bloggang.com mainmenu search



ไม่พูดพล่ามทำเพลงนะครับ วันนี้เกิดอุบัติเหตุทางอารมณ์นิดหน่อย อารมณ์
เลยชักจะเป๋ แต่ไม่อยากยอมสยบให้แก่อารมณ์เป๋ๆ ไม่เข้าท่า เลยมาหา
อะไรฝากเพื่อนพ้องน้องพี่แก้เฉา เพราะงัยก็ไม่อยากทำงานที่ได้เงิน
อยู่แล้ว หงุดหงิดหัวคิดไม่แล่น จะอมหมากหอมเยาวราชสักแว่น
ก็เหมือนเค้าจะเลิกขายไปนานแล้ว (มั้งงงงงงงงงงงงงง)
ทำตัวให้มีประโยชน์ดีกว่า




เขาว่า การเลือกกินอาหารที่เหมาะสมเป็นหนึ่งปัจจัยในการรักษาสุขภาพ
วันนี้อ่านพบ (อาจจะเก่าแล้วสำหรับบางท่าน) อาหารย่อยยาก
เลยเอามาแปะฝากกัน เพราะอาหารย่อยยากไม่ดีแก่
เด็กไปถึงคนชราเลยละครับ


ชนิดที่ 1 นักเก็ตทอด (Fried Chicken Nuggets)





เขาว่า ควรจะซื้อนักเก็ตแช่แข็ง ไปอบเอาดีกว่ามาก


ชนิดที่ 2 อาหารเผ็ดร้อน (Spicy Food)





พริกเพิ่มรสชาดให้แก่อาหาร สิ่งนี้เราไม่ปฏิเสธอยู่แล้ว แต่ก็ควรใส่ใจว่า
ความเผ็ดร้อนไม่ดีแก่กระเพาะ แม้จะมีอาหารอื่นมาแนมให้ลิ้นรู้สึก
เผ็ดน้อยลง แต่ไม่ได้ทำให้ความเผ็ดทั้งหมดลงไปสู่กระเพาะ
น้อยลงด้วย ยิ่งถ้าพยายามหาอาหารหวานมันจัดๆ มาลด
ความเผ็ด เช่น อาหารไทยมักมีพวกหมูหวาน
กุนเชียงมาแก้เผ็ด ก็จะยิ่งเพิ่มน้ำตาลและ
โคเรสตอรอลให้อาหารมื้อนั้นหนักขึ้น


ชนิดที่ 3 ช็อคโกแล็ต (Chocolate)





กินนิดๆ หน่อยๆ เป็นครั้งคราว ไม่เป็นไร แต่ถ้ากินมากเป็นอาจินต์ เขาว่า
ไม่ดีกับกรดในกระเพาะ


ชนิดที่ 4 น้ำผลไม้ประเภทส้ม (Citrus juices)





เขาว่าปฏิกิริยาของกรดอาจทำให้ท้องไส้ปั่นป่วน โดยเฉพาะถ้าดื่มตอนเช้า
ในขณะที่ท้องว่าง แล้วมีส่วนผสมของ fructose corn syrup มาก
อาจทำให้ท้องร่วงได้


ชนิดที่ 5 มันฝรั่งบด (Mashed potatoes)





นี่น่าจะเป็นอาหารที่ปลอดภัยมากที่สุด แต่ถ้าคุณแพ้นม คุณก็ต้องหลีกเลี่ยง
เพราะมันบดนี่มีนมและครีมเป็นส่วนผสมมาก ถ้าอยากกินก็ทำเองเป็นดี
ที่สุด จะได้ใช้นมที่ไม่มี lactose หรือ lactose-free whole milk


ชนิดที่ 6 หอมใหญ่สด (Raw Onion)





หอมใหญ่ หอมเล็ก กระเทียม ล้วนมีส่วนผสมที่ทำให้ท้องไส้ไม่สบาย แต่ก็มี
ประโยชน์จนไม่ควรหลีกเลี่ยง เขาแนะนำว่า ถ้าจำเป็นต้องกินสดก็ต้มเสีย
บางส่วน การกินปนกันจะช่วยให้ได้ประโยชน์และไม่ต้องทนโทษ
ที่ปนมาด้วย


ชนิดที่ 7 ไอสครีม (Icescream)





ถ้าคุณแพ้แล็คโคสในนมคุณก็ไม่ควรกินไอสครีมเลย เพราะถึงคุณไม่แพ้
ไอสครีมก็มีแต่ไขมันที่ย่อยยาก จึงไม่ควรกินมาก


ชนิดที่ 8 บล็อคคอรี่กับกล่ำปลีดิบ (Broccoli and raw cabbage)





ผักสองอย่างนี้ได้ชื่อว่า มีกากใยและคุณค่าทางอาหารมาก แต่กินดิบจะ
ทำให้เกิดกรดมาก จึงควรต้มเสียก่อน


ชนืดที่ 9 ถั่วต่างๆ (Beans)





เขาว่าถ้าเราไม่ได้กินถั่วเป็นประจำ เราก็ไม่มีเอ็นไซม์ย่อยถั่วในกระเพาะ
ของเรา จึงทำให้เกิดกรดและอาการที่ทำให้ต้องขายหน้าอยู่เรื่อย ทาง
ที่ดีคือ เวลากินถั่ว ต้องดื่มน้ำมากๆ ด้วย หรือต้มถั่วให้นานพอที่ถั่ว
จะแตกตัวเสียบ้างเพื่อลดอาการที่ผู้กินไม่พึงปรารถนา


ชนิดที่ 10 หมากฝรั่งไร้น้ำตาล (Sugar-free gum)





ซอบิตอล เป็นส่วนผสมที่พบในผลิตภัณฑ์ไร้น้ำตาล เช่น หมากฝรั่ง ลูกอม
เครื่องดื่มชนิดปั่น และขนมสำหรับผู้ลดน้ำหนัก สารนี้ทำให้เกิดกรด
มากในกระเพาะอาหาร ถ้ามีเพียง 2 กรัมก็อยู่ในเกณฑ์ที่รับได้
แต่ก็ควรหาผลิตภัณฑ์ที่ใช้สารแทนความหวานชนิดอื่น

************

ขอบคุณข้อมูลจาก MSN Health & Fitness



****






Create Date :06 กันยายน 2553 Last Update :7 กันยายน 2553 7:35:45 น. Counter : Pageviews. Comments :0