เพลง ปักษ์ใต้บ้านเรา
ศิลปิน แฮมเมอร์


สวัสดีค่ะ เพ็ญไปเจอรูปทะเลหมอกที่กรุงชิงเมื่อกลางเดือนมีนาคม จากเฟชบุ๊คของ การท่องเที่ยวนครศรีฯ
ก่อน ที่จะเกิดฝนตกหนักจนดินถล่ม ตามที่ทุกท่านได้เห็นจากรายงานข่าวแล้ว
ตอนที่เห็นรูป ก็ทำให้นึกตอนที่ได้ไปชมทะเลหมอกที่กรุงชิง เมื่อตอนเดือนเมษายน ปี 2547
นานมากแล้วเหมือนกันค่ะ กำลังคิดว่าจะหาเพื่อนไปเที่ยวกันอีกสักรอบ

แต่ก็มาเจอภัยธรรมชาติเสียก่อน ก็ขอให้ชุมชนที่นี่ ช่วยกันฟื้นฟูให้กลับมาเหมือนเดิมในเร็ววันค่ะ

มาทำความรู้จักกับทะเลหมอกกรุงชิงกันหน่อยก็แล้วกันนะคะ

ทะเลหมอกกรุงชิง หรือจุดชมวิวเขาเหล็ก ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 1 บ้านบางนบ ตำบลกรุงชิง
กิ่งอำเภอนบพิตำ จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยทาง ชุมชนกลุ่มทะเลหมอกกรุงชิง
ได้ร่วมมือจัดตั้งกลุ่มขึ้นเพื่อจัดกิจกรรมท่องเที่ยวชมทะเลหมอกยามเช้า
และมีบริการจิบกาแฟยามเช้า พร้อมรับฟังบรรยายประวัติเขาเหล็ก
และประวัติพื้นที่กรุงชิง พื้นที่ที่มีประวัติศาสตร์แห่งการต่อสู้ด้านความคิดการปกครอง
ในพื้นที่ผืนป่ากรุงชิง ถูกปกครองโดยพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ตั้งแต่ปี พ.ศ.2517
ต่อมาฝ่ายรัฐบาลสามารถยึดพื้นที่ได้ป่ากรุงชิงคืนในปี 2524
ปัจจุบันยังคงทิ้งร่องรอยประวัติศาสตร์การต่อสู้ เช่น ถ้ำหลบภัย หลุมขวาก
สนามบาสเก็ตบอล ให้นักท่องเที่ยวได้ไปศึกษา
เนื่องจากพื้นที่ตำบลกรุงชิงทั้งหมด เป็นพื้นที่หุบเขามีภูเขาล้อมรอบ ซึ่งเรียกว่า
"อ่าวกรุงชิง"
เป็นที่ราบสูง สลับภูเขาสูงในเขตอุทยานแห่งชาติเขาหลวงและอุทยานแห่งชาติเขานัน
มีป่าไม้อุดมสมบูรณ์มาก ทำให้สภาพอากาศ
เย็นสบายตลอดปี

ที่เรียกว่าเขาเหล็กเพราะ เดิมทีอดีตที่นี้เป็นเหมืองแร่เหล็กมาก่อนค่ะ
ตอนที่ไปก็ยังพอจะเห็น ก้อนหินที่มีส่วนผสมของแร่เหล็กอยู่ค่ะ ก้อนหินที่นี้
จะรู้สึกว่าหนักกว่าก้อนหินทั่ว ๆ ไป และมีลักษณะออกไปทางสีแดงเข้ม
เป็นแร่เหล็กชนิดดีเลยทีเดียว เรียกว่า Hematite
ซึ่งพอจะมีหลักฐานว่าเหมืองแร่แร่ที่นี่ เริ่มทำ เมื่อ 14 พค 2507
เป็นเหมืองหาบแบบ Open Cut แร่ที่ได้จากเขาเหล็กส่วนใหญ่ส่งไปขายที่ ญี่ปุ่นค่ะ





ป้ายที่จุดชมวิวค่ะ




ดูแล้วรู้สึกว่า หนาวหรือเปล่าคะ





ลักษณะดินที่ต่างจากที่อื่นๆ








พืชตระกูลเฟิร์นที่ เห็นได้ทั่วไปในเทีอกเขานี้














































































ตอนที่ได้ดูทะเลหมอกที่กรุงชิง เพ็ญก็รู้สึกแปลกใจเหมือนกันค่ะ ด้วยความที่เข้าใจเอาเองว่า
หมอกจะเกิดในพื้นที่ที่มีอากาศหนาว ได้เห็นหมอกตอนเดือนเมษายนในภาคใต้ก็ยิ่งแปลกใจ
จนได้คุยกับคุณบัว ทำให้พอจะเข้าใจที่มาของทะเลในกรุงชิงได้ ก็เลยขอนำมาใส่ไว้ในบล็อกนี้ด้วยค่ะ

หมอก มีลักษณะเป็นกลุ่มละอองน้ำขนาดเล็กมาก สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
ลอยอยู่ในอากาศใกล้พื้นดิน โดยปกติจะทำให้ทัศนะวิสัยทางแนวนอนลดลง
เหลือน้อยกว่า 1 กิโลเมตร และบางครั้งอาจเกิดหมอกหนาทึบทำให้
ทัศนะวิสัยต่ำกว่า 100 เมตร หมอกเกิดจากการกลั่นตัวของไอน้ำเมื่ออุณหภูมิ
ในอากาศมีค่าเท่ากับหรือเกือบเท่ากับอุณหภูมิจุดน้ำค้าง ไอน้ำจะกลั่นตัวเป็นละอองน้ำ

หมอกกับเมฆจึงต่างกันเพียงว่าหมอกมีฐานอยู่ติดกับพื้นดิน
ส่วนฐานเมฆอยู่เหนือพื้นดินขึ้นไป หมอกจะไม่เกิดเมื่ออุณหภูมิจุดน้ำค้าง
ต่างจากอุณหภูมิอากาศเกิน 4 องศาฟาเรนไฮต์หรือประมาณ 2.2 องศาเซลเซียส

หมอกเกิดขึ้นได้ 2 วิธี คือ

1. เมื่ออุณหภูมิของอากาศลดลงจนเท่ากับอุณหภูมิจุดน้ำค้าง จะเกิด
- หมอกที่เกิดจากการพาความร้อน (advection fog)
หมอกที่เกิดในชั้นต่ำของมวลอากาศซึ่งเคลื่อนที่ไป บนผิวพื้นที่เย็นกว่า
จนทำให้อุณหภูมิของอากาศข้างล่างลดลงต่ำกว่าอุณหภูมิจุดน้ำค้าง

- หมอกที่เกิดจากการแผ่รังสี (radiation fog)
เรียกอีกอย่างว่า ground fog เกิดขึ้นเหนือพื้นดินที่เย็นลง
จากการสูญเสียความร้อนในช่วงกลางคืน เมื่อ อากาศระดับใกล้พื้นดินเย็นกว่าอากาศที่
ปกคลุมอยู่ด้านบน และมีความชื้นที่เหมาะสมจะเกิดหมอกชนิดนี้ขึ้น และมักจะเกิ
ดครอบคลุมพื้นที่กว้าง

- หมอกลาดเนินเขา (upslope fog)
เกิดจากมวลอากาศเคลื่อนที่ไปบนภูมิประเทศที่เป็นที่ลาดชัน
มวลอากาศนี้จะเย็นลงโดยกระบวนการอะเดียบาติก
และมักจะเกิดหมอกทางเหนือลมของบริเวณที่ลาดชันเนินเขาหรือภูเขา

2. เมื่อมีการเพิ่มความชื้นเข้าไปในบรรยากาศ ทำให้อุณหภูมิจุดน้ำค้างมีค่าสูงขึ้นจะเกิด

- หมอกไอน้ำ (steam fog) เกิดจากมวลอากาศเย็น เคลื่อนที่ไปเหนือผิวน้ำอุ่น หรือเหนือบริเวณพื้นดิน
ที่ชื้นหรืออุ่นกว่า เรียกอีกอย่างว่า Evaporation Fog หรือ sea smoke

- หมอกในแนวปะทะอากาศ (frontal fog) หมอกชนิดนี้จะมีความสัมพันธ์
กับแนวปะทะอากาศโดยเฉพาะแนวปะทะอากาศร้อน โดยจะเกิดหมอกเมื่อฝนจากแนวปะทะ
อากาศตกลงสู่อากาศเย็นที่อยู่ด้านหน้าของแนวปะทะอากาศอุ่น ซึ่งทำให้อากาศอิ่มตัวจน
เกิดการระเหยขึ้น

นอกจากนี้ยังมีหมอกที่มีลักษณะแตกต่างออกไป เช่น หมอกน้ำค้าง(mist)
หมอกไรม (rime
fog) หมอกมรสุม (monsoon fog) และ หมอกปนควัน (smog)


ส่วนภาพนี้ เป็นภาพ บริเวณ อำเภอนบพิตำ ของวันนี้ วันที่ 10 เมษายนค่ะ
















ขอบคุณรูปภาพและข้อมูล จากหลายๆ ที่ค่ะ โดยเฉพาะ ภาพ ก่อน น้ำท่วมจากการท่องเที่ยวนครศรีธรรมราชค่ะ

//www.facebook.com/album.php?aid=17872&id=100002102528260

ภาพหลังโดนน้ำท่วม
//www.facebook.com/home.php?sk=group_139663182751441&ap=1

และข้อมูลบางส่วน

//attractions-impressive.com/
//www.oknation.net/blog/print.php?id=333697
//guru.google.co.th/guru/thread?tid=1927c13ea77f6b84&pli=1


หน้านี้ จะโหลดช้าสักหน่อย เพราะรูปเยอะค่ะ