~ นิยายซีรีส์ "อัญมณีเหนือกาล" : เรื่องที่ ๓. "มรกตสนธยา" โดย "ริญจน์ธร" ~
มรกตสนธยา
ผู้เขียน : ริญจน์ธร
ผู้พิมพ์ : สนพ.อรุณ ม.ค. ๕๗
๔๑๗ หน้า ราคา ๒๙๕ บาท
คำโปรยเขาอาจไม่ใช่เจ้าชายในฝัน
แต่คืนวันต่อจากนี้จะมีเพียงเธอ
คณิตา หญิงสาวผู้ไม่เชื่อในความรัก ต้องตกไปอยู่ในสถานการณ์อันไม่อาจเลือก
หลังจากได้เพริดอต พลอยสีเขียวที่พาเธอไปพบกับใครคนหนึ่ง
ที่ไม่อาจหาได้ในโลกปัจจุบัน
เธอจะทำอย่างไรกับสถานการณที่เกิดขึ้น
ต้องติดตาม...
ความเป็นมาโดยย่อ...
(เอิ่ม...มันย่อตรงไหนเนี่ย...)เรื่องนี้เป็นเรื่องต่อจาก
"มนตรามุกจันทรา" ซึ่งเป็นเรื่องที่ชอบที่สุดในชุด
"มนตราอัญมณี"ก่อนอ่านเรื่องนี้จึงค่อนข้างคาดหวังมากเป็นพิเศษ
ภาคนี้เป็นเรื่องราวของ
คณิตา - เพื่อนรักของมุกดานางเอกจากเรื่องก่อน
ซึ่งในเรื่องนั้นเธอก็มีบทบาทไม่น้อยในฐานะเพื่อนสนิทนางเอกกับเป็นพี่สาวของครองขวัญ
หนึ่งในเคสที่มุกดาต้องเกี่ยวข้องด้วย
คณิตาเป็นหญิงสาวทีมีปมเรื่องผู้ชายกับความรัก เพราะเธอเป็นเด็กบ้านแตก
พ่อนอกใจแม่ไปแต่งงานใหม่กับน้องสาวแม่ น้าแท้ ๆ ของเธอเอง
ต่อมาเมื่อแม่แต่งงานใหม่มั่งเธอจึงแยกตัวมอยู่บ้านที่ย่ายกให้เธอตามลำพัง
และทำธุรกิจเกี่ยวกับการจัดงานแต่งงานร่วมกับมุกดา...
เธอเกลียดผู้ชายเจ้าชู้และไม่เชื่อในความรัก
วันหนึ่งเธอก็ได้พบร้านขายอัญมณีชื่อ'กาลเวลา'เข้าโดยบังเอิญ
เธอสะดุดตาในอัญมณีสีเขียวสองชิ้นที่เป็นรูปหัวใจครึ่งซีก
ซึ่ง
"มิตร" เจ้าของร้านก็บอกกับเธอว่านั่นคือเพริดอต ไม่ใช่มรกตอย่างที่เธอเข้าใจ
เพริดอตมีฉายาว่า
'มรกตยามเย็น' ที่เชื่อกันว่ามันจะสั่งสมพลังในเวลากลางวัน
และมีอำนาจเต็มเปี่ยมยามค่ำคืน
อะไรบางอย่างทำให้เธอตัดสินใจซื้อเพริดอตทั้งสองชิ้นนั้นมา
แต่เมื่อกลับถึงบ้านเธอก็พบว่าเธอทำมันหายไปหนึ่งชิ้น...
และแล้ว เย็นนั้นเองเพริดอตครึ่งซีกก็สำแดงพลังของมัน
เมื่อคณิตาหยิบมันขึ้นมาพิจารณา จู่ ๆ มันก็ฝังตัวเองเข้าไปในมือของเธอ...
แล้วก็พาเธอลอยละล่องข้ามผ่านกาลเวลาไปโผล่ยังใจกลางกรุงเทพมหานครในวันก่อนสิ้นปี 2099
ที่นั่น โชคดีที่เธอพบอัญมณีอีกชิ้นที่เธอทำหล่นหาย
แต่โชคร้ายทีเธอไม่รู้ว่าตัวเองอยู่จุดไหนของประเทศไทย เพราะทุกสิ่งทุกอย่างมันแปลกเปลี่ยนไปหมด
ไม่ว่าจะเป็นถนนหนทางหรือตึกรามบ้านช่อง
ท่ามกลางความสับสนหวาดกลัว เธอก็ถูกทำร้าย แต่
อัทธ์ก็มาช่วยเธอไว้ได้
เขาพาเธอมาพักที่คอนโดของเขา แต่พอรุ่งเช้าเธอก็หายตัวไปต่อหน้าต่อตาเขา
เมื่อคณิตาตื่นขึ้นมาในโลกปัจจุบันของเธอ เธอก็เข้าใจได้ถึงพลังของพลอยสีเขียวนั้น
เธอกลับไปหาร้านกาลเวลาในซอยที่เธอเคยพบ แต่ปรากฏว่าร้านนั้นหายไปแล้ว
และคืนนั้นเธอก็ถูกดึงดูดให้กลับไปที่โลกแห่งอนาคตอีกครั้ง
เพื่อที่จะพบว่าพลอยอีกครึ่งซีกที่เธอลืมทิ้งไว้ในคอนโดของอัทธ์ได้หายเข้าไปในหลังมือของชายหนุ่มแล้วเรียบร้อย
และต่างก็ไม่รู้วิธีที่จะเอาพลอยสีเขียวนั้นออกจากหลังมือทั้งคู่...
นั่นหมายความว่า...คณิตาต้องเดินทางไปมาระหว่างโลกทั้งสอง
และต้องใช้เวลายามค่ำคืนอยู่ร่วมห้องกับอัทธ์ตลอดเวลา
และหลังจากนั้น...เรื่องราวมหัศจรรย์ต่าง ๆ ก็ประเดประดังเข้ามาในชีวิตที่เคยเรียบง่ายของคณิตา...
พร้อม ๆ กับความรักที่ค่อย ๆ ก่อตัวขึ้น ทีละน้อย ทีละน้อย...
หลังอ่าน...
โอยยย...กรี๊ดอ่ะเล่มนี้ ชอบมากกกกกกกกกกกก......(ก.ไก่อีกล้านเจ็ดตัว)
มันครบรสครบครันไปหมด ทั้งรักโรแมนติก ดราม่า แฟนตาซี ไซ-ไพ สืบสวน ฆาตกรรม อาชญากรรม ฯลฯ
ที่เล่า ๆ ไปข้างบนนั่น เป็นแค่เศษเสี้ยวเดียวของเรื่องราวทั้งหมด
ด้วยนอกจากพล็อตรักระหว่างกาลของคู่พระ-นางแล้ว ก็ยังมีปมซับซ้อน ซ่อนเงื่อนอีกหลายปม
ทั้งในกาลปัจจุบัน และในโลกอนาคต
ถ้าใครเป็นแฟนนิยายคุณ"ริญจน์ธร" หรืออย่างน้อยก็เคยอ่านงานของเธอมาบ้าง
ก็คงพอจะคุ้นชินกับสไตล์การเขียนของเธอ ว่าส่วนใหญ่จะออกแนวโรแมนติกแฟนตาซี...
ที่หวานจนน้ำตาลเรียกพี่
โดยเฉพาะบรรดานิยายที่แผลงมาจากตำนานเทพเจ้ากรีกทั้งหลาย
โดยส่วนตัวได้อ่านไปหลายเล่มอยู่ค่ะ ก็ค่อนข้างชอบแหละ ชอบในสำนวนภาษาที่นุ่มนวลลื่นไหล
กับจินตนาการอันเหนือจริง บ่งชัดว่าเป็นแฟนตาซี ขณะอ่าน เราจึงไม่ต้องคาดหวังความสมจริง
มาถึงชุด
"มนตราอัญมณี" จาก
"มนตรามุกจันทรา" อันเป็นภาคต้นของเล่มนี้
ความเป็นแฟนตาซีลดน้อยลงไป แต่ก็ยังคงความเป็นเรื่องเหนือธรรมชาติ
และที่สำคัญ...ยังคงคอนเซ็ปต์ความโรแมนติกแสนหวานไว้อย่างเสมอต้นเสมอปลาย
ดังนั้น เมื่อมาถึงเล่มนี้ หลายคนอาจจะคาดหวังซีนรักหวาน ๆ ระหว่างพระ-นางเหมือนในเล่มก่อน ๆ
ซึ่ง...มันก็มีอยู่อ่ะนะ เพียงแต่มันอาจจะน้อยไปนิดนึง เพราะผู้เขียนไปโฟกัสตรงจุดอื่นมากกว่า
สำหรับตัวเองออกจะผิดคาดค่ะ แต่ไม่ผิดหวังเลย กลับจะชอบมากกว่าเดิมด้วยซ้ำไป
ด้วยพล็อตที่ค่อนข้างแปลก แตกต่างและแอบแหวกขนบของตัวนักเขียนเอง...
ตั้งแต่บทนำเป็นต้นไปเลย ผู้เขียนเปิดเรื่องของเธอด้วยเรื่องราวของ'ขบวนการโจรกรรม'
มีฉากการติดตามไล่ล่าเพื่อฉกชิงของสำคัญ...
แต่แล้ว เธอก็ค้างไว้เพียงนั้น...
หันมาเปิดตัวนางเอก ตามด้วยพระเอก ซึ่งดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกริ่นไว้ในบทนำเลย
เป็นการผูกปมปริศนาที่ค้างคาใจคนอ่านตงิด ๆ
หากก็ปลุกเร้าและกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นและชวนให้ติดตามอยู่ในที...
จากเล่มแรกในชุด
"โมรารัตติกาล" กาละของเรื่องนั้นเป็นการย้อนอดีต...
มาเล่มที่สอง ผู้เขียนกำหนดให้กาละเป็นช่วงเวลาปัจจุบัน จึงใช้ทริคโลกคู่ขนาน
พอถึงเล่มนี้...คำว่า'สนธยา'หมายถึงห้วงเวลาที่คาบเกี่ยวระหว่างกลางวันกับกลางคืน
กาละของเรื่องนี้จึงเป็นโลกในอนาคต...
จุดนี้เองที่จขบ.ชื่นชอบเป็นพิเศษ...
คนเขียนเขาสร้างสรรค์โลกอนาคตได้น่าทึ่ง น่าสนใจและดูสมจริงน่าเชื่อมาก
ไม่ว่าจะเป็นฉาก ผู้คนและวิวัฒนาการทางเทคโนโลยีทั้งหลาย...จินตนาการล้ำเลิศสุด ๆ
โดยเฉพาะโปรแกรมดูแลบ้านและจัดการชีวิตแบบสำเร็จรูป - - อดัมกับเอวา...อยากได้อะ
การบรรยายฉากของกรุงเทพฯในโลกอนาคต คนเขียนเขาก็บรรยายได้ด้วยสำนวนง่าย ๆ
ไม่ว่าจะเป็นคอนโด อาคารสูง รถไฟฟ้า โรงหนัง เมืองลอยน้ำ ฯลฯ
อ่านแล้วนึกภาพตาม แล้วก็ทึ่งในจินตนาการของเขาแฮะ
อัทธ์ในความคิดของคณิตาดูจะห่างไกลจากผู้ชายในฝันของเธอมาก
เพราะเขาออกแนวเพลย์บอย เจ้าชู้และปากว่ามือถึง...
ซึ่งเธอก็เข้าใจและยอมรับได้ ก็เขาเป็นผู้ชายในยุค 2100 ล้ำหน้าไปกว่ายุคของเธอถึงกว่าแปดสิบปี
ความคิดความอ่านของผู้คนในสังคมย่อมเปลี่ยนแปลงไปเป็นธรรมดา
(ในจุดนี้ ไม่เพียงแต่คณิตาเท่านั้นที่ยอมรับได้ คนอ่านเองก็เข้าใจ
ยอมรับและเชื่อเป็นตุเป็นตะว่า ผู้ชายในยุคศตวรรษหน้าก็คงจะมีลักษณะนิสัยคล้าย ๆ อัทธ์นี่แหละ)แต่คณิตาก็ตั้งป้อม ก่อกำแพงกั้นกลางระหว่างเธอกับเขาไว้ ด้วยปม"เกลียดผู้ชายเจ้าชู้"ที่มีอยู่ในใจ
พยายามตามหาร้าน"กาลเวลา"อย่างไร้ผลต่อไป
แต่ก็โชคดีที่อัทธ์มีความเป็นสุภาพบุรุษพอ เขายอมรับข้อตกลงของการอยู่ร่วมกันง่าย ๆ ไม่โยกโย้
แต่ก็ไม่วายหยอดเล็กหยอดน้อย ตามประสาผู้ชายมือไว
ซึ่งนั่นก็สร้างความหวั่นไหวขึ้นในใจคณิตาอยู่เรื่อย ๆ
ชอบนะ...ชอบพระเอกที่ร้ายหน่อย ๆ กรุ้มกริ่ม ๆ แบบนี้
และเมื่อเขารู้ตัวว่ารักนางเอกก็พยายามปรับเปลี่ยนตัวเอง
ส่วนนางเอกก็ชอบตรงที่เธอมีสติ มีเหตุมีผล ไม่กลัวจนลนลาน แต่ก็ไม่กล้าจนเกินความเป็นผู้หญิง
แต่ถึงแม้ว่าในโลกอนาคต เทคโนโลยีจะสูงส่งเพียงใด วิทยาการทางการแพทย์จะก้าวล้ำนำหน้าไปแค่ไหน
แต่ศีลธรรม จริยธรรมในใจผู้คนยังคงไม่ได้พัฒนาตาม...
กลับจะลดน้อยลงกว่าเท่าที่มีอยู่ในปัจจุบันนี้เสียด้วยซ้ำกระมัง...
เมื่ออัทธ์พยายามทำให้คณิตามีตัวตนในโลกของเขา
รหัสดีเอ็นเอของเธอจึงไปปรากฏในฐานข้อมูลที่มีผู้เฝ้าตรวจสอบอยู่
และเมื่อพบว่า ดีเอ็นเอของเธอ'แมทช์'กับผู้ที่ต้องการอวัยวะสำคัญ ชีวิตของเธอก็ต้องตกอยู่ในอันตราย
มาถึงตอนนี้ก็มีตัวละครสำคัญที่จะเว้นกล่าวถึงไม่ได้เลย...
'อันนา' เป็นพี่สาวต่างมารดาของอัทธ์
เธอเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ทำงานให้กับบริษัทผลิตอวัยวะเทียมที่ได้มาจากสเต็มเซลล์ของเจ้าของอวัยวะนั้น ๆ
เธอเข้ามาทำงานในบริษัทนี้อย่างมีวาระซ่อนเร้น
เพราะต้องการสืบหาเงื่อนงำการเสียชีวิตของคนรักกับน้องสาวของเขา...
ซึ่งกว่าเธอจะสืบเสาะจนถึงต้นตอได้ เธอก็เกือบจะต้องแลกด้วยชีวิตของตัวเอง
อันนาเป็นตัวละครที่โดดเด่น แย่งซีนคู่พระนางไปเต็ม ๆ
เรื่องราวตอนนี้เองที่สะท้อนให้เรามองเห็นถึงวิวัฒนาการอันก้าวไกล
ไม่ว่าจะเป็นทางด้านเทคโนโลยีหรือวิทยาการทางการแพทย์ในโลกอนาคต
ผู้เขียนจัดเต็มมาก...อ่านแล้วเชื่อ อ่านแล้วลุ้นตามน่ะค่ะ
ที่สำคัญ...เธอสามารถสร้างความเชื่อมโยง ความสัมพันธ์ของตัวละครได้อย่างน่าทึ่ง คนอ่านคาดไม่ถึง
มันดู...มีที่มาที่ไปและสมเหตุสมผลดี
แม้ว่าตอนท้าย ๆ อาจจะดูรวบรัดตัดความไปหน่อย แต่ก็ไม่รู้สึกสะดุดอะไรค่ะ
ผู้เขียนเขาคลี่คลายทุกปมที่ขมวดไว้(อย่างค่อนข้างซับซ้อน)แต่ตอนต้นได้ละเอียดลออ
อ้อ...รวมทั้งเลิฟซีนที่มีวุฒิภาวะและถูกจังหวะจะโคนด้วยล่ะ...
อ่านแล้วอิน แล้วก็ฟิน...
ต้องขออภัยที่เล่มนี้เดินทางมาถึงช้ากว่าที่คาดไว้นะคะ
เกิดเหตุฉุกเฉินนิดหนึ่งค่ะ
ขออนุญาตสรุปสั้น ๆ ไว้ตรงนี้อีกนิดนะคะ
บอกได้เลยว่า ถึงแม้จะได้ชื่อว่าเป็นหนังสือชุด แต่ทั้งสามเล่มสามเรื่องก็เป็นเอกเทศต่อกันค่ะ
(ถ้ารวมถึงชุดก่อนด้วย ก็ทั้งหกเล่มหกเรื่องนั่นล่ะ) สามารถอ่านแยกเล่มได้
เพราะผู้เขียนแต่ละคนต่างมีสไตล์การเขียน(การสร้างพล็อต การเล่าเรื่อง ตลอดถึงการใช้สำนวนภาษา)ที่แตกต่างกันชัดเจน
แม้จะมีธีมร่วม แต่ตัวละครหลักของแต่ละเรื่องมีความโยงใยสัมพันธ์กันน้อยมาก
จะมีแต่"มิตร"นั่นล่ะ ที่ปรากฏตัวในทุกเรื่อง เพื่อจะเป็นผู้กำหนดชะตาชีวิตที่..."เหนือกาล" ให้กับตัวละครเอกทั้งสามเรื่อง
มิตรเป็นเจ้าของร้าน"กาลเวลา" ร้านอัญมณีที่สามารถเคลื่อนที่ได้ ทั้งในห้วงกาลและสถานที่ต่าง ๆ...
จริง ๆ แล้วไอเดียนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ในโลกแฟนตาซี
อยู่ที่การจะนำมาใช้ในนิยายยังไงให้เนียนและดึงดูดความสนใจได้
ส่วนตัวชอบมิตรในพาร์ทที่อยู่ใน"โมรารัตติกาล"มากที่สุด
เขามีบทบาทมากกว่าจะเป็นเพียงผู้ส่งมอบอัญมณีอย่างในสองเล่มหลัง
แต่ถ้าถามจขบ.ว่า ในชุดนี้ชอบเล่มไหนมากที่สุด...
ในแง่ของเรื่องราวโดยรวม ขอเลือกเล่มสุดท้ายนี้แหละค่ะ ที่ได้ใจไปเต็ม ๆ
อาจจะด้วยพล็อตของโลกอนาคต ความหวานที่กลมกล่อมกำลังดี กับสำนวนภาษาที่อ่านได้ลื่นไหล
จริง ๆ แล้ว ในตอนแรกออกจะสองจิตสองใจระหว่างเล่มแรก(โมรารัตติกาล)กับเล่มนี้
เพราะชอบมากกกกก...เช่นกัน แต่เผอิ๊ญ...วันก่อนย้อนไปอ่านทวนเล่มแรก
(เพื่อจะกลับไปทบทวนตอนที่เล่มนั้นกล่าวถึง"มรกตสนธยา")
เกิดไปเจอจุด"พร่อง" (เล็ก ๆ ) เข้า ทำให้คะแนนตกไปนิดหนึ่ง
แต่ก็แค่"นิด"นึงจริง ๆ ค่ะ เอาไว้หลังไมค์ไปคุยกับคนเขียนนะคะ
โดย: แม่ไก่ 12 กันยายน 2557 12:26:06 น.
โดย: อุ้มสม 12 กันยายน 2557 17:18:04 น.
แต่ก็นะ ด้วยความโรคจิตส่วนตัว ฉันขอ 3 ก็แล้วกัน
ซึ่งจริง ๆ แล้ว ชุดอัญมณีก่อนหน้านี้ pd ก็ยังไม่ได้อ่านเลย
จนตอนนี้ ดองไว้ทั้ง 2 ชุด ... แต่ก็ตังใจว่าจะซื้อเก็บไว้ค่ะ ชอบนิยายแนวนี้จริง ๆ
บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
แม่ไก่ Book Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
โดย: Pdจิงกุเบล 13 กันยายน 2557 8:39:08 น.
จองในเน็ตก็ไม่ครบเล่มบ้าง
จองไม่ทันเพื่อนบ้าง
แต่ว่าพอไปร้านหนังสือ อาจจะเพราะคนไม่ได้ซื้อเป็นชุด
ของเลยไม่ครบ เลยตัดใจทุกที
ที่จริงชุดนี้น่าอ่านมากและปกสวยมากดึงดูดนุ่นมากเลยค่ะ
ขอบคุณสำหรับรีวิวค่า คุณแม่ไก่ ^^
โดย: lovereason 14 กันยายน 2557 21:50:02 น.
เลยคิดว่าถ้าจะอ่านอีกรอบก็ต้องไล่เรียงกันไปดีกว่า
ถ้าเริ่มอ่านคงต้องอ่านแบบไล่ไปเลยล่ะค่ะแล้วก็
คงไม่ว่างเว้น 6 เล่มรวดเลย แต่เพราะน่าจะใช้เวลา
เลยต้องรอจัดคิวก่อน คงได้อ่านสักวันแน่นอนลยค่ะ 2 ชุดนี้
แต่ดูเหมือนว่าขนาดไม่ได้อ่านยังประทับใจเพราะว่า
เจอ "ก" เป็นล้านตัวจากพี่แม่ไก่นี่ล่ะค่ะ
โดย: JewNid 16 กันยายน 2557 22:17:32 น.