bloggang.com mainmenu search















ดอกท้อ

 .........

ก่อนอื่นต้องแยกให้ออก จากดอกซากุระ

 หรือ Sakura ดอกบ๊วย และดอกเสือโคร่ง

หรือที่เรียกซากุระเมืองไทย

ดยดอกท้อคือ ดอกต้นพลัม

 ดอกซากุระ คือดอกต้นเชอร์รี่

ดอกท้อจะมีกลีบซ้อน ส่วนซากุระจะมี 5 กลีบ

เรียงกัน ชั้นเดียว เหมือนดอกพุดซ้อน กับดอกพุดบ้างเรา

ดอกท้อมีสีชมพูเข้มสดคล้าย กับดอกนางพญาเสือโคร่ง

 หรือซากุระเมืองไทย แต่จะออกดอกเดี่ยว

จากโคนต้น ต่างจากดอกนางพญาเสือโคร่ง

 ที่ออกดอกเป็นช่อ

ดอกท้อ เป็นไม้ที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศจีน

 จัดเป็นไม้พุ่มผลัดใบ อยู่ในสกุล Prunus

 อันเป็นสกุลเดียวกันกับ ซากุระ บ๊วย เชอร์รี่

หรือนางพญาเสือโคร่ง


ท้อจัดเป็นไม้เมืองหนาว ที่จะขึ้นได้ดีในที่ ๆ

 มีความสูงตั้งแต่ 3,000 ฟุตขึ้นไป

อุณหภูมิโดยเฉลี่ย 10 องศาเซลเซียส

ทนแล้งได้ดี เป็นไม้ใบเดี่ยว เรียงสลับ ขอบใบจัก ดอกเดี่ยว

 มักออกเป็นกระจุก กลีบเลี้ยง 5 กลีบ กลีบดอก 5 กลีบ

 สีขาวหรืออาจเป็นสีแดง หรือชมพู

ดอกจะแตกออกมาก่อนใบ ผลเป็นผลสดเมล็ดเดี่ยว

 มีขนปกคลุมทั่วบริเวณผิว

ท้อนับเป็นผลไม้ที่ใช้ประโยชน์ในการรับประทาน

มาอย่างยาวนาน และได้รับความนิยมไปทั่วโลก

วัฒนธรรมของชนชาติต่าง ๆ จะมีท้อเข้ามาร่วมอยู่ด้วย

ได้แก่ ชาวจีนมีความเชื่อว่า

ท้อเป็นสัญลักษณ์ ของการมีอายุยืนยาว

 และเกี่ยวข้องกับ การกับการป้องกันสิ่งชั่วร้าย

 ถ้าดอกท้อ บานในระหว่างการฉลองวันปีใหม่

หมายถึง ปีต่อไปจะเป็นปีของโชคลาภ

และดอกท้อยังใช้ประดับตกแต่ง ภายในบ้าน

เพื่อความเป็นสิริมงคล ป้องกันสิ่งชั่วร้ายอีกด้วย

“ท้อ” สมัยโบราณในเทศกาลปีใหม่

 คนจีนจะนิยมเขียนคำอวยพร ให้แก่กัน

ซึ่งนิยมเขียนคำขวัญ คำมงคลต่างๆ

บนแผ่นไม้ติดหน้าบ้าน ซึ่งใช้ป้ายที่ทำจากต้นท้อ

เพราะเชื่อกันว่าเมื่อนำมาติดบ้านเรือน

 ภูติผีปีศาจจะไม่รบกวน ไม่มีเสนียดจัญไรแผ้วพาน

เช่นเดียวกับ “ทับทิม” และ “เซียงเช่า”

ที่เชื่อว่าสามารถไล่ผีปีศาจได้

จึงนิยมนำมาผสมน้ำล้างหน้า ล้างตัว กัน

หลังจากกลับจากงานศพด้วย

ในนิทานพื้นบ้านของญี่ปุ่น โมโมทาโร่ (桃太郎)

ซึ่งเป็นเด็กชายที่มีพละกำลังมากมาย

และเป็นผู้นำในการปราบปีศาจ ก็กำเนิดมาจากลูกท้อ

ในประเทศไทย ท้อมีการนำเข้ามาปลูกในพื้นที่ภาคเหนือ

เช่น โครงการหลวง โดยมีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ

 เช่น มะฟุ้ง มักม่น มักม่วน หุงคอบ หุงหม่น

ชื่อ อังกฤษ Peach,

ชาวจีนโบราณได้ค้นพบ คุณค่าของดอกท้อ

 ในการทำยาและทำเครื่องสำอางค์ เสริมความงาม

 จากตำรา “สมุนไพรเทพการเกษตร”

ได้มีการบันทึกไว้ว่า “สีสันของดอกท้อนั้น

 มีประโยชน์ต่อมนุษย์เป็นอย่างมาก”

 และจากบันทึก “โครงร่างและรายละเอียดตำรายาสมุนไพร”

กล่าวไว้ว่า “ให้นำดอกท้อที่มีอายุ 3 เดือน 3 วัน

และนำเลือดไก่ ที่มีอายุ 7 เดือน 7 วัน

มาผสมกันแล้วพอกบริเวณใบหน้า

หลังจากนั้น 2-3 วันให้ลอกออก

จะทำให้ใบหน้าของ ท่านแลดูกระจ่างใส”

ในระหว่างเทศกาลเชงเม้ง

เป็นช่วงเวลาที่ ดอกท้อตูมยังไม่บาน

ให้เก็บดอกท้อมา 250 กรัม ป๋ายจื่อ 30 กรัม

ใช้เหล้าขาว 1000 มิลลิลิตร ผสมน้ำผึ้ง หมักกับดอกท้อ

 และป๋ายจื่อทิ้งไว้ 30 วัน ทุกวันเช้าเย็น

ให้ดื่มครั้งละ 15 ถึง 30 มิลลิลิตร

 ในขณะเดียวกันให้เทเหล้า ลงบนฝามือ

แล้วใช้มือทั้งสองข้างถู จนกระทั้งรู้สึกว่าฝามือร้อน

 แล้วถูบริเวณใบหน้า ที่เป็นฝ้า กระดำ และรอยหมองคล้ำ

กรรมวิธีนี้ นับเป็นการรักษาผิวพรรณที่เห็นผลอีกวิธีหนึ่ง









ขอบคุณที่มา  fb. Anna Jill

ขอบคุณเจ้าของภาพทุกภาพ









Create Date :25 กุมภาพันธ์ 2558 Last Update :25 กุมภาพันธ์ 2558 11:42:16 น. Counter : 5894 Pageviews. Comments :2