ในที่สุด ในที่สุด ในที่สุด วันที่รอคอยก็มาถึง ดิชั้นและครอบครัวได้ย้ายเข้ามาอยู่บ้านใหม่แล้วคร่า กรี๊ดดด ดีใจอะ

วันที่ 29 มีนาคม 2556 หลังจากดูฤกษ์จากเวป ร่วมกับคอนเฟิร์มฤกษ์ล้านนาจากคุณพ่อเราแล้ว ครอบครัวเราก็ขนของขึ้นบ้านใหม่กันโดยพลัน ดีใจมากๆ ค่ะ รอมานาน ลงเงินลงแรงไปเยอะ เหนื่อยกายเหนื่อยใจสุด ๆ กว่าจะได้บ้านหลังนี้มา แม้จะไม่ใช่บ้านหลังแรกของครอบครัวแต่ก็เป็นบ้านหลังแรกที่เราลงแรงควบคุมการก่อสร้างรวมถึงออกตังส์สร้างเองด้วย มันภูมิใจอะว่าเราก็ทำได้

การย้ายขึ้นบ้านใหม่วันแรก บ้านเราทำแบบง่าย ๆ ค่ะ โดยเชิญพระพุทธรูปขึ้นบ้านก่อน และเชิญญาติผู้ใหญ่ที่สนิทจริง ๆ คือลุงป้าน้าอาช่วยถือของมงคลขึ้นบ้าน แล้วทานข้าวกลางวันด้วยกัน (อบอุ่นมาก ๆ) แล้วญาติผู้ใหญ่นี่แหละค่ะที่ช่วยกันขนของ 555

เนื่องจากบ้านใหม่กับบ้านเก่าไม่ไกลกันมาก (ห่างกัน 1 โลกว่า ๆ) เลยใช้วิธีทยอยขนเอาด้วยรถกระบะคันเดียว ไม่จ้างคนเลยเพราะเราไม่สามารถขนของใหญ่เข้าบ้านในตอนนี้ ทำไมน่ะเหรอคะ ก็เพราะ

ถนนเข้าบ้านกำลังทำอยู่ รถเข้าไม่ได้ค่ะต้องอยู่แบบไม่มีเฟอร์ชิ้นใหญ่ไปก่อน แบบว่าแค่โต๊ะทานข้าวตัวเดียว ขนด้วยแรงคนจากประตูรั้วมาเสร็จ หมดสภาพกันไปเลย 555

มาดูรูปกันค่ะ ตามชื่อบล็อกว่ารวมรูป ดังนั้นรูปจะเยอะหน่อยนะคะแบบว่าเห่ออะ

เอ่อ ขอแก้ตัวก่อนดูรูปนะคะแบบว่าพึ่งขนของกันเสร็จ ยังไม่ได้จัด เราก็ถ่ายรูปมาเลย ดังนั้นบ้านจะรกมากถึงมากที่สุด ขออภัยล่วงหน้านะคะที่คงไม่งามตา (แต่กล้าโชว์ 555)

เริ่มที่หน้าบ้านเลย เปิดประตูเข้ามาจะเห็นภาพนี้

โล่งค่อด ห้องรับแขกเรา เพราะยังขนชุดรับแขกเข้ามาไม่ได้แขกมาคงต้องปูเสื่อไปก่อน 555

หันซ้าย จะเจอบาร์ค่ะ มีที่แขวนแก้วไวน์ด้วยนะ แต่ยังไม่เสร็จไปสั่งทำที่ร้านสเตนเลสยังไม่ได้เยย เก้าอี้ก็ยังไม่ได้ซื้อ เหอเหอ

แหงนหน้า จะเจอฝ้าบ้านเรา ถือเป็นจุดขายเลย ใครๆก็ชอบฝ้านี้ ที่เห็นสีเงิน ๆ คือดาวน์ไลท์จากแลมติจูดค่ะ แพงหน่อยแต่สวยดี สีตัดกับไม้ดีนะ

ถัดจากบาร์ไปเป็นโต๊ะทานข้าวกับครัวฝรั่งค่ะ บอกก่อนว่าโต๊ะทานข้าวตัวนี้เรารักมากค่ะ เห็นมาตั้งแต่เกิด เป็นไม้แดงชิ้นเดียว ใหญ่มาก ๆ ขนาด 8 ที่นั่งแต่เก้าอี้พังไปเหลือแค่5 ตัว ต้องไปสั่งร้านเฟอร์ทำเพิ่มให้ครบ แต่ตอนนี้เรายังไม่มีเวลาก็นั่งกันไปงี้ก่อน โต๊ะก็มีแต่รอยถลอก ต้องทำสีใหม่เช่นกัน รอไปก่อนนะโต๊ะจ๋าเดี๋ยวจะทำให้ปิ๊งเลย

โต๊ะทานข้าวที่ว่าใหญ่มาก เจอบ้านโอเวอร์สเกลเข้าไปดูเล็กไปเลยแฮะ

เดินต่อมาที่ครัวฝรั่ง ของเต็มเลย อายจัง ขออภัยในความรกอีกครั้งค่ะ Island ตรงกลางเก๋ไหมคะ ไม้ที่วางเป็นท๊อบเป็นไม้มะค่าเก่าของคุณพ่อเราค่ะ ท่านซื้อมาเก็บไว้ตั้งแต่หนุ่มๆ ละ เราเลยเอามาใช้ซะเลย ให้ช่างไสให้เรียบแค่ด้านบนค่ะ ด้านข้างให้คงลายไม้ที่ไม่เรียบไว้ มโนเอาเองว่าแบบนี้เก๋ กร๊ากกก

อันนี้เราไม่ได้ออกแบบเองนะคะ น้องอินทำให้บอกน้องไปว่าขอไม่เหมือนบ้านใคร ออกมาเหมือนโต๊ะบุฟเฟต์โรงแรมซะงั้น 555

อีกมุมค่ะ จะเห็นว่ายังไม่ได้ติดฮูดและเตาเลย โหว่เป็นรูเชียะ

ไปดูครัวไทยกันบ้างค่ะ ตามมาเลย ประตูนี้ค่ะออกไปเป็นระเบียงเล็กๆทางเดินไปครัวไทย ประตูครัวไทยเป็นบานเฟี๊ยมค่ะ แบบโบราณ กระจกยังหาคนมาเช็ดให้ไม่ได้เลยค่ะ รอยเทปกาวตรึม อายจัง

เข้าประตูครัวหันซ้ายจะเจอภาพนี้ ห้องนี้เราชอบโคมไฟกับแคร่ตำน้ำพริกที่สุด

หันขวา จะเจอมุมซักผ้า และทางออกไปลานตากผ้าค่ะ

กลับเข้ามาในบ้านอีกครั้ง เดี๋ยวจะพาไปดูห้องนั่งเล่นบ้านเรา ตามมาค่ะ

ถัดจากห้องรับแขก เดินต่อมาจะเป็นห้องนั่งเล่น ตู้ทีวีวางเด่นเป็นสง่า

มีใครอยู่บ้างนะ ย่า ยาย ดูแลลูกชายเราอยู่ และหลานชายที่นอนหมดสภาพเพราะเหนื่อยจากการขนของ จะเห็นว่าไม่มีที่นั่งกันเลย เพราะเบาะที่เดย์เบดยังไม่ได้ และอย่าถามหาโซฟา ยังอยู่ที่ร้านอยู่เลยค่ะ 555 ช่วงนี้กลับสู่สามัญ นั่งกับพื้นไปก่อน

เอาตู้ทีวีมาให้ดูค่ะ ข้างหลังกระจกติดไฟด้วยนะคะ เปิดกลางคืนจะได้มะลังมะเลืองแล้วจะถ่ายรูปไฟกลางคืนมาให้ดูวันหน้านะคะ

หมุนไปทางขวาหน่อยเน้อฝ่าดงของเล่นไปดูห้องสมุดกัน

TA DA !! ห้องสมุดบ้านเราค่ะ ยังไม่มีหนังสือซักเล่ม 555 มีแต่เปล

กรอบหน้าต่างปูนเปลือย ขออินเทรนบ้างอะไรบ้าง อนาถามาก ผ้าม่านไม่มี เอากล่องทีวีมาบังแดดไว้ก่อน แล้วหล่อนก็ยังกล้าโชว์ แบบว่ามั่นคร้า 555

ภูมิใจเสนอโต๊ะเขียนหนังสือค่า ไม้สักทั้งแผ่น ใหญ่และยาวถึงจะบางไปหน่อย แต่เราใช้เหล็กดามข้างใต้เอา กรอบโต๊ะที่ดูดิบ ๆ นั้นเราใช้ไม้สักเก่าเป็นท่อนมายึดกันไว้ค่ะ โดยไม้ที่ใช้คงคลองเลื่อยไว้ให้ดูธรรมชาติและเก่าๆ ตัดกับโคมไฟอ่านหนังสือสีเงิน มุมนี้ชอบมากไม่เหมือนใคร และไม่มีใคร(กล้าจะแปลก)เหมือน กร๊ากกกกก

เดย์เบดยังคงไร้เบาะ นั่งเมื่อยมากค่ะเพราะมันเตี้ยไงถ้ามีเบาะถึงจะสูงขึ้นมานั่งสบาย ให้ดูวิวต้นลำไย 555

ออกนอกบ้านกันเถอะค่ะ จะพาไปดูระเบียง

นี่ไงระเบียงบ้านสุดเลิฟ กว้างมากเลยค่ะ ต้นปีบน้อยโตขึ้นมาอีกหน่อย

อีกมุม ศาลาน่านอนมากกก เห็นแล้วง่วง ตัวขี้เกียจโดดเกาะทันที

ก่อนหลับ กลับเข้าบ้านก่อน จะพาไปดูห้องเก็บของ เพื่อ????

นี่คะ ตู้คอนโทรลในห้องเก็บของ มีทุกอย่าง หลายตู้มาก จนบ้างทีก็งง ๆ ตู้ไหนเป็นตู้ไหน ทั้งเคเบิลทีวี โทรศัพท์ อินเตอร์เนท ไฟฟ้า กันขโมย วงจรปิดมึนค่ะ ต้องคุณสามีเราที่จะถนัดงานพวกนี้หน่อย ยกให้เค้าละกัน ห้องนี้ 555

ข้างตู้เก็บของเป็นห้องน้ำแขกค่ะ ธีมดำเขียว กาละมังยังดำเลย กร๊ากกก ว่าแต่ใครเอากะละมังมาไว้ในห้องน้ำอ่า ห้องน้ำงาม ๆ หมดราคาเลย เอาเป็นว่าปิดตาไม่เห็นกะละมังละกันนะคะ (แล้วทำไมหล่อนไม่หยิบออกก่อนถ่ายรูปยะ)

ขออวดหัวเรนกับอ่างอาบน้ำ หัวเรนของคอตโต้เริ่ดมากค่ะ ออกมาจากฝ้าด้วยให้ความรุ้สึกเหมือนโดนฝนห่าใหญ่มากตกใส่ เวลาอาบน้ำถ้าเผลอแหงนหน้าเราสำลักทุกที กรรม แต่คุณพ่อเราชอบมากกก

อ่างอาบน้ำที่ทำให้ลูกชายไว้เล่นน้ำ ปรากฏว่า He กลัวค่ะ ไม่ยอมอาบ คงเพราะอ่างสีดำ ดิบเกิน คุณชายไม่ปลื้ม

หันกลับมาที่ประตูบ้าง วางอ่างล้างมือแล้วค่ะ เคาเตอร์กรุไม้แดงทั้งท๊อบและหน้าบาน ตามธีมรีสอร์ท

ชักโครกเลือกฝาไม้ Soft close ค่ะ กลัวปิดเสียงดัง สีเข้ากับกระเบื้องดีเนอะ

อวดอ่างเซรามิคและกระจกที่เราแอบหนีน้องอินไปซื้อเอง ราคาแอบแพงค่ะ แต่ก็สวยเน้อ

เอ่อ กะลังพาเที่ยวบ้านเพลิน ๆ นึกขึ้นได้ว่ารูปชักเยอะอะ กลัวโหลดช้า เอาเป็นว่าเรา split เป็นอีกบล็อกดีไหมคะ แบบว่าเราเองแอบเมื่อย ขี้เกียจพิมพ์แล้วด้วยอะเนอะ แล้วเดี๋ยวจะรีบมาอัพภาคสองนะคะ

จบแบบดื้อ ๆ งี้เลย  เอาแต่ใจตัวจริ๊ง จรี๊ง ฮี่ๆๆ