยากด่าใคร                   ก่อนเที่ยง
รีพอร์ตที่สั่งไว้                     เมื่อไหร่ จะเริ่ม
หรือต้องโดนสักเปรี้ยง เบิกฤกษ์ เอาชัย

(กรุณาขยันให้มันถูกเรื่องด้วย อย่าให้ต้องทวงรายงานด้วยไม้เรียว)
--------

ทำตัวเหมือนคนแก่ ใกล้เกษียณ
ขี้บ่นซ้ำยังเกรียน                เบื่อมาก
เป็นพ่อไหมพี่เธียร มีลูก อาจหาย
เมยท้องได้ไม่ยาก          เริ่มจากมองตา

(เงยหน้ามาสิคะ แล้วจะรู้ว่าความรักหน้าตาเป็นยังไง)

--------

ชาติก่อนเป็นปลากัด               หรือไง
จ้องจะฟีเจอริ่งอยู่ได้ หมกมุ่น
คิดหรือว่าจะได้ กินตับ                ง่ายง่าย
ขอบฟ้าไกลๆ นู่น                       นั่นแล ความหวัง

(ไปนั่งเฝ้าจอมปลวกตรงโน้น เอารายงานไปทำให้เสร็จด้วย  ไม่เสร็จไม่ต้องกลับมาให้เห็นหน้า)
-------

เมื่อนั้น                                       องค์พระเธียรวัฒน์เรืองศรี
เรื่องรีพอร์ตน่ะทวงได้ทุกนาที         จะให้ดีทวงรักบ้างจะเป็นไร
เห็นใจกันบ้างไม่เป็นหรือ                เคยกล้าหือคุณสามีเสียที่ไหน
นี่ถึงขั้นยอมมอบกายถวายใจ           แล้วเมื่อไหร่จะสั่งหดลดรายงาน
---------

สักวาสามีที่น่ารัก                   เงยหน้าทักภรรยาบ้างได้ไหม
ยังซึ้งโกรธโทษชะตาหรือว่าไร ถึงยังไงเราก็ได้แต่งงานกัน
อย่าเสียอกเสียใจไปเลยเล่า           นั่นเพราะเราเป็นเนื้อคู่ตุนาหงัน
เด็ดดอกไม้ร่วมต้นแต่ปางบรรพ์         บนสวรรค์ท่านจึงให้ I Love You

 (ภรรยาผู้โชคดี)
--------

สักวาด่าแล้วไม่ซึบซับ                    ด่าจนยับแล้วก็ยังไม่เข้าหู
สีซอให้ความฟังมันยังรู้                        นี่เข้าหูแล้วเลยผ่านปานสายลม
บอกไปแล้วรอบที่ร้อยใช่หรือไม่            ว่าไม่เคยคิดอะไรไม่เหมาะสม
ถ้ากล้าจีบก็เข้ามาจะด่าจม                   หมดอารมณ์จะคุยต่อขอลาตาย
(สามีผู้โชคร้าย)
-----------
ขอบอก :  บทกลอนเหล่านี้แค่ยกมาเป็นน้ำย่อย  ยังมีให้ฮากว่านี้อีกเยอะ 


ครึ่งหลังเรื่องยิ่งสนุก - เพราะสามีรักภรรยาแต่ว่าไม่แสดงออก    ในยามที่พี่เธียรรัก ยายเมยกลับอยากถอย (ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย)  สถานการณ์จึงกลับตารปัตร จากที่พยายามทำให้สามีรัก เปลี่ยนเป็นพยายามทำให้สามีหย่า  แต่เดิมต้องแต่งงานทั้งที่ไม่รัก เต็คเธียรก็ขุ่นมัวเป็นว่าเล่นอยู่แล้ว  ต่อมาจะให้หย่าตอนที่รัก สงสัยยายเมยคงอยากตายก่อนวัยอันสมควร (โถ ก็น้องเขาไม่รู้ว่าถูกรัก) อยู่ดีไม่ว่าดีมาทำให้รักเข้าจนได้ รักแล้วอย่าหวังเลยว่าจะได้ห่างตัวห่างหัวใจ     ครึ่งแรกยายเมยวางแผนรัก พี่เธียรวางแผนหย่า ครึ่งหลังยายเมยวางแผนหย่า (สารพัด) พี่เธียรวางแผนจะรวบรัดแล้วผูกมัดไว้กับตัว   

---แต่ในเมื่อยายเมย 'ตกหลุมรัก' เขามาตั้งครึ่งค่อนชีวิต แค่วันนี้คิดอาจหาญจะปีนป่ายขึ้นมาจากก้นหลุม ก็คงต้องเป็นเขาเองนี่แหละที่จะอุ้มยายเมยกลับลงไป ให้ได้อยู่ในที่ที่ควรอยู่ แล้วก็จัดการฝังกลบซ้ำซะให้มิด ราดคอนกรีดเสริมใยเหล็กทับอีกรอบ  จะได้ไม่คิดเปลี่ยนใจไปจากเขาอีกทั้งชาตินี้และชาติหน้า 

เกิดเป็นการเดิมพันในหมู่ผองเพื่อน จะได้แต่ง หรือจะได้หย่า  ฝ่ายหนึ่งคิดว่า  "ความรัก" คืออำนาจของภรรยา แต่อีกฝ่ายเห็นว่าสามีสิปกครอง น้องเมยน่ะนะ ยังห่างชั้นด้วยกระดูกคนละเบอร์

เป็นนิยายรักโรแมนติกคอมเมดี้ที่น่ารักมาก  โดยปกติหากพระเอกอายุมากกว่านางเอก เรียกตัวเองว่า "พี่" กับคนเป็น "น้อง" เราก็ชอบมากอยู่แล้ว มาเจอพระ-นางคู่นี้ที่มีความสัมพันธ์ดั่งพีน้องเข้าอีก ย่อมเข้าทางมาก  ไม่ว่าน้องเมยจะอยู่ในอารมณ์ไหนจะมีลักษณะของความเป็นน้องที่ให้ความรักและเคารพเสมอ  ตัวลีบอยู่ในระเบียบวินัย สุภาพเรียบร้อย ว่านอนสอนง่าย (หึ ... ใครไม่ใช่พี่เธียรไม่รู้หรอก บทยายเมยจะดื้อแพ่งขึ้นมา  พี่เธียรก็พี่เธียรเหอะ ใช่ว่าจะเอาอยู่ได้ง่ายๆ   และถึงจะโกรธกันมากแค่ไหนก็ไม่มีความก้าวร้าว เหมือนพระนางที่สถานะเสมอกัน  ความสัมพันธ์ในลักษณะนี้เราว่ามันอ่อนโยนและให้ความรู้สึกอบอุ่นดีค่ะ





เนื้อเรื่องโดยรวมสนุกสนานดี   แต่ก็ยังมีบางจุดที่ค่อนขัดแย้งความคิดทำให้นึกภาพตามไม่ออก สับสน ไม่ค่อยเข้าใจ  แม่เป็นเพื่อนกัน บ้านอยู่ใกล้ ไปมาหาสู่กัน ยายเมยเป็นเหมือนลูกสาวของแม่ และน้องสาวของเขา จนใครๆ มักเข้าใจผิดว่าคุณนายศจีมีลูก 3 คน แต่มันแปลกมากที่ลูกๆ ไม่เคยเจอกัน เพิ่งมาเจอกันครั้งแรกตอนยายเมยเอนทรานซ์เข้ามหาวิทยาลัย  แล้วอยู่บ้านเดียวกันตั้งนมนานพี่เธียรเองเพิ่งมารู้จักชื่อจริงนามสกุลจริงของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นน้องสาวในวันที่จดทะเบียนสมรสกัน มันค่อนข้างแปลกจังเลย

แล้วมีช่วงหนึ่งที่น้องเมยนอนฝันไล่ลำดับความทรงจำในอดีตที่มีต่อพี่เธียร มีเหตุการณ์หนึ่งในความฝันที่เธอได้พบกันหนุ่มน้อยรูปงามในชุดนักเรียน ม.6 ในวันจบการศึกษา (งั้นยายเมย ม.1) เราสับสนว่าตกลงสองคนนี้พบกันตอนไหนแน่ หรือเพราะเป็นความฝันจึงอาจไม่ใช่ความทรงจำในเหตุการณ์จริงทั้งหมด (อืม อาจจะใช่) ในบางความคิดของพี่เธียรชวนให้รู้สึกเหมือนรู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก ก็รู้สึกขัดๆ อยู่บ้าง   เดาว่าการสร้างเรื่องให้มีประเด็น "ไม่เคยพบกัน" คงเป็นการสร้างความรักความหลังครั้งเยาว์วัยน้องรหัส ม.1 กับพี่รหัสคนโต ม.6 ให้โรแมนติก  ขณะที่เราคาดหวังความตรงไปตรงมาแบบต้นรักริมรั้วที่โตมาด้วยกันฉันพี่น้อง (เพราะพลอตเปิดไว้ว่าเป็นน้องสาว) จึงไม่อินในความรักวัยเยาว์ตรงนี้เลย เพราะยากจะเชื่อว่า 17-18 ปีตามอายุของยายเมย  "ไม่เคยพบกัน" เว้นแต่จะมีความหลังมากกว่านั้นที่เราไม่รู้จากเล่มก่อน-จรกว่ารักบันดาลใจ หรือเปล่า เช่นว่ายายเมยเพิ่งย้ายมาภูเก็ตเมื่อตอน ม.1 แต่นั่นก็จะขัดความรักความสนิทสนมของแม่ที่มีต่อยายเมยหรือเปล่า  ก็ไม่รู้สินะ ..

ต่อมาก็เป็นช่วงของเหตุการณ์จารกรรมข้อมูลในบริษัท  .. ที่เราไม่ค่อยเข้าใจตรรกะของตัวละครที่เกี่ยวข้องกันเหล่านั้นมากนัก  โดยเฉพาะ "ธาดา"  ที่ไว้วางใจให้ภรรยาของคู่แข่งฝ่ายตรงข้ามมาทำงานสำคัญด้วย โดยหวังจะทำลายสามีของเธอ หลังจากที่ก็แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนมาแล้วว่าเธอรักสามี (งงจริงๆ  เราอ่านเหตุผลของตัวละครไม่เข้าใจตรงไหนหรือเปล่านะ)

ช่วงครึ่งแรกไม่ค่อยมีพัฒนาทางความรู้สึกของพี่เธียรให้สัมผัสได้ ถึงเราจะเข้าใจในการเป็นจอมซึน แต่ก็หวังจะเห็นสัญญาณทางความคิดความรู้สึกบ้าง พอไม่ค่อยจะมี บทจะรักขึ้นมาก็เหมือนถูกเปิดสวิตช์ จากไม่รัก เป็นรักเลย ทำให้ไม่ซึ้งเท่าไหร่นัก เราชอบแบบค่อยๆ รัก ค่อยๆ เปิดหัวใจ

จุดขัดแย้งที่สุด คือ เรานึกภาพไม่ออกจริงๆ ว่า คนที่ว่ายน้ำไม่เป็น ลงไปช่วยคนที่จมอยู่ใต้ท้องน้ำลึก 3 เมตรได้ยังไง  มันอาจจะเป็นไปได้นะถ้าดำน้ำเป็น ด้วยพลังแห่งรักโดดตูมลงไป งัดร่างขึ้นมา ( พยายามนึกหาเหตุผลมาทำให้คล้อยตาม)  'ควานหาอยู่ตั้งนานกว่าจะเจอ'

.. นทีรินแหวกว่ายอยู่ในกระแสน้ำ แรงดันทำให้เธอรู้สึกอึดอัดจนหายใจไม่ออก ความขุ่นของน้ำทำให้มองไม่เห็นแม้กระทั่งมือของตัวเอง แต่เธอก็ควานหาไปรอบๆ อย่างไม่ลดละ

หรือ 'ควานหาตั้งนานกว่าจะเจอ'

ไม่อ่ะคะ  เราคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่คนว่ายน้ำไม่เป็นจะแหวกว่ายอยู่ในกระแสน้ำ  คนว่ายน้ำไม่เป็นลงน้ำที่ลึกกว่าเท้าคือจมน้ำตายค่ะ  ณ จุดๆ นี้เราลืมซึ้งในพลังแห่งรักเลย เพราะความคิดติดหนึบอยู่ที่ว่า คนว่ายน้ำไม่เป็นทำได้ไง ? 

ยังมีความขัดแย้งในใจเราอีกเกี่ยวกับที่น้องเมยถูกนินทาว่าร้าย แม้แต่พี่เธียรเองได้ยินกับหูก็ยังเฉย เรื่องนี้ไม่สบอารมณ์มาก พี่เธียรคิดช้ามากกับการปกป้องให้เกียรติผู้หญิง นี่ถ้าไม่เกิดปัญหาขึ้นไม่รู้จะคิดได้หรือเปล่า  ต่อให้ไม่รักไม่ชอบแบบภรรยา แต่ว่าอย่างน้อยในฐานะ "น้อง" ก็ควรจะมีน้ำใจปกป้องไม่ใช่หรือ แล้วก็ตอนที่ส่งเมยไปเสี่ยงอันตราย พอได้สิ่งที่ต้องการเสร็จสรรพก็จากไปไม่เหลียวหลัง แปลกจังเลย ถึงจะเป็นการลงโทษ ถึงต่อให้ไม่เป็นสุภาพบุรุษ ต่อให้เป็นเพราะไม่ได้รัก แต่ยายเมยก็ควรจะได้รับการห่วงใยอย่าง "น้อง" สักหน่อยมิใช่รึ ?

เราจึงไม่กล้าเมาท์กับเพื่อนเลยว่าสอยมาอ่านแล้ว  เพราะถ้าเรายกเรื่องเหล่านี้มาติงล่ะก็ จะต้องโดนค่อนว่าเป็นเจ้าแม่ละเอียดโดยแน่แท้  นิยายก็คือนิยาย จะต้องคิดมากทำไม  

เออ ก็จริง ..  แต่ก็ไม่เชิงว่าคิดมาก  แค่จะบอกว่าพออ่านแล้วต้องมาพยายามคิดหาเหตุผลมาสนับสนุนความเชื่อมโยง ความเป็นไปได้ เพื่อพยายามจะเข้าใจความคิดและการกระทำของตัวละคร มันก็อึดอัดนิดหน่อยน่ะค่ะ  ก็เป็นเพียงความคิดของผู้อ่านคนหนึ่งนะคะ การจะตัดสินอะไรขึ้นอยู่กับประสบการณ์รับรู้ ความเชื่อ ทัศนคติและรสนิยมในการอ่านของแต่ละคน    ^^  

'อกเกือบหักแอบรักคุณสามี' ทราบว่าเพิ่งเป็นผลงานเรื่องที่สองต่อจาก 'จนกว่ารักบันดาลใจ' หากผู้เขียนมีประสบการณ์มากขึ้น เชื่อว่าจะเป็นนักเขียนนิยายรักที่น่าจับตามอง เพราะเพียงเล่มแรกก็สร้างความน่ารักอันเพ้อพกได้ขนาดนี้ ขนาดว่ามีติ ก็ยังชอบ  เพราะมีความโดดเด่นหลายสิ่งที่ต้องชม  ทั้งเรื่องบทกลอน การสร้างคาแรคเตอร์และพฤติกรรมของตัวละคร  ผู้หญิงที่ริจีบผู้ชายออกนอกหน้าใช่ว่าจะซื้อใจเราได้ง่ายๆ หรอกนะคะ  แต่น้องเมยทำได้ง่ายมากด้วยความเป็นน้องสาวคนดีที่น่ารัก ทำหน้าชื่นซ่อนอกตรมได้เสมอ ไม่เคยจะทำให้พี่เธียรรู้สึกอึดอัดลำบากใจ   

อีกประการความชอบ คือการสร้างรายละเอียดการทำงานพร้อมทั้งบรรยากาศรายล้อม ที่ว่าพี่เธียรเป็นคนเก่ง เราจะเชื่อว่าเขาเก่งจริงๆ จากหน้าที่การงานที่ทำในอาชีพสถาปนิก  ตัวละครในนิยายบางเรื่องมีบอกอาชีพ แต่ไม่ค่อยมีฉากที่เขาหรือเธอทำงานมากนัก   ต่างจากพี่เธียรเรื่องนี้ที่ทำงานและทำงานอยู่ตลอดเวลา แม้จะมีบางจุดชวนนึกบ่นเพราะอยากให้เข้มงวดน้อยหน่อย อ่อนโยนลงบ้า ง แต่พี่เธียรก็ยังคงความเป็นเต็คเธียรเกรียนนรกอยู่เสมอ ทว่าพอพี่เธียรทำงาน  งานของเขาฆ่าได้ทุกความบกพร่อง พี่เธียรเท่มาก คนอะไรน่ารักที่สุด อิอิ 

ส่วนทางด้านน้องเมย เธอเรียนจบมัณฑนากร แต่การเปลี่ยนแปลงของงานที่ได้มาทำกับความสามารถพิเศษทางไอดี ดูจะไม่ตรงกับงานสายนี้สักเท่าไร พอจับพลัดจับผลูมาเป็นผู้ช่วยพี่เธียรได้ถึงสองครั้งสองครา สงครามเย็นที่เน้นฮาระหว่างสามีภรรยาในท่ามกลางบรรดาหนุ่มๆ สถาปนิกเพื่อนของพี่เธียรที่ได้ชื่อว่า "เดอะแก๊ง" ทำให้บรรยากาศออกแนวครื้นเครง เพราะสมาชิก "เดอะแก๊ง" แต่ละคนล้วนแล้วแต่เป็นจอมล้อเลียน จอมกลั่นแก้ลง   เว้นก็แต่พี่เธียรคนเดียวที่นอกจากจะไม่เครงแล้วยังสุดจะขุ่นมัว  ว่างตลกกันนักใช่ป่ะ  อย่างนี้ต้องสั่งงานเพิ่ม  จัดไป ...เร่งโครการ

อ่านจบแล้วชอบมากถึงกับขออ่านซ้ำช่วงครึ่งเล่มหลังด้วย ซึ่งเริ่มตั้งแต่ที่พี่เธียรยอมรับกับตัวเองว่า  เขาพลาดแล้ว

คือหนึ่งเดียวคนนี้ที่ตามหา         แต่ไม่เคยรู้ว่าเธออยู่ไหน
จนวันหนึ่งเหลียวมองคนข้างกาย     จึงได้รู้ว่าคนใกล้คือปลายทาง
เป็นความรัก เป็นหัวใจใสสะอาด             เป็นอากาศเป็นอาทิตย์ยามรุ่งสาง
เป็นแสงดาวแสงเดือนส่องนำทาง      เธอผู้เป็นทุกอย่าง...ที่เฝ้ารอ

ใครๆ ก็รักยายเมย  โดยเฉพาะคุณนายศจีที่ไม่รู้จะอะไรกันนักกันหนา มดไม่ให้ไต่ ไรไม่ให้ตอม ประคบประหงมเสียยิ่งกว่าลูกของตัวเองอีก ยกให้มาแล้วกลับเปลี่ยนใจจะเอาคืนด้วยข้อหาดูแลลูกสาว (ที่ควบตำแหน่งสะใภ้ด้วย) ของแม่ไม่ดี   ไหนจะปริวัตถ์ มนต์วธู พี่ชายพี่สะใภ้ของเขาอีก มีอย่างที่ไหนแต่งได้แต่ห้ามแตะต้องน้อง เว้นเสียแต่น้องจะเต็มใจ  แต่ก่อนตอนไม่คิดยายเมยก็เต็มใจหาเรื่องลวนลามจะปลุกปล้ำเขาอยู่บ้างหรอก แต่ตอนนี้ที่เขาคิดยายเมยกลับเอาแต่จะทิ้งกันไปท่าเดียว นึกแล้วก็โมโหตัวเอง เกิดเป็นชายชาญกลับต้องมาลำบากหาทางทำอย่างไรจึงจะเสียตัวให้ภรรยาของตัวเอง...โดยละม่อม    

ปฏิบัติการ  'มอมเหล้าเข้าหอ' เราชอบมาก Smiley ต่อมจิ้นแตกกระเจิดกระเจิง
แต่ถึงอย่างนั้น ตอนไม่เมาเข้าหอ   ฟินฟุ้งกว่ากันอีกเยอะ  Smiley

ใครมอมเล่น มอมจริง  เมาเล่น เมาจริง ใครได้ที ใครเสียท่า อย่าได้พลาดติดตาม  เพราะพี่เธียรกับน้องเมยได้ร่วมกันสร้างความขำขันโรแมนติกที่น่ารักมาก  "นาวาร้อยกวี" นามนี้จะรอติดตามผลงานต่อไป

ยอมร่วมหอกันวันนี้ แถมฟรีรักนิรันดร์
รับประกันความทานทน อายุการใช้งานชั่วชีวิต
(จากแม่ศรีเรือน)




//www.manager.co.th/CelebOnline



Create Date :18 พฤศจิกายน 2557 Last Update :17 กุมภาพันธ์ 2558 0:54:14 น. Counter : 28567 Pageviews. Comments :8