bloggang.com mainmenu search

หลังจากทำเรื่องขอวีซ่าอเมริกา ที่สถานฑูตอเมริกาของประเทศญี่ปุ่น
เพราะ พวกเราอยู่ในญี่ปุ่นกันหมด เลยต้องทำเรื่องของวีซ่าในญี่ปุ่น
พวกเราหมายถึงสาวแก่ๆวัย 40 อัฟ ทั้ง 3 คน

ป้าซิ่ง ปลอมตัวเป็น Donna เพราะชีวิตเรามีลูกๆ

แอ๊ว ปลอมตัวเป็น Tanya เพราะชีวิตเธอดูจะไฮโซ วันๆได้แต่แต่งตัวสวยๆ
เดินช๊อปปิ้งได้ทุกวัน โรคจิตนิดหน่อย

ติ๊ก ปลอมตัวเป็น Rosy สาวแก่ๆอ้วนๆ มีชีวิตอยู่กับโรงเรียน
เธอเป็นเลขานุการของโรงเรียนนานาชาติ สอนภาษาญี่ปุ่นให้นักเรียน
ที่ประสงค์จะเรียนภาษาญี่ปุ่น นักเรียนเป็นเด็กมาจากหลายประเทศ
แต่ในเรื่อง mamma mia ยาย Rosy เป็นนักแต่งหนังสือทำอาหาร
เลยเหมาเรื่องหนังสือ เรียน เรียน นี่ให้กับติ๊กไป เลยเหมาะเจาะดี

ในที่สุดพวกเราทั้งหมด ก็ตกลงไปตะลุยที่ฮาวาย เกาะไวกิกิกัน
โดยซื้อเป็นแพ๊คเกจของบริษัท JTB รวมตั๋วเครื่องบินพร้อมที่พัก
ราคาคนละ 83,000 yen 5 วัน 3 คืน
กำหนดในแพ๊คเกจเลือกโรงแรม Ohana Waikiki West

ส่วนเรื่องเครื่องบินยังไม่รู้ว่าจะบินสายการบินอะไร
ต้องรอบริษัทJTB คอนเฟิร์มรายงานก่อนออกเดินทางอีก 10 วัน
คือพวกเราซื้อตั๋วราคาถูก เลือกวันเดินทางได้ แต่สายการบินอะไรบริษัท
ยังไม่สามารถบอกในวันซื้อตั๋ว ทั้งๆที่เราซื้อก่อนเป็นเดือนหนึ่งผ่านไปค่ะ
ที่ราคาถูกเพราะ เครื่องบินไฟล์ทไปฮาวายมาส่งคนที่สนามบินนาริตะ
ครึ่งทาง ถ้าเครื่องบินขนคนแค่ครึ่งลำไปฮาวาย สายการบินเสียเที่ยวบิน
โดยเปล่าประโยชน์ เขาเลยทำธุรกิจตัวนี้ขึ้นมา
เพื่อรับคนที่จะเริ่มบินออกจากโตเกียว(นาริตะ) ไปดีกว่าเพื่อบรรจุให้เต็มลำ
เพราะฉะนั้นกว่าจะรู้ผลว่า พวกเราจะบินกับสายการบินอะไรก็ต้องรออีก
10 วัน ก่อนวันเดินทางจริง

ตกลงในที่สุดก็ได้นั่งสายการบิน All Nippon Airways ( ANA )เย้ๆ
พวกเรามี ROP สะสมไมล์ของสายการบินไทยก็สามารถสะสมคะแนนของ
ANA ได้ด้วยเพราะอยู่ในเครือ star alliance เหมือนกัน
ขาไป 3,860 คะแนน ขากลับ 3,860 คะแนน รวมแล้วก็ 7,720 คะแนน

เครื่องบิน บินตรงไปโฮโนลูลู กินเวลา 7 ชั่วโมง
เวลาที่ญี่ปุ่นจะเร็วกว่าฮาวาย 19 ชั่วโมง (อีก 5 ชั่วโมงก็จะครบหนึ่งวัน)
พวกเราออกเดินทางจากสนามบินนาริตะ ของวันที่ 26 เมษายน
flight NH 1052 time 20:55 P.M.
ไปถึง Honolulu หรือ ( HNL ) เวลาท้องถิ่น 7:30 A.M.
ยังเป็นเวลาเช้าของฮาวายในวันที่ 26 เมษายนอยู่นะคะ







เมื่อนั่งเครื่องบินพวกเราก็สั่ง แชมเปญ มาคนละขวด
ส่วนป้าซิ่งพกใบสะระแหน่มาด้วย ไว้ผสมกับสไปรย์
(เด็ดแต่ใบสะระแหน่ นำมาฉีกๆ และผสมกับน้ำสไปรย์กับเลมอน)





เมื่อมาถึงสนามบินโฮโนลูลู ออกจากเครื่องบิน
ก็ต้องนั่งรถบัสของสนามบินต่อไปเพื่อรับสัมภาระและผ่านกองตรวจคนเข้าเมือง
เจ้าหน้าที่ไม่ถามอะไรมาก แป๊บเดียวก็ผ่าน
และออกจากสนามบินเดินมาที่เคาน์เตอร์ของบริษัท JTB
เพื่อรับกรุ๊ปmamma mia! ไปโรงแรมOhana Waikiki West
จากสนามบินโฮโนลูลูไปโรงแรม
กินเวลา 40 นาที รถเป็นรถบัสสีเหลือง

โรงแรมอยู่ในระดับ 3 ดาวเท่านั้น เพราะต้องเดินออกจากโรงแรมไปทะเล
เดินไป 10 นาที
โรงแรม 5 ดาวอยู่ติดกับภูเขาไดอะมอน เฮด อยู่บนหาดมีประมาณ 10 กว่าที่
เรียกได้ว่าเดินออกมาจากห้องก็กระโดดเล่นน้ำทะเลได้เลย

น้ำทะเลที่ไวกิกิ สวยใส เค็มได้ใจเหมือนกัน แต่หลังจากเล่นน้ำทะเลที่นี่
ก็จะไม่เหนียวตัวนะคะ ตอนเล่นน้ำในทะเลเหมือนกับอยู่ในอ่างจากุชชี่ขนาดใหญ่
เหมือนกับตกอยู่ในสปาอันรโหฐาน













สภาพโรงแรม Ohana Waikiki West
( O-ha-na ภาษาฮาวาย แปลว่า family = ครอบครัว )
เพลงประจำโรงแรมนี้ จำได้ท่อนเดียว คือ Welcome to O-ha-na
-เช็คอินเคาน์เตอร์
-เตียงนอนได้เตียงเสริมมา ให้ยัยRosyนอนไปเพราะตัวเล็กเหมือนเด็ก อิๆ
แต่ต้องขอขอบคุณเธอ เพราะถือว่าเธอเสียสละการนอนสบาย
-สระว่ายน้ำของโรงแรม
=รูปอีก 2 รูปประดับห้อง











พวกเราได้คีย์การ์ดมาคนละใบ
การ์ดนี้ใช้โชว์ขึ้นรถ SHUTTLE BUS ที่ปักธงสีชมพูฟรีตลอดสาย




พวกเราเริ่มเซ็กซี่ ออกจากโรงแรมเพื่อมาเดินเล่นและหาอาหารกินกัน
ตอนบ่ายโมง โรงแรมเราอยู่บริเวณสะดวกเดินมากๆ
ร้านค้า ,ร้านอาหาร ,ร้านเสียเงินเพียบพร้อมอยู่เรียงรายรอบตัว
ตอนนี้พวกเราไม่สนอะไรแล้ว ต้องการนั่งรถฟรี เพื่อไปกินอาหารอเมริกัน
ได้ร้านหน้าตาพอไปได้ กินกันคนละไม่ถึง 10 USA.









กินเสร็จเดินย่อยอาหารกันมาที่แถวบริเวณโรงแรมฮิลตัน
เจอะโต๊ะเป้าหมายเพื่อมายามราตรีแล้ว
เราพวกสาวแก่ๆต้องอยู่ที่สงบๆแต่มีบรรยากาศซักหน่อย
ตกลงโปรแกรมวันนี้ พวกเรามากินมื้อเย็นกินที่ร้านอาหารไทย
เสร็จแล้วจะเดินมาดื่มกันที่นี่อีกครั้งกันตอนค่ำๆ









พอเวลาประมาณ 1 ทุ่มมากินที่ร้านอาหารไทย มีรำไทยด้วย
ชื่อ SINGHA THAI CUISINE










กินเสร็จเดินมาดริ๊งค์กันที่ Hilton Hotel.Hawaii กันตอนประมาณ 3 ทุ่ม
กลับโรงแรมของเราประมาณ 23:00 น.

เมื่อกลับถึงบริเวณที่ตั้งโรงแรมก็เข้าร้านคาราโอเกะ ตรงข้ามที่พัก
มีดริ๊งค์อะไรไม่รู้ ไม่ได้ดื่มหรอก
แค่ขอจอยซ์ร่วมโต๊ะกับเด็กวัยรุ่นข้างโต๊ะ อยากถ่ายรูปกับเครื่องดื่มหน้าตาแปลกๆ
เพราะดริ๊งค์เป็นแจกันมีหลอดแดงๆยาวๆหลายหลอด
ในแจกันมีปลาทองอยู่ในน้ำด้วย น่ารักดีค่ะ
















====================================
Aloha เช้าของวันที่ 27 เมษายน 2009

ตื่นมากินและดื่มกาแฟตอนเช้ากันที่ Starbucks. เวลา 9 โมงเช้า
10 :30 น.ไปเล่นน้ำทะเล ยืมผ้าขนหนูของโรงแรมไป 3 ผืน
ไปปูพื้นทรายบนหาด อยู่บนหาดกันชั่วโมงกว่าๆก็กลับโรงแรม
พวกเราเล่นน้ำทะเลกันตรงหน้าโรงแรม Royal Hawaii
ตัวโรงแรมเป็นสีส้มคาริบเบียนอ่อนๆ มีอยู่โรงแรมเดียวที่มีสีนี้
























เล่นน้ำทะเลเสร็จ กลับเข้าโรงแรมเพื่อเปลี่ยนชุดออกมากินอาหารเที่ยง
แล้วเดินเล่นช๊อปปิ้งนิดๆหน่อยๆ พวกเรากินอาหารเที่ยงเป็น food court
ง่ายๆ ป้าซิ่งเลือกกินอาหารเกาหลี บิม บิม บัม ง่ายๆ
และเครื่องดื่มสเตอเบอรี่ปั่นกับนม









กินเสร็จก็ได้เวลาเดินดูข้าวของเล่นๆข้างทาง
เห็นเทียนแกะสลักมีสีสรรค์สวยๆเลยเก็บภาพมาฝาก
ส่วนป้าซิ่งกับเพื่อนๆซื้อเสื้อT-shirt ที่มีโลโก้ Hawaii , Waikiki
ที่ร้าน Margaritaville ซื้อกันไปกันหลายตัว
และสิ่งสำคัญคือต้องซื้อกาแฟของฮาวายกันค่ะ














ช๊อปฯกันอย่างเหน็ดเหนื่อยแวะดื่มกันที่ร้าน
" The cheesecake factory "
ร้านได้บรรยากาศดี พวกเราเลือกที่นั่งแบบ open air
ได้เห็นผู้คนเดินกันอย่างขวักไขว่ เพลินๆดีค่ะ
เครื่องดื่มที่ป้าซิ่งสั่ง เป็นน้ำพั้นซ์ลูกพีชปั่น











ตอนนั่งก็สนทนากันเรื่องจะไปดูโชว์วัฒนธรรมของฮาวายกัน
ก่อนเข้าห้องพักจะแวะที่เคาน์เตอร์นำเที่ยวของโรงแรมที่เราพักอยู่
ถึงที่เคาน์เตอร์เลือกไปที่ Germaime 's LUAU
เป็นรายการโชว์พร้อมดินเนอร์ เสียไปคนละ 65 USA.
ต้องไปขึ้นรถบัสของรายการที่โรงแรมไฮแอท
กลับเข้าห้องนอนเอาแรง เพื่อไปผจญกับราตรีนี้ที่ฮิลตันกันต่อ
วันนั้นพวกเรากลับเข้าที่พักกันตอนห้าทุ่ม เหมือนเดิม


======================================
Aloha เช้าวันที่ 28 เมษายน 2009

ตื่นมากินอาหาร และ กาแฟ ที่ร้าน KEONI ราคากินไม่แพงมาก
ของกินแพงๆเราคงไม่ได้กิน เพราะไม่มีสปอนโง่มาด้วย นี่เอง ฮี่ๆ

กินเสร็จลองเรียบๆเคียงๆไปแถวๆโรงแรมไฮแอทเย็นนี้ที่พวกเราต้องไปขึ้นรถบัส
เพื่อไปดูโชว์และวัฒนธรรมของชาวฮาวายเอี๊ยนกัน
หน้าโรงแรมฝั่งตรงข้ามมีรูปปั้น คุณ Duke Paoa Kahanamoku
เห็นรูปปั้นแล้วพวกเราก็ต้องบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า
หน้าตาคับคล้ายคุณน้า สรพงษ์ ชาตรี มากๆ
















รถบัสปักธงสีชมพูที่เราขึ้นฟรี มาจอดรับที่หน้ารูปปั้นมาพอดีเลยขึ้นรถกลับที่พักกัน



มาแถบที่พักก็ช๊อปฯกันอีกรอบเพราะวันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้ว
พรุ่งนี้ต้องตื่นกันตอนตี 5 พนักงานจะมารับกระเป๋าเพื่อไปสนามบินโฮโนลูลู
ของที่พวกเราช๊อปฯกันเป็นพวกพวงกุญแจ ,แฟรมใส่รูป และ
โปสการ์ดที่ลืมไม่ได้ ซื้อแสตมป์ กลับที่พักก็รีบเขียนและส่งไปทั่วโลก
แต่โลกของป้าซิ่งก็มีไม่กี่ประเทศ



























บ่ายสามโมงเตรียมอาบน้ำแต่งตัวไปดินเนอร์ที่ Germaime's LUAU
เดินไปขึ้นรถบัสที่โรงแรมไฮแอท จากโรงแรม โอฮานะ( Ohana)
ไปไฮแอท เดินประมาณ 5 นาที รถบัสออกเวลา 17:15 น.
ช่วงระหว่างเดินเห็นดอกชบาสีเหลืองสวยดีก็ถ่ายรูปเล่นกัน









ช่วงระหว่างอยู่ในรถ ไกด์จะพยายามให้ผู้โดยสารที่ไป สนุกไปกับทริปด้วย
มีแต่ฝรั่ง เขาก็พูดคุย มีคุยโจ๊กกันตามสไตร์ฝรั่ง คนไทยไม่ค่อยgetวุ้ย
การเดินทางได้เห็นความแตกต่างกับที่เราอยู่ในแถบสถานที่เที่ยวที่อยู่ติดทะเล
รถบัสพาเราผ่านตึกรามบ้านช่องของชาวฮาวาย ดูประมาณเหมือนประเทศ
สิงคโปร์ ,มาเลเซีย อย่างไงอย่างงั้น
เห็นต้นมะม่วงด้วย คล้ายมะม่วงแก้วมาก
รถแล่นผ่านไป 1ชั่วโมงครึ่ง รถติดพอๆกับเมืองไทยเลยค่ะ
หรือเขาพยายามให้ไปถึงเวลาที่พระอาทิตย์กำลังจะตกดินพอดี
ถึงที่นั่นเวลาทุ่มกว่าๆนิดหน่อย
ได้รับบัตรดินเนอร์ ที่มีดริ๊งค์แลกได้ 3 ดริ๊งค์
ป้าซิ่งขึ้นเวทีไปเต้นระบำฮาวาย( HULA GIRL )กับเขาด้วย
ส่วนเพื่อนๆอายไม่ยอมขึ้นเวทีกัน
เลยวานให้เพื่อนถ่ายวีดีโอ เก็บไว้ดูเล่นเป็นที่ระลึก งานนี้เราเลยนับว่าคุ้มนะ

พวกเราบ่นกันฮุบ เรื่องรองเท้า เพราะเราไม่รู้ว่าเป็นพื้นดินที่มีทราย
นึกว่าการแสดงเป็นร้านอาหารหรู เลยใส่รองเท้าส้นสูงกันไป
ไปถึงที่นั่นเลยต้องถอดรองเท้ากันหมด ถือติดตัวไปด้วย
แต่ทรายเป็นทรายที่สะอาด เดินนุ่มนิ่ม
นุ่มเท้าดีเหมือนได้นวดเท้าไปด้วยในตัว

ส่วนอาหารเป็นบุฟเฟ่ย์มีทั้งคาวและหวาน
เครื่องดื่มเพียบ เลือกหาต่อคิวกันค่ะ


















การแสดงสวย แถบการบรรยากาศโรแมนติก เหมาะสำหรับคู่รักมาก
ที่ฮาวายเลยเป็นดินแดนที่ใครๆก็อยากมาฮันนีมูนกันหลายๆรอบ

















การแสดงเลิกตอนสี่่ทุ่ม กลับเข้าที่พักกันตอนห้าทุ่มกว่านิดหน่อย
ต่างคนก็ต่างแพ็คกระเป๋าเตรียมตัวกลับวันรุ่งขึ้น
เพราะจะมีพนักงานมารับกระเป๋าตอนตีห้า 40 นาที เอาไปไว้ที่สนามบินเลย
ส่วนพวกเราขึ้นรถบัสจอดรับที่โรงแรมไฮแอทไปสนามบินโฮโนลูลู

=======================================

Aloha เช้าวันสุดท้ายที่จะอำลาไวกิกิ 29 เมษายน 2009

ขึ้นรถบัสสีเหลืองออกจากไฮแอท เวลา 07:30 น.
เวลาเช็คอินขึ้นเครื่องบินกระเป๋าสัมภาระที่จะโหลดใต้ท้องเครื่องบิน
ห้ามใส่กุญแจ แต่ไม่ต้องเสียเวลาเช็คพาสฯกับ ต. ม.สนามบินของอเมริกา

Flight NH 1051 Time 10:35 A.M.
ถึงญี่ปุ่นเวลา 14:10 P.M.ของวันที่ 30 เมษายน 2009






























ถึงสนามบินนาริตะเป็นช่วงที่สนามบินเข้มงวดกับโรคไข้หวัดหมูมาก
ทุกคนจะได้รับเอกสารบนเครื่องบิน เพราะเครื่องบินที่บินมาจาก
อเมริกา เม็กซิโก้ และ คานาดา จะโดนตรวจเช็คสภาพร่างกาย
ใครฝ่าฝืนกฏหรือปฏิเสธ โดนปรับ 500,000 yen
(คิดเป็นเงินไทยเกือบสองแสนบาท)



เครื่องจอดที่ Terminal 1 ทิศใต้ ชั้นที่ 1
ออกมาแล้วส่งกระเป๋าเพื่อไปรอรับกระเป๋าที่บ้าน
พึ่งบริการ yamamoto koro neko สัญญลักษณ์ แมวดำคาบลูก เช่นเคย
ส่งกระเป๋าหย่อมๆไป เสียเงิน 1,360 yen
ส่งตอนเย็น กระเป๋าไปถึงบ้านตอนเช้า หรือ สะดวกเวลาไหนก็เลือกกันไปค่ะ

ก่อนอำลาเพื่อนฝูง (ติ๊ก กับ แอ๊ว )พวกเราเลื้อยขึ้นไปชั้นที่ 5
ร้านใจไทยของสนามบินนาริตะ Terminal 1
ป้าซิ่งเลือกกินเส้นเล็กต้มยำกุ้ง ราคา 1,000 yen





MAHALO มะฮะลอ(ภาษาฮาวาย แปลว่า ขอบคุณ)
ก็เลยต้องบอกขอบคุณทุกคนที่แวะเข้าบล๊อคทริปฮาวายของป้าซิ่งนะคะ
และเหมือนเคยไม่มีคอมเม้นท์ด้านล่าง
ใครใคร่คุย คุยได้หลังไมค์นะคะ


วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤษภาคม2009 กลับเมืองไทย ก้อเหลืออีก 4 วัน
อยู่เมืองไทยมีทริปทำอะไรอีก จะมาเล่าให้อ่านกันเหมือนเคยคร่า.......

สำหรับวันนี้ MA-HA-LO



มาอัฟเดทอีกคำ เป็นสัญญลักษณ์ นิ้วโป้งกับนิ้วก้อยชูออกมา
นิ้วชี้ ,นิ้วกลาง ,นิ้วนาง หุบเข้าไว้กับฝ่ามือ ( ดูตามรูปค่ะ )
คนบนเกาะฮาวายเป็นที่รู้กันว่า
Hung Loose = ความเป็นอิสระ ,การพักผ่อน, วันสบายๆ
///
//
//



<<img class='iconemo' src=../emo/emo34.gif>


เว็ปไซด์สถานฑูตอเมริกาประจำประเทศญี่ปุ่น
//tokyo.usembassy.gov/e/visa/tvisa-ivlpr.html

ที่ตั้งของสถานฑูตอเมริกาในกรุงโตเกียว



นั่งรถไฟใต้ดินสาย GINZA LINE
มาลงที่สถานี Tameike sanno
หาทางออกประตูที่ 13 ขึ้นบันไดเลื่อนแล้วเลี้ยวขวา
จะเดินผ่านร้านสะดวกซื้อ 7-11 และ Mini-Mart
เลี้ยวขวาก็จะเห็นสถานฑูตอเมริกา
เดินไปอีกประมาณ 3 นาทีก็จะถึงสถานฑูต

ขั้นตอนการดำเนินการขอวีซ่า เมื่อเข้าไปในสถานฑูต

เมื่ออยู่หน้าสถานฑูต เข้าคิวเพื่อเลเซอร์ของที่นำติดตัว
เจ้าหน้าที่จะขอเก็บมือถือ พร้อมให้การ์ดมีตัวเลข
เก็บการ์ดไว้เพื่อติดต่อรับได้ภายหลังเสร็จธุระ

นำเอกสารยื่นให้เจ้าหน้าที่ ซึ่งมีหน้าที่ตรวจเอกสาร
เอกสารตัวจริงที่ตรวจแล้ว จะยื่นให้คุณเก็บกลับบ้านไป
ส่วนเอกสารที่คัดสำเนาจะนำเข้าไปไว้ที่กองการพิจารณาขอวีซ่า

หลังจากนั้นคุณนั่งเพื่อรอเรียกชื่อไปสแกนนิ้วมือทั้ง 10 นิ้ว
เสร็จแล้วกลับไปนั่งที่ เพื่อรอการสัมภาษณ์
เมื่อได้เวลาสัมภาษณ์ เจ้าหน้าที่สัมภาษณ์ เขาจะถามคุณว่า
คุณจะเลือกตอบเป็นภาษาอังกฤษหรือภาษาญี่ปุ่น
ถ้าคุณเจอะเจ้าหน้าที่อเมริกันที่เคยประจำสถานฑูตในเมืองไทย
คุณนับว่าโชคดีตอบภาษาไทยได้เลยค่ะ


จากนั้นหากผลว่าได้วีซ่า จะได้แผ่นนี้มาหนึ่งแผ่น (ตามรูป)
พาสปรอตเล่มปัจจุบันจะได้คืนหลังจากนั้นประมาณหนึ่งอาทิตย์
พร้อมเอกสารอื่นๆที่พิจารณาแล้ว จะส่งคืนมาที่บ้านค่ะ



==============================

เอกสารสำคัญการขอวีซ่าอเมริกาสำหรับผู้ที่พำนักในประเทศญี่ปุ่น
ส่วนเรื่องตั๋วเครื่องบินหรือใบจองตั๋วไม่ต้องใช้นะคะ
เพราะสถานฑูตอเมริกาไม่รับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น
หากพิจารณาแล้ววีซ่าไม่ผ่าน จึงไม่จำเป็น

เอกสารส่วนตัวของคุณ มีดังต่อไปนี้

1.อายุพาสปรอตเล่มปัจจุบัน ต้องมีอายุการใช้งานได้มากกว่า 6 เดือนขึ้นไป

2.อายุของ Re-entry อย่างน้อย 1 ปี
(เมื่อเข้าอเมริกาจะได้ประทับตราสำหรับวีซ่าท่องเที่ยว 6 เดือน)

3.บัตรไกยิ่น โท -ลก- โชว (ถ่ายเอกสารหน้าและหลัง)

4.พาสปรอตเล่มเก่า ของจริงติดไปด้วยพร้อมถ่ายสำเนาด้านที่มีรูป

5. ถ่ายรูปสีหรือขาวดำ ขนาด 5cm X 5cm ด้านหลังเป็นวอลล์สีขาวเท่านั้น

6.สมุดบัญชีเงินฝาก

7.พัสดุเอกสารซองเปล่าจ่าหน้าซองถึงตัวคุณเอง

**สิ่งสำคัญของเอกสารทุกอย่างถ่ายขนาด A4 ให้เท่ากันทุกแผ่น

เอกสารสำคัญของคู่สมรส มีดังนี้

1. Tou-hon-se-ki (โทฮองเซคิ)

2. Yu-min-hyo ( ยูมิงเฮียว )

3. A-gyo-kyo-ka-sho ( เอเกียวเคียวกะโชว )

4. No-zei-shoo โนเซโซ ย้อนหลัง 3 ปี

5.สมุดบัญชีเงินฝาก

6.พาสปรอตคู่สมรสเล่มปัจจุบัน พร้อมถ่ายสำเนาด้านที่มีรูปไปด้วย

**เอกสารที่ถ่ายทุกฉบับขนาด A4 เท่ากันทุกแผ่น

การกรอกเอกสารขอวีซ่าท่องเที่ยวอเมริกา
พิมพ์คำตอบลงในช่องว่างในเว๊ปไซด์ได้เลย
เมื่อพิมพ์เสร็จเรียบร้อยแล้วปริ๊นท์เก็บไว้

จากนั้นจะได้บาร์โค๊ตเพื่อจ่ายค่าธรรมเนียมวีซ่าประมาณ 13,XXX yen
หลังจากนั้นดูตารางนัดสัมภาษณ์ คุณสามารถเลือกเองได้
ดูวันที่คนไม่เต็มแล้วกันค่ะ เรียบร้อยปริ้นท์หน้าสัมภาษณ์เก็บไว้

เอกสารสำคัญประกอบการยื่นขอวีซ่าอเมริกาทุกตัว
ถูกจัดเรียงเข้าแฟ้มพลาสติกใสมองเห็นได้
ด้านหน้าจะต้องเห็นพาสปรอตเล่มปัจจุบันของคุณและแผ่นด้านที่มีรูป
เอกสารอื่นๆเรียงเข้าแฟ้มรองๆลงไป
แผ่นสุดท้ายจะเป็นเอกสารนัดสัมภาษณ์ สามารถมองเห็นได้อยู่ด้านหลัง

ดูรูปประกอบได้ที่นี่ค่ะ

ปกหน้า



ปกหลัง



พัสดุเอกสารจะตีกลับมาตามที่อยู่ที่คุณจ่าหน้าซองไว้
จากวันที่ยื่นสัมภาษณ์ นับไปอีกภายในหนึ่งอาทิตย์จะได้รับค่ะ




ส่วนใหญ่อายุวีซ่าจะได้ 10 ปี สถานภาพ Multiple Visa



============================

เพิ่งมีเวลาถ่ายรูปของฝาก ของที่ระลึก ขอแปะหน่อยนะจ๊ะ

เทียนแกะสลัก



สบู่หอมกลิ่นดอกไม้มีดอกชบาฝังติดตรึง



จอกแก้วสาวฮูล่าเกิร์ล



มาเกาะฮาวายต้องซื้อกาแฟคั่ว หอมอร่อย หลากรส




ชุดนอนฮาวาย เบาสบายจริงๆ ซักก็ง่ายไม่ต้องรีด




เสื้อผ้าร้าน Tori Richard เป็นร้านที่มีชื่อเสียงเก่าแก่ของเกาะโฮโนลูลู
ซื้อมา 1 ตัว





เสื้อผ้าเด็ก หาซื้อได้ทั่วไป ซื้อมาหลายตัวเหมือนกัน แปะรูปแค่หนึ่ง



ไปๆมาๆชอบเสื้อร้าน Jimmy Buffett's MargaritavillE
ราคาพอหอมปาก หอมคอ น่าสวมใส่
มีโลโก้ WAIKIKI ทุกตัว สำคัญที่ภาพวาดด้านหลังเสื้อ เก๋ไม่หยอก







บล๊อคพิมพ์ได้แค่ 40,000 ตัวอักษร
จบแล้วค่ะ

Create Date :03 พฤษภาคม 2552 Last Update :18 พฤษภาคม 2552 9:16:04 น. Counter : Pageviews. Comments :0