สวัสดีวันที่ ๑๓ เมษายน ๒๕๕๕ ค่ะ ขอลงภาพงานพระเมรุ ต่อเป็นตอนที่ ๒ นะคะ ทำรูปเสร็จหมดแล้ว รวมที่หมอกถ่ายมาด้วยแบ่งเป็น ๓ ตอน อยากเก็บภาพประวัติศาสตร์ไว้ค่ะ ไม่มีโอกาสอยู่จนถึงตอนเย็น เพราะต้องไปรับเมฆ วิทยากรที่จะนำเข้าชมพระเมรุพร้อมบรรยาย รอบต่อไปเวลาบ่ายสองโมงก็อยู่ไม่ถึง ลงทะเบียนไว้แล้วด้วยค่ะ เที่ยงกว่าๆ รออีกสองชั่วโมง...เลยต้องไปก่อน แต่เห็นเลยว่าคนที่มา เค้าตั้งใจมากันจริงๆ ตอนที่ไปลงทะเบียน มาจากต่างจังหวัดกันทั้งนั้น ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุด้วย

ถ้ามีโอกาส...ไปชมกันนะคะ ตอนนี้ขยายเวลา จากเดิมเปิดให้เข้าชมถึงวันที่ ๑๗ ขยายเวลาเป็น วันที่ ๑๑-๒๕ เมษายน เวลา ๐๙.๐๐-๑๙.๐๐ น. ทางกรมศิลปากรจัดวิทยากรบรรยายให้ความรู้เรื่องการจัดสร้างพระเมรุ และเครื่องประกอบพระเมรุ ให้กับประชาชนที่เข้าชมวันละ ๕ รอบ แบ่งเป็นช่วงเช้า ๒ รอบ ช่วงบ่าย ๓ รอบ หลังปิดการเข้าชมพระเมรุ ทางกรมศิลปากรจะเปิดไฟรอบพระเมรุ จนถึงเวลา ๒๒.๐๐ น. เพื่อให้ประชาชนที่ยังสัญจรผ่านไปมา ยังสามารถถ่ายรูป และชมพระเมรุจากรอบพระเมรุได้ ขอให้แต่งกายสุภาพ และปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่เพื่อเป็นการเคารพสถานที่ด้วยค่ะ
























































ที่เห็นนี่...ห้องน้ำค่ะ สะอาดมาก...










ศาลาลูกขุนค่ะ










พระที่นั่งทรงธรรม มีลักษณะเป็นอาคารโถง หลัีงคาจัตุรมุข ยกพื้นสูง หลังคาจั่วมีกันสาดปีกนก









มุขด้านหน้าทิศตะวันตกและทิศตะวันออกหรือมุขหน้าและหลัง เป็นมุขประเจิด ด้านหน้าและด้านข้างต่อเป็นหลังคาปะรำ














ฉากบังเพลิง เป็นเครื่องกั้นที่ส่วนบนพระเมรุในพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพบนพระเมรุ

เพื่อบังสายตาและบังลมช่วงการพระราชทานเพลิงพระศพบนจิตกาธาน





มีัลักษณะเป็นฉากพับได้ติดไว้กับเสาพระเมรุทั้ง ๔ ด้าน ด้านหน้าเขียนรูปเทวดา และ้ด้านหลังเป็นลายดอกกุหลาบ

























ขวามือ..กองอำนวยการค่ะ ลงทะเบียนแล้วจะได้แผ่นพับ ๓ ชุด จัดทำโดยกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม


























































































































ภาพสุดท้ายของบล็อกนี้ค่ะ









อ่านและชม ข้อมูล เกร็ดความรู้...งานพระราชพิธี พระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอฯ ที่นี่ค่ะ