เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

กทพ. เตรียมเดินหน้าสร้างโครงข่ายทางด่วน 11 โครงการ ช่วยแก้ปัญหา และอำนวยความสะดวกช่วงน้ำท่วม

วาน นี้ (29 พฤศจิกายน) นายอัยยณัฐ ถินอภัย ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยว่า เตรียมนำแผนแม่บททางพิเศษ 11 โครงการมาทบทวนใหม่ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน โดยจะจัดลำดับความสำคัญของเส้นทางให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อแก้ไขปัญหาจราจร และรองรับปัญหาต่าง ๆ ได้ในอนาคต และไม่กระทบสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ยังจะต้องช่วยการคมนาคมในช่วงน้ำท่วม เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนอีกด้วย

ทั้งนี้เบื้องต้นจะเน้นเส้นทางเชื่อมจากกรุงเทพกับภูมิภาคทั้ง 4 ทิศ เช่น แนวเหนือ - ใต้ จะต่อขยายเส้นทางจากทางด่วนดาวคะนอง ออกไปยังสมุทสาคร - วังมะนาว ส่วนทางตะวันออก - ตะวันตก จะเร่งผลักดันโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ ตอนเอ็น 2 (สี่แยกเกษตรศาสตร์-นวมินทร์ ระยะทาง 9.2 กิโลเมตร) และตอนเอ็น 3 (จากถนนนวมินทร์ ตัดผ่านถนนเสรีไทย และรามคำแหง) สิ้นสุดที่ถนนกรุงเทพฯ ชลบุรีสายใหม่ ระยะทาง 13.9 กิโลเมตร และคาดว่าในเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้ จะมีการเซ็นสัญญาว่าจ้างบริษัทเพื่อศึกษาและออกแบบ โดยใช้ระยะเวลา 6 เดือน ใช้งบประมาณรวม 19,188 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินลงทุนก่อสร้าง 13,700 ล้านบาท ค่าเวนคืนที่ดิน 5,000 ล้านบาท ค่าออกแบบ 144 ล้านบาท และค่าควบคุมงานก่อสร้างอีก 344 ล้านบาท

นายอัยยณัฐ ยังกล่าวอีกว่า แต่อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่า โครงข่ายทางด่วยจะช่วยอำนวยความสะดวกในภาวะน้ำท่วมได้มาก แต่ทั้งนี้ก็ยังไม่ครอบคลุมในพื้นที่ที่จำเป็น จึงต้องปรับปรุงแผน และนำปัจจัยเรื่องน้ำท่วมเข้ามาพิจารณาด้วย ทั้งนี้จากการศึกษาแผนแม่บทพิเศษ 11 โครงการเดิม มี จำนวน 4 โครงการจำเป็นเร่งด่วนนั้นก็คือ ทางพิเศษสายศรีรัช-วงแหวนรอบนอก ระยะทาง 17 กิโลเมตร ระบบทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ ตอนเอ็น 2 และเอ็น 3 ทางพิเศษสายศรีรัช-ดาวคะนอง ระยะทาง 6.1 กิโลเมตร และทางพิเศษสายดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอก ระยะทาง 8.8 กิโลเมตร

นอก จากนี้ นายธิติพันธ์ พานิชประสาทสิน ผู้อำนวยการสำนักบริหารและพัฒนาบริการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ กทพ.กล่าวว่า สำหรับการประชุมบอร์ดที่จะมีขึ้นในวันนี้ (30 พฤศจิกายน) จะลดค่ามัดจำบัตรผ่านทางอัตโนมัติ (อีซี่พาส) จากราคา 1,000 บาท เหลือ 800 บาท และเพิ่มส่วนแถมให้อีก 25 บาท ต่อการเติมบัตรอีซี่พาสทุก 500 บาท ซึ่งจะขยายเวลาโปรโมชั่นดังกล่าวจากเดิมสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2554 เป็นสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2555 เพื่อกระตุ้นยอดสมาชิก ซึ่งจากเหตุการณ์น้ำท่วมดังกล่าว ทำให้ยอดสมาชิกลดลงเหลือ 500-600 รายต่อเดือน จากเดิมที่มีสมาชิกใหม่เฉลี่ย 12,000-14,000 รายต่อเดือน


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก