เกาะสีชัง ตอนที่ 1


เคยไปเกาะสีชังเมื่อปลายปี 2554  พักที่ปารีฮัท

สมัยนั้น ละครกำลังดัง คนแห่กันไปเยอะเลย  เคยอัพบล็อกไปแล้ว ไม่วาง link ให้นะคะ หลายตอนเกิน 

ทริปนี้ วันอาทิตย์ที่  6  มีนาคม  2559  ก่อนหน้านี้ เคยมาเมื่อวันที่  7  กุมภาพันธ์  2559

กินข้าวที่เกาะลอย (อัพบล็อกไปแล้ว) แต่ไม่มีเรือข้ามไปเกาะสีชัง เพราะคลื่นลมแรง 

กลับมาซ่อม...วันนี้ก็เหมือนเดิม กินข้าวกันที่เกาะลอยก่อน แต่เปลี่ยนร้าน ไว้จะอัพบล็อกอีกหมวดค่ะ






เกาะสีชัง   เป็นเกาะใหญ่ซึ่งเป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดชลบุรี อยู่ห่างจากฝั่งศรีราชา ประมาณ 12 กิโลเมตร

เป็นที่จอดพักเรือสินค้านานาชาติ และเป็นเกาะที่น่าท่องเที่ยว ในบรรยากาศแบบท้องถิ่น สามารถแวะท่องเที่ยวในวันเดียวหรือพักค้างคืนก็ได้

แหล่งชุมชนเกาะสีชังอยู่ทางด้านตะวันออกของเกาะ เป็นที่ตั้งของท่าเรือเทววงศ์ (ท่าล่าง)

          และเป็นสถานที่สำหรับเริ่มต้นการเดินทางด้วยรถสามล้อเครื่อง หรือ "สกายแล็ป"

(รถที่คล้ายรถตุ๊ก ๆ แต่มีขนาดกว้าง และยาวกว่า) ไปยังจุดอื่น ๆ บนเกาะสีชัง






การเดินทางไปเกาะสีชัง


ขึ้นเรือที่ท่าเรือเกาะลอย อำเภอศรีราชา ออกทุก 1 ชั่วโมง

ใช้เวลาเดินทาง 40-45 นาที ค่าโดยสาร 50 บาท ต่อคน

เรือโดยสารจะออกจากเกาะลอย ศรีราชา ทุก ๆ ชั่วโมง

เริ่มตั้งแต่เวลา 07.00 น.และเที่ยวสุดท้าย 20.00 น.

ขากลับเที่ยวแรก 6 โมงเช้าและเที่ยวสุดท้าย 1 ทุ่ม ค่าเรือคนละ 50 บาท


** จะค้างคืน หรือ วันเดย์ทริป สามารถจอดรถไว้ที่ฝั่งเกาะลอยได้ **


รายละเอียดสอบถามได้ที่เรือสีชังพาเลซ โทร. 038 216 276-82 หรือ เรือแสงประทีปบริการ โทร. 038 313 687

หรือ สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับเกาะสีชังเพิ่มเติมได้ที่ ททท. ภาคกลางเขต 3 โทร 038 427 667, 038 428 750

//kosichang.sadoodta.com/

//travel.kapook.com/view3300.html





ค่าโดยสาร คนละ 50 บาท x 4 = 200 บาท  (ตั๋วเรือขากลับค่ะ ขามา ไม่ได้ถ่าย)





เรือโดยสารของแสงประทีปบริการ





เรือโดยสารของสีชังพาเลซ





14.35 น. วันอาทิตย์ที่  6  มีนาคม  2559





ดีเหมือนกันเก็บภาพขาไป ตอนขากลับ โชคดีได้นั่งเรือปรับอากาศ แต่ถ่ายรูปไม่ได้ 













เรือสินค้า คนอยู่แถวนี้ คงชิน แต่เราไม่ค่อยได้เห็น 









เรือลำเดิม แต่เปลี่ยนมุม









15.00 น. มองเห็นหอคอย และหมู่บ้านบนเกาะแล้ว

















ท่าเรือ ตรงหน้านี้ค่ะ





ขาไปขากลับ ขึ้นเรือที่ท่านี้เหมือนกัน





15.04 น. กำลังจะก้าวขาขึ้นฝั่งละ





การเดินทางบนเกาะสีชัง

- ไปช่องเขาขาด สามารถนั่งมอเตอร์ไซค์รับจ้างในอัตราค่าโดยสาร คนละ 15 บาท หรือ นั่งรถสามล้อในอัตรา 30 บาท นั่งได้ 5 คน

- รถสามล้อ (สกายแล็ป) นำเที่ยว รอบเกาะ นั่งได้ 5 คน รอบใหญ่ 250 บาท เที่ยวเดียว 70 บาท

- รถมอเตอร์ไซด์เช่า วันละ 300 บาท/ วัน

- รถยนต์เช่านำเที่ยว รถสองแถว 500 บาทรอบเกาะ

- เช่ารถจักรยาน ปั่นไปเที่ยวรอบเกาะ






เราใช้บริการรถสกายแล็ปที่จอดเรียงเป็นแถวตรงท่าเรือ (เหมือนรอบที่แล้ว)

คิดราคา (ตามมาตรฐาน) 250 บาท เที่ยวรอบเกาะ





จุดแรกที่มาแวะคือ ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่





ขึ้นมาข้างบนแล้ว ไปแวะเข้าห้องน้ำก่อน ออกจากห้องน้ำ เจอวิวนี้





















ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่

ตั้งอยู่บนเขาคยาศิระ ห่างจากท่าเรือเทววงศ์ไปทางด้านเหนือของเกาะ

เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวจีนทั้งในและต่างประเทศให้ความเคารพสักการะ เห็นได้ชัดจากสถาปัตยกรรมของศาลเจ้า

ซึ่งเป็นอาคารใหญ่ลักษณะทรงวิหารจีน ซึ่งนอกจากจะประดิษฐานองค์เจ้าพ่อเขาใหญ่แล้ว

ด้านในยังประดิษฐานเจ้าพ่อเห้งเจีย เจ้าแม่กวนอิม และพระสังกัจจายน์

ช่วงเทศกาลตรุษจีนของทุกปีจะมีคนข้ามเรือจากเกาะลอย เพื่อมาบวงสรวง กราบไหว้กันอย่างเนืองแน่น





พระสังกัจจายน์





ที่นั่งพักผ่อน ชมวิว รองรับนักท่องเที่ยวได้เยอะพอสมควร





ไปไหว้เจ้าพ่อเขาใหญ่กันค่ะ










เจ้าพ่อเขาใหญ่  เป็นรูปหินที่เกิดจากธรรมชาติเมื่อหลายหมื่นปีมาแล้ว จากจารึกภาษาจีนโบราณที่นายอุ้งเซ็ง แซ่อึ้ง (สำเนียงภาษาแต้จิ๋ว)

หรือนายยุ่นเซิ้ง เซิ้นหวง (สำเนียงภาษาจีนกลาง) ชาวอำเภอบุ่งเชียง จังหวัดไหหลำ เกาะไหหลำ ประเทศจีน

เป็นผู้จารึกไว้บนแผ่นไม้สักเก่าแก่มีอายุอยู่ในช่วงปี ค.ศ. 1883 หรือ ปี พ.ศ. 2426

ซึ่งปัจจุบันทางคณะกรรมการศาลฯ ได้เก็บแผ่นไม้สักนี้รักษาไว้ที่ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่เกาะสีชัง

ซินแสผู้สูงอายุที่มาทำหน้าที่เป็นเสมียนจีนในเทศกาลไหว้เจ้าได้ถอดความจากภาษาจีนแปลไว้ว่า...

ขณะที่มาจอดทอดสมอเรืออยู่หน้าเกาะได้เห็นแสงไฟอยู่บนเขาจึงได้ปีนขึ้นไปดู พบรูปหินย้อยลักษณะเหมือนศีรษะคน

ตรงตามตำราจีนว่าเป็นรูปเจ้าพ่อที่เกิดขึ้นเองจากธรรมชาติ อยู่ในถ้ำในเขากลางทะเล และยังหันหน้าไปทางทิศตะวันออก

มีน้ำอยู่ข้างหน้าตามที่ชาวจีนโบราณเชื่อถือกันตามหลักฮวงจุ้ยว่า... เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มหัศจรรย์













ตามมาเลยค่ะ ปีนี้ นึกอยากไหว้เจ้าพ่อเห้งเจียก็ได้ไหว้  









คนมาทำบุญ ดูจากจำนวนกระดาษแดงที่แปะ





















แวะดูวิวด้านบน





ออกมาแล้วค่ะ

















เดินลง









คนสูงอายุ ข้อเข่า ขาไม่ดี ขึ้นทางนี้ได้ค่ะ





ลุงคนขับรถ รอแถว ๆ นี้ แต่ละจุด เราจะแวะนานแค่ไหนก็ได้ค่ะ 





15.38 น.  ถึงแล้ว จุดหมายต่อไป ช่องเขาขาด






ช่องเขาขาด หรือ ช่องอิศริยาภรณ์

อยู่ด้านหลังของเกาะ หากนั่งเรือผ่านจะเห็นเป็นช่องเขา มีสะพานสำหรับเดินชมทิวทัศน์ สามารถชมพระอาทิตย์ตกได้สวยงาม

มีหาดหินกลม ซึ่งเต็มไปด้วยหินกลม ๆ ขนาดต่าง ๆ มากมาย ในอดีตเคยเป็นที่ตั้งพลับพลาที่ประทับชมทิวทัศน์ของรัชกาลที่ 5

บริเวณช่องเขาขาดจะมีสะพานวชิราวุธ ทอดตัวยาวลงสู่เบื้องล่างลดระดับไปตามไหล่เขา

2 ข้างทางประดับประดาด้วย ดวงไฟหงส์ และบริเวณนี้ยังเป็นแหล่งที่นักท่องเที่ยวนิยมมาตกปลากันเป็นจำนวนมาก





หมอก เมฆ  หลุดโฟกัส





พอแม่โฟกัสได้ แบบไม่พร้อมอีก  





แดดร้อนมาก  แต่มาถึงแล้วเนาะ  เดินซะหน่อย









เสาไฟหงส์





15.42 น. ร้อนจริง ๆ พี่น้องเอ๊ย 









ปะป๊าเดินถึงโน่นแล้วค่ะ





เค้าเดินลัดเลาะ มาจากบนนี้





ชอบมาก.... บล็อกแก๊งให้ลงภาพได้ไม่เกิน 500 kb.

ขอบคุณบล็อกแก๊ง ขอบคุณพื้นที่ดี ๆ และฟรีตลอดค่ะ





มองกลับขึ้นไป











แม่บอกว่า มองกล้องหน่อย  แดดส่องเข้าตา ได้มาประมาณนี้






จบด้วน ๆ แบบนี้ก่อนค่ะ  รูปเยอะ  ไว้ต่อตอนหน้า ...

ช่วงนี้อัพบล็อก ไม่เป็นเวลาเลยค่ะ  ยุ่ง ๆ ไปหมด 


ขอบคุณที่ติดตาม และแวะทักทายกันสม่ำเสมอค่ะ