bloggang.com mainmenu search



เห็นปกในร้านออนไลน์แล้วกิเลสพุ่งปรี๊ด  พอได้หนังสือเก่าเรื่องนี้มา (มี 2 เล่ม)  ปลาบปลื้มเสียมากมาย ตอนนี้การเสาะหาหนังสือเก่าที่เคยรักเคยชอบในสมัยเก่าก่อน ชักกลายเป็นเรื่องสนุกเสียแล้วค่ะ วันก่อนมี รากนครา ของคุณปิยะพร ศักดิ์เกษม ในปกรุ่นเก่า แต่ดันมีคนจองไปก่อนแล้ว และมันคงเป็นไปได้ยากสุดๆ ที่จะหลุดจอง ถึงตอนนี้ยังคงเสียดายไม่หาย อยากได้มาก

ค่าของคน สองเล่มเก่ากึกที่ได้มานี้ เพื่อนจับพลิกหน้ากระดาษ (อันบอบบาง) อย่างระมัดระวังแล้วถามว่า..

"ถ้าฉันอ่านตอนกลางคืนดึกๆ แกว่าจะมีวิญญาณออกมามั้ย"

อ่านจบแล้วตอบได้ ... ไม่มีผีออกมาหลอกหลอนเลยสักตัวนะเมื่อคืน

ค่าของคน เป็นบทประพันธ์ของ  โรสลาเลน หนึ่งในนามปากกาของ คุณหญิงวิมล ศิริไพบูลย์ เข้าใจเอาเองนะว่าถ้าเด็กรุ่นใหม่อ่านนิยายเรื่องนี้ในยุคสมัยนี้ คงจะรู้สึกว่าพลอตมันโบราณคร่ำครึเสียจริง ซึ่งอาจจะหมายรวมถึงคาแรคเตอร์ตัวละคร และวิถีการดำเนินชีวิตด้วย  แต่สำหรับคนที่โตมากับนิยายในยุคก่อน  การซึมซับตัวละครต่างๆ ในแบบนั้น บางทีก็เป็นปัญหากับการอ่านนิยายสมัยใหม่อยู่บ้างเหมือนกัน อย่างตัวเราเองเนี่ย จะรับตัวละครง้องแง้ง แว้แว้ด สวยเริ่ดเชิดหยิ่ง หรือ 'เกรียน' มากนักไม่ค่อยได้

รจเรข หรือ คุณกล้วย เป็นแบบฉบับของหญิงไทยใจงาม เป็น 'กุลสตรี' ในยุคที่ผู้หญิงเป็นช้างเท้าหลัง เป็นแม่ศรีบ้านแม่ศรีเรือนโดยแท้  แต่เราชอบนะ ความอ่อนโยนเยือกเย็นเป็นน้ำที่จะรินรดหัวใจไฟร้อนรนของ คุณลักษมณ์ ให้ชุ่มเย็นเป็นสุข 



"คุณซื้อ 'คน' ได้ค่ะ แต่คุณจะซื้อ 'วิญญาณ' เขาไม่ได้ 
คุณจำไว้ คุณซื้อได้แต่คน!  ถ้าผู้ใดซื้อวิญญาณใครไว้ได้ 
ร่างเขาจะไม่มีวันหนีไปไหน  แต่ถ้าได้ไว้แต่ร่าง 
วันหนึ่ง 'ร่าง' นั้น ก็จะเดินไปรวมกับวิญญาณที่เขาฝากไว้ที่ใดที่หนึ่งจนได้ 
คราวนั้นแหละ คุณจะรู้ว่า การซื้อนั้นไม่ให้ประโยชน์อะไรแก่คุณเลย” 

บทประพันธ์ของ โรสลาเรน เรื่อง "ค่าของคน" นี้ สำนักพิมพ์แรกได้ตีพิมพ์รวมเล่มตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๐๘ นับถึง วันนี้ก็ ๓๖ ปีเต็มๆ ที่เรื่องราวสะท้อนคุณค่าของชีวิต ความงามของความรัก และอานุภาพแห่งคุณธรรมความดี ได้ถูกถ่ายทอดบอกผ่าน “ลักษมณ์" และ "รจเรข” สองตัวละครเอกในเรื่อง   นี่คือนวนิยายที่ไม่ใช่เป็นเพียงนวนิยาย  นี่ไม่ใช่เพียงบทประพันธ์ชิ้นเอกที่ดำรงอยู่แค่ตัวอักษร หากยั่งยืนด้วยลำนำชีวิตแห่งตน ไม่ใช่เพียง "โรสลาเรน" เท่านั้น ผู้อ่านมากมายก็ใช้ชีวิตเป็นเดิมพัน…ดำรงอยู่ด้วยเช่นนั้น ชีวิตเฉกเช่นคนที่เชื่อมั่น… 

“คนนั้นมีศักดิ์  คนนั้นมีเกียรติ   คนนั้นมีค่า 
และค่าของคนรักศักดิ์ รักเกียรตินั้น ซื้อไม่ได้ด้วยอำนาจเงิน!” 

เงินตราไม่ใช่พระเจ้า พระเจ้าคือองค์ความรัก ความรักเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไม่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์นี้…ชีวิตก็ไม่อาจดำรงอยู่ได้  แม้เวลาจะเนิ่นนาน หลายชีวิตล่วงหล่นดุจใบไม้ร่วง หลายชีวิตรุ่งเรืองดุจไม้ยืนต้นที่ทะนงตน ขณะที่อีกหลายชีวิตก็ผลิบานดั่งดอกไม้งามที่กำลังแย้มกลีบอ่อนละมุนรับรุ่งอรุณ แม้มากมายจะสลายไป แต่อีกมายมายก็ยังดำรงอยู่ นั่นต้องรวมถึงบทประพันธ์ชิ้นนี้

"ค่าของคน" คือบทหนึ่งที่ชี้ให้เห็น…คือความคิดดุจกระจกเงาที่ส่องสะท้อน "ความจริงบางอย่าง"และความจริงนั้นยังคงอมตะเข้มข้นอยู่ในตัวคน…

'คน' ที่คงให้ค่าของเงินมากกว่าค่าของคน 
'คน' ที่ยังไม่ยอมวางมือจากความโลภ 
'คน' ที่ถืออำนาจเงินดั่งมหาอำนาจถือว่ามัน เป็นอำนาจสูงสุด! 

"คุณจะตีราคาความพอใจในการวางมือครั้งนี้เท่าใด?" 

ไม่ว่า 36 ปีที่ผ่านมาของถ้อยคำนี้ในนิยาย "ค่าของคน" หรือสองสามวันนี้ที่เพิ่งผ่านไป… "คุณจะตีราคาความพอใจในการวางมือครั้งนี้เท่าใด?"  ภาพลักษณ์นี้ยังคงดำรงอยู่ และไม่มีทีท่าว่าจะสูญสลายไปตามกาลเวลาเสียด้วย นิยาย…ไม่ได้เน่า แต่ "คน" นั่นแหละ นับวันจะเน่าลงไปทุกวัน! "เน่า" ทั้งๆ ที่ยังเป็นๆ อยู่นี่แหละ การรักษาคุณค่าของคน การต่อสู้ด้วยคุณธรรมความดีเป็นเดิมพันนั้น เป้าหมายแท้จริงไม่ได้อยู่ที่ชัยชนะเหนือใคร แต่ถือการดำรงไว้ซึ่งศักดิ์ และชัยชนะเหนือหัวใจตัวเองเป็นสำคัญ 

ค่าของความรัก…กว่าจะรักกันนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย 
ค่าของความรัก…กว่าจะพิสูจน์ได้ก็เลือดตาแทบกระเด็น 

และโรสลาเรนก็บอกผ่านผู้อ่านของเธอแล้วในเรื่องนี้ 
หากคุณเป็นผู้หนึ่งที่ยังไม่ได้อ่าน…คุณลองอ่านบทหนึ่งถึง 

 "คุณค่าของความเป็นคนคู่กัน"

"จงรักและภักดีให้พร้อมกัน ความรักจะทำให้เกลียวแห่งชีวิตมั่นคง และความภักดีจะทำให้คอยเกื้อหนุนจุนเจือกัน โบราณท่านเคยเปรียบไว้ว่า…ผู้หญิงเหมือนช้างเท้าหลัง ท่านไม่ได้หมายความว่าจะให้ผู้หญิงตามผู้ชายแต่ท่าเดียว แต่ท่านหมายความว่า ผู้หญิงนั้นจะเป็นหลักให้แก่ผู้ชาย ยามใดที่เท้าหน้าพลาดลงหล่ม เท้าหลังจะช่วยยึดไว้ไม่ให้ถลำลงไปมาก"

36 ปีแห่งนวนิยาย "ค่าของคน" งานชิ้นหนึ่งที่ดำรงอยู่ได้ยาวนานเพียงนี้งานชิ้นหนึ่งที่คงมีผู้คนตามหาอ่านไม่รู้สิ้นเพียงนี้คือบทพิสูจน์ถึงคุณค่าของงาน "ค่าของคน" บทประพันธ์อันเป็นเอกตลอดกาลของโรลสาเรน…

โรสลาเรน นานที่คุณรัก ไม่เคยลืม!



อารัมภบทข้างต้น นำมาจาก www.nabaanwannagum.com  ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นสำนวนของใคร เพราะคือความคุ้นเคยที่นึกนิยมเสมอ บรรณาธิการ รักชนก นามธอน .. แม้บางครั้งจะนึกโกรธกับคำผิดของหนังสือค่ายนี้  แต่ก็อดไม่ได้ถ้าเป็นหนังสือของคุณหญิงวิมล คนที่จะหยิบเอาแก่นเรื่องราวมาเขียนโปรยอารัมภบทแนะนำหนังสือได้ดีได้ถูกใจก็ต้องท่าน บก. นี่แหละ ถือเป็นพฤติกรรรมเกลียดตัวเกลียดไข่ ไม่ถูกใจการพิมพ์แต่รักนักเขียนกับบรรณาธิการ แล้วก็ถ้านับจริงๆ จาก ๒๕๐๘ ปัจจุบันนิยายเรื่องนี้มีอายุมากว่า ๔๙ ปีแล้ว 

ลักษมณ์  เป็นลูกชายคนโตของคุณหลวงนฤนาทไมตรีผู้เคยดำรงตำแหน่งท่านทูตประจำการในประเทศต่างๆ และกลับมารับราชการอยู่ในกระทรวงการต่างประเทศ ได้เลื่อนตำแหน่งจากคุณพระ มาเป็น พระยานฤนาทไมตรี ถือเป็นตระกูลขุนน้ำขุนนางที่มีเกียรติมีฐานะ  ด้วยเหตุนั้น ผู้หญิงที่จะมาเป็นภรรยาให้คู่ควรเสมอกันกับผู้ชายตระกูลนี้  ต้องผ่านสายตาผู้หลักผู้ใหญ่ที่เรียกกันว่าการคลุมถุงชน   "คุณหญิง"  นายแม่ของลักษมณ์ ก็ได้แต่งงานกับคุณหลวงด้วยเหตุนั้น  และให้กำเนิดลักษมณ์ในฐานะ ลูกชายบ้านใหญ่

มี "บ้านใหญ่"  นั่นหมายความต้องมี "บ้านเล็ก"  .. 

"คุณแข" คือคนรักเก่าของคุณหลวงที่ก้าวเข้ามาแทรกกลาง พร้อมกับการให้กำเนิดลูกชายอีกหนึ่งคน "พิมาน"  นายแม่อยู่บ้านใหญ่  คุณแขอยู่บ้านเล็ก บ้านที่เป็นครอบครัวของคุณพ่อ นั่นคือสิ่งที่เคยเป็นมาในอดีต

แต่ต่อมาเหลือกันอยู่เพียง สามคน - แม่ลูก คุณแข  กับพิมาน และ ลักษมณ์ 

คุณแขสำนึกในพระคุณคุณหญิงที่เมตตาเลี้ยงดู ยินยอมให้อยู่ในบ้านเล็กร่วมเขตรั้วสถานอย่างสงบสุข   จึงรับเอาคำสั่งเสียจะรักดูแล คุณลักษมณ์ ให้เหมือนลูกตัว แต่ถึงอย่างไร ความเกรงอกเกรงใจก็มีมากล้น เพราะเขาเป็นลูกของคุณหญิง  เป็นผู้จ่ายเงิน และดูแลทุกข์สุขของทุกชีวิตภายในบ้าน มีฐานะที่ป็นเหมือนกึ่งลูกกึ่งนาย   พิมานเอง แต่เล็กจนโต ก็ติดพี่ชายแจ  ลักษมณ์ไม่ได้รังเกียจคุณแขให้ความอ่อนโยน ให้ความเคารพ และที่สำคัญเขารักและดูแลน้องชายเป็นอย่างดี แต่ในความสัมพันธ์อันราบรื่น ไม่มีปัญหาใดนั้น ใครเลยจะหยั่งลึกถึงหัวใจของลักษมณ์ที่เติบโตมาจากความรักอันชืดชา 

ความเหงาเศร้า ความเปล่าเปลี่ยวเดียวดายของนายแม่ ในบ้านหลังใหญ่ 
ความระหกระเหินที่เขาต้องถูกส่งตัวไปเล่าเรียนอยู่ลำพังในต่างประเทศ
นายแม่ของเขาไม่เคยมีความสุข เช่นเดียวกับที่ลักษมณ์เอง
ไม่เคยได้รับความรักความอบอุ่นจากคำว่า "ครอบครัว" อย่างที่ควรเป็น

เมื่อคุณแข .. อยากให้ลูกชายเจริญรอยตามผู้เป็นพ่อ รับราชการเป็นเกียรติเป็นศรีแก่วงศ์ตระกูล และพิมานเองก็ดูจะฝักใฝ่ในทางนั้น  ลักษมณ์จึงมุ่งไปทางฝ่ายแม่ที่มีรากฐานมาจากการเป็นตระกูลค้าขายจนร่ำรวย ลูกสาวจึงมีโอกาสเข้าวังมีหน้ามีตา  จนได้รับการทาบทามไปเป็นศรีสะใภ้ของตระกูลขุนนาง 'นฤนาทไมตรี' ด้วยความมี 'เกียรติ' นั้นควรคู่กับการมี 'ฐานะ' คอยส่งเสริม

เมื่อ พิมาน มุ่งเดินตามรอยเท้าพ่อด้วยการรับราชการในกระทรวงการต่างประเทศให้คุณแขปลาบปลื้มใจ  ลักษมณ์ ยินดีจะเป็นเพียงพ่อค้า อาชีพค้าขายทำกินที่ไร้เกียรติ  แต่ว่าผลของอาชีพนั้นคือความร่ำรวยล้นเหลือ  อยากทำอะไรก็ทำ อยากได้อะไรก็ได้  ซื้อหาได้ทุกอย่าง ไม่เว้นแม้กระทั่งผู้หญิงมากหน้าหลายตา  ชีวิตมันก็ง่ายๆ แค่นั้น ทุกอย่างซื้อได้ด้วยเงิน

เมื่อ คุณแข ไม่ปลื้มผู้หญิงคนนั้น  คนที่พิมานรัก เพราะเป็นนางละครเต้นกินรำกิน ไม่ดี ไม่เหมาะสมกัน ลักษมณ์ก็  "ซื้อ" พาเธอมาร่วมชายคา เพื่อพิสูจน์ให้น้องชายได้รู้ว่าผู้หญิงซื้อได้ และคุณแขจะได้เห็น คนไม่มีเกียรติก็เป็นคุณผู้หญิงได้ เป็น "คุณผู้หญิงเรือนใหญ่"  เหนือสะใภ้ดีพร้อมที่เธอทาบทามเอาไว้ให้กับลูกชายของตัวเอง   ผู้หญิงที่ไม่คู่ควรกับตำแหน่งนักการทูตของพิมานคนนั้น จะได้เป็นเมียของพ่อค้าที่ร่ำรวยและเป็นคุณผู้หญิงของตระกูลนฤนาทไมตรี ..  ถ้าเพียงแต่ลักษมณ์พอใจจะให้เป็น ไม่มีเรื่องของเกียรติยศ ฐานะ ตระกูลอะไรมาเกี่ยวข้องทั้งสิ้น ทุกสิ่งขึ้นอยู่กับนายลักษมณ์เท่านั้น

เช่นเดียวกับเด็กหญิงมาร์กี้ ลูกครึ่งไทยฝรั่ง ถ้าพิมานห่วงเกียรติยศที่ค้ำคอมากเสียจนไม่กล้าพอจะรับผิดชอบลูกของตนที่ไข่ทิ้งไว้ ไม่กล้าจะลิขิตสิ่งใดให้ชีวิตตัวเอง  ถ้าเช่นนั้นจะไม่มีใครได้รู้ .. มาร์กี้จะเป็นลูกของเขาเอง (รักพระเอกเพราะเรื่องนี้เลย)  จะแปลกอะไรที่นายลักษมณ์ผู้เหลวแหลกจะมีเมียเป็นนางละคร มีลูกสาวผมสีอ่อนตาสีฟ้า พูดภาษาไทยไม่ชัด  แค่เพียงนายลักษมณ์พึงพอใจจะมี อะไรอื่นจะสำคัญ?

มันคือความขมขื่น คือปมในใจที่แฝงรอยหยามหยัน ชิงชัง 
แต่ในความสัมพันธ์อันดีที่มีต่อกัน แม่เลี้ยง และน้องชาย มีหรือจะเข้าใจ 

โถ...คุณลักษมณ์ของเรา ทำประชดชีวิตตัวเองทั้งนั้น.. ทำตัวเอง เจ็บที่ตัวเองแท้ๆ  



รจเรข เป็นนางละคร  และความจำเป็นบางอย่างทำให้เธอทำการตกลง 'ซื้อขาย' แลกกับเงินก้อนหนึ่งและใบทะเบียนสมรสหนึ่งใบจากพ่อค้าหน้าเลือดคนนั้น พี่ชายของพิมาน 

และเพราะเธอคือกุลสตรี คือผู้หญิงสมัยก่อนที่ให้ความเคารพนบนอบสามี ความหยิ่งทะนงของเธอจึงไม่ใช่ความปากกล้า เย็นชา อวดดี และโต้ตอบด้วยความเกรียน เหมือนอย่างที่เราจะพบบ่อยๆ ในนิยายแนวเชือดเฉือนและตบจูบ แต่ "คุณกล้วย" ของเรา เธอคือความอ่อนหวาน อ่อนโยน และก้มหน้าก้มตาปฏิบัติหน้าที่ของเธออย่างครบถ้วนคุ้มค่าเงิน นั่นคือการเอาใจใส่ดูแลทุกเรื่องราว ทุกสิ่งที่มอบให้คือความผาสุก ที่ทำให้ลักษมณ์เพิ่งรู้สึกถึงความหมายของคำว่า "บ้าน"  บ้านที่อบอุ่นมีความสุข บ้านที่เขาจะกลับมาเพื่อพักพิง

แต่... (มันต้องมีแต่สินะ) คนที่เติบมาอย่างห่างไกลความรักความอบอุ่น ตลอดชีวิตที่ผ่านมาทั้งในช่วงศึกษาอยู่ในต่างประเทศหรือทำงานการค้าขาย พึ่งพาตัวเอง เขาลองผิดลองถูก ผ่านด้านดี ด้านเหลวแหลก  ทั้งสำมะเลเทเมาหมกมุ่นอยู่กับความหลงระเริงหาความสุขใส่ตัวอย่างไม่มีขอบเขตเท่าที่เงินจะอำนวยให้  สมบุกสมบันกับชีวิตมาอย่างโชกโชน ความหมายของชีวิตสำหรับลักษมณ์มีเพียงแค่สนุกไปวันๆ โดยไม่คำนึงถึงอะไรทั้งสิ้น ดังนั้น ..

การเชื่อว่าตัวเองจะรักใครเป็นเรื่องยาก  และเรื่องที่ยากกว่า คือการเชื่อว่าจะมีใครรักตัวเอง

ลักษมณ์เป็นคนแบบนั้น และมันได้ทำลายทุกอย่าง 
ความสุขของคนที่รัก และแม้กระทั่ง..ความสุขของตัวเอง 

ผู้หญิงคนนั้นได้สอน "บทเรียน" ชีวิตให้แก่เขา 
มีบางสิ่งที่เงินซื้อไม่ได้ ค่าของความเป็นคน ค่าของหัวใจเธอ
ถ้าเขาอยากได้เพื่อน อยากได้ที่พักพิงทางใจ อยากได้ "บ้าน" และ  "ความรัก" 
ถ้านั่นคือจุดมุ่งหมายในชีวิตที่เขาอยากได้ เขาต้องซื้อ..ด้วยหัวใจรักภักดีทั้งหมด





Create Date :05 พฤษภาคม 2557 Last Update :5 พฤษภาคม 2557 19:04:46 น. Counter : 6340 Pageviews. Comments :11