bloggang.com mainmenu search









เมื่อสองเดือนก่อนได้ฤกษ์จัดตู้หนังสือใหม่ เจอหนังสือ May Made มีสูตรเค้กอินทผลัมด้วย
เลยได้ฤกษ์ทำซะที  เป็นเค้กที่หอมมาก ๆ   ขอบคุณเจ้าของสูตร มา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ


อินทผลัมที่เอามาทำขนมวันนี้เป็นของอียิปต์ค่ะ   ขอบอกว่าเลิศมาก
 เนื้อแห้งแต่ไม่แข็ง ที่สำคัญคือไม่มีเมล็ดและรสชาดหวานกำลังดี 


อินทผลัมมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น ซัลเฟอร์ เหล็ก โพแตสเซี่ยม
ฟอสฟอรัส แมกนีเซียมแมงกานีส ฯลฯ และมีเส้นใยมาก ช่วยลดอาการท้องผูก
นอกจากนั้นยังบำรุงกล้ามเนื้อมดลูกและสร้างน้ำนม ให้กับผู้เป็นมารดาอีกด้วย
อีกทั้งช่วยบำรุงร่างกาย บำรุงสายตา ทำให้กระดูกแข็งแรง ลดระดับน้ำตาลในเลือด
และความดันโลหิตสูง และมีฤทธิ์ในการกำจัดสารพิษ และยับยั้งการเจริญเติบโต
ของเชื้อโรคอันเป็นสารก่อมะเร็งในช่องท้องด้วยค่ะ 




ส่วนผสมและวิธีทำ
อินทผลัม 180 กรัม
แป้งเค้ก 180 กรัม
ผงฟู 1/2 ช้อนชา
เบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชา
เกลือ 1/4 ช้อนชา
ไข่ไก่ 2 ฟอง
เนยสดจืด 100 กรัม
น้ำตาลทราย 130 กรัม (จากสูตร 150 กรัม)
น้ำเปล่า 1 ถ้วย
น้ำตาลไอซิ่ง เล็กน้อย (สำหรับทำไอซิ่งเกลซ)




1. อินทผลัมสับเป็นชิ้นเล็ก ๆ ต้มน้ำให้เดือดก่อนแล้วใส่อินทผลัมที่หั่นไว้ลงต้ม
ประมาณ 3 นาที พักให้อุ่น ๆ แล้วใส่เบกกิ้งโซดา คนผสมให้เข้ากัน








2. ร่อนแป้ง ผงฟู เกลือ เข้าด้วยกัน พักไว้ค่ะ








3. ตีเนยสดให้อ่อนตัว ใส่น้ำตาลทีละน้อย ตีด้วยความเร็วปานกลางจนขึ้นฟูและสีอ่อน








4. ตีไข่ แล้วรินช้า ๆ ใส่ในเนย ตีด้วยความเร็วสูงจนส่วนผสมเข้ากันดี
ใส่แป้งที่ร่อนไว้ ตีด้วยความเร็วต่ำ ให้ส่วนผสมเข้ากัน  ใส่อินทผลัม ผสมให้เข้ากัน
สังเกตว่าเนื้ออินทผลัมกระจายตัวดี  ไม่มีปัญหานอนก้นแน่นอนค่ะ









5. ตักใส่พิมพ์ เข้าอบที่อุณหภูมิ 180 องศาซี ระยะเวลาในการอบขึ้นกับ
ขนาดของพิมพ์และเตาของแต่ละบ้าน








6.   หลังจากเอาคัพเค้กออกจากเตาอบแล้ว   เราลืมเค้กชิ้นใหญ่ไปเลยค่ะ
มัวแต่เม้าท์มอยโทรศัพท์กะเพื่อน  ไม่ได้ตั้งเวลาไว้  หน้าแอบเกรียมเล็กน้อย
นำออกจากเตาพักให้เย็น แต่งหน้าด้วยอินทผลัมและไอซิ่งเกลซ รอจนน้ำตาลเซ็ทตัว
เก็บไว้ข้ามวัน  เค้กจะนุ่มชุ่มฉ่ำกว่าเดิมค่ะ














จับแต่งตัว ก่อนส่งมอบค่ะ








แบบคัพเอามาทานกันเอง  นุ่ม หอม อร่อย  




















ส่วนตัวชอบเค้กประเภทนี้   ทำก็ง่าย  กินเมื่อไหร่ก็อร่อย 
หลังจากเจ้าของวันเกิดได้ตัดชิมแล้ว   ที่เหลือเราแช่ตู้เย็นไว้  เก็บได้หลายวัน  
หิวเมื่อไหร่ก็หยิบออกจากตู้เย็นพักไว้ในอุณหภูมิห้อง  เค้กก็นุ่มเหมือนเดิม
เค้กแนวนี้ทานกับน้ำชาเข้ากันมาก ๆ ค่ะ


ขอบคุณที่แวะมาทักทายกันนะคะ   พบกันบล็อกหน้าคงจะเป็นอาหารเจแล้วนะคะ 

Create Date :03 ตุลาคม 2556 Last Update :28 ธันวาคม 2557 10:42:04 น. Counter : 16162 Pageviews. Comments :65