bloggang.com mainmenu search



อกหัก...ที่บางปู




สวัสดีเช้าวันพุธค่ะ ช่วงนี้สถานการณ์น้ำดีขึ้น ไม่้ต้องลุ้นแล้ว เราน่าจะรอดแน่นอน และเมื่อเริ่มผ่อนคลาย ไม่เครียดแล้ว... เที่ยวสิคะ ใกล้ๆ ก็ยังดี เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (19 พฤศจิกายน 2554) ปะป๊าชวนไปดูนกนางนวลที่บางปู เราพลาดจากปีที่แล้ว ไปไม่ทัน นกนางนวลพากันกลับบ้านไปก่อน เราบ่นอยู่เป็นเดือน มาปีนี้ ปะป๊าเลยรีบชวน ออกจากบ้านกันเกือบบ่าย 2 ดูว่าน่าจะเร็วเกินไปเลยมาแวะวัดอโศการามก่อน (ยังไม่อัพบล็อกค่ะ) มาถึงบางปูตอน 4 โมงเย็นพอดี แต่แดดก็ยังเจิดจ้า...










ปีที่แล้วไม่ได้มาค่ะ เลยไม่รู้ว่าเพิ่งเป็นปีแรกมั้ย ที่เค้าไม่ให้จอดรถตรงสะพาน ต้องจอดข้างนอก











ถ่ายเวลาไว้เป็นหลักฐานค่ะ











ด้านขวามือของสะพานแดดยังเจิดจ้าอยู่เลยค่ะ



















แวะซื้ออาหารนกก่อนค่ะ (กากหมู)











ก่อนมาทำใจพอสมควร...รู้ว่าตัวเองมากับ 18-55 คงไ้ด้อะไรไม่เท่าไหร่











แต่ก็อยากลองค่ะ เราไม่เคยถ่ายภาพนกได้สวย คิดซะว่ามาฝึกเนาะ











ระยะใกล้สุด ที่เค้าไม่บิน...แต่ก็ได้มาแค่นี้











จริงๆ นกนางนวลเยอะมากค่ะ แทบจะโฉบเฉี่ยวหัวเราไปเลย แต่ถ่ายไม่ทัน











ก็ยังพยายามไปเรื่อย...











หมอกบอกว่า ไว้วันหลังค่อยมาถ่ายซ่อมมั้ยแม่...มาอีกก็คงเหมือนเดิม แต่มาแน่นอน...



















ใครไม่ได้ตั้งใจมาถ่ายรูป ก็อยากเชียร์ให้มานะคะ ปีนึงเค้าจะมาช่วงเดียวเองค่ะ เดือนพฤศจิกายน - ปลายเมษายน











ฟ้าสวยมาก บรรยากาศดี แต่เราถ่ายไม่ได้เรื่องเอง...ที่บอกว่า "อกหัก" เพราะยังไม่เป็นที่พอใจ











แต่โดยรวมๆ ก็สนุกค่ะ ลูกชอบ เราก็ชอบ ได้ดูนก ได้ถ่ายรูป พอละ











คนก็ไม่เยอะเท่าไหร่ค่ะ สบายๆ











ระยะที่ใกล้ที่สุด ที่ได้สบตานกนางนวล...ไม่ชัดอีกต่างหาก











ฝั่งซ้ายนกนางนวล ฝั่งขวาเป็นนกพิราบ











แต่ละคน...เลนส์ยังกะกระบอกข้าวหลาม...











เหมือนเดิมค่ะ ไม่ค่อยกดดันตัวเอง ได้แค่ไหน ก็แค่นั้น ไม่งั้น...เครียด











สะพานสุขตา ไม่มีรถจอด สะอาด เรียบร้อยดีค่ะ











อาหารนก 10 บาท นิดเดียวค่ะ อยากจะเจียวมันหมูมาเอง ก็เนาะ











คุณป้าห้องอาหาร (ดูจากชุด) ยกกากหมูมาทั้งหม้อ ให้นกไป เอาเข้าปากตัวเองไป อย่างสุข...











มีแสตมป์สะสม และโปสการ์ดจำหน่ายด้วยค่ะ











ดับร้อนด้วยไอติมคนละแท่ง











เมฆอุตส่าห์เต็มใจถ่ายรูป แม่ถ่ายมามืดอีกแล้ว











เดินออกมารับลม ตรงนี้ยังแดดเปรี้ยงอยู่เลยค่ะ











กลับเข้ามาด้านในอีกรอบ












จากบริเวณจอดรถ ใครอยากเดินเข้ามาเองก็ได้ค่ะ ใครไม่อยากเดิน มีรถบริการฟรีทั้งเข้าและออก แล้วแต่เราให้ทิปค่ะ มีกล่องอยู่ด้านหลังคนขับ











เข้าใจตั้งชื่อนะคะ สะพานสุขตา ศาลาสุขใจ











ระหว่างรอพระอาทิตย์ตกดิน กินข้าวกันที่นี่เลยละกัน











มีคนถามเรา...ทำไมชอบถ่ายรูปอาหาร อยากรู้ว่าถ่ายออกมาหน้าตาจะน่ากินเหมือนที่เห็นมั้ย











ก็ลองไปเรื่อย...อีกนั่นแหละ











หมอกนั่งตรงข้ามกับแม่ค่ะ เลยถ่ายถนัดหน่อย เธอบ่นว่า แม่ถ่ายรูปเธอดำอีกละ จริงๆ หมอกดำอยู่แล้วค่ะ











จานแรก ข้าวผัดปูจานใหญ่ 150 บาทค่ะ










นอกจากปูในข้าวแล้ว มีเนื้อปูโปะหน้ามาด้วยค่ะ เมฆกับหมอกไม่ค่อยชอบข้าวผัดปูเพราะกินทีไรเจอเปลือกปูทุกที แต่ของที่นี่ไม่เจอเปลือกค่ะ











ยำรวมมิตรทะเล 100 บาท












ปลาทับทิมราดน้ำปลา 250 บาท ตัวใหญ่มาก


















ยำรวมมิตร มุมนี้บ้าง เห็นหนวดปลาหมึกด้วย











ปลาแหว่งไปอย่างรวดเร็ว ปะป๊าตักใส่จานให้ลูกค่ะ











ต้มยำน้ำใส เราสั่งปลากับปลาหมึกค่ะ หม้อนี้ 180 บาท











ยังไม่ทันได้ชิม... พระอาทิตย์ใกล้ลาลับ รีบวิ่งออกมาก่อน











นอกจากจะอกหักกับนกนางนวล พระอาทิตย์ยามเย็นก็ไม่กลมกิ๊กเป็นไข่แดงอีก...ไม่เป็นไร











เล่นสีกับท้องฟ้าก็ได้เนาะ







































พระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าไปแล้วค่ะ







































5 โมงกว่าๆ ค่ะ










แม่หายไปประมาณครึ่งชั่วโมง กลับมา..เค้าอิ่มกันเรียบร้อยแล้วค่ะ

แม่เก็บของที่เหลือ พร้อมจ่ายตังค์ 738 บาท (รวมน้ำเปล่า 3 ขวด น้ำแข็ง 1 ถัง)













จัดเป็นรวมมิตร ไม่อยากแยกหลายบล็อก หลายตอน รูปเยอะอีกแล้ว...ขออภัยค่ะ






ขอบคุณทุกท่านที่แวะทักทายกันค่ะ












Create Date :23 พฤศจิกายน 2554 Last Update :27 มีนาคม 2557 21:43:20 น. Counter : Pageviews. Comments :55