bloggang.com mainmenu search






สวัสดีค่ะ




หลังจากปิดทริปรีวิวเซี่ยงไฮ้ไปกับรีวิวบุฟเฟท์นานาชาติที่ Jaguar Restaurant ไปแล้วที่ลิงค์นี้ (คลิกเพื่ออ่าน)









วันนี้จะมารีวิวแอร์พอร์ทเรลลิงก์ให้ทุกท่านได้ชมกันนะคะ


ที่จริงว่าจะทำรีวิวนี้ตั้งแต่ได้บัตรไปทดลองนั่งฟรีเมื่อธันวาคมปี 2552 (เอิ่ม..ยิ่งกว่าดอง ) ไปๆ มาๆ คิวรีวิวโน้นแซงนี้แซง จนเค้าให้นั่งจริงได้แล้ว ก็เลยไปนั่งแล้วก็ถ่ายรูปใหม่ทั้งสองไลน์มาทำรีวิวให้ชมนะคะ แหะๆ


โดยในวันนี้จะขอรีวิว Express Line ก่อนค่ะ ส่วนตัวซิตี้ไลน์จะขอยกยอดไปรีวิวหน้านะคะ ซึ่งตัวเอกซ์เพรสไลน์นี่เป็นการรีวิวจากขาสนามบินสุวรรณภูมินะคะ เพราะเรายังไม่เคยนั่งจากขาไป (ยกเว้นตอนทดลองนั่งค่ะ) ส่วนจะได้ใจความครบถ้วนหรือไม่อย่างไรก็เชิญอ่านเลยนะคะ ฮี่ๆ






website ของที่นี่ค่ะ

//airportraillink.railway.co.th/th/





สำหรับข้อมูลคร่าวๆ (ซึ่งเอามาจากโบรชัวร์นะคะ) บอกว่าโครงการ Airport Rail Link เป็นโครงการให้บริการเดินรถไฟฟ้าด้วยความเร็วสูงสุด 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมงค่ะ โดยมีระยะทางประมาณ 28 กิโลเมตร ผ่านทั้งหมด 8 สถานี (แต่จะแวะจอดแต่ละสถานีเฉพาะซิตี้ไลน์นะคะ) คือ สถานีพญาไท (ที่เชื่อมกับ BTS) สถานีราชปรารภ สถานีมักกะสัน (ที่อยู่ใกล้ๆ อโศก และเป็นสถานีรับส่งผู้โดยสารอากาศยานในเมือง สามารถทำอินทาวน์เช็คอินได้ (ในอนาคต)) สถานีรามคำแหง สถานีหัวหมาก สถานีบ้านทับช้าง สถานีลาดกระบัง และสถานีสุวรรณภูมิค่ะ


ทั้งสองสายจะเปิดให้บริการเวลา 06.00-24.00 น. นะคะ (ที่จริงน่าจะเปิดเช้ากว่านี้อีกนิดน้า สำหรับคนเดินทางไฟลท์เช้าอะค่าาาาาา







ว่าแล้วก็เริ่มต้นด้วย Express Line ก่อนเลยค่ะ


สำหรับรถไฟฟ้าด่วนท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (SA Express Line) ให้บริการรับ-ส่งผู้โดยสารระหว่างสถานีมักกะสัน (เท่านั้น) และสถานีสุวรรณภูมิ จะใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 15 นาที มี 164 ที่นั่ง และสามารถขนส่งกระเป๋าได้ 300 ใบค่ะ


สำหรับราคาค่าโดยสารจนถึงสิ้นปีที่ผ่านมา รถไฟฟ้าด่วนคิดที่ 100 บาท (รวมไป-กลับ) แต่หลังจากนั้นจะคิดที่ 150 บาท (ไม่แน่ใจว่ารวมไป-กลับเลยหรือไม่นะคะ)






สำหรับการเดินทางไปยังสถานี ARL (ขอเรียกย่อๆ นะคะ แหะๆ) จากสุวรรณภูมิคือ เราต้องกดลิฟท์ไปยังชั้น M ก่อนค่ะ

ป.ล. แต่ขอเม้าท์หน่อยเหอะค่ะ จากแถวเคาน์เตอร์สายการบินที่ไปต่างประเทศทั้งหลาย แทบไม่เห็นป้ายบอกทางไป ARL เลยนะคะ คือ..ไม่รู้ว่าไม่ส่งเสริมให้ลูกทัวร์ นักท่องเที่ยว เดินทางด้วยรถไฟกันหรือว่าอย่างไรก็ไม่ทราบได้ คือไปถูกเพราะถามยามเลยค่ะ ยามเลยบอกว่าให้กดลิฟท์ไปชั้น M อ้ะ





















ออกจากลิฟท์ (ถ้าจำไม่ผิด เราขึ้นลิฟท์เกือบสุดอาคารแล้วหละค่ะ) ก็จะเจอภาพเยี่ยงนี้นะคะ





















เราก็ต้องกลับหลังหัน แล้วก็จะเจอภาพแบบนี้ค่ะ จะเห็นป้ายว่าให้เลี้ยวซ้ายไปสถานี ARL ค่ะ





















ไปตามป้ายค่ะ มีทางเลื่อนด้วยนะคะ แต่ขาเดินลงมันเป็นทางลาดลงอยู่แล้ว เดินเองก็ได้สบายๆ ค่ะ





















เราก็เดินตามทางลาดไป ก็จะเจอกับทางลงไปขึ้นเอกซ์เพรสไลน์แบบนี้ก่อน (ที่มีเจ้าหน้าที่ยืนอยู่น่ะค่ะ)

แต่เราต้องไปซื้อตั๋วก่อนนะคะ (เคาน์เตอร์ของเอกซ์เพรสไลน์ก็ด้านขวามือของภาพที่เป็นกระจกใสหนะแหละค่ะ)





















แต่ก่อนจะเดินไปซื้อตั๋ว ก็เห็นป้ายนี้ค่ะ

เลยให้สงสัยว่า เอ..หรือมีทางเชื่อมเดินไปที่โนโวเทลสุวรรณภูมิได้เลยหว่า





















แล้วก็ไปดูป้ายซะหน่อย รถออกทุก 15 นาทีซะด้วย อ้อๆ ราคาตอนนั้น 100 บาทไป-กลับนี่ต้องภายในวันเดียวกันนะคะ





















ให้ดูรูปเพื่อดู routing อีกทีค่ะ

สีแดงคือ Express Line ส่วนสีน้ำเงินคือ City Line นะคะ





















จากนั้นเราก็เดินไปฝั่งขายตั๋วของซิตี้ไลน์ ไปเก็บภาพมาให้ดูค่ะ

อธิบายให้เข้าใจง่ายๆ คือ ถ้าเราหันหลังให้สนามบิน หันหน้าเข้าสถานี

เจอหน้าตาแบบนี้ ถ้าข้ามไปฝั่งซ้ายมือ จะเป็นที่ขายตั๋วและทางลงของเอกซ์เพรสไลน์

ส่วนทางฝั่งขวามือจะเป็นที่ขายตั๋วและทางลงไปสู่ชานชาลาของซิตี้ไลน์ค่ะ





















แล้วก็ตรงฝั่งตรงกันข้ามกับรูปเมื่อกี๊ จะมีเคาน์เตอร์ให้สอบถามข้อมูลด้วยนะคะ (เบลอได้กว่านี้อีกมั้ย )




















ว่าแล้วก็ไปซื้อตั๋วเอกซ์เพรสไลน์กันค่า (ตอนนั้นตู้ขายตั๋วอัตโนมัติยังไม่เปิดเลยนะคะ ต้องซื้อกับเจ้าหน้าที่อย่างเดียว)





















หน้าตาตั๋วตอนนั้นก็เป็นแบบนี้ (เห็นเลยว่าดองมานานแค่ไหน 555+)

จะเห็นปั๊มวันที่ตรงส่วนที่เขียนว่าเที่ยวไป กับเที่ยวกลับด้วยนะคะ




















เจ้าหน้าที่ฉีกตั๋วเที่ยวไปเรียบร้อยแล้ว ก็ลงทางเลื่อนไปกันค่ะ
(อันนี้ขอชม เพราะเหมาะกับผู้โดยสารที่มีกระเป๋าใบใหญ่ๆ ค่ะ)























โดนฉีกตั๋วออกไปแล้วค่ะหนึ่งอัน (ขาไป)





















ลงไปแล้ว ที่จริงคงจะขึ้นไปสองฝั่งซ้ายขวาตามป้ายหละค่ะ

แต่วันนั้นถ้าจำไม่ผิดขึ้นชานชาลาที่ 3 ฝั่งขวามือค่ะ (ฝั่งนี้มีชานชาลา 3 กับ 4 ค่ะ)

























ยังไม่ทันจะอะไร รถไฟก็มาซะแล้วค่ะ ข้างรถจะมีบอกเลยว่าเป็นเอกซ์เพรสไลน์นะคะ





















ขึ้นไปปุ๊บ ตรงใกล้ๆ ประตูเข้า-ออก ก็จะมีที่ให้วางกระเป๋าแบบนี้โดยเฉพาะด้วยค่ะ





















เบาะที่นั่งภายในเอกซ์เพรสไลน์ค่ะ ซึ่งจะแตกต่างกับซิตี้ไลน์นะคะ

ของขบวนนี้จะหันหน้า-หลังแบบเหมือนรถไฟปกติค่ะ แต่เบาะเป็นกำมะหยี่นั่งสบายตรูดค่ะ

นอกจากนั้นก็มีชั้นวางของบนศีรษะให้อีกด้วยค่ะ




















จะเห็นว่าที่ที่นั่งตัวข้างๆ ศีรษะจะนูนๆ มาหน่อยเหมือนเป็นที่ล็อกศีรษะด้วยค่ะ





















เนื่องจากระหว่างรอรถออก คนก็มีน้อยมากๆ ก็เลยเดินสำรวจตู้อื่นค่ะ

ระหว่างตู้จะมีประตูกั้นแบบนี้นะคะ แล้วก็มีปุ่มกลมๆ สีเหลืองๆ เขียวๆ อ่อนๆ ให้กดเพื่อให้ประตูเปิดนะคะ





















เดินเซอร์เวย์ไปเรื่อยๆ จนเจอตู้หนึ่ง (ถ้าจำไม่ผิดคือตู้สุดท้ายนะคะ) จะมีห้องโค้งๆ สีเงินๆ แบบนี้

แถมมีที่ให้นั่งรอสองที่อีกนะคะ ทายซิคะว่าอะไรเอ่ย?





















อะฮ้า...มันคือห้องน้ำนั่นเองค่าาาาา (เป็นอีกสิ่งที่ซิตี้ไลน์ไม่มีนะเคอะ)





















แต่..ตอนนั้นเค้ายังไม่เปิดให้บริการค่ะ





















สงสัยจะมีคนซน (ยิ่งกว่าเรา) ลองเปิดประตูแน่เลย เลยมีป้ายนี้ติดไว้ด้วยค่ะ





















จากนั้นก็อ่านโบรชัวร์เพิ่มเติม ปรากฏว่า รถเอกซ์เพรสไลน์จะมีทั้งหมด 4 ขบวน (เวียนไปเวียนมา?) นะคะ

แล้วแต่ละขบวนก็มี 3 ตู้ค่ะ บรรจุคนได้ 170 ที่นั่ง แล้วก็มีตู้สัมภาระต่างหากอีก 1 ตู้เป็น 4 ตู้ค่ะ





















หลังจากเก็บข้อมูลเรียบร้อยแล้ว เราก็เลยเดินไปที่ท้ายขบวนอีกรอบเพื่อไปเก็บภาพตู้สัมภาระค่ะ

หน้าตาเป็นเยี่ยงนี้ (น่าจะเอาไว้เก็บสัมภาระคนที่ทำ In Town Check In มากกว่านะคะ)





















นั่งไปแค่ 15 นาทีก็ถึงแล้วค่ะ สถานีมักกะสัน





















ออกมาปุ๊บ ก็จะเจออย่างนี้ค่ะ จะเห็นว่ามีส่วนหนึ่งที่ตรงไปลงลิฟท์เลยนะคะ

แต่ใครจะลงบันไดก็ได้ค่ะ (จำได้ไม่แน่นอนว่า สถานีนี้มีบันไดเลื่อนลงหรือเปล่านะคะ)





















รถไฟมาจอดที่ชานชาลาที่ 2 ค่ะ





















ที่จอ นอกจากจะบอกเวลาแล้ว ก็บอกด้วยนะคะว่าอีกกี่วินาทีรถไฟจะมา (หรือกรณีนี้ จะออกจากชานชาลาค่ะ)

อย่างจากจอนี้ก็จะเห็นว่า อีก 173 วินาทีค่ะ รถไฟก็จะออกแล้ว






















เราลงบันไดเลื่อนมาค่ะ จะเห็นว่า ถ้าลงตัวลิฟท์จะอยู่นอกกระจกเลยไปอีกนะคะ ต้องเดินเข้ามาอีกทีค่ะ





















ส่วนเราลงบันไดเลื่อนมาก็เลี้ยวขวา จะเห็นว่าที่จริงเขาห้ามออกหมดเลยนะคะ

แต่ตอนนั้นเค้าเปิดให้ออกทางช่องขวาสุดได้ค่ะ





















พอออกมาจากตรงเมื่อกี๊ ก็จะเห็นว่าฝั่งขวามือมีเคาน์เตอร์สำหรับบัตรโดยสารและสัมภาระเกินพิกัด
(ซึ่งไม่แน่ใจว่ากำหนดยังไง ขนาดของสัมภาระ? น้ำหนักสัมภาระ?)

ส่วนเคาน์เตอร์ที่อยู่ไกลกว่านั่น น่าจะรับเช็คอินและโหลดกระเป๋าได้เลยเหมือนที่ฮ่องกงนะคะ























ถ่ายย้อนกลับยังทางที่เราเดินออกมาเมื่อกี๊

จะเห็นว่าที่จริงแล้วเป็นทางเข้านะคะ แล้วก็ข้างๆ ก็เป็นเคาน์เตอร์ขายตั๋วค่ะ





















ติดกับเคาน์เตอร์ขายตั๋ว ก็จะมีเครื่องขายตั๋วอัตโนมัติค่ะ แต่วันนั้นยังไม่เปิดทำการ





















ถัดจากที่ขายตั๋วอัตโนมัติ ก็จะเป็นเคาน์เตอร์สำหรับทำอินทาวน์เช็คอินค่ะ

มีเจ้าหน้าที่มาทดลอง+ตรวจสอบอยู่ด้วยค่ะ แหะๆ

สงสัยว่า ทำไมจอขึ้นแต่การบินไทยหว่า? หรือโซนนี้เฉพาะสายการบินไทยโดยเฉพาะ

แต่ถ้าสายการบินอื่นๆ นอกเหนือจากนี้ต้องเป็นเคาน์เตอร์ฝั่งโน้น (รูปก่อนหน้านี้) หรือเปล่าหนอ?





















ว่าแล้วก็เดินออกไปทางหน้าอาคารค่ะ จะเห็นว่าชั้นนี้คือชั้น 3 นะคะ ที่จริงเป็นชั้นสำหรับผู้ที่จะเดินทางไปสุวรรณภูมิค่ะ ถามเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่บอกว่า ที่จริงพอเปิดสมบูรณ์แล้ว คนที่มาจากสุวรรณภูมิจะต้องลงไปที่ชั้น 2 เพื่อเรียกแท็กซี่ค่ะ จะไม่สามารถลงมาที่ชั้น 3 ซึ่งเป็นชั้นสำหรับคนที่ไปสุวรรณภูมิได้






















แล้วก็ที่นี่จะมีทั้งหมด 4 ประตูนะคะ ประตู 1 กับ 2 ซิตี้ไลน์ ประตู 3 และ 4 จะเป็นเอกซ์เพรสไลน์นะคะ

ตอนนั้นเราออกมาที่ประตู 3 ค่ะ























วันนั้นมีเจ้าหน้าที่คอยวอ (วิทยุสื่อสาร) กับเจ้าหน้าที่ข้างล่างให้คอยเรียกแท็กซี่ขึ้นมารับให้ค่ะ (หลายๆ ข้อมูลก็ได้มาจากถามเจ้าหน้าที่คนนี้แหละค่ะ) แล้วระหว่างนั้นก็มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาสองคน เราก็นึกออกว่า เออตรูยังมีเหลือตั๋วขากลับอีกขานี่หว่า ก็เลยวิ่งตามไปให้เขาค่ะ (เพราะจะเก็บไว้ก็หามีประโยชน์อันใดไม่อะนะ) เขาก็งงๆ เล็กน้อย แต่พอฟังอธิบายก็ขอบคุณเราเป็นอันดี




ก็หวังว่าคงพอเป็นประโยชน์สำหรับท่านที่จะเดินทางด้วย ARL บ้างนะคะ เดี๋ยวยังไงถ้ามีโอกาส จะลองนั่งเอกซ์เพรสไลน์อีกซักรอบตอนที่เขาเปิดตัวสมบูรณ์ๆ แล้วนะคะ ส่วนตอนหน้าจะพาไปนั่งแบบซิตี้ไลน์ ซึ่งเรานั่งทั้งแบบตอนยังเป็นตั๋วกระดาษ และตอนเป็นตั๋วแบบปกติแล้วค่ะ






















ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาค่ะ

813491+4506=817997/6203/550

Create Date :06 มกราคม 2554 Last Update :6 มกราคม 2554 8:23:32 น. Counter : Pageviews. Comments :52