bloggang.com mainmenu search
ก่อนจะเริ่มเล่าถึงวิธีเลี้ยงน้องกวี แม่ต้องให้กวีรู้ก่อนว่าแม่ให้ความสำคัญกับวิธีเลี้ยงลูกแคไหน ตั้งแต่กวีอยู่ในท้องแม่ก็ขวนขวายหาตำรามากมาย หวังผลให้น้องกวีเป็นเด็กเลี้ยงง่าย มีวินัย อารมณ์ดี สารพัดที่แม่ตั้งเป้าไว้ ตำราที่แม่เตรียมไว้มี
1. คู่มือเลี้ยงลูกของหมอชนิกา
2. สารานุกรมเลี้ยงลูกของหมอญี่ปุ่น
3. On becoming baby wise
4. Confident mom ,Calm baby
5. Nelson : Textbook for pediatrics
สามเล่มหลังนี้ เป็นภาษาอังกฤษหมดเลย แต่แม่ก็อ่านจนจบ เว้น Textbook อันนี้เป็น Edition เก่าตั้งแต่สมัยแม่เป็น นศพ.ละ เลยอ่านแค่บางบท อ่านไปก็คาดหวังว่าลูกชั้นจะเป็นงั้นเป็นงี้ แต่แล้วทุกอย่างก็พังเมื่อแม่ลองเลี้ยงกวีดู แล้วพบว่าตำราไม่ช่วยอะไรเลย และความรู้เกี่ยวกับเด็กที่แม่มีก็ไม่ช่วยอะไรเลยเหมือนกัน

ตอนพากวีไปหาอ.หมอวัชรี แม่เคย complaint กับอ.เรื่องเลี้ยงลูกไม่เป็นเลย เป็นหมอซะปล่าว
ไม่ว่าจะเป็นการอาบน้ำ ให้นมหรือห่อตัวลูกแม่ก็ต้องให้คุณพยาบาลสอนตั้งแต่ตอนที่อยู่รพ. กลับบ้านไปก็เก้ๆ กังๆ ทำลูกจมน้ำไปหนึ่งครั้ง (ขอโทษนะลูก) แม่ไม่ได้ตั้งใจจะบ่นเลยนะ กลายเป็นว่าไปทำให้อ.รู้สึกผิด (เพราะอ.เป็นอ.หมอเด็กที่สอนแม่มา) อ.ตอบแม่ว่า ขอโทษนะคะ มันไม่มีในหลักสูตร เลยไม่ได้สอนหนู .....เป็นงั้นไป

แม่ว่าการคาดหวังทำแม่เครียด เพราะลูกไม่ได้เป็นตามตำรา และการเลี้ยงลูกไม่ใช่การทำ lab ตาม reference แต่การเลี้ยงลูกควรทำตามสัญชาตญาณต่างหาก กว่าแม่จะรู้ตัวก็เครียดไปเป็นเดือน แต่ก็โชคดีที่รู้ตัวก่อนจะเครียดไปกว่านี้น่ะนะ

เลี้ยงลูกตามตำราเค้าห้ามอุ้มลูกบ่อย ๆ ฝึกลูกนอนเองโดยปล่อยให้ร้องไห้ โดยให้เหตุผลว่าลูกจะได้นอนยาวเป็น เป็น skill อย่างนึงที่ควรฝึก และให้นมตามเวลา แม่ลองแล้วไม่ไหวอ่ะ แม่ทนฟังลูกร้องไห้โดยไม่เข้าไปอุ้มไม่ได้ มันฝืนสัญชาตญาณและทำให้แม่เครียดล่ะ แต่ถ้าลูกร้องแล้วแม่ได้อุ้มลูกแม่สบายใจกว่า อุ้มแล้วลูกไม่หยุดร้องก็ให้นมจากเต้า เดี๋ยวเดียวลูกก็หยุดร้องละ แม่ยอมเหนื่อย แต่สบายใจกว่าเยอะ

กลับมาเข้าเรื่องของน้องกวี
รูปนี้เป็นรูปกวีตอนกำลังจะร้องไห้ สังเกตว่าจะบี่ปาก (ศัพท์เฉพาะที่ย่าตั้งให้กวี) คือทำปากล่างยื่น ๆ ก่อนร้องไห้น่ะ ตลกมากเลยลูก


ต่อด้วยรูปร้องไห้หลังบี่ปาก จะได้รู้ว่าไม่ใช่แค่ขู่นะ 555


กวีไม่ได้ร้องตลอดนะ ตอนอารมณ์ดีก็พอมีบ้าง ว่าแต่แลบลิ้นทำไมอ่ะลูก



พัฒนาการของน้องกวี
ยังคงงอแง แต่อุ้มหรือให้นมแล้วก็หยุดร้อง จะว่าแม่เริ่มรู้นิสัยลูกก็ไม่เชิงแฮะ
เรื่องตัวเหลือง ก็ยังเหลืองอยู่บ้างแต่เริ่มน้อยลงละ


น้องกวีเริ่มมองเห็นหน้าแม่แล้วนะ สังเกตจากกวีมองตามหน้าแม่ตอนแม่เอียงหน้าไปมา ดีใจจัง


การกินและขับถ่าย
ยังกินนมทุก 1-3 ชั่วโมง ดูดครั้งนึงประมาณ 20-30 นาที
เดือนนี้แม่ลองให้กวีดูดจุกยางแล้วนะ วันละมื้อ เป็นนมแม่ที่ปั๊มออกมา กวีก็ดูดได้ เก่งมากลูกรัก
อึลดลงเหลือวันละ 1-2 ครั้ง ประหยัดค่า poko ไปเยอะเลย


กิจวัตรของน้องกวีเดือนนี้
ตื่นสายขึ้นประมาณ 7 โมงเช้า
8.30 น.หลับอีกครั้งโดยแม่ให้หลับคาเต้า
ตื่นอีกทีประมาณ11.00 กินนมแล้วเล่นอีกแป๊บ เที่ยงกว่า ๆ กินนมแล้วหลับคาเต้าอีก
ตื่นอีกทีประมาณบ่าย3 งอแงอีกจนเย็น
หลับงีบตอนค่ำ ๆ อีกครั้ง(เปิดโอกาสให้พ่อกะแม่ทานข้าว)
ตื่นมาเล่นจน 4-5 ทุ่ม ถึงเข้านอนยาวตื่นมากินนมคืนละ 2-3 ครั้ง

หมายเหตุ ยังมีบางวันที่งอแงไม่หลับไม่นอน T T


กิจวัตรของแม่เดือนนี้
เหมือนเดือนที่แล้วเลย เหนื่อยสุด ๆ อยู่ แต่เริ่มปรับตัวได้ละ ...มั้ง

แม่มีปัญหาเกี่ยวกับการให้นมอีกอย่างคือ แม่ปั๊มนมได้น้อยจังอ่ะลูก ครั้งนึงได้แค่ 1-2 oz (ปั๊มหลังลูกดูด) ทั้งวันได้แค่ 3-4 oz เอง เห็นคนอื่นปั๊มได้เยอะแล้วอิจฉานะ แต่แม่ไม่ค่อยมีเวลาปั๊มเลย เพราะอยู่กะกวีทั้งวัน ให้ดูดกันตลอด ลูกหลับแม่ก็แอบงีบบ้าง เลยปั๊มไม่เป็นเวลาน่ะ แล้วเลยเกิดเรื่องเพราะปั๊มบ้างไม่ปั๊มบ้าง เป็นท่อน้ำนมอุดตันจนได้ แม่พยายามประคบร้อน นวด ก็ไม่ได้ผล เลยไปใช้บริการคลินิกนมแม่ ผลคือ ระบมอ่ะ โดนบีบนวดนมจนเจ็บไปหมด แม่เลยโทรไป consult เพื่อนที่เป็นหมอเด็ก เค้าบอกว่าการให้นมแม่ไม่ควรเจ็บ ถ้าเจ็บจะทำให้นมลดล่ะ เค้าแนะนำให้ทำ deep heat กับ ให้ลูกดูดนมโดยให้ตำแหน่งคางของลูกอยู่ตรงกับก้อนน้ำนมที่อุดตัน โชคดีที่พ่อของกวีเป็นหมอ rehab นะ มีเครื่อง ultrasound diathermy ที่ใช้ทำ deep heat ที่ทำงานพอดี แม่เลยให้พ่อทำให้ ทำเสร็จก็มาให้กวีดูด หายเลยลูก ยังกะยกภูเขาออกจากอกจริง ๆ

ปิด blog ด้วยรูปกวีตอนตีลังกาดูดนม ช่วยแม่ได้มากเลย ขอบคุณนะลูกรัก
Create Date :19 พฤษภาคม 2554 Last Update :19 พฤษภาคม 2554 15:25:00 น. Counter : Pageviews. Comments :5