22
ธ.ค.54 ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเอแบคนวัตกรรมทางสังคม
การจัดการและธุรกิจ (Social Innovation Management and Business Analysis,
SIMBA) โดยการสนับสนุนทุนวิจัยของธนาคารกรุงศรีฯ
เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจเรื่อง ความตั้งใจจะท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่ :
กรณีศึกษาตัวอย่างผู้บริโภคที่มีอายุ 18
ปีขึ้นไป ใน 15 จังหวัดของประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 851 ตัวอย่าง
ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 15 - 21 ธันวาคมที่ผ่านมา
โดยผลสำรวจทั้งหมดนี้สามารถดึงข้อมูลได้ที่ www.abacpolldata.au.edu พบว่า ทั้งนี้ ตัวอย่างประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมประมาณร้อยละ 60.3 คิดว่าจะไม่ไปเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่
ในขณะที่ร้อยละ 39.7 ตั้งใจว่าจะไป อย่างไรก็ตามส่วนใหญ่หรือร้อยละ 92.5
ของตัวอย่างที่ไม่ประสบภัยน้ำท่วมตั้งใจจะไปเที่ยว แต่ร้อยละ 7.5
คิดว่าจะไม่ไปไหนในช่วงเทศกาลปีใหม่
อย่างไร
ก็ตาม ในกลุ่มคนที่ตั้งใจจะไปเที่ยวส่วนใหญ่หรือร้อยละ 96.0
จะเที่ยวในประเทศ ร้อยละ 1.6 เที่ยวต่างประเทศ และร้อยละ 2.4
เที่ยวทั้งในและต่างประเทศ โดยส่วนใหญ่หรือร้อยละ 88.4
จะไปเที่ยวกับคนในครอบครัว รองลงมาหรือร้อยละ 8.7 ไปกับเพื่อน ร้อยละ 5.6
ไปกับเพื่อนร่วมงาน หัวหน้า ลูกน้อง และร้อยละ 4.1 ไปกับแฟนหรือคนรัก
ตามลำดับ
โดย
ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 91.0 วางแผนการเดินทางเอง ร้อยละ 5.5 เป็นแพคเกจทัวร์
และร้อยละ 3.5 เดินทางเองแต่ซื้อแพคเกจทัวร์ในพื้นที่เพิ่ม
เมื่อถามถึงวิธีการวางแผนการเดินทาง พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 84.2 เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว ร้อยละ 7.3 ใช้บริการรถตู้ และรองๆ ลงไปคือ รถโดยสารประจำทาง สายการบินราคาปกติ สายการบินราคาถูก และรถไฟ
และผลสำรวจยังพบด้วยว่าส่วนใหญ่หรือร้อยละ 65.6 จะใช้จ่ายเงินไม่เกิน 10,000 บาทในการท่องเที่ยวกับครอบครัวและคนอื่นๆ ใน
ช่วงปีใหม่ที่จะถึงนี้ ในขณะที่ร้อยละ 20.9 จะใช้จ่ายระหว่าง 10,001 -
20,000 บาท ร้อยละ 7.0 จะใช้จ่ายระหว่าง 20,001 - 30,000 บาท และร้อยละ
6.5 จะใช้จ่ายเกิน 30,000 บาทขึ้นไป
โดย
ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 72.2 จะใช้เงินเก็บของตนเอง ร้อยละ 11.4
จะขอจากคนในครอบครัว รองๆ ลงไปคือ จะใช้จากผลกำไรที่ทำได้ เงินโบนัส
และยืมจากคนใกล้ชิด ตามลำดับ
สำหรับปัจจัยที่กระตุ้นให้เดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ พบว่า ร้อยละ 54.6 ระบุเป็นการจัดงาน กิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว
ร้อยละ 19.6 ระบุการลดราคาน้ำมัน ร้อยละ 15.6 ระบุการจัดแพคเกจทัวร์
ที่พักราคาพิเศษ และรองๆ ลงไปคือ การลดค่าตั๋วโดยสาร ฟรีค่าทางด่วน
นำใบเสร็จค่าที่พัก ตั๋วโดยสารมาลดหย่อนภาษี
และนำใบเสร็จค่าที่พักเป็นส่วนลดในการซื้อสินค้า ตามลำดับ
จากการพิจารณาลักษณะทั่วไปของตัวอย่าง
พบว่าตัวอย่างร้อยละ 33.3 เป็นชาย และร้อยละ 66.7 เป็นหญิง ตัวอย่างร้อยละ
9.1 ระบุอายุ 18-24 ปี ร้อยละ 21.6 ระบุอายุ 25-35 ปี ร้อยละ 19.6
ระบุอายุ 36-45 ปี ร้อยละ 23.4 ระบุอายุ 46-55 ปี ร้อยละ 18.0 ระบุอายุ
56-65 ปี และร้อยละ 8.3 ระบุอายุ 66 ปีขึ้นไป
ตัวอย่างร้อยละ 16.5
ระบุรายได้ไม่เกิน 5,000 บาท ร้อยละ 23.0 ระบุรายได้ 5,001 - 10,000 บาท
ร้อยละ 28.8 ระบุรายได้ 10,001 - 20,000 บาทและร้อยละ 31.7
ระบุมีรายได้มากกว่า 20,000 บาทขึ้นไป ตัวอย่างร้อยละ 24.3
สำเร็จการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรี ร้อยละ 63.7 สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี
และร้อยละ 12.0 สำเร็จการศึกษาสูงกว่าปริญญาตรี
โดย: winzar2