bloggang.com mainmenu search




มนตร์ธารา - มนตร์ลวงรัก
ผู้เขียน : มาภา
ผู้พิมพ์ : สนพ.อรุณ (มกราคม ๕๘)
๔๑๖ / ๔๒๔ หน้า ราคา ๒๗๕ / ๒๙๕ บาท


โปรยปก'มนตร์ธารา'


ความทุกข์ใดในโลกใบนี้ หากไม่อยู่ที่เรา ก็อยู่ที่คนอื่น
เธอจึงเลือกกอดความทุกข์ไว้เอง เพื่อให้คนที่เธอรัก...มีความสุขเสมอ

ศิรา อัครจินดา หญิงสาวผู้เกิดมามีพร้อมทุกอย่าง
ทว่าหัวใจไร้เดียงสาของเธอกลับมอบไว้ให้แด่ชายหนุ่มต้องห้าม
แต่ถึงกระนั้นความรักของเธอก็ไม่เคยทำร้ายใคร
เพราะเธอไม่ปรารถนาจะครอบครองเขา
แม้โชคชะตาจะขีดเขียนให้เธอมีสิทธิ์ทำอย่างนั้น
แล้วศิราควรทำอย่างไร เมื่อวันหนึ่งเธอต้องเลือก
ระหว่างลมหายใจของคนที่เธอรัก กับความสุขตลอดชีวิตของคนที่รักเธอ

ชวดล ศิริวัฒนวัลลภ สถาปนิกหนุ่มผู้เติบโตอยู่ภายใต้เงามืดของอดีต
ความรักคือสิ่งเดียวเท่านั้นที่เขาไม่เคยสัมผัสถึง
แม้สองมือจะดึงรั้งไขว่คว้าให้ได้มาอย่างไรก็ตาม

มนตร์ธารา คือความอ่อนโยนของความรักอีกรูปแบบหนึ่ง
ไม่มีความโหดร้าย ไม่มีความริษยา
มีเพียงความเคว้งคว้างของผู้คนที่หาความสุขไม่พบ
หัวใจเท่านั้นที่จะนำทาง และโอบกอดคืนวันอันเหน็บหนาว
ให้กลายเป็นอบอุ่นชั่วกาลนาน





โปรยปก'มนตร์ลวงรัก'

นรุตม์ เมฆาอนันต์ สถาปนิกหนุ่มดีกรีปริญญาเอกจากอังกฤษ
เพิ่งกลับมารับงานแทนรุ่นพี่คนหนึ่ง
งานแรกที่เขาต้องเจอคืองานปรับแต่งออฟฟิศใหม่ให้ รสา อัครจินดา
ผู้ซึ่งเป็นพี่สาวของหญิงที่เขาปักใจรักมาตลอดสิบปี
แต่กลับต้องผิดหวังเมื่อหัวใจเธอไม่มีเขาอยู่ในนั้น

งานชิ้นแรกของเขาคงไม่ใช่งานหิน
ถ้ารสาจะมีนิสัยที่เหมือนกับน้องสาวของเธอสักนิด
และไม่ใช่ผู้หญิงเป๊ะเวอร์และมีความเยอะตั้งแต่เริ่มคุยงาน

แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมเขากลับพบว่า ในความเอาแต่ใจของเธอมีอะไรซุกซ่อนมากกว่านั้น
และความสัมพันธ์ของเธอกับเขาก็คงสวยงาม หากพ่อไม่คิดอะไรแผลงๆ

แต่สำหรับรสา ซีอีโอสาวมือใหม่ หัวใจที่มีไว้รักตัวเอง
กลับเต้นแรงให้กับผู้ชายที่น้องสาวเคยสลัดทิ้ง
แถมผู้ชายคนนี้อายุน้อยกว่าเธอตั้งหลายปี
แล้วความสวย เริด เชิด หยิ่งของเธอที่สั่งสมมาตลอดชีวิต
จะยอมให้เขาทำลายง่ายๆ ได้อย่างไร!





เคยติดใจนักเขียนนามนี้มาแล้วจากหนาวหวาน และเก็บรัก...
เมื่อเห็นว่าเธอมีผลงานออกใหม่มาเป็นชุดสองเล่ม
จึงไม่พลาดที่จะสรรหามาอ่านโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย
อ่านจบแล้วก็บอกได้เลยว่า...ไม่ผิดหวังค่ะ

ทั้งสองเล่มสองเรื่องนี้เป็นเรื่องราวต่อเนื่องกัน ตัวละครโยงใยสัมพันธ์กัน
ก็เลยจะขออนุญาตบอกเล่าเรื่องราวแบบรวบรัดตัดความควบคู่ไปเลยนะคะ

เรื่องย่อจริง ๆ เล่าค่อนข้างยากค่ะ เพราะแค่เริ่มเรื่องก็อาจจะสปอยล์เนื้อหาทั้งหมดทันที
เอาเป็นว่าจะค่อย ๆ เล่าถึงตัวละครเด่น ๆ ทีละตัวแล้วกันค่ะ

ตัวละครหลัก ๆ ของทั้งสองเรื่องนี้มีสี่คนค่ะ... สองคู่พระ-นางนั่นเอง
เริ่มจากคู่แรกจากเรื่องแรก...เลค ศิรา กับโซ่ ชวดล

..................

ศิรา เด็กสาววัยยี่สิบต้น ๆ ที่มีปมในใจว่าแม่ไม่รัก
โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับพี่สาวอย่างชาร์ม รสา ที่มารดาเอาอกเอาใจ
และแสดงความรักใคร่ชื่นชมอย่างเปิดเผย
เธอหลงรักชวดลมาตั้งแต่อายุสิบสี่ แต่ก็เฝ้าเก็บงำความรักนั้นไว้อย่างมิดเม้น
เพราะตระหนักแน่แก่ใจว่าความรักของเธอคงไม่มีทางเป็นไปได้
เพราะชวดลเป็นคู่หมั้นของพี่สาวของเธอ...
หรืออีกนัยหนึ่ง เขาเป็นว่าที่พี่เขยของเธอนั่นเอง

แต่เธอก็คงยินดีที่จะเพียงแอบรักเขาอยู่เรื่อย ๆ ไปเช่นนั้น
ถ้าไม่เกิดเหตุผิดพลาดในความสัมพันธ์อันซับซ้อนระหว่างเธอกับเขาขึ้นเสียก่อน

ถึงกระนั้น...ต่อให้รักแสนรักแค่ไหน แต่ถ้าเขาไม่มีใจให้
และเพื่อความสุขของพี่สาวคนเดียว เธอพร้อมที่จะเฉือนหัวใจตัวเอง...
เดินออกจากชีวิตเขา...อย่างเด็ดเดี่ยวและเข้มแข็ง

....................

ชวดล หรือพี่โซ่ ชายหนุ่มเก็บกด ด้วยมีปมชาติกำเนิดอันคลุมเครือ
นับแต่น้อยคุ้มใหญ่ชีวิตของเขาถูกขีดเส้นไว้แล้วโดยผู้เป็นแม่และพ่อ...
ซึ่งเขาจะต้องเดินตามโดยห้ามมีเงื่อนไขใด ๆ ทั้งสิ้น
รวมทั้งการหมั้นกับรสา...ตั้งแต่เขายังเรียนไม่จบจากมหาวิทยาลัยด้วยซ้ำ

เมื่อวันหนึ่ง เขาได้รับรู้ว่ามีเด็กสาวคนหนึ่งเฝ้าติดตาม
แอบรักแอบชื่นชมเขามาเนิ่นนาน ทำให้เขารู้สึกถึงการมีตัวตนของตัวเองบนโลกใบนี้
เขาเริ่มเรียนรู้ที่จะรัก และถูกรัก...
แต่ทว่า...ด้วยพื้นฐานการเลี้ยงดูที่เขาไม่เคยได้เลือกหรือตัดสินใจในทางเดินชีวิตของตัวเองมาก่อน
ทำให้เขาเกือบจะต้องสูญเสียความรักที่เขาเพิ่งจะได้สัมผัสไปอย่างไม่มีวันหวนคืน...

......................

รสา หรือชาร์ม อดีตแอร์โฮสเตสสาวมั่นแสนสวย เปี่ยมเสน่ห์สมชื่อ
ที่ผันตัวมาทำงานบริหารเพื่อสืบทอดกิจการของมารดา
แม้จะไม่มีใจรักแต่เธอก็ทุ่มเทและเอาใจใส่ในงานอย่างเต็มที่

ภายนอกเธออาจจะดูแกร่ง ดูเปรี้ยวเป็นสาวเชิดสาวมั่น
แต่ภายในนั้นเธอรู้ตัวดีว่าเธอไม่ได้เข้มแข็งแกร่งกล้าอะไรเลย
เธอก็แค่ผู้หญิงธรรมดา ๆ คนหนึ่งที่มีจุดอ่อนที่ซุกซ่อนไว้ภายใต้กำแพงที่เธอสร้างขึ้นมา...
จะมีก็เพียงคนใกล้ชิดที่เธอรักและรักเธอที่สุดเท่านั้นจึงจะได้แลเห็น...
ซึ่งสำหรับเธอแล้ว คนคนนั้นก็ได้แก่ศิรา น้องสาวคนเดียวที่เธอแสนรักนั่นเอง

รสายอมตามใจมารดาในการรับหมั้นชวดล และคิดว่าเธอคงจะรักเขาได้ไม่ยาก
ด้วยรู้สึกว่าเขาเป็นผู้ชายที่แสนดีคนหนึ่ง...
แม้เธอจะไม่ได้รู้สึกวูบไหวใจเต้นรัวเมื่ออยู่ใกล้ๆ เขาก็ตามที

และเมื่อวันหนึ่งเธอได้รับรู้ว่าชวดลเป็นความรักและความสุขของน้องสาวคนเดียวของเธอ
เธอก็ยินดีและเต็มใจที่จะปล่อยมือจากเขา...

เพื่อทีจะพบในเวลาต่อมาว่า
หัวใจของเธอสามารถสัมผัสได้ถึงความรักที่แท้จริงได้อีกครั้ง...
จากผู้ชายอีกคนหนึ่ง

.................

นรุตม์ หรือแบงค์ เด็กหนุ่มมาดเซอร์ผู้เฝ้าแอบรักศิรามานานนับปี
เขาเฝ้าติดตามดูแล ห่วงใยเธอตลอดเวลา
แม้จะรู้ดีว่าเธอให้เขาได้เพียงความเป็นเพื่อน
ถึงกระนั้น เขาก็ไม่คิดว่าจะมีใครมาแทนที่เธอได้...

ถ้าไม่เป็นเพราะบิดาจอมเจ้าเล่ห์ของเขาจะไมปฏิบัติการประหนึ่งว่าตัวเองเป็นเทพอุ้มสม...
นำพาความรักในรูปแบบใหม่มาทำให้หัวใจที่ห่อเหี่ยวของเขาได้ชุ่มชื่นอีกครั้ง

....................





เม้าท์มอยหลังอ่าน....

ถ้าใครเคยอ่านงานของ"มาภา"มาก่อน
คงรู้ดีว่าจุดเด่นในนิยายของนักเขียนคนนี้คือเรื่องของความสัมพันธ์
โดยเฉพาะความสัมพันธ์ในครอบครัว...
กับการเล่นกับปมที่ค่อนข้างยากในเบื้องต้น ที่ดึงดูดให้คนอ่านได้ร่วมลุ้น
ไปกับตัวละครว่าเขาจะคลี่คลายมันออกมาในทิศทางใด

ในมนตร์ธารา เธอเปิดเรื่องมาด้วยการช็อคคนอ่านเล็ก ๆ
กับพฤติกรรมที่รับไม่ได้ของคู่พระ-นาง...ชนิดที่อ่านแล้วแอบยี้พระเอกเลยทีเดียว
(ต้องพลิกไปอ่านตอนจบเพื่อจะดูให้แน่ใจว่า...นายคนนี้เป็นพระเอกจริง ๆ ล่ะหรือ...
นี่เองคือ'ปมยากๆ'ที่บอกตอนต้น ซึ่งเล่าละเอียดไม่ได้เลย ใครอยากรู้ต้องไปลุ้นในเรื่องแล้วล่ะค่ะ)
แล้วก็คาดเดาเรื่องราวระหว่างกลางเรื่องไปในทางร้าย ๆ แบบดราม่าน้ำเน่า...
ประมาณปมสุดแค้นแสนรัก อิจฉาริษยา ปมศึกสายเลือดอะไรไปโน่น...แหะ ๆ

แต่อย่างน้อยยังให้โอกาสนางเอก อาจจะด้วยวัย ด้วยความอ่อนเดียงสา และด้วยหัวใจรักอันมั่นคงของเธอ...

แต่พออ่านไปเรื่อย ๆ ผู้เขียนมีการสลับมุมมองในการเล่าเรื่อง
เริ่มเข้าใจบทบาท ที่มาที่ไปและความรู้สึกนึกคิดของแต่ละตัวละครมากขึ้น
ก็ค่อย ๆ วางตัวเป็นกลาง ไม่ด่วนตัดสินเอาผิดเอาถูกกับใครโดยที่เราไม่ได้อยู่ร่วมในสถานการณ์เดียวกับเขา

และถึงแม้จะมีดราม่าน้ำเน่าจริง ๆ ตามคาด ทว่าก็มิได้เป็นไปในทางร้าย ๆ อย่างที่คิดแต่อย่างใด
กลับกลายเป็นต้นสายปลายเหตุที่แท้จริงของการกระทำของตัวละครตัวนั้นตัวนี้ตัวโน้น...

ซึ่งเมื่ออ่าน ๆ ไป...จากที่เคยยี้ ๆ ตาพระเอก กลับกลายเป็นเข้าใจ เห็นใจ สงสารและเอาใจช่วยซะงั้น




มาถึงเรื่องที่สอง...มนตร์ลวงรัก
ความที่ได้รู้จักตัวละครเด่น ๆ จากเล่มข้างบนมาแล้ว เล่มนี้รู้สึกอ่านได้สบาย ๆ มากขึ้น
ปมยากของเรื่องนี้ก็เป็นเพียงกำแพงในใจของนางเอกท่เธอสร้างขึ้นปิดบังปมในใจบางอย่าง...
ซ้ำพระเอกอย่างนรุตม์ก็เป็นชายหนุ่มรุ่นน้อง...ที่สำคัญ เขาเคยหลงรักน้องสาวของเธอมาร่วมสิบปี
เป็นหน้าที่ของนรุตม์ที่จะต้องพิสูจน์ให้เธอเห็นว่า
เขาไม่ได้เห็นเธอเป็นตัวแทนของผู้หญิงอีกคนหนึ่งเท่านั้นเอง

เล่มนี้ก็ไม่วายมีดราม่าปมอดีตรันทด ปมชาติกำเนิดที่ซ้อนซับแทรกแฝงอยู่...
ซึ่ง...ทำไปทำมาดูเหมือนว่ามันจะกลายเป็นกิมมิกประจำตัวนักเขียนคนนี้ไปเสียแล้ว
อ่านไปสี่เรื่อง มีเรื่องราวซ้ำ ๆ แบบนี้แฝงอยู่ทุกเรื่อง

เอิ่ม...เปลี่ยนมั่งดีไหมอ่า...มันเชยแล้วก้อ...โบราณมาก ขอบอก
อีกอย่าง...พอจับทางคนเขียนได้แล้วแบบนี้มันทำให้อรรถรสในการอ่านดร็อปลงไปจึ๋งหนึ่ง แหะ ๆ

สรุปโดยรวมถือว่าเป็นนิยายที่อ่านได้อ่านดีอีกชุดหนึ่งแหละค่ะ ด้วยสำนวนภาษาที่อบอุ่นละมุนละไม
กับการดำเนินเรื่องที่นุ่มนวล แบบค่อยเป็นค่อยไปของคนเขียน
มีการสอดแทรกแง่คิดมุมมองในเรื่องของการใช้ชีวิต
และการถนอมรักษาความสัมพันธ์ระหว่างกัน
ไม่ว่าจะระหว่างคนในครอบครัว ระหว่างเพื่อนหรือกับคนรอบข้าง...

มีเลิฟซีนชวนวูบไหวพอประมาณ แต่ก็ไม่ถึงกับเร่าร้อนชวนติดเรท
เรียกว่ากลมกล่อมกำลังดีค่ะ

.....................

สุดท้าย เช่นเคยค่ะ...มีจุดติติงที่อยากจะฝากผ่านไปถึงนักเขียนและสำนักพิมพ์นิดหน่อย
ช่วงหลัง ๆ นี้ อ่านหนังสือของสำนักพิมพ์อรุณแล้วไม่ค่อยรู้สึกรื่นรมย์ ลื่นไหลเหมือนแต่ก่อน
ด้วยมักจะสะดุดในเรื่องของการพิสูจน์อักษรอยู่เรื่อย ๆ
ถ้าเล็ก ๆ น้อย ๆ เจอคำผิดสักจุดสองจุดยังพอทำเนา พอทำใจให้กล้อมแกล้ม ๆ ผ่านไปได้
แต่นี่บางเล่ม... เช่นสองเล่มนี้เจอคำผิดไม่ต่ำกว่าเล่มละสิบจุดเป็นอย่างน้อย
ทั้งเป็นการเจอโดยการอ่านแบบผ่าน ๆ เพียงเพื่อความบันเทิงส่วนตัวเท่านั้น
ไม่ใช่การอ่านแบบแสกนทุกถ้อยกระทงความอย่างที่นักพิสูจน์อักษรมืออาชีพน่าจะต้องทำกัน

ยกต.ย.นิดหน่อย...
ในเล่ม "มนตร์ธารา"
(โผล่มาหน้าแรกก็เจอเลยทีเดียว) ในบทนำ หน้า ๑ ...กางเกงยีนเข้ารูปสีชีด...มันควรจะเป็น...สีซีด มากกว่านะคะ
ข้ามไปแค่สองหน้า ในบทเดียวกัน หน้าที่ ๔ ก็เจออีกจุด ...สวนดอกไม้สดชื่นแบ่งบาน ...เอิ่ม...น่าจะเป็น เบ่งบานค่ะ
จากนั้นก็เจออีกเรื่อย ๆ เช่น คำว่าเดือดร้อน กลายเป็นเดือนร้อน
คำว่าปิดสนิท กลายเป็นเปิดสนิท...ยิ้ม เป็น ยิ้ว ชื่อมงคล กลายเป็น มลคง ฯลฯ

แต่คำผิดที่เห็นแล้วไม่อยากปล่อยผ่านปรากฏอยู่ในหน้า ๔๑๐
คือคำว่า รัชกาลที่หก ในหนังสือพิมพ์เป็น รัชการที่หก...
คำว่ากาลต้องล.ลิงสะกดค่ะ ไม่ใช่ร.เรือ ทราบแล้วเปลี่ยน เอ้ย แก้ไขโดยด่วนค่า

ในเล่มที่สอง "มนตร์ลวงรัก" ก็ไม่ต่างกัน
เจอคำผิดตั้งแต่หน้าแรก ๆ ของหนังสือ แล้วก็เจอตรงนั้นตรงนี้ไปเรื่อย ๆ ไม่ต่ำกว่าสิบจุด...
(*ถ้าคุณนักเขียนสนใจ อยากทราบว่ามีจุดไหนบ้างเชิญหลังไมค์ได้ค่ะ )

มันทำให้รู้สึกตงิด ๆ ในใจต่อมาตรฐานการทำงานของกองบก.ของสำนักพิมพ์ใหญ่ขนาดนี้น่ะค่ะ
ว่าน่าจะระมัดระวัง ใส่ใจในรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ได้มากกว่านี้

ซึ่งนั่นก็เป็นจุดผิดพลาดทางกระบวนการจัดพิมพ์
ในส่วนของเนื้อหาเรื่องราว นิยายชุดนี้ถือว่าเป็นนิยายน้ำดีที่อ่านแล้วให้ความรู้สึกอุ่นๆ อวลๆ ในหัวใจดีค่ะ
อ่านจบแล้วจึงหยิบมาบอกต่อชวนกันอ่านในวันนี้ค่า





Create Date :30 เมษายน 2558 Last Update :30 เมษายน 2558 15:42:38 น. Counter : 8851 Pageviews. Comments :13