เมื่อวันเสาร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2560 ตรงกับวันพระ
ด้วยความตั้งใจอยากไปคำชะโนดวันนี้มากๆค่ะ
เลยหาแนวร่วมได้เพื่อนมาหนึ่งคน
เป็นเพื่อนสมัยเรียนมัธยมด้วยกัน ชื่อ แมว

มาคำชะโนด ต้องไม่ใส่เสื้อผ้าสีแดง
ต้องเดินด้วยเท้าเปล่าจากปากทางเดินพญานาค
และไม่มีร่มกาง ไม่มีแว่นตา ไม่พกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ยาเสพติด และ บุหรี่ และ ไม่พูดคำหยาบคายในสถานที่
ห้ามเก็บใบหรือต้นคำชะโนดออกจากสถานที่
มิฉะนั้นต้องรีบนำมาคืน นอนจะไม่เป็นสุข ค่ะ

ถ้าผู้ใดต้องการน้ำมนต์ศักธิ์สิทธิ์ที่บ่อน้ำ
ควรนำขวดเปล่าๆเข้าไปใส่น้ำด้วย
นำความโชคดี ขจัดโรคภัยให้คนในครอบครัวและญาติมิตร
ตามความเชื่อนะคะ



ก่อนหน้านี้แค่อาทิตย์เดียวก็ชวนเพื่อนคนอื่นๆด้วย
แต่เป็นทริปที่เราเรียกเพื่อนกระทันมากไป
เลยมีเพื่อนติดธุระล่วงหน้ากับที่อื่นๆไปแล้ว
เราเลยได้เพื่อนแบบเป็นนางพยาบาลที่ต้องรีบกลับมาให้ทันเช้าวันอาทิตย์

เราเลยเลือกเส้นทางรถบัสนครชัยแอร์
เลยได้เที่ยวรถไปคืนวันศุกร์ จากอู่นครชัยแอร์ ที่ถนนกำแพงเพชร 2
ออกเวลา 22:45น. ไปลงที่อู่นครชัยแอร์เช้าวันเสาร์ เวลา 06:25น.
และวันกลับเป็นคืนวันเสาร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ แต่เราวางแผลนเที่ยวที่หนองคายต่อ
อยากไปไหว้หลวงพ่อพระใส ที่วัดโพธิชัย และ เที่ยวชมศาลาแก้วกู่
พร้อมกินและซื้อของฝากที่ แถวตลาดอินโดจีน
และเย็นๆจะมีตลาดต้องชม มีทุกคืนวันศุกร์และเสาร์ค่ะ
เราเลยแผลนเสร็จจากคำชะโนด
ก็จะเดินทางมาที่หนองคาย นั่งรถเที่ยวสุดท้าย 20:30 น.
ทุกรถบัสนครชัยแอร์ ที่เราเดินทางเราเลือกแบบ First class หมด
จากอู่ที่กรุงเทพฯไปลงอู่ที่ อุดรธานี ราคา 605 บาท
และ จากอู่หนองคาย กลับไปกรุงเทพฯ ราคา 658 บาท
แต่ถ้าเป็นรถ Gold class ดูราคามาเผื่อให้นะคะประมาณ 400 กว่าบาท

การจองรถบัสนครชัยแอร์ กด 1624
แล้วฟังแล้วทำตามวิธี ว่าจะมาทำเรื่องอะไร
เช่น ฟังตารางรถ หรือ จองรถ หรือ การคืนเงิน หรือสอบถามเรื่องอื่น
จะมีเบอร์ให้กดต่อ อย่างป้าซิ่งก็กดการจองรถ ป้าจองตอนห้าโมงเย็น
(เตรียมกระดาษและปากกาไว้ด้วย เพราะสุดท้ายการจองจะมีรหัส
ให้นำรหัสที่ได้ไปจ่ายที่ร้าน 7-11 ป้าจองตอนห้าโมงเย็น
ต้องรีบไปจ่ายก่อนหกโมงเช้าของวันรุ่งขึ้น )

เมื่อโทรแล้วรอพนักงานรับสาย เขาก็จะถามไปไหน ลงไหน
ไปเมื่อไหร่ กลับเมื่อไหร่ ก็ว่ากันไป พร้อมทั้งจองที่นั่งค่ะ
สุดท้ายก็นั่นแหละ จดรหัสแล้วไปจ่ายตังค์ เร็วๆเลย



ถ่ายรูปตรงเคาน์เตอร์ซื้อตั๋วมา เพราะป้าซิ่งนึกว่าจะต้องมารับตั๋วจริงซะอีกค่ะ
พอถึงคิวป้าซิ่ง ป้าซิ่งก็บอกมารับตั๋วจริง พนักงานขายก็บอกว่า
ที่รับบิลชำระเงินจากร้าน 7-11 นั่นคือ ตั๋วจริงแล้ว
ป้าซิ่งก็อ้าวเหรอ ดีจัง สะดวกมากเลยค่ะ ขอบคุณนะคะ

รูปนี้ที่จอดรถ จะอยู่ฝั่งตรงข้ามอู่รถนครชัยแอร์
ป้าซิ่งขับรถมาจากบ้าน มาจอดรถทิ้งไว้ ค่าจอดคืนละ 100 บาท





ที่ฝั่งอู่ก็จะมีร้านสะดวกซื้ออยู่แค่ร้านเดียว คือ ร้าน 7-11





ส่วนฝั่งที่บริการจอดรถลูกค้า ก็อยู่ฝั่งเดียวกับศูนย์อาหาร



ป้าซิ่งตั้งใจไว้แล้ว จะมาเร็วก่อนกำหนด เพื่อมาหาอะไรกิน
กลัวรถติดด้วย เลยมาก่อนดีกว่ามาสาย ไม่ทันขึ้นรถค่ะ
อาหารคุณภาพและราคาพอประมาณ
ส่วนเรื่องความอร่อย ไม่มีร้านไหนอร่อยมาก รสชาติพอใช้ค่ะ
แค่ประทังท้องไว้นะคะ จริงๆบนรถก็มีให้ด้วยแต่เราไม่ชอบค่ะ
ป้าซิ่งจะรับแต่น้ำเปล่าเป็นขวดเขาเท่านั้น











กินเสร็จ ก็เดินมาตรงนี้ สำหรับคนนั่งรถบัสชั้น First Class โดยเฉพาะ
ป้าซิ่งนั่งรถบัสนครชัยแอร์ปีละ 2-3 ครั้งเองค่ะ มาคราวนี้มีทางพิเศษด้วย
จุดนี้ก็อยู่ด้านข้างร้าน 7-11 เดินตามลูกศรนำทางไปนะคะ
ถ้าแบบ Gold class เข้าด้านในตรงใกล้ๆจุดเคาน์เตอร์ขายตั๋ว











เดินมาก็จะผ่านร้านกาแฟ และ ห้องน้ำ



เข้ามาถึงบริเวณ ผู้โดยสารนั่งรถเพื่อขึ้นรถตามเวลาที่เรียก



บริเวณนี้ก็จะมีร้านนวด และ ตู้บริการชาร์ตมือถือค่าบริการ 10 บาทต่อ 10 นาที
จะซาร์ตกี่นาทีก็หยอดเหรียญเข้าตู้ไปค่ะ
ถ้าอยากซาร์ต 20 นาที ก็หยอดไปเลยเหรียญ 10 บาท 2 เหรียญ
มีสายซาร์ตให้เสร็จเพียงแต่เอามือถือของคุณมาเสียบมือถือก็จบ
แล้วก็นั่งมองไม่ให้ใครมาฉกมือถือของเราไปจากตู้นี้
พอต้องป้าซิ่งต้องเลือกซาร์ตน่ะ เพราะไม่ได้ไปค้างคืน กลัวไฟหมด
เพาเวอร์แบ้งค์ก็มี แต่ไว้ยามฉุกเฉินค่ะ

ขึ้นรถแล้วค่ะ





นอนหลับสบาย ไปถึงเช้าที่อู่รถ บขส.ที่มีหลายบริษัทรถมาเทียบรถที่นี่
แต่ของป้าซิ่งนัดคนรถมารับที่ อู่นครชัยแอร์ ก็ต้องไปตรงนั้น
แห๋มรู้งี้ให้คนรถมารับที่ บขส.ดีกว่า เพราะถึงก่อน

คนรถของเราป้าซิ่งก็หามาจากอินเตอร์เน็ต รถท้องถิ่นเมืองอุดรธานี
จริงๆก็ไม่ค่อยไว้ใจนะ เพราะเขาเป็นคนที่เราไม่รู้จัก
แต่ด้วยเรามีเพื่อนนั่งไปด้วย และ
หลังจากโทรติดต่อแล้ว น้ำเสียงเขาก็ดูเป็นคนมีการศึกษา
ไม่โฆษณาตัวเองมากมาย เมื่อเสร็จจากการคุยก็ไม่ค่อยมาจุกจิกอะไรกับเรามาก
นอกจากเราไปถามระยะทาง
เราจะได้วางแผลนเวลาของเราถูก ก็จะได้คำตอบจากเขา

ซึ่งก็ดีมากค่ะ เป็นที่น่าพอใจ เลยตอบตกลง เราจะพึ่งบริการของ คุณเดย์
เขาเป็นพนักงานของสนามบินอุดรธานี แต่วันหยุดเขาอยากมีรายได้พิเศษ
ก็เลยพาคนมาทำบุญที่คำชะโนดกันค่ะ
ค่าบริการส่วนตัวของป้าซิ่งคือ รับที่อู่รถนครชัยแอร์ ไปคำชะโนด
แล้วต่อคำชะโนด ไปส่งป้าซิ่งที่หนองคาย คิดค่าบริการคือ
มีคนขับก็คือตัวคุณเดย์เอง บวก ค่าน้ำมัน เรียบร้อย 2,000 บาท
ปรกติแค่ตรงรับส่งที่อุดร และไปคำชะโนด เท่านั้น 1,700 บาท
รถนั่งได้ 5 คนนะคะรวมคนขับด้วยแล้ว เป็นรถ Ford
เบอร์โทร คุณเดย์ 0862216225 ไอดีไลน์ของเขาก็มีนะคะ
ป้าซิ่งขอแนะนำเรียกใช้บริการคุยกับคุณเดย์ได้เลยนะคะ
สุภาพเรียบร้อย มีมารยาท ยิ้มแย้ม ทำให้การเดินทางทำบุญเราเป็นสุข







เริ่มนั่งไปกับคุณเดย์แล้วค่ะ
ใช้เวลาในการเดินทางไปจากอู่รถไปคำชะโนดประมาณชั่วโมงครึ่ง
ไปถึงเราก็ใช้เวลาในการเดินเข้าป่าชะโนด และ
หาดูซื้ออะไรก็ใช้อีก 2 ชั่วโมงกว่าๆได้ค่ะ

เอาล่ะ## เริ่มเดินทางกันนะคะ





บรรยากาศระหว่างเส้นทาง วิวก็ประมาณท้องนาแห้งแล้ง





ตรงนี้ตลาดนัดริมถนน มีในวันเสาร์



เริ่มเข้าอำเภอบ้านดุง กันล่ะ เริ่มมีตึกราม อาคาร
สถานีตำรวจ และ อู่รถตู้ รถ บขส.





ป้าซิ่งขอร้องคุณเดย์ ระหว่างทางให้ช่วยชะลอรถบ้าง อยากถ่ายรูป
บขส. ที่บางคน เขาอยากจะเดินทางมาแบบไม่เร่งรีบแบบเรา
สามารถมาคนเดียวได้ โดยขึ้นรถ บขส. จากอุดร จะไปคำชะโนดอย่างไร

คุณก็มาจากรถ บขส. อุดร แล้วมาลงที่ ท่ารถบ้านดุง ตรงนี้ได้
เลี้ยวขวาผ่านตรงร้านทอง อีกไม่กี่นาทีก็จะเห็น ท่ารถไปบ้านดุงตรงฝั่งขวามือ
เลยไปอีกหน่อยก็จะเป็นสถานีตำรวจ







ส่วนพวกเรามากับคุณเดย์ ก็ขับรถไปอีกไกลเหมือนกันค่ะ
กว่าจะมาถึงปากทางเข้าบ้านดุง เลยหาอะไรกินก่อน
อยากกินเสร็จ พอไปถึงคำชะโนด จะได้ไม่เสียเวลากิน
แต่จริงๆถ้าบางคนไปค้างคืน รุ่งขึ้นเช้าก็หาอะไรกินวัดศรีสุทโธ คำชะโนด ได้ค่ะ

กินร้านนี้แหละ แม่ค้าเขาขายเส้นแกงร้อน หรือ วุ้นเส้น นั่นเอง




ชามละ 20 บาท ก็เยอะเหมือนกันนะ พอได้ๆค่ะ





มีน้ำดื่มตามสั่งค่ะ แม่ค้าคนเดียวกันขายจร้า
แก้วละ 25 บาท









กินเสร็จก็ขึ้นรถกันต่อไป คุณเดย์บอก เกือบจะถึงปากทางเข้าคำชะโนด
อีก 20 นาทีข้างหน้านี้ ก่อนที่จะเลี้ยว มีแม่ค้าขายบายศรีพญานาคกันเยอะ
พร้อมพวงมาลัยดอกดาวเรือง เราก็แวะล่ะ
แต่จริงๆ ปากทางเข้าตรงเลี้ยวรถอีกไม่กี่เมตร เขาก็มีขายกันนะ
เสียดายตรงนั้น ไม่ค่อยมีคนแวะจอดเลย มาจอดซื้อกันตรงนี้กันหมดค่ะ









ซื้อมาคู่หนึ่งเหมือนๆกับเพื่อน แม่ค้าบอกพานละ 300 บาท
พวกเราซื้อราคาเหมือนกัน พานทำมาเหมือนกันเลยต่อคู่นี้ 500 บาท
แม่ค้าก็ให้ค่ะ มีแบบเขาเรียก พานเปิดทรัพย์ด้วยนะ ราคาก็เกือบพันบาทค่ะ
แต่เรามาครั้งแรกอ่ะ จะขอทรัพย์จากท่านเลยเหรอ
ไว้มีอะไรดีๆเข้ามาในชีวิต แล้วค่อยมาเปิดทรัพย์แล้วกันนะคะ





ซื้อเสร็จ พอเลี้ยวขวา ด้านซ้ายมือตรงปากทางไปคำชะโนด
ตรงนี้ก็มีอีกยาวเลยค่ะ ขายบายศรีพญานาคทั้งนั้นค่ะ
ใครที่นั่งรถบขส.มาลงที่บ้านดุง ถ้าต้องเข้าป่าคำชะโนด
ก็จะต้องว่าจ้างรถเข้าวัดราคาประมาณ 50 บาทถึงวัดศรีสุทโธ









จากปากทางประตูยินดีต้อนรับรูปข้างบนนี้
ขับไปอีก 20 นาทีก็ถึงปากทางเข้าวัดศิริสุทโธ
ซึ่งบริเวณข้างในก็มีที่จอด บางครั้งที่จอดรถเต็ม
ก็จะมีบริเวณจอดรถด้านนอกวัด นะคะ
เราบอกคุณเดย์ ไปจอดรถข้างในแล้วกันถ้ามีที่จอด
เราอยากถ่ายจากทางหน้าวัด แล้วเด๊วไปเจอะกันข้างใน
เสร็จแล้วจะโทรเรียกหานะคะ












บริเวณภายในท้องที่ของวัดศรีสุทโธ
ก็จะมีแม่ค้าขายของ พวกอาหาร ผัก ผลไม้
เครื่องสานไม้ไผ่ ไม้กก เกลือ
มีรถรับจ้างเที่ยวบริเวณคำชะโนด
มีศาลาวัด และ โบสถ์







นกย่างค่ะ





รถสกายแล๊ป






ตรงนี้คือโบส์ถวัด



ตรงนี้มีรูปปั้นพระที่ประชาชนมากราบไหว้ด้านนอกค่ะ




============================



เริ่มเข้าป่าคำชะโนด กันตรงนี้นะคะ
ตรงทางที่มีหัวพญานาคทั้งสองฟากฝั่ง
ตรงกลางเป็นการเดินด้วยเท้าเปล่า
รองเท้าก็วางได้ทั้งสองฝั่งด้านนอกนะคะ







วันนี้มีคนเข้ามากราบไหว้กันมหาศาล ประชาชนก็เดินติดกันยิ่งกว่ารถติด
มีทางเดินเป็นสองทางสวนกัน ทางไปและทางกลับ ไงก็ต้องเดินตรงเส้นทางพญานาค











ด้านซ้ายมือของทางเดินพญานาค มีเกาะลอย





ตรงกลางรอยต่อเส้นทางเดินพญานาค ที่ยังสร้างไม่เสร็จซักที



มีต้นคำชะโนคมากมาย กิ่งก้านใบปกคลุม ทำให้บรรยากาศร่มรื่น
ด้านนอกอากาศร้อนแต่ข้างในเย็นสบายดีจริงค่ะ แสงแดดมองเห็นบ้าง











ตรงนี้ คือต้นมะเดื่อ มีลูกติดมาด้วย




ข้างในก็มีต้นมะเดื่อ ที่เขาขูดเลขกันก็มีนะคะ
คือต้นนี้ค่ะ



อีกต้นเป็นต้นคำชะโนด ที่เขาขูดเลขกัน
อยู่ใกล้บริเวณบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์






บอกแนวหาเลขกันไปก่อนหน้าที่จะเข้าบริเวณไหว้เจ้าป่า เจ้าที่คำชะโนด

วกกลับมาตรงทางเดินพญานาคตรงสายกลางกันนะคะ
ระยะเวลาที่เดินคนเยอะ เราก็มองความสูขสง่าของต้นคำชะโนด
และต้นอื่นๆกันไปก่อน





คนที่สวนทางเมื่อเสร็จการไหว้แล้ว
เขาก็อารธนานำบายศรีกลับบ้านกันก็มีค่ะ
บางคนก็วางไว้ที่ท้องพระคลังหรือบริเวณรอบๆ











ถึงบริเวณท้องพระคลัง ผู้คนเบียดเสียดกันมากค่ะ
ระวังกระเป๋าสตางค์ด้วยนะคะ ใครผิดศีลจะโดยทำโทษล่ะ
บริเวณนี้มีคนจุดธูป และ สวดมนต์กันหลายจุด
ทุกสิ่งทุกอย่าง มารวมตรงจุดนี้หมด รวมด้วยบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์













บทสวดบูชานั้น มีอยู่ทั่วบริเวณ อ่านได้ก็อ่านไปค่ะ
แต่บริเวณนั้นก็จะมีคนแนะนำการสวดอยู่
คุณเข้าถึงตรงนั้นก็สวดตรงนั้น
บางทีก็มีจังหวะที่เรามาถึงพอดีได้สวดมนต์กันเลยค่ะ

อย่างตัวอย่างภาพนี้ ก็จะมีคนนำสวด แล้วก็มีข้าวของ
คิดว่าเป็นผู้หญิงคนที่ยืนข้างคนนำสวดมาแก้บน
เราก็เลยได้อนิจสงฆ์สวดตามเขาไปด้วย



แต่สิ่งที่สำคัญมากๆคือ ต้องมาที่รูปปั้นปู่ศรีสุทโธและย่าประทุมมา
และพร้อมกับคำกล่าวบูชาพญาศรีสุทโธนาคราช



นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุธธัสสะ ( 3 จบ )
กายะ วาจา จัตตัง อะหังวันทา นาคาธิบดี
ศรีสุทโธ วิสุทธิเทวา ปูเชมิ ( 3 จบ )

กล่าวจบตรงนี้ เวลากลับอย่าหันหลังกลับมาที่เดิม
มีทางลงสองทางด้านข้าง ให้ลงทางไหนก็ได้ค่ะ

นำบายศรี มาวางตามบริเวณที่คนเขาวางกัน
หรือจะนำกลับบ้าน ไปไว้ที่หิ้งพระที่บ้านก็กล่าวบอกไปค่ะ









เราเสร็จจากการไหว้ท่านปูและย่าแล้ว
เราก็เดินมาที่บ่อน้ำศักธิ์สิทธิ์
อย่าลืมนำขวดน้ำเปล่ามาตักน้ำมนต์ใส่ขวดกลับบ้านนะคะ









ตรงนี้เป็นบ่อน้ำบาดาลทางลงพญานาคเดิม
สี่เหลี่ยมกว้างใหญ่ น้ำไม่มีวันแห้งหาย









ส่วนตรงนี้เป็นบ่อน้ำที่สร้างขึ้นมาใหม่ พื้นเป็นสีฟ้ารองรับน้ำ
มีตะบวยไม้ ไว้ตักน้ำมนต์ใส่ขวด ห้ามนำน้ำมนต์ล้างเท้าเด็ดขาด!!




ผ่านตรงฆ้องดังก้องกังวาน ใครมีบุญวาสนา
ก็สามารถทำให้เกิดเสียงดังหง่างๆกังวานได้
เสียงดังราวกับเสียงสัญญาณกระจายเสียงเลยทีเดียวล่ะ





เสร็จการไหว้ ตักน้ำมนต์ใส่ขวด ลั่นฆ้อง และ ขูดต้นไม้ แล้ว
พวกเราก็ออกจากบริเวณแล้วเดินกลับเส้นทางพญานาคเหมือนตอนขาเข้าแล้ว
รองเท้าของเรายังอยู่ ใครขโมยไปก็ผิดศีลนะ ไม่มีใครขโมยค่ะ
ใส่รองเท้าเสร็จ ก็หาซื้อเสื้อคำชะโนดกลับบ้าน
บางร้านก็มีขายเครื่องราง ของขลัง ไข่พญานาค
กำไล แหวน สร้อย รูปพญานาค

ตรงปากทางออกก็จะมี สินค้าให้เดินไปดูกันค่ะ













จบแล้วค่ะ