bloggang.com mainmenu search
เว้นระยะการอัพ Blog ไปนานร่วมเดือน อันเนื่องมาจากวุ่นวายในเรื่องงานบ้างนะครับ งานบ้าน ณ.ตอนนี้ ที่ผมกำลังนั่งเขียน บล็อคอยู่ ก็ส่งมอบงานบ้านและจ่ายงวดงานไปหมดเรียบร้อยแล้วล่ะครับ แต่ไม่ใช่ว่ารายละเอียดส่วนนี้จะหายไป...ทุกอย่างถูกบันทึกเอาไว้หมดครับ รอทะยอยเรียบเรียงมาลงให้อ่านกันในตอนนี้

ในเรื่องงานบ้านที่ ทั้งทางผู้รับเหมาเอง และ ช่างสแตนเลส ที่ทำงานราวระเบียงให้ ต่าง "ส่ายหัว" ไม่ขอรับทำงานดังกล่าว.......เนื่องจากแบบที่ผมคิดจะทำ "ไม่เคยปรากฏ" ในสายตาของทั้งผู้รับเหมาและทางช่างที่รับทำงานบันได......งานนี้ ผมจึงต้องลงมือทำด้วยตัวเองภายใต้ความตกลงร่วมมือกับทั้งผู้รับเหมาและช่างว่าจะต้องเตรียมของและแรงงานช่างเอาไว้ให้ผมเป็นพอ...ที่เหลือผมขอคุมเอง

(อันนี้พอเข้าใจน่ะครับว่า....ความต้องการของเราบางที ใครก็จัดให้เราไม่ได้ ....ถ้าไม่ทำด้วยตัวเอง ไหนเลยจะได้สิ่งนั้นมา)


ต่อจากบทความเก่า...งานสแตนเลสทุกอย่างก็ปิดฉากกันลงไป สำหรับงานราวบันได เหลือเพียง ไปสั่งไม้ราวบันไดมาติดเป็นราวจับ, และงานราวระเบียงภายในบ้าน ก็เหลือเยอะหน่อย ทั้งงานราวจับ และงานปิดช่องว่าง ระหว่างเสาระเบียง





... อันนี้มีตอนนึงที่ ผมโดน (อาเฮีย)ผู้รับเหมาบ่นว่า....ถ้าให้เป็นงานสแตนเลสทั้งหมด มันก็ง่ายขึ้นนะ ป่านนี้งานจบไปหมดแล้ว.....งานสแตนเลสก็สวยเหมือนล่ะน่า

แต่ว่าที่ผม design และวาดแบบจำลองใน Google sketch...ไม่ว่าจะใช้ลายไหน มันก็ไม่เข้ากัน (ในความคิดและความต้องการ) กับ งานระเบียง ที่มีการเล่นระดับพื้น แถมยังเป็นงานภายในบ้านอีกด้วย เพิ่มความยากเข้าไปอีก

อ๋อโจทย์สำหรับงานนี้ (ไล่ตามลำดับความสำคัญสูงสุด) คือ
1. ความปลอดภัยสำหรับเด็ก ต้องป้องกันการปีนได้ และต้องแข็งแรงพอ
2. ความสวยงามและเข้ากับรูปทรงของบ้าน ไม่ทำให้ขัดตาหรือปิดกั้น ความต้องการแรกในตอน design ตัวบ้านนั่นคือ "โปร่งโล่งสบายภายในพื้นที่ที่มีอย่างจำกัด"
3. สามารถต่อยอดทำประโยชน์ได้ในภายหลัง หรือใส่ idea ลูกเล่นเข้าไปได้อีก เพราะ "ความซน" ของเรามันมีมาเรื่อยๆ

เอาล่ะเริ่ม solve ปัญหา ตุบตับๆๆ ออกมา....ก็ได้คำตอบว่า งานระเบียงภายในใช้เสาสแตนเลสตั้งแล้วใช้แผ่นอคะคลิลิค หนา 10 mm. มาปิดช่องว่างระหว่างเสา ดีที่สุด ซึ่งเดิมทีคิดจะใช้กระจก แต่ประเด็นความยากที่สุดของงานนี้คือ "ราวระเบียงโค้ง"....ที่คิดให้ตายยังงัยก็ไม่เอาแบบซอยแผ่นเรียบมาต่อกันทำโค้งให้มันมีเหลี่ยม ให้ขัดตาประชาชี ในบ้าน.......

และที่สำคัญคือ "ราคา".....ถ้าหากใช้กระจกทำดัดโค้ง นั่นหมายถึงจะต้องทำ mold ขึ้นมาเพื่อใช้สำหรับหล่อขึ้นรูปกระจก ......ซึ่งมีทั้งหมด 9 โค้ง ที่ไม่เหมือนกันเลย และค่าทำ mold กระจก ที่ผมพยายามใช้เวลาเสาะหามา..ต้องจ่ายถึง mold ละ 10,000 บาทเป็นขั้นต่ำ นี่ยังไม่รวมค่าแรงและค่าวัสดุอื่นๆ....สรุปไปเลยว่า งานนี้ถ้าเป็นกระจก ต้องโดนไป 1 - 1.5 แสน เป็นอย่างน้อย เพื่อการสร้างกระจกโค้งแค่ 9 ชิ้นนี้............

และไหนจะในเรื่องความแข็งแรงอีก ถ้าเป็นกระจก ก็แตกง่ายถึงจะไปใช้ temper glass หรืออะไรอีกก็ช่างที่มันมีอยู่ในท้องตลาดในปัจจุบัน (จากการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านกระจกหลายท่าน) ถ้าตำแหน่งจุดยึดมันไม่เปะ หรือมีการบิดโก่งเล็กน้อย จะทำให้เกิดแรงเค้นภายในตัวกระจก...โอกาสที่กระจกจะระเบิดมีสูงมาก...เอาแค่กระจกแผ่นเรียบยึดตั้งตรงธรรมดายังระเบิดกันเลย

ทุกอย่างเลยมาจบที่ งานอะคลิลิคใสครับ...มีความใสเหมือนกระจก และมีความทนทานต่อการแตกหักสูงกว่ากระจก 15 เท่า และถึงจะแตกหักก็ไม่ทำให้เกิดอันตรายการเศษของมัน...ข้อเสียของมันมีอยู่เพียงอย่างเดียวคือ พื้นผิวมันเกิดรอยได้ง่ายถ้าโดนขีดข่วน (แต่ป้องกันได้ถ้าติดฟิล์ม)....

อ่ะเรื่องราคาก็ไม่น้อยหน้ากระจกกันเลยทีเดียว ถามมาหลายร้านเจอมาตั้งแต่ราคาค่าทำทั้งหมดเทียบเท่ากระจก จนมาได้ถูกกว่าถึง 3 เท่า.....พล่ามมาซะยาวชมภาพขั้นตอนกันดีกว่า

เริ่มทำต่อจากงานของช่างสแตนเลสที่ได้ขึ้นเสาทิ้งเอาไว้ให้ นั่นคือ เราต้องมาหาส่วนโค้งเอา อุปกรณ์ที่ผมใช้ คือ
1. ลวดเส้นใหญ่หน่อย
2. กระดาษแข็ง
3. กระดาษไขเขียนแบบ
3. เทปกระดาษกาว
4. ดินสอ

เอาลวดเหล็กมารัดติดหัวเสาแต่ละต้นค่อยๆดัดโค้งเอาให้ได้เหมาะกับโค้ง









จากนั้นก็เอากระดาษแข็งมาวางทาบหารอยต่อไล่ไปทีละส่วน แล้วค่อยเอาลงมาติดเทปกาวให้เป็นแผ่นเดียวกัน....จากนั้นก็ยกขึ้นไปวางทาบบนหัวเสาและเส้นลวดใหม่.....





แล้วก็ก้มลงไปใช้ดินสอขีดตามเส้นลวดลากไปเลยครับ...จัดการ mark จุดตำแหน่งหัวเสาไปด้วยเลย...."เพราะ แบบที่เราลอกออกมานี้...จะใช้ในการขึ้นรูปไม้ราวจับด้านบน และ การดัดแผ่นอะคลิลิคโค้ง ไปพร้อมกันเลย"





เมื่อเสร็จเรียบร้อย ก็ได้หน้าตาออกมาเช่นนี้ *** แบบที่ลอกออกมา มันเป็นการลอกแบบจากด้านล่างขึ้นมา ฉะนั้น เมื่อจะนำไปใช้ทำแบบราวไม้ จะต้องกลับด้านซะก่อน *** ซึ่งต้องเอากระดาษไขมาทาบวาดไปจากกระดาษแข็งอีกที ก็จะได้ โค้งที่ถูกต้อง







แล้วก็ถอดแบบซะ ว่า จะต้องใช้แผ่นอะคลิลิคกี่แผ่น และมีขนาดเท่าไหร่ และต้องโค้งแบบไหน....









หลังจากนั้นก็แยกย้าย เอาแบบที่ลอกออกมา ไปสั่งงาน เอาแบบกระดาษไข ชุดนึงไปให้โรงไม้เค้าช่วย ทำราวไม้ให้ พร้อมกับสั่งราวไม้ตัวอื่นๆไปด้วยกันเลย.....ส่วนแบบที่วัดตัวเลขมาได้ก็เอาไปกับตัวลอกกระดาษไขอีกชุด เพื่อไปสั่งร้านอะคลิลิคทำ มาให้.......จากนั้นก็ รอๆๆๆๆๆ ผ่านไป เกือบๆจะ 2 อาทิตย์ ชิ้นส่วนทุกอย่างก็เสร็จสมบูรณ์พร้อมติดตั้ง

มาดูที่งานไม้กันก่อน.....ราวไม้ตรง เน้นใช้แบบเต็มความยาว จะตัดต่อกันแค่ตรงตัวจบมุมหรือต่อมุมเท่านั้น





ส่วนราวไม้โค้ง....โรงไม้จัดการเอาแบบกระดาษไข ไปทาบลงทำแบบไม้อัด เพื่อใช้ตัดไม้จริงมาเทียบง่ายๆ....เค้าเลยให้แบบไม้อัดกลับมาด้วย....แต่ยังไม่วายช่างโรงไม้ดันประกอบแบบไม้อัดมาให้ผิด...เล่นเอาหัวหมุนไปพักนึงกว่าจะลงตัว





ไม้ที่ตัดโค้งมาแต่ละส่วนจะทำเผื่อมาให้สำหรับการตัดต่อไว้ด้วย





ต่อไปก็เป็นหน้าที่ของช่างไม้ของผู้รับเหมามาจัดการต่อล่ะ โดยเราต้องมาอธิบายการทำงานให้เค้าทำงานต่อกันได้ .....ตุบตุบๆๆ...ไม่ถึง 5 วัน งานติดตั้งราวไม้ทุกส่วนก็จบลงด้วยดี

















โค้งได้ตามแนวไม่มีผิดเพี้ยน....





การต่อชิ้นส่วนไม้เพื่อการสร้างโค้ง ก็ใช้วิธีตัดไม้แบบนี้ครับ คือ เฉือนด้านข้างประมาณ 45 องศา แล้วประกบกัน







ในส่วนของราวบันไดปกติหน้าตาหลังติดตั้งเรียบร้อย ยังไม่ได้ทำสี....






ต่อไปก็ให้ช่างสีเข้ามาเก็บงานต่อได้...รอจนกระทั่ง ช่างสีเก็บงานทั้งหมดจนครบเรียบร้อย...ก็มาเริ่มต่อด้วยการติดแผ่นอะคลิลิค ซึ่งเข้ามาวางรออยู่นานเป็น อาทิตย์แล้ว




ตอนติดตั้งก็ไม่ได้มีอะไรมากครับ แค่ยกแผ่นมาทาบแล้ว mark จุด จากนั้นก็เอามาเจาะรูแล้วใส่น๊อตยึดกับเสาเข้าไป ก็เรียบร้อย (ฟังดูมันง่ายมาก แต่ตอนทำ...ผมทำแค่คนเดียว...ลำบากมากๆก็ดันเอ่ยปากไปแล้วว่าจะทำเอง เฮียเลยปล่อยให้จัดการเองซะ ฮ่าๆๆ....แต่ก็ดีครับเพราะเท่าที่ดูช่างยังเก็บงานไม่ละเอียดเท่าเราทำเองเลย งานนี้ราคาสูงขอลงมือเองดีกว่า)

....เทคนิคในการเจาะรูแผ่นอะคลิลิค ต้องเริ่มเจาะจากดอกสว่านเล็กๆก่อนนะครับ แล้วค่อยเปลี่ยนไปใช้ดอกสว่านดอกใหญ่ไล่ไป...เอาดอกใหญ่มายัดทีเดียวเลยเนี่ย แตกกระจายเลยนะครับ งานนี้ใจร้อนไม่ได้ ค่อยๆทำไป.... หลังติดตั้งเสร็จก็ออกมาดังนี้.....











การยึดน๊อต







ตรวจโค้ง...ก็ได้ตามแนว







จบหมดละครับสำหรับงานทุกอย่างที่คิดว่าเป็นส่วนประกอบในการสร้างบ้านหลังนี้ขึ้นมา........ต่อไปก็คงเป็นไปในเรื่องของการตกแต่ง ซึ่งแนวทางการตกแต่งบ้านนี้ไม่มีอะไรมากครับ ไม่เน้นหรูเฟอร์เพียบ เพราะไม่มีตังครับ !!! ฮ่าๆๆๆ จริงๆคือตั้งใจเอาไว้แรกๆเลยว่า จะไม่ให้มีเฟอร์นิเจอร์ตู้โชว์หรืออะไรต่อมิอะไรต่างๆให้มันเยอะจนรกตา หรือเป็นที่เก็บฝุ่นจนทำความสะอาดกันไม่ไหว เพราะ ทั้งบ้านก็เป็นภูมิแพ้กันหมดแล้ว...บ้านหลังเก่าที่อยู่นี่ข้าวของอะไรต่อมิอะไรเยอะไปหมด จนต้องขอไว้เลยว่าบ้านหลังใหม่ ไม่เอาแบบนี้ล่ะนะ.......ดังนั้นจะเน้นสไตล์เรียบๆแนวๆ...(แนวไหนก็ไม่รู้...ฮ่าๆๆๆ).....เอาเป็นว่าถ้าทำหรือเสร็จส่วนไหนก็จะมาอัพให้ได้อ่านให้ดูกันอีกใน Project หน้าน่ะครับ.............................
Create Date :28 มิถุนายน 2554 Last Update :29 มิถุนายน 2554 15:12:06 น. Counter : Pageviews. Comments :17