bloggang.com mainmenu search



สวัสดีวันศุกร์สุดสัปดาห์ค่ะ จากตอนที่แล้ว เราขับรถออกจากเชียงคานตอนประมาณ 10 โมงกว่าๆ แวะเรื่อยเปื่อยตามรายทาง มาทางอำเภอท่าลี่ เพื่อที่จะเข้าภูเรือ...จนมาถึงด้านหน้าภูเรือ...หันมาคุยกันว่า ถ้าเราเข้าไปข้างในภูเรือแล้วต้องขี้เกียจกลับออกมาอีกแน่ๆ เลย งั้นขอแวะหาอะไรกินก่อน...





มองหาร้านอาหาร จอดตรงนี้ละกัน คนไม่ค่อยเยอะ "ภูเรือไก่ย่าง" มื้อเที่ยงของเรา ในเวลา 14.47 น. ค่ะ

เสบียงในรถมีนะคะ แต่ยังไงก็ต้องกินข้าว...จานแรกไก่ย่าง 80 บาทค่ะ






ยำผักกูดเห็ดหอมสด จานนี้ 60 บาทค่ะ






ตำปู (หน้าตาดีกว่าที่คิดไว้ค่ะ) 30 บาท






ลาบเห็ดหอมสด จานนี้ 80 บาทค่ะ






สุดท้าย...แกงเห็ดพื้นบ้าน 50 บาท หน้าตาไม่ค่อยดี แต่รสชาติดีมากค่ะ

ข้าวเหนียว 2 กระติ๊บ , น้ำเปล่า 2 ขวด , น้ำแข็ง 1 ถัง รวมทั้งสิ้น 360 บาท





เสร็จแล้วบึ่งรถเข้าภูเรือเลยค่ะ จ่ายค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานทั้งรถ ทั้งคนรวม 110 บาท ติดต่อเจ้าหน้าที่ชำระค่ากางเต็นท์อีกคนละ 30 บาท เด็กไม่คิดค่ะ เรากางเต็นท์กันแบบทุลักทุเลเล็กน้อย...(ครั้งแรก) ได้เพื่อนบ้านข้างเคียงช่วยบอกค่ะ เลยผ่านไปด้วยดี...ขอบคุณมากค่ะ







เวลา 16.29 น. ห้องพักสุดหรูของเราเสร็จเรียบร้อย...เป็นการนอนเต็นท์ครั้งแรกของเมฆ เธอตื่่นเต้นที่สุดในการนอนเต็นท์...

แต่เป็นเต็นท์หลังแรกของครอบครัวเราค่ะ...ซื้อเพื่อตั้งใจมานอนที่นี่เลย...







มองดูนาฬิกา 5 โมงเย็นแล้ว ขึ้นไปยอดภูเรือกันค่ะ เค้ามีบริการนั่งรถขึ้นไปคนละ 10 บาท

และเด็กไม่คิดตังค์...เหมือนเคย เด็กที่ว่านี่รวมหมอกด้วยค่ะ






ความที่ไม่ได้มาภูเรือ 10 ปีได้มั้ง ลืมๆ ไปว่า เอ...มันไกลเหรอ ขึ้นรถก็ขึ้นเนาะ

จากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวที่ 2 ที่เราพัก ถึงยอดภูเรือ 10 นาที ถึงรึป่าวไม่รู้...
















" เมืองแห่งทะเลภูเขา สุดหนาวในสยาม ดอกไม้งามสามฤดู "


เป็นหนึ่งในคำขวัญของจังหวัดเลย ซึ่งเป็นที่ตั้งของอุทยานแห่งชาติภูเรือ “ภูเรือ” เราจะรู้จักดีในนาม ที่พักผ่อนยามฤดูหนาวมาเยือน ธรรมชาติที่นี่อยู่บนเทือกเขาสูงเป็นรอยต่อระหว่างภาคเหนือและอีสาน อุทยานแห่งชาติภูเรือ มีพื้นที่ครอบคลุม 3 อำเภอคือ หนองบัว อำเภอภูเรือ และอำเภอท่าลี่ อาณาเขตทางทิศเหนือติดกับประเทศลาว รูปพรรณสันฐานของภูเรือมีรูปร่างลักษณะเหมือนเรือใหญ่บนยอดดอยสูงเป็นภูผา สีสันสะดุดตาหินบางก้อนมีลักษณะเหมือนถูกปั้นแต่งไว้ ชาวบ้านเรียกว่า “กว้านสมอ” โดยรอบๆ จะเห็นยอดดอยเป็นขุนเขาน้อยใหญ่ใกล้เคียงเป็นฝ้าขาวด้วยละอองน้ำ หมอก ปกคลุมไว้ท่ามกลางป่าอันอุดมสมบูรณ์ มีเนื้อที่มีเนื้อที่ทั้งสิ้น 75,525 ไร่ ประกาศ เป็นเขตอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 26 กรกฏาคม 2522 นับเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 16 ของประเทศ

















อุทยานภูเรือ อยู่บนยอดเขาสูงทำให้มีอากาศเย็นตลอดปีและเป็นอุทยานที่มีอากาศ หนาวเย็นที่สุดของประเทศโดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวจะหนาวเย็นมาก จนกระทั่งน้ำค้างบนยอดหญ้าจะแข็งตัว ภาษาพื้นเมือง เรียกว่า "แม่คะนิ้ง" ช่วงเดือนที่เหมาะที่จะมาเที่ยวคือเดือนตุลาคม-มีนาคม

























อากาศตอนเย็นของวันที่ 30 ธันวาคม 2553 หนาวค่ะ แต่ไม่รู้กี่องศา ยิ่งดึกก็ยิ่งหนาว...






















ชอบสนสามใบค่ะ






ไม่มีรูปแม่...เพราะแม่ไม่ชอบเป็นนางแบบค่ะ แม่ชอบเป็น "ยายกล้อง" มากกว่า...






















17.26 น. พระอาทิตย์ใกล้ตกดินแล้วค่ะ...เราเร่งกลับกัน เพื่อจะไปผาซำทอง ดูพระอาทิตย์ตกดิน






ตอนมานั่งรถใช้เวลาประมาณ 10 นาที ขากลับเลยขอเดินค่ะ...






เดินต่อค่ะ....







มองดูแล้วคาดว่าเราน่าจะไปไม่ถึงผาซำทอง หรือผากุหลาบขาว

ก่อนพระอาทิตย์ตกดินแน่...ต้องเดินไปอีกไกลเหมือนกัน










เดินไป...วิ่งไป...ลุ้นไป...กลัวพระอาทิตย์จะร่วงลงมาก่อน














นี่ขนาดรีบ...แม่ยังอุตส่าห์เรียกให้หมอกกับเมฆ มาถ่ายรูปกับป้าย...






ปะป๊าบอกว่า รอตรงนี้ละกัน 17.39 น.

ตรงซ้ายมือทางเข้าศูนย์บริการนักท่องเที่ยวที่ 2 (ภูสน)










เราเป็นโรคจิต กับพระอาทิตย์ขึ้น - ตก เพราะฉะันั้น...กดชัตเตอร์แทบทุกนาทีก็ว่าได้...






























นี่ลงรูปข้ามๆ บ้างแล้วนะคะ ไม่ได้เอาทุกช็อต










17.49 น. เริ่มแล้วค่ะ






อย่างที่รู้กันค่ะ พระอาทิตย์หน้าหนาว...สวยที่สุด


































17.53 น. ตกดินเรียบร้อย เหลือแต่แสงสีส้มค่ะ....






เดินกลับที่พักค่ะ...ดูความหนาแน่นของเพื่อนๆ บ้าง










หน้าเต็นท์เราในเวลา 18.16 น. ปะป๊าไปสำรวจห้องน้ำแล้วมาบอกว่า...คืนนี้ไม่ต้องอาบน้ำ คิวยาวเหยียด สีน้ำเป็นสีขุ่นๆ เหมือนสี

โคลน ไฟไม่มี...จบข่าว หมอกมองงงๆ เอาจริงเหรอป๊า...ไม่อาบน้ำนอน...ปะป๊าบอก นอนไปเหอะ หนาวอย่างนี้ ไม่มีเหงื่อหรอก...







ปล. เราตัดสินใจมากางเต็นท์นอนที่ภูเรือเป็นครั้งแรก ส่วนหนึ่งได้ดูบล็อกของแม่ปู (ฮัลโลตอบหน่อย) คุยกันพอสมควร ปูบอกว่า ถ้าพี่หนูไม่ซีเีรียสเรื่องห้องน้ำ ปูว่าโอเคนะ...เราลังเลในตอนแรก เพราะเป็นคนเรื่องมากเรื่องห้องน้ำ...สุดท้ายก็มา แล้วก็ไม่อาบน้ำด้วย เพราะแค่รอคิวเข้าห้องน้ำนี่ก็เกือบแย่แล้ว คนมหาศาลล้านเจ็ด...ส่วนน้ำ...เหมือนน้ำแข็งละลายค่ะ เย็นเจี๊ยบได้ใจมาก เด็กๆ ที่พ่อแม่ให้อาบน้ำร้องกระจองอแงกันระงม...


สิ่งที่ประทับใจที่สุด... เห็นดาวเต็มฟ้าเลยค่ะ ลูกๆ รวมทั้งเรา ตื่นเต้นมาก ไม่เคยเห็นดวงดาวระยิบระยับ อยู่ใกล้ขนาดนี้ เกิดมาไม่เคยเห็นจริงๆ ไม่มีปัญญาเอาภาพมาฝากค่ะ


สิ่งที่ไม่ประทับใจ...ดูได้จากบล็อกคุณ น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา ค่ะ เหมาะเจาะเหมาะเหม็งพอดี...ตามนั้นเลย...เราได้ที มีคนบ่นแทนแล้ว...




บล็อกหน้า....จะเป็นอะไรไปอีกไม่ได้...ไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ผาโหล่นน้อยกันค่ะ


เสาร์ - อาทิตย์ ไม่อัพบล็อก


ขอบคุณเฮดบล็อก และบีจี คุณญามี่


Create Date :28 มกราคม 2554 Last Update :28 ธันวาคม 2561 20:41:00 น. Counter : Pageviews. Comments :56