bloggang.com mainmenu search


สวัสดีศรีลังกา
Ayubowan Sri Lanka




เอนทรี่นี้ไม่มีเจตนาแนะนำเรื่องพระพุทธศาสนาและการท่องเที่ยว
เพราะมีผู้เขียนไว้มากแล้ว เพียงต้องการบันทึกบางเรื่องราวของ
การไปเยือนที่นั่นในครั้งนี้ซึ่งไม่ใช่ครั้งแรก


ขอขอบคุณผู้ที่เคารพนับถือและเพื่อนๆ น้องๆ ทุกคนที่เข้ามาเฝ้าบ้านให้ พร้อมทั้งนำความปรารถนาดีเนื่องในวันขึ้นปีใหม่ไทยมามอบให้ด้วย
ขอพรทุกประการนั้น จงตอบสนองแด่ทุกท่านเช่นกัน




ต้องขออภัยที่จากไปศรีลังกาเงียบๆ และไม่ได้กลับเข้ามาทักทายในช่วงนั้น
เนื่องจากเราตัดสินใจในเวลาค่อนข้างกระทันหัน ที่จะผนวกการทำบุญในสถานที่สำคัญทางศาสนาพุทธ 5 แห่งไว้ในการเดินทางท่องเที่ยวด้วย
แต่ในช่วงวันสงกรานต์ ที่นั่นมีฝนหนักน่าจะเกือบทั่วประเทศทำให้
การเดินทางไปแต่ละแห่งใช้เวลามากกว่าที่กำหนดไว้ ประกอบกับ
ผู้สูงวัยในคณะหลายท่าน (70+ - 80+) มีสุขภาพไม่สู้สมบูรณ์
บางท่านต้องมีผู้ช่วยพยุงเดิน [ครอบครัวเราซ่าได้สดหยดสุดท้ายเลย อิอิ]
ที่สำคัญช่วงสงกรานต์ก็เป็นช่วงเฉลิมฉลองปีใหม่ของชาวศรีลังกาเช่นกัน
การจราจรเลยเป็นอัมพาตในหลายๆ เมืองใหญ่ๆ อย่างต้องทำใจ




เราได้เข้าไปกราบนมัสการพร้อมทอดผ้าฯถวายพระเขี้ยวแก้วถึงในที่ประดิษฐาน
แล้วไปทอดผ้าฯและกราบนมัสการต้นพระศรีมหาโพธิ์ที่นำหน่อมาจากต้นโพธิ์ที่พระพุทธองค์ทรงอาศัยร่มเงาเป็นที่ทรงตรัสรู้


เป็นสองเรื่องที่น้อยคนแม้แต่ชาวศรีลังกาทั่วไปจะได้เข้าไปใกล้ชิด แล้วไปคาดผ้าเหลืองรอบองค์พระมหาเจดีย์ที่อนุราชปุระ ได้แวะไปชื่นชมสิคิริยา แต่ไม่ได้ขึ้นไปเพราะการเดินขึ้นต้องใช้เวลามากและหนทางยากลำบากเกินกว่าผู้อาวุโสในคณะบางคนจะทำได้


ฝากภาพไว้ให้ชม เพื่อยืนยันว่า ยากจริงๆ โดยเฉพาะผู้อาวุโสที่ไปกับเรา
แม่ของเราที่ว่าก็ซ่าสดหยดสุดท้ายเหมือนกัน ถ้าพูดถึงตรงนี้
แม่ก็ส่ายหน้า ไม่เอาด้วยเหมือนกัน พี่ปูเคยไปลองครั้งหนึ่ง
ขึ้นไปจนถึงแล้วก็เป็นลม 55 (หวังว่าจะไม่มาแอบอ่านนะเนี่ย เอิ๊กกก)

(ท่านที่สนใจสิคีริยาก็สามารถหาชมได้ที่ยูทูป เช่นที่
//www.youtube.com/watch?v=sk2qkqz34VM&feature=related)



ภาพแรกซูมมาใกล้สุด







ไกลออกไป เห็นเชิงเขาเป็นป่าสมบูรณ์มาก








ภาพข้างล่างนี้ เป็นอีกด้านหนึ่ง มองผ่านทะเลสาบไปให้เห็นว่า อยู่สูงเพียงใด








พาขึ้นไปไม่ไหว เลยเก็บดอกไม้มาฝากสองดอก บ้านเราก็มีเหมือนๆ กัน
แต่ต่างถิ่นก็งามต่างกัน













ยืนชะเง้อเมียงมองจนพอใจแล้วก็ออกเดินทางต่อไปวัดถ้ำดัมบุลลา
ซึ่งสามารถตะเกียกตะกายขึ้นไปถึงจนได้ จะว่าไป สำหรับคนที่ยัง
มีกำลังวังชา ขาแข้งเดินสะดวกสบายก็ไปถึงได้ทุกคนละครับ
ไม่ได้เหลือบ่ากว่าแรงแต่อย่างใด เหนื่อยแต่ก็คุ้มที่ได้ชมจริงๆ

(ท่านที่สนใจวัดถ้ำดัมบุลลาก็สามารถหาชมได้ที่ยูทูป เช่นที่
//www.youtube.com/watch?v=TV0FnyNnZ14)




มีภาพมายืนยันว่าขึ้นไปถึงจริงๆ นะ ไม่โกหกโกห้านะเออ









นอกจากนี้ยังได้ไปคาดผ้าเหลืองห่มองค์พระมหาเจดีย์ที่เมืองอนุราชปุระ
ภาพแรกขณะเดินเวียนขวารอบองค์พระมหาเจดีย์
มีชาวศรีลังกาเข้าร่วมด่วย








ภาพต่อมา ขณะคาดผ้าห่มองค์พระมหาเจดีย์








และไปสิ้นสุดการแสวงบุญด้วยการคาดผ้าเหลืองรอบองค์พระเจดีย์และทำประทักษิณรอบต้นโพธิ์ที่วัดกัลยาณีในโคลอมโบ


ทุกๆ แห่งที่ไปทำบุญนี้ ได้เดินประทักษินสามรอบและสวดมนต์ทำสมาธิด้วย
นอกจากนี้ยังได้เข้านมัสการสังฆราชาและรอง เพื่อถวายพระพุทธรูปที่
นำไปด้วย และถวายปัจจัยซ่อมพระพุทธรูปที่มีอยู่แล้ว


ครอบครัวเราไม่ค่อยได้ถ่ายรูปการบุญทั้งหลายนี้ เพราะอยากทำบุญโดยสงบ
แต่มีเจตนาแบ่งบุญกุศลที่ได้กระทำแก่ญาติสนิทมิตรสหาย และทุกรูปทุกนามที่ได้ร่วมทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ขอให้มีความสุขสงบในร่ม
พระพุทธศาสนาด้วยกันเสมอไป


อาจจะมีคำถามว่า เหตุใดต้องลำบากไปทำบุญถึงศรีลังกา บ้านเราก็เป็นพุทธ
เป็นเรื่องยากจะอธิบาย เราก็ทำบุญในบ้านเมืองเราไม่น้อย แต่การทำบุญ
ในศรีลังกา เราเห็นว่าเป็นเรื่องเรียบง่าย คนศรีลังกาที่เราไม่เคยรู้จัก มักจะเข้ามาร่วมงานบุญของเรา เราพูดกันเสมอว่า การทำบุญที่นั่น เรามี
เพื่อนร่วมบุญที่มีความตั้งใจเป็นกุศล ชาวบ้านมักจะเข้ามาขอร่วมบุญ
ด้วยความศรัทธา ทั้งที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน จึงทำให้เรารู้สึกปลื้มที่
ได้รับมิตรภาพจากผู้ที่ร่วมความเชื่อและศรัทธาในศาสนาเดียวกัน
ยกตัวอย่างเช่นการคาดผ้าเหลืองล้อมองค์พระเจดีย์ที่วัดกัลยาณีใน
โคลอมโบ ชาวเมืองที่กำลังไหว้พระฉลองปีใหม่อยู่ในวัดนั้น พากันเข้า
มาเมียงมอง บางคนใจกล้า เข้ามาขอจับผ้าเหลืองเดินประทักษิณร่วม
กับเรา พอเรากวักมือเรียก ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นก็เลยเข้ามาร่วมขบวนกับเรา
ซึ่งมีกันเพียงแปดคนในวันนั้น ทำให้ขบวนเดินของเรายาวจนรอบ
องค์พระเจดีย์พอดี ยังความปลื้มปิติให้แก่เราอย่างนึกไม่ถึง
เป็นความสุขทางใจที่ได้ทำบุญและมีผู้ร่วมบุญที่มีความศรัทธาอย่างบริสุทธิ์และจริงใจ


ขอฝากภาพที่พอดีมี ไว้เป็นที่ระลึกในเอนทรี่นี้ ภาพแรกจะเห็นพ่อนำขบวน
ประทักษินคู่กับชาวศรีลังกาที่เราไม่เคยรู้จักมาก่อนและจากไปโดย
ไม่ได้รู้จักกันอยู่ดี









ชาวศรีลังกาเริ่มเข้ามาร่วมขบวน









ท้ายขบวน มีพร้อมทุกวัย









นำผ้าขึ้นคาดหรือห่มองค์พระเจดีย์ โดยเจ้าหน้าที่ของวัด คนของเรา
และชาวเมือง ณ ที่นั้น



















ขอลาไปด้วยภาพท้องฟ้าในวันที่เรากลับคืนมาสู่กรุงเทพฯ









ไม่ว่าจะอย่างไร ที่ไหนก็ไม่สุขใจเท่าบ้านเรา






เพลงประกอบ:
Peace and Love



เอนทรี่นี้เขียนอย่างเร่งด่วน
กลัวจะลืมหมด 55
คงมีที่สับสนให้ต้องแก้ไขพอสมควร






Create Date :18 เมษายน 2555 Last Update :23 เมษายน 2555 21:20:36 น. Counter : Pageviews. Comments :52