bloggang.com mainmenu search


สำหรับครั้งนี้จะเป็นการเล่าถึงเรื่องราวและประสบการณ์ สยองขวัญในการเข้ามาสู่ร่มกาสาวพัทธ์นี้ การปฎิบัตินั้นก็แตกต่างจากฆารวาส เนื่องจากต้องฉันหรือ เรียกให้เข้าใจง่ายคือ ทานอาหาร ไม่เกินเที่ยง อยู่สถานที่บ้านห้วยดอกไม้ จังหวัดบึงกาฬ เต็มไปด้วยต้นยาง เนื่องจากแถวนี้จะนิยมกรีดน้ำยางไปจำหน่าย อยู่ที่นี่มีแม่ชี และพระ 2-3 รูป เงียบสงัด วังเวง ตกค่ำมา มีเสียงสุนัข หอนเป็นประจำ 
ที่พักหรือกุฎินั่น จะเป็น 2 ชั้น ไม่อับแสงและลม อัตมานั้นได้พักผ่อนใต้บันไดพอดี และจุดที่นอน ตรงหน้าห้องน้ำ ด้วย ประตูห้องน้ำ และประตูทางเข้า ตรงกับตรงที่นอนพอดี มีอยู่วันหนึ่ง นั้นปวดศรีษะมากเหมือนมีอะไรกดทับศรีษะ ซึ่งเป็นจุดตรงกับหัวบันไดพอดีด้วย ซึ่งจะไม่ค่อยดีในเรื่องสุขภาพ แต่ทันได้นั่น มีอาการหนักขึ้นคือ ขยับตัวไม่ได้ มีร่างดำทะมึนอยู่ด้านหน้า กะ กำ ลัง จะ มอง ทางปลายเท้าเหลือบไปเห็น
บอกตรง แทบช็อคแมวร่างใหญ่นั่งจ้องเหมือนจะเอาชีวิต ขยับแขน ขา ก็ไม่ได้ คิดในใจว่าจะสู้ไงดี คิดว่าตายแน่เราคราวนี้ เลยตั้งสติ ระลึกถึงคาถา สมเด็จโต ท่อง นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุธ ธัสสะ 3 จบ ทันใดนั้น รู้สึกว่าร่างกายขยับได้ เลยรีบลืมตา ... ตรงนี้สำคัญมากนะ ต้องพยายามตื่นให้ได้ เพราะ เราโดนผีดำ นี่คืออาการผีอำ 
เช้ารุ่งขึ้นเลยต้องจัดสถานที่นอนใหม่ เนื่องจากที่เดิมนั่น ทำให้ไม่สบายร่างกายเจ็บปวดและเหนื่อยบ่อย ลองสังเกตดูแล้วว่าตั้งแต่ย้ายขึ้นนอนชั้นบนกลับหลับสนิทดี แต่บางวันก็ยังชวน ขนหัวลุก เพราะทุกครั้งที่ไฟในวัดดับลงทั้งหมด คือ ไม่มีไฟ เสียงแมวร้องหน้าห้อง ท่านผู้อ่านคงขนหัวลุกเป็นแน่ และก็ดันประตูจะเข้ามาให้ได้เลย ขณะที่ผมพิมพ์นี่ ยังขนลุกเลยครับ เหตุการแบบนี้ไม่สัมผัสด้วยตนเอง แล้วล่ะก้อ จะไม่มีวันลืมเลย 
สำหรับวันนี้ ขอจบเรื่องแมวไว้เพียงเท่านี้ เรื่องหน้า ผมจะเล่าเรื่อง ใครกันแน่ วัดป่าโชติรส พระแดง [ตอนที่ 3] ขอบคุณครับสำหรับผู้ติดตามเรื่องราว และสละเวลามาอ่าน เพื่อผ่อนคลาย
Create Date :10 พฤศจิกายน 2559 Last Update :10 พฤศจิกายน 2559 19:44:07 น. Counter : 1724 Pageviews. Comments :0