bloggang.com mainmenu search



























มะลิทะเล

......

เป็นต้นแกมเถาคล้ายเฟื่องฟ้า ออกดอกเป็นกระจุก

กระจุก หนึ่ง ๆ มี 5-6 ดอก น่าดูมาก กลิ่นหอมฉุน

 ที่ได้ชื่อว่ามะลิทะเลนั้น อาจเพราะออกดอกดก

 สะพรั่งเหมือนทะเลดอกมะลิ

ชื่อดอกมะลิ น่าจะมาจากคำว่า มัลลิกา หรือ Malika

บางทีเรียกว่า ติณสูล แปลว่า มะลิซ้อน

 หรือ Arabian Jasmine

ซึ่งเป็นภาษาแขก ทางฝรั่งเรียก Jasmine

มาจาก คำอาหรับว่า ยาสมีน

มอญ เรียกแบบเดียวกันกับไทย

 ไทยอัสสัมเรียกว่า ม็อกเข่าแต็ก คือดอกข้าวตอก

จีนเรียก "ม๊วดหลี " ใกล้กับไทยเหมือนกัน

ดอกมะลิของจีน ตามที่พระเจนจีนอักษร

แปลมาจากหนังสือจีน

พืชพรรณม๊วดหลี มีในแขวงประเทศปอซือ

 ซึ่งอยู่ชายทะเลหลำไฮ้


เมื่อครั้งวงศ์จิ่น ชาวชนในเมืองหลวง

เอาดอกม๊วดหลีปักผมถือว่าเป็นมงคล

 พระเจ้าเห่าจงฮองเต้ รับสั่งให้เจ้าพนักงานปลูก

ต้นม๊วดหลี ที่ข้าง ตำหนักประทับฤดูร้อน ไว้เป็นอันมาก

 ถึงฤดูร้อนพระเจ้าเห่าจงฮองเต้

 เสด็จไปประทับที่กิ่มตังปี้ซู้เกง

เวลากลางคืนลมพัดกลิ่นดอกม๊วดหลี หอมตลบ

 พระเจ้าเห่าจงฮองเต้รับสั่งแก่ เจ้าพนักงานว่า

ดอกม๊วดหลีนี้กลิ่นหอมยิ่งนัก

ประโยชน์ของดอกมะลิในเมืองไทย

นอกจากจะใช้ร้อยพวงมาลัยบูชาพระ

 และปลูกไว้ในบ้านเพื่อดมกลิ่นอันหอมชื่นใจแล้ว

ก็ใช้ทำนํ้ากระสายยาอีกด้วย

ในพิธีบางอย่างของโบราณ ใช้ดอกมะลิ

เช่นเมื่อสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ

เจ้าฟ้ากรมหลวงศรีสุนทรเทพ พระราชธิดา

ในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก

มีพระนามเดิมว่าแจ่ม ทรงพระประชวร

ก็ได้จัดพิธีเพื่อจะบำบัดพระโรค

นักเลงเล่นพระ ถ้ามีพระสมเด็จ

 นิยมเอาดอกมะลิบูชาอบร่ำไว้

 จะถูกต้องตามตำรา และจะเพิ่มความขลังขึ้นด้วย

บางคนก็ใช้ดอกมะลิบูชา พระพุทธรูปอื่นๆ ด้วย

 เพราะเห็นเป็นดอกไม้ที่มีสีขาวบริสุทธิ์

 กลิ่นหอมชื่นใจดี

 อินเดียก็ถือเป็นดอกไม้ประจำชาติ

พระนารายณ์ก็ว่าต้องใช้ดอกมะลิ

 เพราะเป็นดอกไม้ประจำองค์

เวลาสรงสนานเทวรูปนารายณ์

ต้องเอาดอกมะลิลอยในน้ำที่จะสรง

รวมกับใบไม้อื่นๆ เช่นหญ้าแพรกและใบมะตูม



















ขอบคุณที่มา fb. Siriwanna Jill
ขอบคุณเจ้าของภาพทุกภาพค่ะ

Create Date :11 สิงหาคม 2558 Last Update :19 ตุลาคม 2560 9:52:38 น. Counter : 3012 Pageviews. Comments :0