bloggang.com mainmenu search








เมื่อวันที่ ( 13 ก.พ.) ผู้สื่อข่าว “เดลินิวส์”  ได้ทำการติดตามความเคลื่อนไหว ของเว็บไซต์ชื่อดัง “ยูทูบ” 

ซึ่ง
เป็นที่เว็บไซต์ที่ประชาชนนิยมเข้าไปใช้บริการชมคลิปวีดิโอออนไลน์กันอย่าง
แพร่หลาย  ได้พบว่ามีมิวสิควีดีโอแนวเพลงอาร์แอน์บี ของวงอิลสลิก
(illslick) ชื่อเพลง เอ็ม เล๊กซ์  (M-LEG)
ซึ่งมีเนื้อหาของเพลงที่ไม่เหมาะสม   ส่อไปในทางลามกอนาจาร โดยมีความหมายของเพลงต้องการจะสื่อว่าขอให้ผู้หญิงนั่งถ่างขาออกให้เหมือนกับตัวอักษรภาษาอังกฤษคือตัวเอ็ม พิมพ์ใหญ่ ( M ) อีกทั้งภาพประกอบมิวสิควีดีโอที่นำนางแบบหลายคนสวมชุดว่ายน้ำ แบบบิกีนี่ มาทำท่าทางเต้นยั่วยวน เค้าคลอกับนักร้องนำ พร้อมทั้งมีการเต้นในลักษณะท่าทางที่ถ่างขาตรงตามกับเนื้อเพลง ซึ่งมิวสิควีดีโอเพลงนี้ ถูกโพสไว้ในเว็บไซต์ “ยูทูบ” 

โดย
คนผู้ที่อัพโหลดนั้นใช้ชื่อว่า “NUKIEPEE”  ตั้งแต่วันที่ 9 ก.พ. ที่ผ่านมา
จนมาถึงในปัจจุบันนี้ มิวสิควีดีโอเพลงดังกล่าวได้มีคนเข้าไปชมแล้วกว่า
216,000 คน

จนทำให้เกิดกระแสการเต้นขยับขาให้เป็น
รูปตัว “เอ็ม” กันในหมู่วัยรุ่น ที่หัดร้องเพลงนี้
ตลอดไปถึงเต้นท่าทางขยับขากางออก ตามเนื้อเพลงดังกล่าว จากนั้นก็นำมาอัพโหลดเพื่อประชันกันในอินเตอร์เน็ตว่า ใครจะเต้นเพลงนี้ได้เซ็กซี่มากกว่ากัน
ซึ่งคาดว่าในค่ำคืนของวันที่ 14 ก.พ. หรือวันวาเลนไทน์ ที่กำลังจะถึงนี้
กระแสความแรงของเพลงนี้ น่าจะ 1 ในเพลงติดอันดับ ที่ตามผับ เธค
หรือสถานบันเทิงต่างๆ เปิดกัน เพื่อให้นักท่องเที่ยวโดยเฉพาะผู้หญิง
ได้เต้นพร้อมกับทำทางตามเนื้อหาของเพลง ซึ่งอาจเป็นการยุยั่วทางเพศ
ให้กับผู้ที่พบเห็น
จนเป็นอีกสาเหตุหนึ่งในการเกิดอาชญากรรมทางเพศในเทศกาลวันแห่งความรักได้



โดย
ผู้สื่อข่าว “เดลินิวส์” ได้ติดต่อทางโทรศัพท์ไปยัง นางระเบียบรัตน์
พงษ์พานิช อดีตรองประธานคณะกรรมาธิการกิจการสตรี เยาวชนและผู้สูงอายุ


ซึ่ง
ในขณะนี้กำลังอยู่ที่ประเทศอินเดียในขณะนี้ 
ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับภาพและเนื้อหาของมิวสิควีดีโอเพลงดัง กล่าวว่า
ประเทศไทยถือว่าเป็นประเทศที่เสรี
เสรีจนเรียกว่าไม่รู้จักคำว่ารับผิดชอบต่อสังคม  ไม่ว่าจะเป็นเพลง
มิวสิควีดีโอ หรือการถ่ายแบบแฟชั่น ที่ออกมาในขณะนี้
ล้วนแต่โน้มน้าวให้เด็กและเยาวชน ทางไปสู่ความเสื่อม มีแต่เรื่องยั่วยุ
ปลุกเร้า ทางเพศ  ซึ่งปกติเพลงที่มีลักษณะที่แปลกๆ พิเรนท์  ก็เป็นที่ชื่นชอบของเด็กและเยาวชนอยู่แล้ว
ที่ผ่านมาอย่างเช่น เพลงคันหู ที่ออกมานั้น ซึ่งมีท่าเต้นที่ต่ำมาก
ตนก็พูดมาเยอะแล้ว แต่ก็ไม่มีหน่วยงานไหนจะเข้ามาดูแลเรื่องแบบนี้สักที



นางระเบียบรัตน์ กล่าวต่อว่า จริงๆแล้วไม่ว่าจะเป็นกระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงศึกษาธิการ
รวม
ไปถึงกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการสื่อสาร (ไอซีที)
ก็ควรที่จะขยับเข้ามาดูแลอย่างจริงจังจะได้เหลือพื้นที่ดีๆ ให้กับเด็กๆ
ที่นับวันมีแต่จะน้อยลง และยังเป็นอันตรายกับสังคมไทยในอนาคตเป็นอย่างมาก
ในตอนนี้ที่ทำได้ก็ต้องช่วยกันปลูกฝังจิตสำนึกที่ดีให้กับเด็กและเยาวชน
ให้รู้จักแยกแยะข้อมูลทางโลกเทคโนโลยี
ว่าควรจะรับข้อมูลที่ดีๆประเภทใดไปใช้ในชีวิตประจำวัน



ด้าน ดร. วัลลภ ปิยะมโนธรรม  นักจิตวิทยาและที่ปรึกษาโครงการศูนย์ให้คำปรึกษาและพัฒนาศักยภาพมนุษย์ มศว. 

ได้
ให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับมิวสิควีดีโอดังกล่าว ที่อาจเป็นปัจจัยหนึ่ง
ในการกระตุ้นอารมณ์ทางเพศของวัยรุ่น ในช่วงเทศกาลวาเลนไทน์ ว่า 
ในมุมมองของนักจิตวิทยามองว่า การที่มีคนทำเพลงที่มีเนื้อหา
หรือท่าต้องประกอบ ที่ส่อเสียดไปทางเรื่องเพศนั้น
ก่อนหน้านี้จากการศึกษาวิจัยทางการแพทย์พบว่า จะเกิดขึ้นในหมู่
พวกรักร่วมเพศ ที่มักจะแสดงท่าทางออกมา ส่วนมากจะเป็นด้านการแสดง
หรือโชว์ต่างๆ  แต่ในปัจจุบันมีแนวโน้มพบว่า คนที่คิดหรือสร้างผลงาน ที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับเรื่องเพศนั้น มักจะเป็นผู้ที่มีปมด้อยในอดีต  ไม่ได้รับการยอมรับ เลยนำเรื่องเพศสร้างขึ้นมาให้เป็นปมเด่นของตนอำพรางปมด้อยของตนเอาไว้   เพื่อต้องการให้เป็นที่ยอมรับนั่นเอง ซึ่งถ้าทำบ่อยๆ ก็จะติดเป็นนิสัย



ส่วนของมิวสิควีดีโอนี้ ที่มีเนื้อหาในลักษณะล่อไปทางกามอารมณ์  ที่ออกมาเผยแพร่ในช่วงก่อนเทศกาลวาเลนไทน์ที่จะถึงนี้

ก็
มองว่าผู้ผลิตต้องการที่พยายามจะผูกโยงให้เรื่องทางเพศกับวันแห่งความรัก
นั้นเป็นเรื่องด้วยกัน  ยิ่งท่าเต้นในลักษณะนี้
ถ้ามีใครที่นำไปเต้นเลียนแบบ ตามผับ เธค หรือที่เที่ยวกลางคืน
ในช่วงเทศกาลวาเลนไทน์แล้วนั้น 
ก็อาจจะเป็นอีกสาเหตุหนึ่งของการทำให้เกิดการมีเพศสัมพันธ์ได้ง่ายขึ้นเพราะ
ว่าผู้ที่ได้ดูนั้น รู้สึกว่าตนได้ถูกเย้ายวน ยั่วยุทางเพศ 



ที่น่าตกใจมากกว่านั้น ตนพบว่าในช่วงใกล้เทศกาลวาเลนไทน์นี้ ได้มีกลุ่มนักเรียนหญิงมัธยมของโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่ง

ได้
ถ่ายภาพโดยถลกเสื้อผ้า ชุดนักเรียน แล้วนำไปโพสแข่งกันว่า
ภาพของใครจะมีคนเข้ามาดูมากกว่ากัน  ซึ่งจะใช่เวลาตอนเที่ยงคืน ของวันที่
14 ก.พ. ตัดสินว่าใครเป็นผู้ชนะ ทำให้มองว่าสังคมมันแย่ลงไปทุกวัน
นอกจากพ่อแม่แล้ว ครูอาจารย์ ก็ควรที่จะเข้ามาช่วยดูแลด้วย
รวมไปถึงกระทรวงวัฒนธรรมก็ควรที่จะรู้จักบทบาทการทำงานของตัวเองให้มากว่า
นี้ ก่อนที่วัฒนธรรมอันดีงามมันจะเสื่อมจนไม่เหลืออะไรเลย



Create Date :13 กุมภาพันธ์ 2555 Last Update :13 กุมภาพันธ์ 2555 20:29:17 น. Counter : Pageviews. Comments :0