bloggang.com mainmenu search


...Title: 최고의 사랑 / Choegoui Sarang
Also known as: The Greatest Love/ Best love / The Discovery of Affection
Genre: Romance, comedy
Episodes: 16
Broadcast network: MBC , 2011-May-04 to 2011-Jun-23
Air time: Wednesday and Thursday 21:55
Producer: Kim Jin Man
Screenwriter: Hong Mi Ran, Hong Jung Eun



คิดถึงจัง คิดถึง "ต๊กกูจิน"

คุณจะไม่เข้าใจหรอก ถ้าคุณไม่ได้ดูซีรีย์เรื่องนี้ คุณจะไม่เข้าใจว่าทำไม๊ พระเอกหน้าตาไม่ค่อยหล่ออย่างนี้ กับนางเอกหน้าตาไม่ค่อยสวยอย่างนั้น ถึงได้ทำให้ซีรีย์ Greatest Love ในเว็บดูซีรีย์ออนไลน์มีกระแสตอบรับที่ดีมากๆ ตั้งแต่ตอนแรกยันตอนสุดท้าย และไม่ต้องแปลกใจที่่ครองแชมป์เรตติ้งของละครที่ออกอากาศในช่วงเวลาเดียวกัน

ที่น่าทึ่งไปกว่า คือแทบไม่น่าเชื่อว่า สาวกต๊กกูจิน จะติดอกติดใจพระเอกหนุ่มใหญ่วัยอาวุโสคนนี้ (อายุ 41 ปี) จนมีหลายคนพากันขวนขวายเอาผลงานเรื่อง City Hall มาดูกันด้วย

ณ ขณะนั้น กำลังติดตาม Can You Hear My Heart ของคิมแจวอน พระเอกผิวหิมะอยู่อย่างติดหนึบ แต่ด้วยซีรีย์อัพไม่ทันใจ จึงหันไปสำรวจเรื่องอื่นดูบ้าง ก็สงสัยอยู่ว่าเรื่อง The greatest love เนี่ย คอซีรีย์เกาหลีเขากรี๊ดกร๊าดอะไรกันเหรอ ขอดูเค้าโครงหน่อยสักน้อย





ปัดโธ่ ! พระเอกนอกจากจะไม่หล่อยังหน้าโหดปานนี้ นางเอกก็ไม่ค่อยสวย ใครจะไปอยากดู (ฉันก็คนหนึ่งแหละ) ออกอาการเมินอย่างไร้เยื่อใย แต่เมินมาเมินไป วนไปเวียนมา ก็ยังเจอแต่คนแสดงความแฮปปี้กับการติดตามชมซีรีย์เรื่องนี้ ส่งผ่านเป็นตัวหนังสือขึ้นเว็ปอยู่มิได้ขาด ( //www.series-8.com) ก็เลยอดสงสัยไม่ได้ มันสนุกขาดนั้นเลยเหรอ อย่างนี้ต้องขอพิสูจน์ ตามประสาพวกชอบลองของ

ง่ะ... เป็นเรื่องเลย

ไม่ต้องหลับต้องนอนกันพอดีกับหลายตอนที่ถูกอัพตอนเอาไว้ โชคดีไปที่รีบดูซะตั้งแต่ตอนนั้นเนิ่นๆ เพราะการที่ซีรีย์ถูกอัพเพิ่มสัปดาห์ละสองตอน ก็ช่วยให้เราได้หยุดพักเป็นช่วงๆ แม้ทรมานจิตใจ แต่ก็ยังดีกว่าต้องทรมานสังขาร นิสัยการดูซีรีย์ต่อเนื่องแบบไม่ยอมหลับยอมนอนนั้น ควรจะเลิกได้แล้วล่ะ เพราะนั่นอาจเป็นแรงดึงดูดให้อีกาบินโฉบใบหน้ามาแล้วฝากรอยเท้าเอาไว้




ต๊กกูจิน (รับบทโดยชาซึงวอนCha Seung Won) เป็นใครมาจากไหนไม่คุ้นหน้าไม่เคยรู้จัก หน้าตาน่ะเหรอ เห็นก็ อ่ะโห่ ..พระเอกหรือนี่ ตอนที่ติดหนึบเข้าให้แล้ว แล้วแนะนำให้เพื่อนดู มันบอกว่า "พระเอกทำไม หน้าตางั้นล่ะแก โคตรจะไม่หล่อเลย" (อินี่ แร้งงส์ กว่าฉันอีก)

กูเอจอง (รับบทโดย กงฮโยจิน Gong Hyo Jin) อะกึ๋ย นางเอก ? โดยสายตาส่วนตัว ไม่เคยเห็นเจ๊ฮโยจินเป็นคนสวยเลยสักนิด เห็นเธอเป็นนางเอกทีไร เป็นต้องหงุดหงิดหัวใจอยู่เรื่อย แต่ที่น่าหงุดหงิดยิ่งกว่าคือดูผลงานของเธอเรื่องไหน เป็นต้องติดลมสิน่า(เป็นงั้นไป) ทั้งเรื่อง Sangdoo, Let's go to school (บันทึกหัวใจนายซางดู) แสดงคู่กับ เรน และเรื่อง Thank you คู่กับ จางฮยอก เรื่องฝีมือคงไม่ต้องบรรยาย ฮโยจินนั้นราวกับหน้าตาจืดๆ ซื่อๆ ของเธอนั้น Born to be มากับบท คนดีไม่มีที่อยู่ อาภัพอับเฉา น่าเห็นอกเห็นใจ น่าสงสาร และสมควรเสียน้ำตาให้ The greatest love แม้จะไม่โศกสลดเหมือนสองเรื่องที่เอ่ยถึง อีกทั้งบทของนางเอกก็เป็นคนมองโลกในแง่ดีและมีกำลังใจให้ตัวเองอยู่เสมอ แต่ว่าชีวิตการเป็นดาราตกอับและความผกผันขึ้นๆ ลงๆ ในวงการบันเทิงอย่างที่เธอต้องเผชิญ ดูยังไงก็น่าสงสารอยู่ดี

แต่อย่าเข้าใจผิดว่าละครเรื่องนี้เศร้า อืม.. จะว่าไปแล้วมันก็เศร้าบ้าง ซึ้งบ้างเป็นบางจังหวะ แต่จังหวะเหล่านั้นมักจะมีความฮาปนเปอยู่เสมอ ไม่ว่าจะฮามาก่อน หรือฮามาหลัง และทั้งหมดของความฮาโรแมนติกต้องยกให้คุณพระเอกเค้าเลย เห็นหน้าตาโหดๆ อย่างนี้อย่าคิดว่านิสัยจะโหดนะคะ เพราะมันไปคนละทางกับใบหน้าเลย ลึกๆ ก็เป็นคนนิสัยน่ารัก ใจดีแต่ไม่ยอมแสดงออกค่ะ ส่วนที่ตื้นๆ ก็เป็นพวกขี้โมโห หลงตัวเองขนาดหนัก ตลกนิดหน่อย บ้าเล็กน้อย แต่รวมออกมาแล้วทำเอาฮากลิ้ง คนละเรื่องกันเลยกับภาพลักษณ์ออกสื่อที่เป็นพระเอกยอดนักบู๊สุดเท่ห์ (ฮ่าฮ่า แค่นึกหน้าตาท่าเก๊กก็ขำแล้ว)




ความแตกต่างสุดขั้ว

หากเปรียบวงการบันเทิงเป็นท้องฟ้า และเปรียบศิลปินนักร้องนักแสดงเป็นดาวประดับ เขาและเธอก็เป็นที่สุดของความแตกต่างระหว่างดวงดาว

เขา...ต๊กกูจิน เป็นเหมือนดาวฤกษ์ เปล่งประกาย สูงส่ง สุกสกาว สว่างไสวอยู่บนท้องฟ้า และโดดเด่นอยู่ที่นั่นเสมอ

ส่วนเธอ ...กูเอจอง อย่าคิดว่าจะเป็นดาวเคราะห์น้อยดวงกระจิ๊ดเลย เพราะอันที่จริงเธอเป็นแค่เศษเสี้ยวของดาวดวงหนึ่งเท่านั้นเอง นั่นคงจะไม่เป็นไรหากแสงดาวอย่างเธอจะริบหรี่ไร้ความหมาย มันคงจะไม่เป็นไรหากเธอก็เป็นของเธออยู่อย่างนั้นมาแต่ชาติปางไหน แต่มันเป็นอะไรแน่ๆ ที่เธอไม่เคยต้องหม่นแสงริบหรี่อย่างนี้ เพราะในอดีตเธอเคยเป็นดาวฤกษ์ดวงเด่น เป็นราชินีแห่งท้องฟ้ามาก่อน 'สูงสุด ย่อมคืนสู่สามัญ' ใครคนหนึ่งกล่าวคมวาทะไว้เช่นนั้น กูเอจองเคยเป็นดาวเด่นประดับฟากฟ้าวงการบันเทิง และกูเอจองคนเดียวกันก็กลายเป็นดาวร่วงแขวนเทิ้งเติ้งจะหล่นมิหล่นแหล่อยู่ในมุมมืดริมฟากฟ้า



บังเอิญเป็นบุพเพอาละวาด เธอจึงได้มาพบกับใครคนหนึ่งที่ปั๊มน้ำมัน รถแนนนี่คันหรูติดฟิล์มทึบทึม ไม่บอกก็รู้รถลักษณะนี้คนดังชอบใช้ ถือโอกาสไปเลียบๆ เคียงๆ เต๊ะท่าทำเก๋ให้คนเดินผ่านไปมาเกิดความเข้าใจผิด "กูเอจอง" มีรถแนนนี่ใช้อย่างหรู แต่คนในรถก็ไม่เปิดโอกาสให้นานนัก หยิบม้วนกระดาษยื่นออกมาจากช่องกระจกผลักเธอออกไปไม่ให้มายืนเกาะแกะ กูเอจองตั้งใจจะทักถามคนดัง แต่คนๆ นั้น กลับยื่นแก้วกระดาษที่ซ้อนกันหลายใบออกมาให้ เพราะไม่รู้เจตนาจึงเอื้อมมือออกไปรับ ที่แท้มันคือขยะจากในรถที่คนๆ นั้นวานให้เธอเอาไปทิ้งให้ น้ำจากแก้วกระฉอกรดใส่เสื้อเอจองจนสกปรกเลอะเทอะ คนในรถเหมือนจะมีน้ำใจหยิบยื่นกระดาษทิชชู่ส่งออกมา เอจองรับไปเช็ดเสื้อตัวเอง แต่คนในรถเห็นแล้วหงุดหงิด หยิบทิชชู่อีกกำใหญ่ส่งออกไป แล้วบอกเธอว่าที่ส่งทิชชู่ให้เพื่อให้เธอใช้มันเช็ดรถ ไม่ใช่ให้เอาไปเช็ดเสื้อ





เขาไม่ได้ใส่ใจที่เสื้อผ้าของเธอสกปรก แต่ใส่ใจรถที่เปื้อนน้อยกว่า โห.. คนอะไรอย่างนี้ก็มีด้วย อย่างนี้ขอดูหน้าดูตาสักหน่อยเถอะว่าเป็นใคร เอจองยัดมือเข้าไปในช่องกระจก หวังจะให้คนในรถที่รู้แล้วว่าเป็นู 'ผู้ชาย' เปิดประตูออกมา นอกจากจะไม่สำเร็จแล้วยังถูกผลักล้มลงไปอีก อีกทั้งเขาคนนั้นยังทิ้งร่องรอยลบยากเอาไว้ด้วยลายเซ็นต์ปากกาเมจิกบนฝ่ามือ ลายเซ็นต์ที่ไม่ได้ถูกขอ แต่คนเซ็นต์ดูภูมิใจในตัวเองหนักหนา ถ้าอยากรู้ว่าเขาเป็นใครก็ดูจากลายเซ็นต์นี้เอาก็แล้วกัน เอจองมองดูลายเซ็นต์ยึกยือรูปสามเหลี่ยมแบบงงๆ ก็ไม่ได้ขอ ไม่เคยคิดอยากได้ และดูยังไงก็ไม่รู้ว่ามันเป็นของดาราคนไหน รู้อยู่อย่างเดียว คนที่เซ็นต์ให้ต้องเป็นดารา 'นิสัยไม่ดี'


คู่อริย่อมไม่อาจหลีกเลี่ยงการปะทะ


กูเอจองกับเจ้าของลายเซ็นต์รูปสามเหลี่ยม ก็เลยต้องมาพบเจอกันอีก ใครจะไปคิดว่าคนๆ นั้นจะเป็นต๊กกูจินดาราที่เอจองชื่นชอบและคนในครอบครัวทุกคนต่างก็ชื่นชม เรียกได้ว่าปลื้มกันทั้งบ้าน ต๊กกูจินที่แท้ เป็นดารานิสัยไม่ดีที่เขียนลายเซ็นต์ลงบนกลางฝ่ามือของเธอ โดยมิได้ร้องขอ และโดยมิได้ให้อนุญาต (ฉันมิใช่แฟนคลับที่คอยตามตื๊อขอลายเซ็นต์คุณนะยะ ฉันนี่น่ะก็เป็นดาราเหมือนกัน)

ต๊กกูจิน ต้องการจะร่วมแสดงในบทสำคัญของหนังฮอลลี่วู้ดเรื่องหนึ่ง ฮอลลีวู้ดที่เป็นความใฝ่ฝันของดาราเอเชียทุกคน และคนที่จะไปถึงฝันนั้นได้ฝีมือก็ต้องฉกาจฉกรรจ์มิใช่น้อย ต๊กกูจินลงทุนกระทั่งส่งไวน์ราคาแพงไปเพื่อหวังซื้อใจ ปีเตอร์ เจสัน ผู้กำกับหนังแอคชั่นคนดังแห่งวงการฮอลลีวู้ด แต่ดูท่ามันจะไม่เป็นผล ข่าวแว่วมาว่าท่านผู้กำกับเขาเลือกนักแสดงจากจีนไปแล้ว ความลับเรื่องไวน์ และความตั้งใจให้ลับเรื่องที่เขาไม่ถูกเลือก เพราะเอ่อ..มันเป็นปัญหาเรื่องภาษาอังกฤษ ผู้กำกับปีเตอร์ เจสันจึงหันไปเลือกนักแสดงหนุ่มจากประเทศจีนแทน

มันบังเอิ๊นนนน เสียนี่กระไร กูเอจองไปอยู่ในที่สถานการณ์ที่เรียกได้ว่า 'ผิดที่ผิดเวลา' ก็เลยเป็นกาละเทศะที่ทำให้ล่วงรู้เรื่องนี้เข้า เธอจึงเผลอเอาเรื่องที่เขาสนใจอยากจะร่วมแสดงหนังฮอลลีวู้ดไปพูดออกอากาศขณะออกรายการวิทยุ คำพูดเล็กๆ น้อยๆ กลายเป็นข่าวทันที นั่นแหละ เพราะเขาคือ ต๊กกูจิน นักแสดงแถวหน้าของวงการบันเทิงเกาหลีเชียวนะยะ

งานเข้าสิคะ

กูเอจอง หล่อนเป็นใครกัน!



อดีตเกิร์ลกรุ๊ปชื่อดังเมื่อสิบปีก่อน Treasure Girls สมาชิกในวงมีสี่คน "เอจอง, เจนนี่, เซรี, มีนา" ซึ่งในบรรดาสมาชิกร่วมวงทั้งสี่คนนี้ เอจองโด่งดังเป็นที่นิยมมากที่สุด และเท่าที่ต๊กกูจินได้รับรายงานข้อมู
ล เกี่ยวกับการแยกวงของ Treasure Girls สาเหตุอาจเป็นเพราะข่าวลือร้ายแรงในหมู่สมาชิกที่บ้างว่าเป็นเพราะอุบัติเหตุ บ้างว่าเป็นเพราะท้อง หลังจากแยกวงเอจองออกอัลบั้มเดี่ยวและเจ๊งไม่เป็นท่า กูเอจองกับข่าวลือเรื่องรักสามเส้า พัวพันกับคนที่มีคู่หมั้นแล้ว เมาเละเทะ เป็นภรรยาลับๆของยากูซ่ามีลูกด้วยกันแล้วหลายคน ดังนั้น เป็นความจริงอย่างที่สุดเมื่อจะมีคนพูดถึงเธอด้วยคำพูดที่ว่า

"กูเอจอง เธอตกต่ำสุดๆ แล้วล่ะครับ"

เมียเก็บยากูซ่าเหรอ ? ถึงต๊กกูจินจะไม่รู้อะไร แต่หน้าอย่างนั้นกับการเป็นเมียยากูซ่าดูท่าแล้วจะไม่ใช่หรอกนะ (ยากูซ่าน่าจะมีเสป็คที่ดีกว่านี้) แต่เอาเถอะ หล่อนจะเป็นใคร เป็นอย่างไร ไม่ใช่เรื่องสำคัญ ที่สำคัญสำหรับต๊กกูจินที่สุด ยัยนี่ดันมารู้ความลับของเขาเข้าน่ะสิ เรื่องนี้ต้องได้รับการจัดการอย่างเร่งด่วน

" หาเบอร์โทรศัพท์ของเธอมา!"

ต๊กกูจินไปพบกูเอจอง เธอสบโอกาสขอความช่วยเหลือจากเขา แม้จะดูไม่มีศักดิ์ศรีเท่าไหร่ แต่สำหรับดาราตกอับ ศักดิ์ศรีมันกินไม่ได้ เพื่อดึงดูดความสนใจ ชื่อของต๊กกูจินเป็นจุดขายที่ดีอย่างยิ่ง ขอแค่ต๊กกูจินยอมช่วยเธอสักครั้ง เมื่อเธอไปออกรายการโทรทัศน์ในเกมตอบคำถามเปลี่ยนแปลงโลก (เข้าใจว่าเป็นการอ้างอิงถึงรายการ Quiz to change the world) ที่มีกติกาอยู่ว่าผู้เข้าร่วมแข่งขันจะต้องโทรศัพท์หาเพื่อนดาราและร่วมเล่นเกมด้วยกัน

"ช่วยฉันหน่อยไม่ได้หรือคะ แค่ครั้งเดียว แค่รับโทรศัพท์ ใช้แค่เสียงเท่านั้นเอง"

"ผมต๊กกูจินนะ คุณไม่ได้อยู่ในระดับที่จะขอให้ผมทำแบบนั้นได้นะ คุณโง่หรือเปล่า ทำไมถึงไม่มียางอายบ้างเลย" (ทีตัวเองยังส่งไวน์ไปกำนัลผู้กำกับหนังเลย มียางอายม๊าก!)

"ฉันต้องหน้าด้าน เพราะฉันไม่มีทางเลือกนี่"

เอจองย่อมต้องสวนทันควัน หยิบยกเอาเรื่องสินบนไวน์มากล่าวถึงเหมือนกัน ก็จริงของเธออ่ะนะ ทีคุณล่ะ คุณยังทำเลย ได้ยินเรื่องนี้จากปากของกูเอจอง ต๊กกูจินแน่ใจเสียยิ่งกว่าแน่ล้านเปอร์เซ็นต์ วันนั้นยัยดาราอนาถาคนนี้ได้ยินเรื่องของเขากับปีเตอร์เจสันทั้งหมด

องค์ลงสิคะ Stop stop! กูเอจอง เธอจงหยุดพล่ามเดี๋ยวนี้

"จากนี้ไป ฟังผมพูดให้ดีๆ นะ ยังไงถ้าข่าวปีเตอร์เจสันแพร่ออกไปนะ ผมจะจัดการคุณ"

ก็ไม่ได้ขู่หรอกนะ แค่พยายามเปรียบเทียบให้เห็นภาพ จะได้เข้าใจกันและกัน แต่คำขู่ เอ๊ย คำขอร้องของเอจองไม่ทำให้ต๊กกูจินสะทกสะเทือนได้ ลองดูสิ ถ้าเธอคิดจะเล่นกับคนอย่างเขา ลองดูสิ ถ้าเธอกล้า เขาเป็นใคร และเธอเป็นใคร เขาคือต๊กกูจินนะ ให้มันรู้ไปวงการนี้ใครเป็นขาใหญ่

"ตอนนี้คุณคิดว่าเราเท่าเทียมกันเหรอ ถึงได้มาให้คำแนะนำผม"

แน่ล่ะ เอจองไม่กล้า และไม่เท่าเที่ยม อันที่จริงเป็นเพราะเธอไม่คิดจะปูดเรื่องนี้ทำให้เขาเสียหายหรอก (เป็นคนดีสมเป็นนางเอก) แต่หลังจากนั้น ในวันที่เธอกำลังจะถ่ายทำรายการ เธอโทรศัพท์ถึงต๊กกูจินและได้ขอร้องเขาอย่างจริงใจอีกครั้ง

"ความรู้สึกที่ฉันโดนคุณปฏิเสธจากการเล่นเกมครั้งนี้ มันก็เหมือนความรู้สึกที่คุณโดนปีเตอร์ เจสันปฏิเสธจากการเล่นหนังฮอลลีวู๊ด ฉันหวังว่าคุณจะเข้าใจและรับโทรศัพท์ฉันด้วย"

ให้ต๊กกูจินลองคิดถึงหัวอกคนที่ถูกเมินดูเอาเองละกัน เมื่อออกรายการเอจองจะโทรมาหา และถ้าเขาคิดจะเมินเธอ มันก็คงรู้สึกไม่ต่างอะไรกับการที่เขาถูกผู้กำกับหนังฮอลลีวู้ดคนนั้นปฏิเสธนั่นแหละ

เอจองกล้าที่จะเสี่ยง ต๊กกูจินเหมือนไม่มีวี่แววจะใส่ใจ ในเมื่อมันไม่ใช่ธุระกงการอะไรของเขานี่ และแน่ใจได้ว่ายั่ยนั่นไม่กล้าปูดเรื่องของเขาอยู่แล้ว ยังไงเขาก็ปลอดภัย แต่ในช่วงเวลาถ่ายทำรายการตอบคำถามเปลี่ยนแปลงโลก ต๊กกูจินก็เหลียวมองโทรศัพท์เป็นวรรคเป็นเวร ลุ้นว่าเธอจะโทรมาจริงหรือไม่ และเมื่อเธอโทรมาจริงๆ ...

โอ้ ... สุดจะลุ้นระทึก

ในรายการเสียงโทรศัพท์ดังอยู่นานแล้ว แต่ต๊กกูจินยังไม่รับสาย เริ่มแรกที่ผู้เข้าร่วมแข่งขันรู้ว่าคนที่เอจองจะโทรหาคือต๊กกูจินก็พากันส่งเสียงฮือฮา แต่ เมื่อสายไม่ถูกรับก็เริ่มมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ เอจองหน้าเสีย สีหน้าของเธอเครียดจัด จนดูเหมือนจะร้องไห้ แต่แล้ว...





"สวัสดีครับ"

ต๊กกูจิน รับโทรศัพท์ของกูเอจอง

ไม่มีเวลาสำหรับการทักทาย เอจองต้องเริ่มใบ้คำให้ต๊กกูจินตอบ สิบคำใบ้ในการเล่นเกม ยิ่งเล่นยิ่งสนุก เอจองใบ้เก่ง และต๊กกูจินก็ตอบคำถามได้ถูกต้องด้วย เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย ต๊กกูจินเล่นเองลุ้นเองจนตัวโก่ง จนมาถึงคำถามหนึ่ง เอจองไม่ทันคิดอะไรอื่น คิดแต่จะใบ้คำให้ต๊กกูจินรู้คำตอบ จึงเผลอเอาเรื่องไวน์ที่ต๊กกูจินส่งไปให้ผู้กำกับฮอลลีวู้ดมาใบ้คำ ต๊กกูจินก็มัวสนุกเพลินจนลืมไปว่า 'สินบน' ที่เอจองปูดออกมานั้นเป็นเรื่องที่นอกจากจะไม่สมควรถูกเปิดเผย ยังต้องเหยียบเอาไว้ให้มิดฝังไว้ให้จมดินไปอีกด้วย ก็เขาเป็นดาราดัง ข่าวที่เขาถูกปฏิเสธจากผู้กำกับฮอลลี่วู้ดมันน่าขายหน้าและไม่จำเป็นต้องประกาศศักดาขาลบให้ใครได้รู้

ซวย ยัยดาราปลายแถวคนนั้น หล่อนเป็นตัวซวยชัดๆ ไม่น่าใจอ่อนไปรับโทรศัพท์ของหล่อนเข้าเลย

งานเข้าอีกแล้ว (งานใหญ่เสียด้วยสิ)

............................ ............................

ผู้ดำเนินรายการในห้องส่งสอบถามเรื่องสินบน


"แหะ แหะ แหะ มันไม่ใช่สินบนมันเป็นแค่ของขวัญเล็กๆ น้อยๆ ครับ"

"เขาต้องอยากแสดงหนังเรื่องนั้นมาก เขาถึงกับต้องให้ของขวัญผู้กำกับ"




ไม่ต้องบอกก็รู้ต๊กกูจิน พระเอกผู้โด่งดังคับวงการของเราจะอารมณ์เสียประมาณไหน ก็ประมาณโผนเอาไหล่ของตัวเองทุบเข้ากับโซฟาด้วยความเจ็บใจ(ตัวเอง)แสนสาหัสที่พลาดท่าเสียความเป็นพระเอกไปกับความใจอ่อนไม่เข้าเรื่องอย่างนี้ ข่าวแพร่สะพัดออกไป ต๊กกูจินจะได้ร่วมงานแสดงภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดกับผู้กำกับดังปีเตอร์ เจสัน พร้อมกันนั้นผู้ดำเนินรายการได้ขอให้ กูเอจอง กล่าวให้กำลังใจต๊กกูจินด้วย

"ถ้าคุณไปฮอลลีวู้ด ขอให้โชคดีนะ ดาราระดับชาติ ต๊กกูจิน สู้ๆ !"

ฮา ฮา ฮา

สู้ๆ กะผีอะไรล่ะ! กรอดดดดดด ยัยกูเอจอง เธอตายแน่ !

มันจะไม่มีวันได้ออกอากาศหรอกเทปบันทึกรายนั่นน่ะ เขา .. ต๊กกูจินนักแสดงรุ่นใหญ่ผู้ยิ่งใหญ่คับวงการบันเทิงคนนี้ จะทำทุกวิถีทางไม่ให้มันได้ออกอากาศ ที่ต้องจัดการก่อนเป็นคนแรกคือยัยกูเอจอง

การถูกต๊กกูจินคุกคามให้กูเอจองไปเรียกร้องทางรายการไม่ให้นำเทปบันทึกรายการส่วนนั้นออกอากาศ ซึ่งก็เปรียบได้กับไม่มีเอจองอยู่ในรายการทำให้เธอมีน้ำโหเข้าเหมือนกัน ทั้งสองคนจึงทะเลาะกัน

"เธอพูดคำว่า ทำไม? มาสามครั้งแล้วนะ เธอคงยังสับสนกับสถานการณ์อยู่สินะ ถ้างั้นตั้งใจฟังให้ดีนะ ฉันตั้งใจจะประกาศว่า ฉันปฏิเสธข้อเสนอของปีเตอร์ เจสัน แต่เธอบอกว่าฉันติดสินบนปีเตอร์ ทำไม ฮะ! ทำไมดาราที่ดังมากๆ อย่างต๊กกูจินต้องถูกปฏิเสธและติดสินบนผู้กำกับ มันไม่สอดคล้องกันเลย"

"ดังนั้น คุณไม่อยากให้เกิดปัญหาออกอากาศ เลยอยากให้ตัดบางส่วนออกไป"

"ใช่แล้ว"

"ทำไมคุณไม่ปล่อยมันไปละคะ "

เอจองคว้าหมับที่แขนต๊กกูจินทำสีหน้าแววตาเรียกร้องความสงสาร

"ถึงยังไงคุณก็ไม่ได้ไปฮอลลีวู้ดอยู่แล้ว อย่าตัดมันไปเลยนะคะ ช่วยฉันด้วย โอเค้?"

แต่ไม่ว่าจะขอร้องอ้อนวอนอย่างไรก็ไม่เป็นผล คำตอบคือ

"ปล่อย ...ฉันคือต๊กกูจินนะ"

"เพราะว่าคุณคือต๊กกูจิน คนทั้งเกาหลีมีความประทับใจที่ดีต่อคุณ ดังนั้นไม่ว่าคุณจะทำอะไร พวกเค้าก็ให้อภัย ว่ามั้ย? แต่กับฉัน คุณต๊กกูจิน คุณปล่อยฉันไปแค่ครั้งนี้เถอะ ถ้าฉันขอให้พวกเขาตัดส่วนนั้นออกไป มันก็เหมือนฉันถูกตัดออกไปจากเกมเลย"

"หึ นั่นก็ดีแล้ว เนื่องจากคุณมีแต่ภาพลักษณ์เชิงลบกับประชาชน ตัดจุดด่างพร้อย(คุณ) ออกไปน่ะแจ่มสุดๆ แล้ว ถ้าผมไปขอให้พวกเขาตัดออกเองมันจะชัดเจนเกินไป เพียงแค่คุณไปบอกพวกเขาไม่อยากออกจอ แล้วขอให้เขาตัดออก และขออย่างเป็นทางการ แล้วก็ ...ในฐานะดาราดังผมไม่แฮปปี้ที่ต้องไปแบ่งซีนกับคุณ คุณจะต้องลบผมออกจากความทรงจำของคุณให้เกลี้ยง"

โห..แรงส์! และไม่แมนสุดๆ

มาไม้นี้ กูเอจองนางเอกแสนดีผู้แสนจะอ่อนน้อมถ่อมตนของเราก็มีขีดจำกัดของความอดทนเหมือนกัน คนนะ ไม่ใช่พระอิฐพระปูน ใครจะไปทนฟังเจ้าคนหลงตัวเองพล่ามอยู่ฝ่ายเดียวไหว กูเอจองก็เลยด่าเช็ดเข้าให้ ถ้าปลาบปลื้มในตัวเองนัก ไม้หนักของเอจองคือการทำลายความมั่นใจของต๊กกูจินในข้อนั้น

"นี่! ทำไมคุณถึงได้บอกให้ตัดฉันออกไป เพียงเพราะแค่คุณกลัวเสียหน้าเลยบอกให้คนอื่นทิ้งงานตัวเองอย่างงั้นเหรอ"

ต๊กกูจินได้ฟังกัดฟันกรอดดดด ...."กูเอจอง เธอบ้าเป็นบ้าไปแล้วเหรอ"

"เพราะคุณมีทัศนคติแย่ๆ ปีเตอร์ เจสันถึงได้ปฏิเสธคุณไงล่ะ"

กรอดดด "เธอเป็นบ้าไปแล้ว ...เธอ.."

"ไม่ใช่แฮะ เพราะภาษาคุณไม่เอาไหนต่างหาก เพราะภาษาอังกฤษคุณไม่เอาอ่าวถึงได้ถูกปฏิเสธไงล่ะ เข้าใจยัง"

ต๊กกูจิน ของขึ้น ยิ่งกว่าขึ้น ยกนิ้วชี้หน้าด้วยอาการสั่นๆ (โกรธจัดที่โดนจี้ใจดำ) กรอดดดดด "เธอ เพิ่ง พูด อะ ไร ออกมา" (รู้ตัวหรือเปล่า) เอจองก็ยกนิ้วชี้หน้าตอบเช่นกัน

"You are the king of โหลยโท่ย! very much dirty junk"
ยื่นหน้าถาม "ไม่เข้าใจล่ะสิ ใช่มั้ย ใช่มั้ย"



ฮา ฮา ฮา มันเป็นอีกตอนหนึ่งที่ขำมากจริงๆ ต๊กกูจินถึงกับหดนิ้ว รวบเป็นกำปั้น เขาไม่ใช่แค่ง้างแขนเหวี่ยงกำปั้นค้างออกมาแต่เดินรี่เข้าหาแล้วด้วย ต๊กกูจินอาจจะแค่ขู่ให้กลัวแต่กริยาอย่างนั้นก็ทำให้เอจองตกใจ ดีที่มีคนเดินผ่านมาในลานจอดรถเสียก่อน ต๊กกูจินจึงต้องเปลี่ยนมือไม้และสีหน้าท่าทางให้ดูสุภาพ สร้างภาพพระเอกสุดหล่อผู้ยิ้มแย้มและนิสัยดี (ทันทีทันใด)

สองคนแสดงอาการปรองดองกันต่อหน้าคนผ่านไปมาแล้วเอจองก็ถือโอกาส 'ชิ่ง' ในยามที่ต๊กกูจินกำลังโบกไม้โบกมือทักทายผู้คนที่ชื่นชอบเขา แม้จะกัดฟันกรอดๆ ส่งเสียงคำรามอยู่ในคอห้ามไม่ให้เอจองไป แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว ด้วยความโกรธที่ทะลุขีดเกินระงับ เมื่อลับสายตาจากคนอื่นต๊กกูจินก็ปราดขึ้นรถเร่งเครื่องขับตามติดกูเอจองไปในระยะประชิด แต่ตรงทางออกแผงกั้นเลื่อนลงมาเพื่อให้เจ้าหน้าที่รับบัตรผ่าน ต๊กกูจินไม่ทันระวังรถของเขาจึงชนท้ายรถของเอจองอย่างแรง





เป็นข่าวพาดหน้าหนึ่ง

"ต๊กกูจินเข้าโรงพยาบาลเพราะอุบัติเหตุ"
"ต๊กกูจินบาดเจ็บสาหัส ใครคือผู้รับผิดชอบ ?"


สัมภาษณ์ผู้อยู่ในเหตุการณ์

"รถคันหน้าอยู่ๆ ก็เบรก รถต๊กกูจินก็เลยชนเข้าอย่างจังเลย"
"ใครคือคนที่ทำให้ต๊กกูจินประสบอุบัติเหตุ?"


วันต่อมา

"ต๊กกูจินไม่สามารถเล่นหนังฮอลลีวู้ดได้เนื่องจากบาดเจ็บ"

คนหนึ่งมีทางออกสวยงามกับปัญหาคาอกที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก เพราะเขาไม่ได้เจ็บอะไรขนาดนั้นก็แค่เลือดกำเดาไหล แต่ถือโอกาสนี้ว่าเป็นโชคช่วย สำออยแม่งมันซะเลย .. (พระเอกของช้าน ทำไมคุณถึงได้แมนขนาดนี้ ตัวเองขับไปชนเค้าแท้ๆ ) ส่วนอีกคนก็สุดซวย ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดเลยแต่มันเป็นยิ่งกว่าเคราะห์หามยามร้ายที่ได้เอาตัวเองไปข้องแวะกับดาราดังไร้ความเป็นสุภาพบุรุษอย่างต๊กกูจิน

นักข่าวรุมเร้ากูเอจอง

"คุณรู้สึกผิดไหมที่ต๊กกูจินไม่สามารถไปเล่นหนังฮอลลีวู้ดได้"
"แอนตี้แฟนของคุณมีมากขึ้น มีอะไรจะพูดถึงเรื่องนี้มั้ยครับ"


พาดหัวข่าว

"กูเอจอง แม่สาวจอมรั้งข้อเท้าแห่งชาติ"
(ดาราระดับชาติต๊กกูจินไม่ได้ไปฮอลลีวู้ดเพราะกูเอจองฉุดรั้งไว้ )

กูเอจองที่ตกอับอยู่แล้วจนไม่รู้จะตกไปไหนได้อีกต้องถูกประชาชนชาวเกาหลีตราหน้า ด่ายับว่าเป็นอิสาวจอมรั้งข้อเท้าแห่งชาติ ไม่มีใครสนใจความจริงที่ว่า มันก็แค่การชนท้ายที่ลานจอดรถ แล้วต๊กกูจินขาหักได้อย่างไร ไม่มีใครคำนึงถึงเรื่องจริงอย่างมีเหตุผลที่ว่า ต๊กกูจินเป็นคนขับรถชนท้ายเธอ และบริษัทประกันก็สรุปแล้วว่าเป็นความผิดของต๊กกูจิน แต่สื่อเสนอข่าว ประชาชนชาวเน็ตก็ยังโทษว่าเป็นความผิดของเอจอง แม้แต่ในวันสำคัญที่ปาร์คแทวอนตัวแทนทีมชาติเข้าแข่งรอบตัดเชือกว่ายน้ำ 400 เมตร ชิงแชมป์เอเชียนเกมส์ ผลการค้นหาในอินเทอร์เน็ตก็ยังคงเป็นเรื่องราวของ "แม่สาวจอมรั้งข้อเท้าแห่งชาติ" ขึ้นชาร์ตอันดับหนึ่ง

ส่วนต๊กกูจิน ในวันที่คนเกาหลีทั้งชาติให้ความสนใจกับการถ่ายทอดสดการแข่งขันชิงเหรียญทองว่ายน้ำเอเชี่ยนเกมส์ของปาร์คแทวอน สิ่งที่เขาห่วงคือ
"ถ้าปาร์คแทวอนชนะได้เหรียญทองวันนี้ เวลาการโฆษณาของฉันก็จะถูกปาร์คแทวอนแย่งไปใช่ไหม"

"ผมเดาว่าคงเป็นอย่างนั้น" คิมแจซอก ผู้จัดการส่วนตัวที่เป็นหนุ่มรุ่นน้องตอบ
"ถ้างั้น เขาก็ไม่ควรจะได้เหรียญทอง" ( ค่ะ ... นิสัยนะ แมนจริงๆ )

"แต่ พี่ครับ ลูกพี่ครับ แน่นอนว่าพี่ต้องเชียร์เรื่องการแพร่ภาพโฆษณาของพี่ แต่ผมจะเชียร์ปาร์คแทวอนให้ได้เหรียญทอง สู้ๆ" (ถึงผมจะเป็นผู้จัดการส่วนตัวของพี่ แต่ผมเป็นคนเกาหลีนะครับ)

ต๊กกูกินแกล้งขาหักนอนแช่อยู่ในโรงพยาบาลเพื่อใช้เป็นข้ออ้างว่าไม่สามารถร่วมแสดงหนังฮอลลีวู้ดได้อีกต่อไป และหลังจากเห็นข่าวร้ายๆ โจมตีแม่สาวจอมรั้งข้อเท้าแห่งชาติ ก็มีความสำนึกเห็นใจ(นิดหน่อย) เพื่อจะช่วยพยุงสถานการณ์ของกูเอจอง(สักเล็กน้อย) ต๊กกูจินจึงยอมถ่ายรูปคู่กับเอจองเพื่อสร้างข่าวที่เธอมาเยี่ยมเขาที่โรงพยาบาลและต๊กกูจินได้ยอมรับคำขอโทษอย่างจริงใจของกูเอจอง แต่ทันที่ที่อนุญาตให้เธอแถลงข่าว ทางปีเตอร์ เจสันแจ้งมาว่า เขาอยากร่วมงานกับต๊กกูจินและตกลงใจที่จะเลือกต๊กกูจินมาแสดงในหนังของเขา น่าเสียดายที่ต๊กกูจินขาหัก น่าเสียดายมากๆ ที่ปีเตอร์ เจสันต้องพลาดโอกาสในการร่วมงานกับนักแสดงคนสำคัญของเกาหลีคนนี้

ข่าวนี้ทำให้ต๊กกูจินลืมสนิทว่าขาหัก แต่วิ่งตามหาเอจองทั่วโรงพยาบาล หวังว่าจะไล่กวดได้ทัน เพื่อยับยั้งการแถลงข่าว แต่ ... อย่างที่รู้กัน มันผิดจังหวะอีกแล้ว ฮา ฮา ฮา คนมันจะชวดหนังฮอลลีวู้ด ช่วยไม่ได้


....................... ...........................

ทั้งหมดที่เล่ามานั้นเป็นเพียงจุดเริ่มต้นบนเส้นทางความรักของต๊กกูจินและกูเอจองในช่วงตอนสองตอนแรกเท่านั้น นักแสดงหนุ่มสุดดังระดับทอปสตาร์ กับอดีตเกิร์ลกรุ๊ปที่ผ่านช่วงขาลงมายาวนานและจมดิ่งอยู่ในภาวะตกอับ ถ้าจะรักกันก็เป็นรักต่างชนชั้นดีๆ นี่เอง เพียงแต่ว่ามันไม่ระทมขมขื่นเท่าไรนัก อาจจะมีบ้างที่น่าสงสาร แต่ที่มีอยู่มิได้ขาดคือความฮา

ต๊กกูจินที่ไม่ยอมรับหัวใจตัวเอง เขาเป็นใครกันล่ะ เขาคือต๊กกูจินนะ! (ผู้ยิ่งใหญ่แห่งวงการบังเทิง) หากหัวใจมันจะเต้นรัวผิดปกติ ต๊กกูจินก็ไม่มีวันเชื่อตัวเองเด็ดขาด แต่เชื่อว่าสาเหตุคือ เครื่องวัดหัวใจมันทำงานผิดปกติ

ต๊กกูจินเคยผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจและใช้หัวใจเทียม ที่ข้อมือของเขาจึงต้องสวมเครื่องวัดระดับการเต้นของหัวใจอยู่เสมอ เพราะเครื่องวัดหัวใจมันทำงานผิดปกติ หรือไม่ก็เพราะภาวะการทำงานของหัวใจเทียมมันมีอะไรผิดปกติ (แหม ก็คิดไปได้นะ) ต๊กกูจินจึงต้องพบแพทย์ประจำตัว ถึงแม้ว่ามันไม่ใช่เพราะหัวใจเทียม แต่เป็นความรู้สึก ยิ่งเจอก็ยิ่งมีแต่เรื่องวุ่นวาย สับสน อลหม่านเพราะความซวยอันน่าปวดหัวและปวดใจ แต่ยิ่งนับวันก็ยิ่งอยากพบอยากเห็นหน้า

มันเป็นเรื่องยากเย็นที่จะยอมรับได้ว่า เขา.. เขาคือต๊กกูจินนะ! ทำไมคนอย่างเขาจะต้องไปหลงรักกูเอจองยัยผู้หญิงซื่อบื้อที่ไม่รู้ไปทำบาปอะไรมาจึงมักโดนความซวยไล่บี้ให้ตกไปอยู่ในสถานการณ์ผิดที่ผิดเวลาจนไม่ได้ว่างเว้นจากการตกเป็นข่าวอื้อฉาว

และเพราะเขาคือต๊กกูจิน สำหรับเธอ กูเอจอง นั่นก็เป็นเรื่องยากเย็นที่จะเชื่อว่าผู้ชายที่มั่นใจในตัวเองสูงลิบ ภูมิใจในตัวเองสูงลิ่ว หยิ่งยโสและหลงตัวเองหาใครเทียบเทียบได้คนนั้น จะมาชอบเธอ สำหรับกูเอจองก็ทำได้แต่หัวเราะขื่นๆ ฮาฮา ขำตายล่ะ นี่มันไม่เห็นตลกเลยสักนิดเดียว

แต่เมื่อมันเป็นโชคชะตาแห่งรัก ในท่ามกลางความปั่นป่วนต๊กกูจินและกูเอจองก็หาความรู้สึกของกันและกันจนเจอนั่นแหละ

แม้ว่า

ต๊กกูจินจะคาดหวัง ความโด่งดังของเขาจะฉุดดึงกูเอจองขึ้นมาจากที่ต่ำ

แม้ว่า

กูเอจองจะหวาดกลัว ความตกต่ำของเธอจะฉุดรั้งต๊กกูจินร่วงต่ำลงมาด้วย

หรือต่อให้ครึ่งๆ เมื่อเขาฉุดเธอสูงขึ้นและเธอดึงเขาต่ำลงมาอยู่ด้วยกันในระดับกลางๆ แล้วถ้าเป็นอย่างนั้นคนอย่างต๊กกูจินจะรับได้หรือ เขาไม่เคยเป็นที่ 'ไม่ชื่นชอบ' มาก่อน เขาไม่เคยถูกแฟนๆ ตำหนิติติง หรือด่าทอเหมือนที่เธอชินเสียแล้วกับการเป็นดาราที่โดนคนรุมด่าทั้งประเทศ หากต๊กกูจินต้องมาผจญกับเรื่องเหล่านี้แม้เพียงน้อยนิด เขาจะรับได้หรือ

แน่ล่ะ มันไม่ง่ายหรอก เขาคือใครล่ะ ?

ดิ๊งด่องงงง!

ใช่แล้ว เขาคือต๊กกูจินนะ!

แม้ว่ายังไม่รู้วิธีแก้ปัญหา แต่ต๊กกูจินก็รู้ว่า เขาจะไม่มีวันปล่อยเธอไป
และเพราะว่ากูเอจองรู้วิธีที่ควรใช้แก้ปัญหา เธอจึงไม่ยินยอมรับเขาเข้ามา เพื่อให้เขาต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ตกต่ำลง

นั่นคือ อุปสรรค ของชีวิตรักดาราที่มีฐานะในวงการต่างกันสุดขั้ว

ก็มีแต่เก๊ก ก็มีแต่ฟอร์ม ไม่เชื้อออ ไม่เชื่อ ว่าคนอย่างข้า "ต๊กกูจิน" จะไปตกหลุมรักยัยดาราปลายแถวอย่าง กูเอจอง นั่นแหละ กว่าจะยอมรับตัวเองได้ กูเอจองก็มีชายหนุ่มรูปงาม น้ำใจดี และมีทุกอย่างเพียบพร้อมมารอจับจองหัวใจเข้าให้แล้ว



ยุนพิลจู ( ยุนคเยซัง Yoon Kye Sang พระเอก Crezy for you) ชายหนุ่มผู้เพียบพร้อม หน้าตาดี ฐานะดี มีการศึกษาเป็นถึงนายแพทย์และยังเป็นทายาทเจ้าของโรงพยาบาลอีกด้วย ( ผู้ชายเกาหลีในละครส่วนใหญ่มักจะเพอร์เฟ็คต์หาที่ติไม่ได้แบบนี้แหละ) ยุนพิลจูเคยพบกูเอจองด้วยความเข้าใจผิดบางอย่างโดยบังเอิญ แต่ความเอ๋อเหรอของเธอก็จับใจเขา เกิดเป็นความชอบพอ ยุนพิลจูที่ไม่สนใจวงการบันเทิง เคยได้รับการทาบทามให้เข้าร่วมรายการโทรทัศน์รายการหนึ่งและเขาปฏิเสธไปตั้งแต่แรก แต่พอรู้หนึ่งในผู้ร่วมรายการคือดาราสาวกูเอจอง ยุนพิลจูจึงเปลี่ยนใจ ในรายการโทรทัศน์รายการนี้ ยุนพิลจูจะเป็นหนุ่มเพอร์เฟ็คต์นอกวงการที่มาเลือกคู่จากสาวคนดังที่เป็นดารานักแสดง ในสายตาสาวๆ แม้ยุนพิลจูจะไม่ใช่นักแสดงมีชื่อเสียง แต่คอนเซ็ปต์รายการก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นหนุ่มผู้เพอร์เฟ็คต์ผู้เลิศเลอ ดาราสาวสวยแต่ละคนย่อมอยากจะเป็นผู้ถูกเลือก แต่ไม่ว่ากี่รอบๆ ยัยกูเอจองดาราปลายแถวก็ยังได้รับเลือกและยังคงอยู่ในรายการอย่างทนทายาท

ต๊กกูจินแม้ไม่อยากให้กูเอจองถูกคัดออกจากรายการเร็วไปนัก แต่ยิ่งเธอเข้ารอบลึกๆ ไปพร้อมๆ กับความชอบพอจากยุนพิลจูที่ไม่คิดปิดบังความรู้สึกมันก็กวนหัวใจชวนหงุดหงิดพิลึก

อ๊ากกก ไม่ได้แล้ว อย่างนี้ต้องหาตัวช่วย


ติ๊งต่องงงงง!




ใช่แล้ว เขาคือ "นายติ๊งต่อง" ของต๊กกูจิน หรือชื่อจริงๆ คือ กูฮยองคยู (Yang Han Yeol ) หลานชายของกูเอจอง (ลูกพี่ชาย) เข้าทางไหนไม่ได้ ก็เข้าทางเด็กน้อยผู้ชื่นชอบดารารุ่นลุงคนนี้แหละ ทำเป็นตีซี้แจกลายเซ็นต์เพื่อนๆ ของฮยองคยู เอาใจหลานเข้าไว้เป็นพวก แล้วต่อไปในอนาคตคุณน้าจะไปไหนเสียล่ะ ติ๊งต่องจึงเป็นทั้งสปายสายลับและเป็นผู้ช่วยอันดับหนึ่งในการเอาชนะใจกูเอจอง

เด็กชายคนนี้น่ารักมากๆ เลยค่ะ ยิ่งเข้าฉากกับต๊กกูจินยิ่งน่ารักมากมายทั้งลุงทั้งหลาน ได้คอกันจริงๆ



แต่เมื่อมันเป็นรักต่างชนชั้น เรื่องวุ่นๆ มันไม่วุ่นอยู่แค่นี้หรอก นอกจากนายแพทย์หนุ่มหล่อรวยสุดเพอร์เฟ็คต์ที่เป็นคู่แข่งหัวใจแล้ว ยังมีดาราสาวระดับทอปสตาร์ของฟากฟ้าวงการบันเทิง ที่เป็นคู่รักโปรโมตของต๊กกูจินด้วยอีกคน ต๊กกูจินและคังเซรีตกลงเป็นแฟนกันเพื่อความดูดีและเพิ่มดีกรีความดังของทั้งคู่โดยที่สาธารณชนไม่รู้ความจริงข้อนี้ รับรู้แต่ว่า ต๊กกูจินและคังเซรีเป็นคู่รักที่น่าอิจฉาที่สุดของวงการ



คังเซรี ( Yoo In na ) เรื่องก่อนเพิ่งจะแสดงเป็นเพื่อนนางเอกในเรื่อง Secret Garden แป๊บๆ ก็ได้ขยับฐานะมารับบทนางรองผู้มีบทบาทสำคัญในฐานะคู่พระนางอีกคู่กับคุณหมอยุนพิลจู คังเซรีไม่ได้รักต๊กกูจินอย่างที่ผุ้หญิงทั่วประเทศอยากจะรัก มันก็แค่รักโปรโมตเพื่อความดังของตัวเอง แต่คนที่เซรีตกหลุมรักคือ คุณหมอยุนพิลจูที่มาร่วมรายการโทรทัศน์เดียวกันกับเธอ โดยทีคังเซรีไม่ได้ร่วมเล่นเกมเหมือนกูเอจอง แต่เธอยืนอยู่ในตำแหน่งผู้ดำเนินรายการ คังเซรีก็เป็นดาราระดับนางฟ้าเกาหลี แล้วไยหมอยุนพิลจูที่เธอสนใจ จึงมีสายตาไว้แค่มองเห็นแต่กูเอจองคนเดียวเท่านั้น มันเป็นความทรมานที่เขาไม่แล และที่แย่ยิ่งกว่าคือกูเอจองก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็น "ออนนี่" (พี่สาว) ที่เคยร่วมวงเกิร์ลกรุ๊ปเดียวกันนั่นเอง แต่โชคชะตาพาซวยที่พลิกผัน คังเซรีคนที่ดังน้อยที่สุดในวงกลายเป็นท้อปสตาร์ในปัจจุบัน ส่วนกูเอจองที่เคยดังที่มากสุดในวง กลับตกต่ำลงอย่างน่าอนาถ และเหตุการณ์ครั้งนั้นก็เกี่ยวข้องกับคังเซรีโดยตรง ความจริงที่ไม่มีใครรู้ แม้แต่คังเซรีก็ไม่รู้ว่าว่าสิ่งที่ตัวเองเคยทำผิดพลาด มีผลกระทบให้ใครต่อใครต้องเดือดร้อนอย่างไรบ้าง และสุดท้าย Treasure Girls ต้องยุบวง




เจนนี่
( Lee Hee Jin ) เรื่องก่อน It's ok daddy's girl เธอยังรับบทพี่สาวผู้เข้มแข็ง เงียบขรึม สาวนิ่งสงบเรียบร้อย คอยแบกรับภาระพ่อที่ป่วยไว้บ่นบ่าในฐานะลูกสาวคนโต นั่นยังเป็นบทดราม่าน้ำตาหนักอยู่เลย เรื่องนี้กลายเป็นเจนนี่ผู้ขี้เล่น เป็นเพื่อน เป็นพี่ ที่อยู่เคียงข้างกูเอจองเสมอ เปลี่ยนบทบาทมาแสดงความร่าเริงหูตาแพรวพราว และชวนขำเล็กๆ อย่างบทของเจนนี่ก็น่ารักไปอีกแบบค่ะ



กูเอวาน ( Jung Joon Ha ) จางจุนฮารับบทพี่ชายของกูเอจอง (พ่อของ ด.ช.ติ๊งต่อง กูฮยองคยู) และเป็นผู้จัดการส่วนตัวของกูเอจองด้วย สรุปคือกูเอจองต้องหาเลี้ยงคนทั้งบ้าน และเมื่อเธอไม่ได้เป็นดาราดัง จึงไม่ได้มีฐานะดีอย่างที่ดาราควรจะเป็น คนมักจะดูถูกพี่ชาย ดูถูกพ่อของเธอ ว่าเกาะน้องสาว เกาะลูกสาวกิน แต่กูเอจองไม่เคยเห็นครอบครัวเป็นภาระ และพี่ชายของเธอก็ไม่ได้นั่งแบมือขอเงิน แต่การที่เขาเป็นผู้จัดการส่วนตัวให้เธอคอยดูแลทุกอย่างนั้นก็ถือเป็นการทำงานอย่างหนึ่ง กูเอวานห่วงใยเอจองเสมอ แต่เขาเป็นลักษณะของผู้ตามที่เชื่อฟัง มากกว่าจะเป็นผู้นำที่ออกคำสั่งกับน้องสาวได้




คิมแจซอก
( Im Ji Kyu ) ผู้จัดการส่วนตัวของต๊กกูจิน น่ารักดีค่ะ บทก็น่ารักด้วย เพราะอ่อนกว่า ต๊กกูจินจึงเป็น "ฮยอง" (พี่ชาย) และไม่ต้องสงสัยเลยว่าตัวเล็กๆ บางๆ อย่างคิมแจซอกจะหนีจากการเป็นลูกไล่ของต๊กกูจินฮยองไปไหนพ้น



ตัวแทนมุน ( Choi Hwa Jung ) ผู้จัดการบริษัทที่ดูแลนักแสดงในสังกัด โดยตัวทำรายได้หลักของบริษัทก็คือ ต๊กกูจิน ต่อมาเธอรับกูเอจองเข้ามาอยู่ภายใต้การดูแลด้วย ถึงจะเข้าใจความรู้สึกของดาราในสังกัดทั้งสองคนแต่ในสายตาของนักบริหารจัดการ ที่เธอถือว่าตัวเองเป็น "นักสร้างภาพมืออาชีพ" เรื่องของต๊กกูจินและกูเอจองในสายตาของเธอจึงเป็นเรื่อง รักต้องห้าม และเธอไม่มีวันยอมให้เกิดขึ้นได้ แม้จะเห็นใจทั้งคู่ แต่หน้าที่ของเธอคือจัดการให้กูเอจองมีงานทำต่อไป และขัดขวางไม่ให้ต๊กกูจินต้องตกต่ำลงมากับการมีชื่อไปข้องเกี่ยวในฐานะ ผู้ชายของกูเอจองผู้อื้อฉาว



ผอ.จาง ( Jung Man Shik ) อดีตผู้จัดการวง Treasure Grils และผลจากการยุบวงทำให้ ผอ.จางเกลียดกูเอจองที่ได้ชื่อว่าเป็นสาเหตุของการยุบวงเข้าไส้ กูเอจองที่เลวร้ายถึงขั้นตบหน้าคังเซรีต่อหน้าสื่อวันนั้นเมื่อสิบปีก่อน ทำให้วงต้องเสื่อมเสียและเกิดความแตกแยก ความโกรธความเกลียดกลายเป็นความอาฆาตและคอยขัดแข้งขัดขากูเอจองให้เธอต้องพลาดโอกาสในงานดีๆ และป้ายสีให้เธอเป็นที่ไม่ชอบใจของนักร้องรุ่นน้องที่เขาดูแลอยู่

และที่จะขาดเสียไม่ได้ เธอคนสำคัญคนนี้



ฮันมีนา ( กรี๊ดดด สาวน้อยเบซึลกิ เธอโตเป็นสาวเต็มตัวแล้ว ชอบมากเลยล่ะค่ะ เพราะเธอน่ารักมากๆ ยังจำภาพเธอเต้นสไตล์ B-boy ในรายการ x man ได้อยู่เลย) เธอเป็นอดีตสมาชิกร่วมวง Treasurer girls ด้วยเช่นกัน ตอนแรกเกือบจำไม่ได้ แต่ว่าหน้าคุ้นมาก แต่ก็นึกออกจนได้ว่าเธอคืออดีตคนโปรดในรายการ x man สาวน้อยเพียงคนเดียวที่หากได้ควงคู่กับ ยูโน ยุนโฮ แห่งดงบังชินกิ แล้วจะไม่ทำให้รู้สึกรมณ์เสียแต่รมณ์ดี ( 55 ถ้าเป็นคนนี้ ออนนี่อนุญาตเต็มที่ อยากให้รักกันจริงๆ ไปเลย) น่ารักมากๆ เลยล่ะค่ะ เสียดายที่มีบทบาทไม่มากนัก แม้เธอจะเป็นปมปัญหาของการยุบวง Treasurer girl ที่หลังจากยุบวงเธอก็เก็บตัวเงียบ และเลือนหายไปจากวงการ





เมื่อเราพูดถึงปม นี่ล่ะค่ะคือปมหนึ่งที่น่าสนใจของเรื่อง ทำไม Treasure Girl ถึงยุบวง ทำไมกูเอจองผู้โด่งดังถึงต้องกลายเป็นดาราขาดิ่งลงพสุธา เป็นปัญหาในอดีตที่ไม่ต่างจากปัญหาในปัจจุบัน คือ การอยู่ผิดที่ผิดเวลา และความใจดีที่คิดแต่จะปกป้องคนอื่นมากไป แต่สุดท้ายคนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดก็คือตัวเอง โดยที่ไม่มีใครสักคนคิดยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ มีนาหลบไปใช้ชีวิตนอกวงการเงียบๆ เพื่อหลบหนีปัญหา คังเซรีที่ฉวยโอกาสได้รับความสงสารและกลายเป็นดาราที่ขยับฐานะไปสู่แนวหน้า ส่วนกูเอจองต้องตากหน้ารับทุกอย่างที่ประเดประดังเข้ามา โดยที่ไม่สามารถพูดอะไรแก้ต่างให้ตัวเองได้ มีเพียงเจนนี่ที่เข็ดขยาดความน่ากลัวของวงการบันเทิงมาเปิดร้านอาหารเล็กๆ ที่คอยเป็นเพื่อนปลอบใจ คอยให้กำลังใจแก่กูเอจองที่ยังคงต้องอยู่ในวงการบันเทิงต่อไปเพื่อหาเลี้ยงปากเลี้ยงท้องทุกคนในครอบครัว

นักแสดงตัวประกอบเป็นตัวเพิ่มสีสันของเรื่องได้ไม่มากเท่าไหร่หรอกนะคะ สาเหตุก็เพราะคู่พระนางนั้นมีความโดดเด่นครองซีนไปหมดแล้ว โดยเฉพาะต๊กกูจินที่เป็นขวัญใจมหาชนแฟนละคร Greatest Love อย่างไร้คู่แข่ง ก็โอเวอร์อยู่คนเดียว จะไม่ให้เด่นเวอร์ได้อย่างไร สุดๆ เลยค่ะ เขาคนนี้ ไม่ใช่หล่อสุดๆ เท่ห์สุดๆ นะคะ แต่หลงตัวเองสุดๆ และฮาสุดๆ เลยล่ะค่ะ




เมื่อความรักเป็นความโรแมนติกคอมเมดี้ที่สุดฮา เรตติ้งจะไปไหนเสีย เป็นอีกหนึ่งงานที่น่าทึ่งของสองพี่น้องตระกูลฮอง หรือที่รู้จักกันอีกชื่อว่า ฮงสองพี่น้อง ( Hong Mi Ran, Hong Jung Eun) เขียนแต่ละเรื่อง ครองใจได้หมด ไม่ว่าจะเป็น My girl ซีรีย์เกาหลีที่ดูอย่างจริงจังเป็นเรื่องแรก และทำให้เสียความเป็นชาตินิยมละครไทย หันไปยินยอมมอบใจสวามิภักดิ์เป็นครั้งคราวให้แก่ละครเกาหลีนับแต่บัดนั้น You're beautiful สนุกขนาดไหน คนชอบกันมากอย่างไร ก็วัดได้จากบล็อกที่เขียนไปแล้วมีคนเมนท์รวมๆ กันแล้วเกือบร้อย My girl friend is a Gumiho เสียงตอบรับอาจไม่ถึงขั้น You're beautiful แต่สำหรับผู้เขียนแล้ว ถ้าให้ตัดสินความชอบเรียกว่ากินกันไม่ลง จนต้องยกชัยชนะให้ Gumiho ด้วยคะแนนสำหรับความคิดสร้างสรรค์ในการเขียนจินตนาการให้นางจิ้งจอกเก้าหางอยากกลายร่างเป็นมนุษย์เงื่อนไขต่างๆ นาๆ ที่ทำให้นางจิ้งจอกสิ้นไร้ความน่ากลัวแต่เต็มไปด้วยความบริสุทธิ์น่ารัก เรื่องนี้ทำให้ลีซึงกิที่ไม่หล่อดูหล่อขึ้นมาอย่างไร้เหตุผล ทำให้ ชินมินอาที่เคยไม่ชอบพอ กลายเป็นคนน่ารักจับใจได้อย่างเหลือเชื่อ แล้วก็มาเรื่องนี้ The Greatest Love บทของต๊กกูจิน และความน่ารักของเนื้อหาท่ให้เพื่อนผู้แอนตี้พระเอกแนวไม่หล่อ เพื่อนผู้ปฏิเสธจะยอมรับความแก่ของชาซึงวอนติดละครเรื่องนี้ได้อยู่หมัดได้เหมือนกัน มันเป็นเรื่องของบทบาทและการฝีมือการแสดงโดยแท้



งานของสองพี่น้องฮงเป็นอย่างไรก็อธิบายลักษณะไม่ถูกหรอกนะคะ รู้แต่ว่ามุขโรแมนติกแต่ละเรื่องออกจะพิศดารไม่เหมือนใคร ทำให้มีน้ำตาเพราะเศร้าซึ้งแต่ ขณะเดียวกันก็ทำให้พวกเรายิ้มได้ในคราวเดียวกัน เป็นเสน่ห์อย่างแรงที่จดจำชื่อผู้เขียนบทได้ทั้งที่นิสัยเสียเป็นประจำคือไม่ค่อยได้จดได้จำ ที่ค่อนข้างจะชอบอย่างมากคือการสื่อความผูกพันความรู้สึกต่อกันด้วยอะไรบางอย่างที่เป็นสิ่งของ อย่าง My girl เราจะเห็นลูกแก้วหิมะ Gumiho ก็จะมีเรื่องราวของนิทาน Little Mermaid และสิ่งสำคัญที่เกี่ยวพันชีวิตและจิตใจก็คือ ลูกปัดชีวิตของนางจิ้งจอกเก้าหาง หางที่หดหายไปทีละเส้นและชีวิตที่สั้นลงๆ สายฝนและหยาดน้ำตา เมื่อฝนตกในวันที่แดดออก นั่นคือนางจิ้งจอกกำลังร่ำไห้ ใน You're beautiful ก็มีกิ๊บติดผมของโกมีนัม ตุ๊กตากระต่ายน้อยที่ฮยองแทคยองจัดมาให้นางสาวโก มันเป็นสิ่งที่ออกมาจากใจเก๊กๆ ด้วยรักจากใจของคนขี้เก๊ก สำหรับ The greatest love จะเป็นอะไรอื่นไม่ได้เลย รองเท้ากีฬาสีม่วงที่สุดแห่งความเพียรพยายามของต๊กกูจินที่จะได้มันมาคืนให้ ลูกมันฝรั่งที่รอดพ้นจากการถูกแกงกินไปมุดใส่ดินไว้ในกระถาง เติบโต และรอวันออกดอก ดอกมันฝรั่งที่น้อยคนนักจะเคยเห็น ก็เหมือนความรักของคู่พระนางที่มันยากเย็นไม่ต่างจากการออกดอกของต้นมันฝรั่ง แต่หากมันได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างดี กูเอจองก็พบว่ามันฝรั่งนั้นสามารถออกดอกได้อุดมสมบูรณ์อยู่เต็มทุ่งและดอกของมันก็สวยงาม ส่วนมุขที่เริ่ดสุดในเรื่องต้องมุข "ชาร์ตพลัง" (อิอิ อยากมีที่ชาร์ตแบทอย่างนั้นสักเครื่องบ้าง)



ดีใจจังที่ลีซึงกิมารับเชิญเรื่องนี้ แม้จะชั่วครู่แป๊บๆ แต่ก็เล่นได้ฮาอย่างน่ารักมากเลยทีเดียว หวังว่าคงไม่ได้เล่นเป็นเบื้องหลังตัวจริงของตัวเองนะ เดี๋ยวฉายา "ลูกชายเกาหลี" ผู้แสนดีของแม่ๆ ทั่วประเทศจะเสียภาพพจน์ ในงานประกาศรางวัลภาพยนตร์มีภาพของวอนบิน กับนางฟ้าคิมแตฮีด้วยค่ะ แต่เหมือนสองภาพนี้คุ้นตาจังเลยค่ะ สงสัยว่าคงไม่ใช่ครั้งแรกที่โดนใช้ในละครที่เกี่ยวข้องกับฉากลักษณะนี้ ไม่แน่ใจว่าเคยเห็นในเรื่อง On-Air ด้วยหรือเปล่า




ความไม่หล่อมันไม่สำคัญอีกเลยสำหรับเรื่องนี้ เพราะบทบาทที่มีก็จะไม่ช่วยให้ชาซึงวอนดูหล่อไปมากกว่านี้ได้อีกแล้ว สิ่งที่ชาซึงวอนมีไว้ดึงดูดไม่ใช่ความหล่อ แต่เป็น 'สายตา' นักแสดงเจ้าบทบาทมันวัดกันตรงนี้แหละ และไม่ต้องบอกเลยว่าป๋าชาแกแสดงได้ดีขนาดไหน เหมือนกับว่าเราจะถูกตรึงสายตาไว้ที่อารมณ์ในดวงตาของนักแสดง แล้วใบหน้าโหดๆ ก็จะดูเลือนๆ ไป แล้วจิตใจของตัวละครที่หล่อก็จะเสริมความหล่อขึ้นมาเอง




สรุป(อีกที) เจ๊กงฮโยจินคนหน้าซื่อของเราก็ได้ดิบได้ดี เพราะได้รับบทบาทในเรื่องดีๆ ให้ได้แสดงฝีมือดีๆ โดยเฉพาะบทซึมๆ เศร้าๆ ล่ะก็ หวานหมูเธอเลย บวกกับที่ส่งกันอย่างแรงที่สุดในสายตาของผู้เขียนคือเธอได้พระเอกดีๆ มาครอบครอง ไม่สวยก็เลือกได้ ( แต่ในสายตาคนเกาหลีเธออาจจะสวยในสไตล์บ้านเขานะ) เก่งมากจ้าคุณเจ๊ วันหลังจะไม่ดูงานของเจ๊แล้วนะ ดูทีไรติดหนึบทุกที

อีกครั้ง ขอคารวะในฝีมือการเขียนบทละครแนวรักโรแมนติกของสองพี่น้องตระกูลฮง Hong Mi Ran, Hong Jung Eun ขอบคุณอย่างสูงที่เขียนบทละครน่ารักๆ ให้ได้ดูไป ยิ้มไป ขอบคุณผู้กำกับ คิมจินมาน และทีมงานทุกคนผู้มีส่วนสร้างสรรค์ผลงานที่ทำให้ได้หัวเราะ กับเรื่องน่ารักๆ และดูแล้วมีความสุข

Thank you very much !

สุดท้ายที่อยากจะกล่าวถึง ความเยี่ยมที่สุดของซีรีย์เรื่องนี้ ... คือมันสนุกสุดฮาได้ใจจริงๆ นะ ขอบอก! (เรื่องหน้าเจอกันอีกนะ พี่น้องฮง)

................................


















ขอบคุณข้อมูลจาก

//wiki.d-addicts.com/The_Greatest_Love
//www.series8-fc.com
Create Date :09 สิงหาคม 2554 Last Update :22 กุมภาพันธ์ 2558 8:54:41 น. Counter : Pageviews. Comments :10