bloggang.com mainmenu search




สัตยนาคินทร์
ผู้เขียน : เบญจามินทร์
ผู้พิมพ์ :พิมพ์คำ(ก.ย. 2559)
548 หน้า ราคา 380 บาท

โปรยปก


สัตย์สัญญาที่ให้ไว้ ร้อยรัดสองดวงใจให้กลับมาพบกันอีกครา
.
ในคืนที่แสงจันทร์ส่องกระจ่าง
เมืองแห่งหนึ่งกลางหุบเขาถูกสายน้ำซัดสาดเข้าทำลายทุกสิ่ง
ทิ้งไว้เพียงซากบ้านเรือนนอนสงบนิ่งใต้ผืนน้ำกว้างสุดลูกหูลูกตา
ทว่าลึกลงไปใต้น้ำยังมีบางสิ่งซุกซ่อนอยู่
บางสิ่งที่ไม่ได้จบลงที่ ‘เวียงมณี’ จมน้ำ
เพราะแท้จริงแล้ว...นั่นเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น

เวลาล่วงผ่านมานับพันปี
‘เพชรนาคา’ อัญมณีอันเป็นที่สถิตของดวงจิตแห่งพญานาค
นำพาให้ ‘เขา’ และ ‘เธอ’ กลับมาเจอกันอีกครั้ง
ทว่า...หลายชีวิตที่ร่วมชะตาในกาลก่อนก็เวียนมาพานพบเช่นกัน
คำสัญญาและคำสาปแช่งยังตามติด
กักขังผู้ที่ข้องเกี่ยวไว้ในวังวนแห่งความรัก ความแค้น และความรู้สึกผิด
แม้ต้องประสบชะตากรรมอันโหดร้ายครั้งแล้วครั้งเล่า
แต่ในชาติภพนี้ เขาจะไม่ยอมผิดสัญญา
ด้วยคำสัตย์แห่งองค์นาคินทร์ เขาจะปกป้องคุ้มครองเธอ
...หญิงสาวผู้เป็นดั่งดวงใจของเขาทุกชาติภพ...ตลอดไป







อีกเล่มกับโรแมนติกแฟนตาซีแนวครุฑ-นาคของ'เบญจามินทร์'
ต่อเนื่องจาก 'ดวงหทัยครุฑรามันตุ์' กับ'ปีกแก้วแห่งนครา'
โดยสองเรื่องดังกล่าวนั้นเป็นเรื่องราวของพญาครุฑสองพี่น้องแห่งนครเวหา
ซึ่งก็มีส่วนพัวพันกับเผ่าพันธุ์นาคในบางส่วน และมีชะตากรรมผูกติดกันอยู่
ทำให้เราได้ทำความรู้จักโลกของสัตว์ในตำนานทั้งสองเผ่าพันธุ์นี้
อย่างค่อนข้างละเอียดลออพอประมาณทีเดียว
จากจินตนาการรวมถึงสาระข้อมูลที่ผู้เขียนได้ทำการบ้านมาเป็นอย่างดี

มาถึงเรื่องนี้เป็นเรื่องราวความรักของพญานาคินทร์แห่งนครบาดาลบ้าง
ซึ่งจะว่าไป โครงเรื่องใหญ่ ๆ ก็ยังคงคล้ายคลึงกัน แทบจะเรียกได้ว่ามีแพทเทิร์นเดียวกันเลย
นั่นคือเป็นเรื่องของการเวียนว่ายตายเกิด การข้ามภพข้ามชาติ ข้ามมิติ
การตามล่าล้างแค้น มีดราม่าอิจฉาริษยาแย่งชิง...
การปกป้องดูแลและรักษาไว้ซึ่งความรักและสัจจะวาจาที่มีให้กัน...
แต่จะแตกต่างกันไปในเนื้อหาเรื่องราวรายละเอียดและโทนของเรื่อง...

ส่วนตัวรู้สึกว่าในจำนวนสามเล่มที่อ่านไป เล่มนี้ดูจะพีคที่สุด
อลังการงานสร้างสุด ๆ คนเขียนค่อนข้างจัดเต็มมาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องความซับซ้อนของพล็อต
และผังความสัมพันธ์ของตัวละครที่สืบเนื่องโยงใยกันถึงสามชาติสามภพ





ตัวละครแทบทุกตัวในเรื่องต่างมีกรรมมีเวรผูกติดพัวพันกันมานับตังแต่ชาติปางก่อนนู้น...
ย้อนหลังไปถึงกว่าพันปี เกิดเหตุวิบัติขึ้น ณ ดินแดนใต้พิภพ
ทำให้สิขเรศ-องค์นาคินทร์แห่งนครบาดาลต้องโทษถูกจองจำด้วยความผิดที่ตนมิได้ก่อ
แต่เพียงเพื่อจะปกป้องนางอันเป็นที่รัก...ธิดานาคนาราวตี
แต่ถึงกระนั้น...ด้วยชะตากรรมอันไม่อาจมีใครกำหนด
พระธิดานาราวตีถูกพี่สาวต่างมารดาทำร้ายจนดวงจิตหลุดลอยออกจากร่าง
เข้าไปแฝงฝังอยู่ในลูกแก้วพญานาค รอเวลาที่จะมีผู้มาปลดปล่อย

.................

และเวลานั้นก็มาถึง...

ณ จุดเริ่มต้นของนิยายเรื่องนี้นี่เอง
เมื่อทายาทผู้เป็นเจ้าของที่ดินอันเป็นที่ตั้งแห่งบึงสิโรชา...บึงที่ตั้งเมืองโบราณอันล่มสลายไปในกาลก่อน
ได้รับอุปการะเด็กชายผู้ไม่มีใครรู้ที่มา แม้กระทั่งตัวเองอย่างภีมหรือภุชงค์
เขาขอร้องให้บิดาบุญธรรมช่วยตามหาเพชรนาคาสีชมพู อันเป็นที่สิงสถิตแห่งดวงจิตแห่งธิดาพญานาค
และเมื่อได้มาก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ภัคธิดา พี่สาวบุญธรรมของเขาได้หมดอายุขัยลงพอดี
ภุชงค์จึงช่วยต่ออายุให้โดยให้เธอกลืนดวงแก้วพญานาคลงไป...
และอีก 9 เดือนต่อมา เธอก็ให้กำเนิดธิดาสาวหนึ่งคน ซึ่งบิดาของเธอตั้งชื่อให้ว่า"ปรางขวัญ"
และเสียชีวิตลงหลังจากนั้น

ปรางขวัญจึงเติบโตขึ้นมาภายใต้การดูแลด้วยความรักความอบอุ่นของคุณตา
ที่เธอเรียกว่าพ่อ กับ"น้าภีม" น้าชายที่เธอรู้สึกผูกพันตั้งแต่แรกเกิด

แต่เคราะห์กรรมดูเหมือนจะยังไม่สิ้นสุด เมื่อปรางขวัญมีอายุเพียงห้าขวบ
เธอก็ต้องประสบกับการพลัดพรากอีกครั้ง เมื่อรถที่เธอนั่งไปกับคุณตากับน้าภีมเกิดอุบัติเหตุ
มีแต่เธอกับคุณตาที่รอดชีวิต แต่น้าภีมได้หายสาบสูญไปตั้งแต่วันนั้น...

จนกระทั่ง...17 ปีผ่านไป ปรางขวัญเติบโตเป็นหญิงสาวสะสวย...
เธอได้เดินทางไปยังที่ดินแปลงนั้นตามคำขอร้องแกมบังคับของป้าสะใภ้
ผู้ถูกความโลภครอบงำอยากครอบครองที่ดินต้องคำสาปผืนนั้น
เธอก็ได้พบกับสิชลย์ ทายาทหนุ่มแห่งคุ้มฑีฆชาติ..
เธอรู้สึกคุ้นเคยกับเขาอย่างบอกไม่ถูก และรู้สึกว่า...เขาคือน้าภีมของเธอ






หูยยยยย....
เรื่องราวยืดยาวเยอะแยะไปหมด ทั้งพัวพันซับซ้อน
ที่เล่า ๆ มาข้างบนนั่นเป็นเพียงเศษเสี้ยวเล็กๆของเรื่องราวทั้งหมดเท่านั้น
แต่คนเขียนเค้าร้อยเรียง ผูกโยงเรื่องราวได้เก่งอะ มีฉากตื่นเต้น ชวนให้ลุ้นชวนให้ติดตามอยู่ตลอด
ก่อให้เกิดเป็นคำถามว่าเอ๊ะ ทำไมเป็นอย่างนั้น ทำไมเป็นอย่างนี้
และเมื่ออ่านไปเรื่อย ๆ ผู้เขียนจะค่อย ๆ คลี่คลายปมทีละเปลาะๆ
กลายเป็นบทเฉลย ทำให้รู้ถึงเหตุและผล รวมถึงที่มาที่ไปของตัวละครแต่ละตัว
ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลล้วนมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกันไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง..
ทั้งชาตินี้ชาตินู้น....

(พูดถึงตอนนี้ แอบจับไต๋คนเขียนได้...นิดนึง
เพราะจากนิยายแนวข้ามภพข้ามชาติ ต่างมิติทั้ง 3 เรื่องของเธอที่อ่านผ่านมา
พบว่าความสัมพันธ์ของตัวละครในเรื่องจะมีรูปแบบซ้ำ ๆ อยู่บางประการ
เช่น...นางเอกต้องมีพี่สาว และเป็นพี่สาวที่เป็นตัวร้าย
ในชาติก่อนร้ายยังไง มาเกิดใหม่ในชาตินี้ก็ยังคงร้ายอยู่เช่นนั้น
แต่เขาก็จะมีเหตุผลในความร้ายนะ เช่นมีปมอิจฉาน้องเพราะตัวเองไม่มีใครรัก
ตัวเองจับจ้องพระเอกไว้แต่พระเอกไปรักน้องแทน เป็นต้น

หรือปมดราม่าอีกรูปแบบหนึ่งก็คือปมแม่พระเอกไม่ปลื้มนางเอก
ทั้ง ๆ ที่เป็นคนที่คนที่ลูกชายรัก หาเหตุหาเรื่องขัดขวางความรักของคู่พระ-นางทุกวิถีทาง
กระทั่งคิดกำจัดนางเอกแบบโหด ๆ ก็ทำได้...มันกลายเป็นแพทเทิร์นประจำตัวไป)

.............

แต่อ่านแล้วก็ซึมซับรับได้ถึงประเด็นหลักและสารที่ผู้เขียนเขาต้องการนำเสนอค่ะ
นั่นก็คือเรื่องของกรรม...มนุษย์ทุกผู้ ทุกเผ่าพันธุ์ที่เกิดมาแล้วในหล้าโลก
ไม่ว่าจะต่ำต้อยน้อยค่าหรือยิ่งใหญ่เทียมฟ้า ไม่มีใครหลีกเลี่ยงวังวนแห่งกิเลสตัณหา รัก โลภ โกรธ หลงไปได้
พูดโดยรวมก็คือ...ทุกชีวิตล้วนมีกรรมเป็นตัวกำหนดชะตา... ไม่มีใครหนีกรรมพ้นนั่นเอง
อาเมน เอ๊ย...สาธุ!

สรุปว่าเป็นโรแมนติก แฟนตาซีที่อ่านได้อ่านดีที่คอนิยายแนวครุฑนาคไม่น่าพลาดอีกเล่มหนึ่งค่ะ
สำนวนภาษาคนเขียนอ่านลื่นไหล ดำเนินเรื่องกระชับฉับไว เล่าเรื่องแบบเป็นขั้นเป็นตอน
ทำให้เรื่องราวที่แม้จะซับซ้อนแต่ก็อ่านเข้าใจง่าย
ตัวละครอาจจะเยอะหน่อย แต่ทุกตัวมีที่มาที่ไป มีมุกมีปมมีเหตุมีผลสนับสนุนพฤติกรรมของตัวเอง...








Create Date :23 กุมภาพันธ์ 2560 Last Update :23 กุมภาพันธ์ 2560 13:07:50 น. Counter : 4739 Pageviews. Comments :0