!! อัศจรรย์ !! วันที่ฉันเป็น "สาวดอย" - บ้านสวนดอยช้าง ณ ดอยช้าง ดอยวาวี เชียงราย Phewww ww!!บ้านสวนดอยช้าง ดอยช้าง ดอยวาวีบ้านสวนดอยช้าง ดอยช้าง ดอยวาวีบ้านสวนดอยช้าง ดอยช้าง ดอยวาวีบ้านสวนดอยช้าง ดอยช้างปีกว่าแล้วกระมัง ที่ละไมไม่ได้กลับมาปัดฝุ่นบ้าน bloggang เลย วันนี้ละไมกลับมาเพราะ inspiration ของใครบางคนที่สะกิดใจให้ละไมกลับมาปั่นประสบการณ์ตัวเองลงบล็อคอีกครั้ง โดยหวังว่า..ประสบการณ์ที่ได้ถ่ายทอดลงไปนี้ อาจเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ฝันของคน ๆ นั้นเข้าใกล้ความเป็นจริงมากยิ่งขึ้นละไมและเพื่อน ๆใช้ชีวิตในเชียงรายอย่างหรูเริ่ดในสองวันแรกของทริปอย่างอิ่มเอม ด้วยการต้อนรับและดูแลอย่างใกล้ชิดของนายเบียร์ เจ้าถิ่น @Le Meridien หลังจากที่ชุบชีวิตให้หรูเริ่ดสมใจแล้ว เหล่าคุณหญิงกะคุณชายก็พากันย้ายสัมภาระมุ่งหน้าขึ้นดอยวาวี ตามที่ได้สตัดดี้ (study) กันมา หวังจะเก็บคาเฟอีนชีวิตกลับบ้านกันอย่างชุ่มปอด บนดอยวาวี ด้วยการ นอนรับอากาศบริสุทธิ์จากไร่ชา ฟังเสียง "ชินเหม่โจ๋วไต๊" ยามค่ำคืนกันอย่างเพลิดเพลินแม้ที่พักจะไม่ค่อยเป็นที่น่าประทับใจซักเท่าไหร่ เพราะโดยรวมแล้วที่พักไม่ค่อยสะอาดถูกหลักอนามัยตามอย่างมาตรฐานสากล แต่พวกเราเหล่าคุณหญิงคุณชายไม่เรื่องมาก ก็สามารถเอนจอยกับบรรยากาศไร่ชาเขียวชอุ่มได้อย่างไม่ยากนัก ตื่นเช้ามา บรรยากาศตรงหน้าระเบียงห้องก็สวยดั่งใจหวังไร่ชาที่ทอดลงต่ำไปยังหุบเขาทำให้เราได้มุมรีแลกซ์ (relax) เก็บไว้ในความทรงจำอีกหลายมุม ก่อนเดินทางลงจากเขากัน นายเบียร์หัวหน้าทีมก็เปรยว่าจะพาพวกเราไปดูดอยช้างกันแบบพอเป็นน้ำจิ้ม จะพลาดรึ? ก๊วนผู้หญิงผู้ชายใจง่ายอย่างพวกเราด้วยฝีมือของนายเบียร์แห่งใบตองทัวร์ บวกกับ สมรรถนะของ Toyota Altis ปลายปี 2008 ที่ทำหน้าที่ได้อย่างถึงใจ พวกเราทั้งหก ก็ไต่ขึ้นสูงถึงศูนย์วิจัยการเกษตรฯ ถึงแม้จะไปไม่ถึงร้านกาแฟที่สวยที่สุดในโลก และไม่ได้เห็นแก้วกาแฟที่มีโลโก้ "ดอยช้าง" อย่างที่หวังไว้ แต่เอาน่า..ถึงศูนย์วิจัยฯ ก้อเยี่ยมแร๊ว เมื่อเดินเข้ามาในศูนย์ หวังจะได้ลิ้มลองกาแฟจากยอดดอยซะหน่อย โชคดีม๊ากก ไฟดับ..!! พวกเราเลยได้ทานกาแฟยอดดอยสูตรโบราณ กลั่นกันเองจากมือ ไม่พึ่งไฟฟ้า หร่อยแบบโบร๊าณโบราณ กาแฟแก้วนี้เจ้มจ้นมั่ก ๆ ทั้งรสชาติและน้ำใจนายเบียร์เปิดบทสนทนาว่าพวกเราอยากมาดูที่พักที่อยู่ถัดขึ้นไปข้างบน พี่เจ้าหน้าที่ที่ศูนย์ฯ ก็น่ารักจัดแจงโทรตามเจ้าของรีสอร์ทเสร็จสรรพ และนั่นก็เป็นที่มาของการค้นพบทรัพยากรมนุษย์ที่น่าศึกษาอีกหนึ่งท่าน พี่ตุ่ม นั่นเองจริง ๆ แล้วแกยังเป็นตำนานของโฆษณากระบะยี่ห้อหนึ่ง ซึ่งขอสงวนสิทธิ์ไม่เอ่ยชื่อ (จริง ๆ คือลืม) เมื่อกว่าสิบปีก่อน คุ้น ๆ กันมั่งมั้ยคะ"พี่ตุ่ม" เป็นเจ้าของรีสอร์ทที่ชื่อ บ้านสวนดอยช้าง ซึ่งอยู่บนความสูง 1,700 กว่าเมตรเหนือระดับน้ำทะเล ในละแวกนั้นจัดได้ว่า รีสอร์ทของพี่ตุ่มได้วิวทิวทัศน์ที่สวยกว่าของรายอื่น ๆ และมีความเป็นส่วนตัวสูง มากไปกว่านั้น บรรยากาศของรีสอร์ทก็ถูกบรรจงสร้างให้กลมกลืนกับธรรมชาติได้เป็นอย่างดีบ้านสวนดอยช้าง เป็นรีสอร์ทที่ตั้งอยู่ท่ามกลางไร่กาแฟอะราบิก้า มีบ้านพักอยู่เพียง 6 หลัง ซึ่งบ้านพักแต่ละหลังถูกสร้างขึ้นโดยใช้ภูมิปัญญาชาวบ้าน สร้างสรรค์ด้วยฝีมือพี่ตุ่มและเจินเจิน ผู้เป็นภรรยา ทำให้รีสอร์ทแห่งนี้ดูน่าค้นหากว่าที่ละไมคิดทั้งสองเล่าว่า ห้องน้ำในบ้านพักนั้นใช้หินประดับบนพื้นไม่ใช่เพื่อความสวยงามเป็นเหตุผลหลัก เพียงแต่พี่ตุ่มเล็งเห็นว่าการใช้หินปูบนปูน ทำให้แขกที่มาพักอาบน้ำโดยที่ไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำที่อาจระบายไม่ทัน เหมือนอย่างที่เคยเจอกับโรงแรมบางที่ (ละไม ทดในใจ : แกละเอียดน๊อะ แต่ก็แอบเห็นด้วยอย่างแร็ง เพราะอาบน้ำสระผมทีรัย ถ้ามีน้ำท่วมเท้า รู้สึกว่ามันไม่สะอาดหมดจดอ่ะ) แล้วห้องน้ำพี่ตุ่มให้มาอย่างกว้างค่ะ อาบน้ำแบบสบายอารมณ์ ท่ามกลางบรรยากาศอันอบอุ่น อ้อ..พี่ตุ่มมีน้ำอุ่นให้ด้วยนะคะ เป็นระบบแก๊สค่ะ ประหยัดไฟกว่า ปลอดภัยกว่าค่ะ แกคิดสะระตะมาเรียบร้อยยแกใช้ต้นไม้มาเป็นราวพาดผ้าเช็ดตัวที่แขวนได้หลายผืนอยู่ค่ะอีกทั้งหญ้าคาที่พี่ตุ่มกะเจินเจินบรรจงเล่าร่วมกันว่า เค๊าตั้งใจทำหลังคาด้วยหญ้าคาเพราะคนโบร่ำโบราณสอนเอาไว้ว่าหญ้าคามีคุณสมบัติระบายความร้อนได้ดีในหน้าร้อน แต่ในขณะเดียวกันก้อเก็บความอบอุ่นได้ดีกว่าปูนในหน้าหนาววว (เอ้ออออ...มีงี๊ด้วยหรอเนี่ยยยย)ลืมบอกไปว่า พี่ตุ่มกะเจินเจิน สาวหน้ามลผู้เป็นภรรยา ดูแลที่นี่ด้วยตัวเอง พร้อมหมาน่ารักสองตัวสองแนว บิวตี้ กับ ข้าวปั้น ที่เรียกความสนใจได้เป็นอย่างดี (บิวตี้)(ข้าวปั้น)(เอ่อ กราบขอโทษพี่ตุ่มกับเจินเจิน ที่รูปทั้งสองช่างมีน้อยเหลือเกิน มีแต่ทูตน้องสองตัวนี้ไว้ให้ดูเป็นที่ระลึกต่างหน้า)แถมมุมน่ารักของบิวตี้ กะ วีรกรรมของข้าวปั้นซักหน่อยมุมแป๋วแหว๋ว น่ารัก ของ "บิวตี้"กะวีรกรรมของข้าวปั้นเริ่มด้วยความเฟี้ยวของเจ้าข้าวปั้นตัวเล็ก แหย่พี่เหมียวก่อนพี่เหมียวก็เล่นด้วย สู้กันหัวฟัด หูเหวี่ยง จบด้วยท่าไม้ตายของข้าวปั้น ตูดสยบมาร สู้ไม่ได้หันตูดมากดคอคู่ต่อสู้ แถมให้พี่เหมียวดมซะงั้น ปั้นเอ้ยยยยยย!!พี่ตุ่มพาพวกเราขึ้นไปดูบรรยากาศรอบ ๆ รีสอร์ท และบ้านพัก สิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้าคือทางเดินที่บรรจงแทรกตัวเข้าไปท่ามกลางต้นกาแฟ เห็นเมล็ดกาแฟเขียวคาต้นเป็นพวงใหญ่ยาว (อย่า..อย่า อย่าคิดเป็นอื่น) โอ๊วว จะหาบรรยากาศแบบนี้ได้จากทีไหนอีก ระหว่างทางเดิน สังเกตุเห็นเสาไฟที่ทำมาจากต้นไม้จริง พี่ตุ่มเล่าว่า ไม้พวกนี้ผมไปเก็บมาจากป่า เป็นไม้ที่ใช้อะไรไม่ได้แล้ว บางต้นก็เก็บมาหลังจากไม้โดนไฟไหม้ ก็คัดเอาหน่อยครับ เอาที่ยังพอใช้ได้ เราก็เก็บมาใช้ให้เป็นประโยชน์ ไม่อยากให้มันสูญเปล่าผมเลยดัดแปลงมาใช้ประโยชน์เป็นโต๊ะบ้าง เก้าอี้บ้าง และก็อย่างที่เห็น เสาไฟตามทางเดินก็ใช่ครับ (ทดในใจ : พี่ตุ่มแกทำสิ่งเหล่านี้เองกับมือ?? ภูมิปัญญาชาวบ้านแบบสุด ๆ) สิ่งเหล่านี้ถูกดัดแปลงและถูกวางอยู่ในรีสอร์ทบนดอยแห่งนี้ได้อย่างลงตัว และน่าทึ่งเมื่อได้เก็บเกี่ยวเรื่องราวของพี่แก พร้อม ๆ ไปกับเรียนรู้แนวคิดประโยชน์ของการเรียนรู้ประสบการณ์ชีวิตและความสำคัญของการช่างสังเกตุที่มันส่งผลให้พี่ตุ่มสร้างทุกอย่างขึ้นเองกับมือ กับรีสอร์ทสวย ๆ แห่งนี้เดินขึ้นไปอีกสอง สามระดับความสูง พี่ตุ่มโชว์ห้องอาบน้ำโอเพ่นแอร์ที่แกนำไอเดียเก๋กิ๊บจากหลาย ๆ ที่มาปรุงแต่งเป็นแบบฉบับสไตล์บ้านสวนของพี่ตุ่มเอง ดูแล้วธรรมช๊าตต ธรรมชาติ อาบน้ำท่ามกลางแสงเดือนและหมู่ดาว และไร่กาแฟ โรแมนส์แบบ unseen สุด ๆ ไม่ต้องแย่งกันนะคะ พี่ตุ่มแกจัดการแยกกันระหว่างห้องน้ำหญิงกับห้องน้ำชายให้พวกเราได้มีประสบการณ์เข้าถึงธรรมชาติเวลาอาบน้ำได้อย่างทั่วถึง ละไมบุกเข้าไปแล้วทั้งสองประเภทมาแล้ว ผ่านฉลุย (เห่อ เห่อ นี่แหละ กำไรชีวิต เก๋กิ๊บ ร่มรื่น และสะอาดดีมากค่ะ) บุกรุกแดนชายมาแร๊ววว อิอิพอพี่ตุ่มแกพาเดินมาที่บ้านพัก แกจัดให้พวกเราอยู่สองหลังบนสุด โอ๊วว ว๊าวววว วิวด้านหน้าของบ้านพัก เป็นวิวทิวเขา ทอดอยู่ตรงหน้า มีต้นไม้ป่าแซมอยู่เป็นจุด ๆ สวยจับใจ ณ เวลานั้น ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ตั้งใจจะค้างต่อบนดอย เพราะบ่ายสองโมงของวันรุ่งขึ้นเราต้องบินกลับกรุงเทพแล้ว แต่ละไมรู้ดีว่า ใจของพวกเราคงมีคำตอบเดียวกันอยู่ในใจ (คืออยู่ต่ออีกคืนละกัน บนดอยวาวีที่ไปนอนกันมานั่นน่ะมันน้ำจิ้ม ที่นี่สิของจริง!!) และแล้วก็เป็นไปตามความคาดหมาย คุณชาย คุณหญิง ก็หอบผ้าหอบผ่อนเข้ามาพักที่รีสอร์ทของพี่ตุ่มอย่างง่ายดาย พวกเราถามพี่ตุ่มเรื่องที่พวกเราอยากขึ้นดอยไปชมวิว และเที่ยวอีกซักหน่อย เพราะสูงกว่านี้ Altis สู้ไม่ไหว พี่ตุ่มขอคิดค่าน้ำมัน กะค่ายาง 600 บาท พวกเราก็โอเคเลย ตามประสาคนกระหายการผจญภัย วันนั้นโฟว์วิวของพี่ตุ่มไม่อยู่ มีงานอยู่อีกที่ กลายเป็นที่มาของ ทริป แอ๊ดเวนเจอร์ ที่พี่ตุ่มแกพาพวกเราหกชีวิตขึ้นกระบะอาวุโสคู่ชีพไต่ขึ้นเขา ฝ่าทางวิบากกันอย่างมันส์หยดติ๋ง ก็แหม่มม๊ . เรามีนางแบบมากะทริปเราทั้งที สาวนุ๊กที่แต่งตัวเต็มยศ (มาเที่ยวสี่วัน เธอมีหมวกมาสี่ใบ ผ้าพันคออีกสอง สามผืน) เพื่อภาพสวยก็ควรเกาะท้ายเผื่อได้โพสต์ท่ากับธรรมชาติเบื้องหน้าได้อย่างเต็มที่ ดูได้จากรูป สาวเสื้อขาวคือสาวนุ๊ก หมวกเนี่ยใส่อยู่สองใบ!! โถถ แม่คุณ อิ อิงานนี้สาวอุ้มโดนคุณน้องสาวทำหวยล็อคให้นั่งหน้าด้วยเหตุที่ว่า ตั้งใจให้พี่สาวมาพักฟื้นจากการผ่าตัดกับทริปนี้ แต่กลับกลายเป็นว่าพวกเรากะลังจะพาสาวอุ้มไต่เขาไปด้วยกัน คุณน้องสาวจึงบังคับให้คุณพี่สาวนั่งหน้าได้อย่างเดียวด้วยความเป็นห่วง เกาะแน่น ๆ นะคร๊าบ เสียงพี่ตุ่มเล็ดลอดออกมาจากตอนหน้าของรถ เสมือนคำอวยพรก่อนเริ่มประสบการณ์ครั้งนี้ ยังไม่ทันขาดคำ หนุ่มสาวห้าชีวิตเกาะกันอยู่หลังกระบะ ก็ก้ม ๆ เงย ๆ กันเป็นแดนส์เซอร์เบิร์ด หลบกิ่งไม้ ไผ่และเถาวัลย์กันไปตลอดทาง ได้บรรยากาศการอุ่นเครื่องก่อนเจอศึกหนัก ทางเริ่มชันขึ้นเรื่อย ๆ พี่ตุ่มต้องกระชากจังหวะ เรียกแรงรถ เพื่อส่งเราขึ้นไต่ความสูงของดอย ทางก็แสนจะขรุขระ (โคตร) แอ่นด์ แคบ (โคตร) ผ่านหลายโค้ง หลายกิ่งไผ่ ไม้ในป่าดิบชื้น ทางบางที่ก็เปียกและลื่น กลิ่นป่าและกลิ่นดินผ่านเข้าจมูกเรียกความสดชื่นระหว่างการผจญภัยได้เป็นอย่างดี พี่ตุ่มมีสไลด์บ้างเล็กน้อยพองาม เรียกเสียงกรี๊ดดจากพวกเราพอให้ไม่เหงา และแล้วพี่ตุ่มก็นำเสนอจุดไคลแมกส์ให้พวกเราได้แหกปากอีกครั้งเมื่อรถกระบะคู่ชีพของแกต้องการแรงส่ง กับทางวิบากข้างหน้า ละไมเห็นรำไร ๆ ว่ามันทั้งชัน ทั้งเปียก ดูแล้วน่าลื้นน น่าลื่น (รถพี่ตุ่มจาไหวเร้อออ ละไมทดไว้ในใจ) พอพี่แกหาจังหวะความแรงที่ต้องการยังไม่ได้ พี่แกก็กระชากเกียร์เรียกแรงส่งดึงรถทั้งคันทั้งคนขึ้นทางชันค๊อธ ๆ ขึ้นไป แรงส่งยังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แต่พวกเราก็ต้องกรี๊ดสนั่นเพราะมีเสียงครืดดดดอย่างดังมาจากท้องรถอย่างต่อเนื่อง รู้สึกตัวอีกที (เพราะกรี๊ดยาวมาก) ก็อ่านเหตุการณ์ได้ว่ารถพี่ตุ่มกะลังสู้กะหินก้อนเขื่อง ๆ สองก้อน ที่ขวางทางอยู่ เราหลบไม่ได้หรอกค่ะ ทางแคบมาก แล้วพี่ตุ่มก็ส่งแรงมาซะขนาดนั้น จะให้เบรถกลางทางชันก็ใช่ที่ มีหวังได้เล่นสไลด์เดอร์กันทั้งคนทั้งรถ พวกเราก็ลุ้นกันแบบใจหายใจคว่ำ พี่ตุ่มใช้ประสบการณ์เพียว ๆ พารถกระบะคู่ชีพหลุดพ้นหินขนาดลูกบาสฯ สองก้อนนี้ไปได้ แถมมีท้ายปัด ปรื๊ด ปรื๊ด เรียกเสียงกรี๊ดจบฉากอีกนิดส์หน่อย โอ๊วว ก๊อธ ขึ้นดอยมาตั้งกะเมื่อวาน เพิ่งรู้สึกว่าถึงดอยจริง ๆ ก็อีตอนที่กรี๊ดเนี่ยแหละคร่า สังเกตุหน้านายเบียร์ดูเอาเองมามันส์ขนาด (สุดจะบรรยายยยย)กรี๊ดกันจนปากแห้ง น้ำลายเหือด ไปหมดเพราะอ้าปากกรี๊ดอยู่ตลอดเวลา ตลอดทั้งทริป ละไมไม่ได้ยินเสียงสาวนกผู้แสนจะเรียบร้อยเลย ไม่แน่ใจว่าสาวนกไม่ร้อง หรือละไมแหกปากร้องจนกลบเสียงสาวนกไปหมด เห่อ เห่อ พอถึงยอดดอย ที่สุดของที่สุด พี่แจ้ก็แพ้ทาง เพราะวิวบนนี้ ก็ สวิสเซอร์แลนด์ดี ๆ นี่เอง ตาละไมมองเป็นวิวพานอราม่า สายหมอกพาดผ่าน ลำแสงจากตะวัน มันสวยซะเหลือเกิน มิเสียแรงที่แหกปากมาตั้งนาน มาเจอภาพตรงหน้าแบบนี้ คำเดียวเลยนะ สวยค๊อธธธ ถึงตรงนี้ วิวสวย ๆ ก็ต้องคู่กับสาวสวย ๆ (อย่างพวกเรา) หนุ่มหล่อ ๆ อย่างโป้ง และหนุ่มเท่ห์ อย่างเบียร์ ก็กดรูปกันไปเปงร้อยค่ะ พี่ ๆ ที่อุทยานฯ ตรงนี้แกแซวพวกเราด้วยว่า ได้ยินเสียงมาก่อนตัวเลยนะคร๊าบบ..กรุ๊ปนี้ แข็งแรงกันดีจริง ๆ (เส้นเสียงนะคะ ไม่ใช่ร่างกาย หรือจิตใจ เห่อ เห่อ) คือพี่แกรู้ว่ามีคนกะลังขึ้นมา ตั้งกะตอนที่พวกเรากรี๊ดกันจากข้างล่าง เห่อ เห่อ ทักแบบนี้ พวกเราควรภูมิใจช่ายม๊ายยเนี่ย แต่ถึงอย่างไร พวกเราก็ไม่เสียสมาธิค่ะ โพสต์ท่ากันอย่างต่อเนื่องและไม่อายฟ้าดินกันต่อไปอยู่ตรงนี้สูดโอโซนกันอย่างเต็มปอด อากาศเริ่มเย็นลงเรื่อย ๆ พี่ตุ่มก็ชวนพวกเรานั่งรถต่อไปอีกจุดนึง ละไมขออนุญาติเรียกว่าอุทยานพุทธศาสนา ละกันนะคะ เข้ามาเห็นรูปปั้นเทวดาสี่องค์สวยงามมากค่ะ หลังจากนั้นเดินเข้ามายังป่าไผ่ที่สาวอุ้มคันมือคันไม้ อยากฝึกวิทยายุทธ์กันให้ได้ซักสองสามกระบวนท่า แล้วอยู่ ๆ ภาพตรงหน้าก็เปิดเป็นเวิ้งของบ่อน้ำที่มีต้นไม้ป่าขึ้นอยู่รอบทิศ ตรงกลางบ่อน้ำนี้มีศาลาพร้อมด้วยรูปปั้นของพระพุทธเจ้า เดินบนดอกบัว เห็นแล้วรู้สึกดีมาก ๆ อยู่ ๆ ก็สัมผัสได้ถึงความสงบมีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ให้เราดื่มน้ำเพื่อความสิริมงคลของผู้มาเยือนด้วยค่ะ เดินมาอีกหน่อยเจอฆ้องขนาดใหญ่ ตีกันได้สนั่นหวั่นไหว ก่อนที่จะทะลุป่าไผ่เข้ามาเจอ วัด ด้านบนทางเดินเข้าวัด มีทางบังคับ มีป้ายบอกให้ถอดรองเท้า แล้วเดินผ่านหิน ซึ่งถือเป็นกุศโลบายอันชาญฉลาด คนที่มาจะได้เดินผ่านหิน ถือเป็นการนวดเท้าผ่อนคลายไปในตัว เราก็อมยิ้ม ใครนะ ช่างคิดจัง พอมาถึงอุโบสถก์ บรรยากาศร่มรื่น สงบ ชวนให้ละไมปรับโหมดเข้าเป็นโหมดธรรมะอย่างอัตโนมัติ อยู่ ๆ ใจมันก็สงบแบบไร้เหตุผล หลวงพ่ออำนาจอยู่ต้อนรับพี่ตุ่มและพวกเราอย่างยิ้มแย้มแจ่มใจ ท่านแชร์เรื่องราว ประวัติ แนวคิด และโครงการของวัดนี้ให้พวกเราได้ฟังประดับความรู้ พร้อมสอดแทรกธรรมะเข้ามาแบบฟังง่าย..รื่นหู รู้สึกดีจัง หลวงพ่อเล่าให้พวกเราฟังว่า สังเกตุดี ๆ ว่าทุกจุดที่มี display ระว่างทางที่พวกเราเดินผ่านมานั้น ล้วนแล้วแต่มีเรื่องราว อืมม์จริง แต่ละจุด แต่ละมุมของการตกแต่งป่าธรรมะแห่งนี้ รู้สึกได้เลยว่าถูกวางไว้อย่างตั้งใจ และต้องการสื่อสารเรื่องราวบางอย่างเพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตของชาวพุทธที่มาเยือน พี่ตุ่มดูจังหวะว่าพวกเราดื่มด่ำกับธรรมมะกันพอสมควรแล้ว แกก็ชวนพวกเราไปต่อ ไม่อยากกลับเลยยย ละไมคิดในใจ ลาหลวงพ่ออย่างเสียดายที่เวลาน้อยเหลือเกิน พวกเราเดินต่อไปจนถึงแท่นหินศักดิ์สิทธิ์ อืมม์คนทำช่างใส่ความตั้งใจที่จะถ่ายทอดเรื่องราวอย่างเห็นได้ชัด สังเกตุต้นไม้ที่ถูกแต่งเป็นพญานาคขนาบบันไดเหมือนทางขึ้นวัดทุก ๆ วัดก็ถูกซ่อนไว้อย่างลงตัว น่าชื่นชมเดินต่ออีกหน่อยก็เห็นรถกระบะลายครามของพี่ตุ่ม จอดเทียบท่ารอเราอยู่ตรงปลายทาง ตะวันกำลังจะตกดินแล้ว พี่ตุ่มจำต้องชวนหนุ่มสาวอย่างพวกเรา พากันไปช๊อปปิ้งที่ตลาด (สดของชาวเขา) เพราะเรายังขาดน้ำแข็ง และเสบียงหลายอย่างอยู่ บอกตามตรงว่ายังอยู่ในภวังค์แห่งพระพุทธศาสนาแต่ก็ต้องกระเจิงทันควันเมื่อพี่ตุ่มเริ่มกระชากเกียร์ (อีกแล้น) กิ่งไผ่ข้างทางก็เริ่มมาสะกิดละไมบ้าง นิด ๆ หน่อย ๆ แต่ด้วยการที่พวกเราเป็นเด็กยุคใหม่หัวไวกว่าใจเยอะ ก็เริ่มขาตึงหน้าตั้งยืนสู้ลมอยู่บนหลังกระบะจนถึงตลาดชาวเขาจนได้ โฉมหน้าของหนูนกหลังจากผจญแอ๊ดเวนเจอร์กันมาหลายชั่วโมงบรรยากาศแสนจะโรแมนติก ขาดอยู่อย่างเดียวสำหรับหกชีวิตไฮโซของพวกเรา คือขาดคู่ (อย่าให้บรรยายต่อ เด๋วกลายเป็นหนังเศร้าไปซะ) ไม่ต้องบรรยายมากว่าเราช๊อปอะไรไปบ้าง เก็บใจความสำคัญอย่างเดียวว่าเราจากินยำปลากระป๋องกันอีก ติดใจมาจากวาวี พอมาถึงดอยช้างก็จะยำปลากระป๋องกันอีก ไม่มีเบื่อ ระหว่างทางกลับไร่กาแฟ ละไมเกาะกระบะหูลู่อยู่อย่างเพลินเพลิน เพราะบรรยากาศพระอาทิตย์ตกระหว่างทางที่เหนือคำบรรยายกลับที่พักกันเรียบร้อย ต่างก็แยกย้ายกันไปทำภาระกิจส่วนตัว แล้วก็ถึงเวลาของสาวนกกะหนุ่งโป้งโชว์ฝีมือยำปลากระป๋องกัน ในขณะที่เจินเจินทำกับข้าวอีกสามอย่างอย่างขมักเขม้น ผลออกมาแล้วคร๊าบบบ อร่อยทู๊กกกอย่าง ต้มจืดลูกฟักแม้วน้ำซุปหวานหอม อร่อยไปอีกแบบ เกิดมาไม่เค้ยยยไม่เคย แต่ยอมรับว่าหลงรักแกงจืดถ้วยนี้อย่างสุดใจ ผัดยอดฟักแม้ว ที่ละไมแสนจะเบื่อจากเมืองกรุง เพราะดูเหมือนกับว่าแทบทุกร้านอาหารมักจะภูมิใจนำเสนอเมนูยอดฟักแม้วผัด กันจนดูเป็นแฟชั่นไปหมดแล้ว แต่กินเท่าไหร่ก็ไม่คิดว่ามันจะอร่อยอะไรกันมากมาย แต่ฝีมือเจินเจินเนี่ย ได้ใจเลยจริง ๆ มาถึงเมนูเสพติดสำหรับทริปนี้ ยำปลากระป๋อง ผิดคาดที่ สาวนก กะ หนุ่มโป้ง โชว์ขี้มือได้อย่างถึงใจ หร่อยยยมาก น๊องงเอ๊ยยยย หลังอาหารมื้อคำรสเริ่ด ก็เป็นจุดเริ่มต้นของบทสนทนาอันแสนจะอบอุ่น พวกเราถึงได้รู้ว่า กว่าจะมาเป็น บ้านสวนดอยช้าง ที่บรรยากาศดูจะสวยกว่าทุกรีสอร์ทในละแวกนี้ ความบริสุทธิ์ ไม่มีเล่ห์เหลี่ยมของพี่ตุ่มกะเจินเจิน ก็ดูจะเป็นใบเบิกทางให้พวกเราแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอย่างเปิดใจ ละไมบอกได้เลยว่าความบริสุทธิ์ของพี่ตุ่มและเจินเจิน ทำให้พวกเราอยากช่วยแกบอกต่อถึงความตั้งใจที่จะทำให้ บ้านสวนดอยช้าง เป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำของลูกค้าทุก ๆ คนที่เข้ามาเยี่ยมเยือน คืนนี้ถ้าไม่ติดว่าเกรงใจ ก็อยากชวนพี่ตุ่มกะเจินเจินไปสนทนาต่อที่ชานบ้าน ท่ามกลางหมู่ดาวก็คงดี เพราะเวลาที่ บ้านสวนดอยช้าง นี้ช่างผ่านไปเร็วเหลือเกินก่อนนอนนายเบียร์ยังตอกย้ำความโรแมนติก ด้วยการดูดาวบนระเบียงกระท่อมแม้ว อย่างน่าอิจฉา เพลินกันอยู่ซักพัก ก็ทยอยหลับท่ามกลางบรรยากาศบริสุทธิ์ กันไปทีละคนสองคน zzz zz zzzเช้าแร๊ววว ผีชัตเตอร์กะเช้าอย่างละไม ก็จัดแจง จิ้มมุมทุกมุมที่สายตาจับได้มีมุมสำหรับกางเต้นท์ด้วยนะคะณ ขณะนั้น สายหมอกทอดยาวบนทิวเขา กิ่งไม้ไร้ใบที่ตระหง่านกลางยอดเขา มันแส๊นนนจะจับตาจับใจซะเรอะเกิ๊นนน ชอบบบบ..ชอบบบบและแล้ว..ช่วงเวลาที่ทรมานที่สุดก็มาถึง ทั้ง ๆ ที่โกงเวลาทริปภาคพื้นดินเพื่อหนีมาแอบอยู่บนดอยอีกหนึ่งคืนก็แล้ว แต่มันดูเหมือนกับว่าทุกอย่างมันเพิ่งจะเริ่มต้น ใจยังอยากจะซึมซับความสดชื่น ความสุขบนดอยช้างนี้อีกซักสองสามวัน (ก็ยังดี) แต่มันคงเป็นไปไม่ได้ ถึงเวลาอำลา แบบเร่งรีบ เพราะไฟล์ทพวกเราคือบ่ายสองโมง ดังนั้นเวลาอำลาของพวกเราคือกาแฟแต่ละถ้วยที่พี่ตุ่มกับเจินเจินตื่นมาบรรจงเตรียมให้พวกเราแก้วต่อแก้ว ข้าวต้มที่ดูแล้วแปลกตา (น้ำซุปขลุกขลิก) แต่รสชาติข้าวต้ม ต้มแบบมียางข้าวด้วย (ขอโทษถ้าบางคนไม่รู้จัก เพราะละไมไม่แน่ใจว่าศัพท์นี้ละไมทึกทักขึ้นมาเองหรือเปล่า แต่คอนเฟิร์มว่าข้าวต้มที่เจินเจินบรรจงทำ มียางข้าวที่ทำให้รสชาติอร่อยล้ำจริง ๆ) ต้องลากันซะแล้วหรือนี่ เฮ่ออออออ เสียใจ เสียดาย อยากอยู่ต่อ หรือเอาแค่กลับไปเหยียบกรุงเทพซักสองนาทีแล้วก็อยากกลับมาที่นี่อีก จริง ๆ นะ พี่ตุ่มขับกระบะคันเก่าลงมาส่งพวกเราที่ศูนย์ฯ เวลาร่ำลาช่างน้อยเหลือเกิน แล้วประสบการณ์ดอยช้างก็บรรจงจบลง นายเบียร์รับหน้าที่สารถีกิติมศักดิ์อีกตามเคย (สงสารนะ ช่างเป็นคนดีเรอะเกิ๊นน) ตามดีกรีของใบตองทัวร์ ก้อยังมีแถมทัวร์น้ำตก ทัวร์แม่น้ำ ทัวร์ภูเขาให้หนุ่มสาว นายแบบ นางแบบได้โพสต์ท่ากันอีกร่วมพันรูป ก่อนล้อแต่พื้นราบในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมาบรรยากาศเริ่มอึมครึม การอำลาอีกหนึ่งฉาก ที่ยากโครต ๆ คงจะคิดถึงกันอีกในไม่ช้า เวลามันมีน้อย เวลามันผ่านไปเร็ว เวลามันไม่เป็นใจ เฮ้ยยย บ๊าย บาย นายเบียร์ บ๊าย บาย เชียงราย จะกลับมาใหม่..แน่นอน..สัญญา!!Reference : บ้านสวนดอยช้างพี่ตุ่ม : 081-289-1691 หรือ 081-884-5845เจินเจิน : 084-803-9422บ้านพักราคาหลังละ 1,400 บาท**ลองดูนะคะ พี่ตุ่มบอกว่าถ้าผ่านมาจากละไม พี่ตุ่มลดให้เหลือ 1,200 บาทรวมอาหารเช้าด้วยค่ะ**บ้านสวนดอยช้าง ดอยช้าง ดอยวาวีบ้านสวนดอยช้าง ดอยช้าง ดอยวาวีบ้านสวนดอยช้าง ดอยช้าง ดอยวาวีบ้านสวนดอยช้าง ดอยช้าง ดอยวาวีบ้านสวนดอยช้าง ดอยช้าง ดอยวาวีบ้านสวนดอยช้าง ดอยช้าง ดอยวาวีบ้านสวนดอยช้าง ดอยช้าง ดอยวาวีบ้านสวนดอยช้าง ดอยช้าง ดอยวาวีบ้านสวนดอยช้าง ดอยช้าง ดอยวาวีบ้านสวนดอยช้าง ดอยช้าง ดอยวาวี Create Date :24 ตุลาคม 2552 Last Update :3 พฤศจิกายน 2552 20:16:06 น. Counter : Pageviews. Comments :45 twitter google Comment *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก น่าไปบ้างจัง โดย: kwan_3023 24 ตุลาคม 2552 7:24:45 น.ที่นี่แหละคือที่ๆ ต้องการไป ขอบคุณสำหรับการนำทางดีๆ ในครั้งนี้ค่ะ โดย: เพียงหมอก 24 ตุลาคม 2552 12:32:56 น.สวยเชียวค่ะ ..บ้านพักน่ารัก น่าไปนอนซัก คืน สองคืน ว๊าวว..มีทะเลหมอกด้วย ไหนๆก็เข้ามาแล้ว ขออนุญาติเก็บข้อมูล ด้วยเลยละกันนะคะ โดย: Nongpurch 24 ตุลาคม 2552 12:35:31 น.โอ้ ว้าว บรรยากาศดีมากๆ เลยค่ะ ถ้ามีโอกาสต้องผ่านไปแน่นอนค่ะ โดย: gadeja 24 ตุลาคม 2552 23:47:37 น.สวยมากครับ ขอบคุณสำหรับที่ดีๆที่แนะนำครับถามนิดครับห้องพักหลังหนึ่งนอนได้กี่คนครับ โดย: BlueDolphin IP: 58.64.64.207 25 ตุลาคม 2552 18:33:39 น.น่าสนุกจังเลยคะ ดูแล้วบรรยากาศดีมั๊กมาด โดย: ting-p 25 ตุลาคม 2552 19:45:27 น.lสวยจิงๆ โดย: jetmom3425 IP: 119.160.216.82 26 ตุลาคม 2552 17:17:28 น.มีบางห้องนอนได้สามคนค่ะ คุณ BlueDolphin เห็นแกว่า เพิ่มหัวละ 400 บาท รวมอาหารมื้อค่ำ และข้าวต้มร้อน ๆ ตอนเช้าด้วยค่ะ โดย: ละไม La maii IP: 124.122.135.149 26 ตุลาคม 2552 22:44:37 น.อ่านแล้ว ก็ คิดถึงเนาะอยากกลับ ไป อีกครั้งจัง เรยเบื่อ กทม. สุด ๆ ว่าแต่ เจ๊โอ๋น ไม่เอา รูปบ่อน้ำศักสิทธิ์ กับศูนย์ วิจัย เกษตร มาลง เหรอ โดย: nookie IP: 203.149.28.194 28 ตุลาคม 2552 10:45:26 น.ประทับใจมากอากาศบริสุทธิ์จริงๆ โดย: Thanya IP: 125.24.198.124 28 ตุลาคม 2552 23:28:46 น.แวะมาชมค่ะ โดย: นู๋ที 29 ตุลาคม 2552 8:30:02 น.ถ้ามีโอกาส จะกลับไปอีก อย่างแน่นอน โดย: nai Pong IP: unknown, 202.32.8.240 29 ตุลาคม 2552 14:40:46 น.น่ากินน่าเที่ยวจริงๆ ราคาก้อไม่แพงด้วย โดย: jina IP: unknown, 202.32.8.240 29 ตุลาคม 2552 16:58:08 น.สวยจังเลย สงสัยอากาศต้องดีมากแน่ๆๆเลย อยากไปจัง แล้วจะได้ราคาพิเศาไหมค่ะเนี่ย จะได้พาลูกกะสามีไปด้วยกัน ชอบค่ะ สวยๆๆๆๆๆ โดย: Tuk-ka-ta IP: 58.136.204.222 29 ตุลาคม 2552 18:03:44 น.น่าไปที่สุดเล๊ยยยยย โดย: Max IP: 112.142.53.125 30 ตุลาคม 2552 12:41:26 น.ชอบ ชอบ BlogGang ของพี่ละไมที่ซูดดดดดเลยดูแล้วก้ออยากไปอีกจังงงงง โดย: oum IP: 192.168.1.113, 58.8.107.244 1 พฤศจิกายน 2552 22:24:37 น.ขอบคุณม้าน่ารักทุก ๆ ต้วที่ส่งเสียงที่นี่น๊ะจ๊ะ อิอิ ส่วนเพื่อนบ้าน bloggang ตอบให้ที่หน้าบ้านแต่ละคนคร่า โดย: ละไม La maii 2 พฤศจิกายน 2552 21:31:15 น.หวัดดียามเช้าค่ะ เป็นไงค่ะเมื่อคืนไปลอยกระทงที่ไหนก๊ะ ขวัญไปลอยในสวนรถไฟมาค่ะเช้านี้อากาศดีมากๆๆเลยอ่ะ โดย: kwan_3023 3 พฤศจิกายน 2552 7:09:43 น.ถามอีกนิดนะคะ ทางโหดมากมั้ยถ้าไปจริงเพราะมี plan จะไปปีใหม่เหมือกันค่ะ โดย: เพียงหมอก 6 พฤศจิกายน 2552 10:29:18 น.ทางมีสองช่วงที่ต้องขับด้วยความระมัดระวังนะคะ คุณเพียงหมอก จุดนึงเป็นทางแคบเหมือนไม่เต็มใจให้รถสวน ขับไปลุ้นไปดีค่ะ ส่วนจุดที่สองเป็นทางขรุขระที่ถ้าเล็งไลน์กันดี ๆ ก็ผ่านได้แบบกลั้นหายใจกันนิดส์นุง ก็ประมาณนี้นะคะ ไม่อันตรายค่ะ ลุ้นกันอย่างเดียวเรยยย โดย: ละไม La maii 8 พฤศจิกายน 2552 23:10:49 น.ธรรมชาติมากๆเลยค่า จะกลับปายเลยติดถึงคุณละไม โดย: สาวปาย (keichan ) 13 พฤศจิกายน 2552 9:54:40 น.ใจตรงกันแบบนี้น่าจะได้เจอกันที่ปายนะคะสิ้นปีนี้อยู่ปายจนถึงปีหน้าเดือนมคเลยคะ โดย: สาวปาย IP: 122.26.50.155 19 พฤศจิกายน 2552 10:41:07 น.สิ้นปีนี้จะได้ไปมั้ยเนี๊ยะ เห็นทีไรก็อยากไปทุกที โดย: เพียงหมอก 28 พฤศจิกายน 2552 15:00:39 น.เพิ่งไปมาจ้ะ ถ้ามีโอกาสจะกลับไปอีก ชอบมาก ๆ โดย: Gang IP: 118.172.176.32 12 ธันวาคม 2552 9:41:55 น.ขอขอบคุณ คุณน้องม๊ากมากนะคะอยากจะบอกว่าปีนี้ที่คุณนายเอ.ไอ ได้ไปเที่ยวเพราะ ละใมนำทางขอบคุณหลายๆ โดย: คุณนายเอ.ไอ IP: 124.120.25.168 18 ธันวาคม 2552 21:38:06 น.ฮ่า ๆ บรรยากาศสวยๆของบ้านเรานี่เอง เป็นหมู่บ้านที่ทิพย์ได้กำหนดเลยล่ะ ปัจจุบันก็ยังปลูกกาแฟไว้เติมเลย ดีใจ.....ที่ได้เกิดเป็นเิด็กดอย โดย: ทิพย์ IP: 118.172.37.35 25 มกราคม 2553 10:03:20 น.เพิ่งกลับจาก ดอยช้างครับ บอกได้คำเดียวว่าควรไปอย่างมาก ทุกอย่างเป็นไปตามที่เจ้าของบล็อกเขียนไว้ครับ ได้นั่งคุยกับพี่ตุ่มถึงเที่ยงคืน ไปครั้งแรกแต่รู้สึกเหมือนรู้จักกันมานานกับพี่ตุ่มและเจินเจินและทุกคนที่บนดอยช้าง ต้องไปครับแล้วจะรู้ว่ามีสิ่งดีดีอีกมุมนึงที่ประทับใจมาก ๆ โดย: โจ้ IP: 124.121.23.239 25 มกราคม 2553 20:43:48 น.ปีใหม่ที่ผ่านมานอนไปและ 2 คืน อากาศดี้ดี โดย: TALON IP: 203.144.144.164 25 มกราคม 2553 21:11:15 น.ได้รู้จักบ้านสวนดอยช้างจาก blog นี้ ขอบคุณมากครับ ไปมาแล้วชอบมากๆ อยากไปกินมันเผาอีก พี่ตุ่มบอกว่าถ้าอยากลุยๆต้องมาอีกตอนหน้าฝน ถ้าว่างก็อาจจะไปตามที่แ่กบอกมา แต่ยังไงปลายปีนี้จะกลับไปอีกแน่นอน จะได้ไปนั่งคุยกับพี่ตุ่มอีก โดย: โต้ง IP: 10.216.91.88, 202.149.29.83 11 พฤษภาคม 2553 14:52:49 น.สถานที่เที่ยวบ้านเราสวยๆมีเยอะแยะปีนี้ต้องไปเที่ยวให้ได้ โดย: จีน IP: 182.232.10.127 5 กันยายน 2553 12:29:51 น.ได้จองใว้เรียบร้อย โอยยยกว่าจะจองได้รอลุ้นแทบตายคนจองเยอะเหลือเกิน หนาวนี้เจอกัน โดย: นุ่น IP: 110.49.173.216 13 ตุลาคม 2553 14:46:24 น.น่าเทียวคับ โดย: sonic IP: 223.206.231.239 22 ตุลาคม 2553 14:21:37 น.สวยมากๆครับ โดย: เด็กวาวี IP: 111.90.190.147 8 มีนาคม 2554 21:01:49 น.ถ้าจะไปพักแนะนำพักที่สถานีเกษตรดีกว่ามากครับ เป็นกันเองดี ราคาถูก ไม่แนะนำบ้านสวนดอยช้างครับ จากคนบนดอยครับ โดย: คนบนดอย IP: 125.25.242.227 18 มกราคม 2555 20:36:06 น.ไม่ได้เข้ามาบ้านตัวเองนานเหลือเกินขอบคุณเพื่อน ๆ ที่เข้ามาส่งเสียงนะคะมีความสุขมาก ๆ ในปีมังกรทองนะคะ ขอให้ปีนี้มังกรแจกทองถึงประตูบ้านทุก ๆ ท่าน รับทรัพย์ รับความสุขกันถ้วนหน้านะคะ โดย: ละไม La maii 25 มกราคม 2555 22:01:26 น.ถ้าคุณต้องการหนีจากสังคมเมืองหลวงที่วุ่นวายเหลือเกิน...บ้านสวนดอยช้างเป็นคำตอบให้คุณได้ค่ะป.ล. เพิ่งกลับมาเมื่อวานนี้ ประทับใจมากมายค่ะ ขอบคุณ blog นี้ค่ะที่ทำให้ได้รู้จักสถานที่ดี ๆ แบบนี้ และขอบคุณ "คุณตุ่ม และ คุณเจินเจิน" สำหรับน้ำใจที่มีให้ค่ะ ^^ โดย: หญิงหญิง IP: 58.11.168.144 20 กุมภาพันธ์ 2555 21:02:31 น.ขอบคุณคุณละไมมากค่าที่แวะไปที่บล๊อค เก๋ล้างลาไปหลายปีเลยอิๆๆเพิ่งกลับมาจากไทยเมื่อกุมภาพันนี้เองค่าขอบคุณมากๆที่เป็นลูกค้าที่น่ารักของคนเมืองปายนะคะเก๋กลับไปก็ตกลงใจความเปลี่ยนแปลงของปายเช่นกันคะแต่เปลี่ยนไปยังไงก็ต้องยอมรับมันคะเอาไว้มาแวะเที่ยวหาใหม่นะคะ โดย: keichan เก๋สาวปายจ้า IP: 113.43.14.231 28 มีนาคม 2555 6:26:26 น.เตรียมตารอยพี่นี่บละครัๆไปปีใหม่ โดย: จะไปดอย IP: 171.6.160.168 18 พฤศจิกายน 2555 3:27:02 น.เที่ยวให้สนุกนะคะน้อง คิดถึงที่นี่ทุกหนาว และทุกฝนค่ะ อย่าลืมชิมเหล้าข้าวโพดของพี่ตุ่นนะคะ อยากไปดูว่าทุ่งว่านสี่ทิศเป็นงัยบ้างแล้ว เห็นว่าต้องกุมภา ถึงจะบานเต็มเนินที่ปลูกไว้ ตะวันตกดินหาดูได้จากบ้านทุกหลังนะคะ พิสูจน์มาแล้ว สวยคนละแบบค่ะ โดย: ละไม La maii IP: 124.120.248.178 25 พฤศจิกายน 2555 22:14:19 น.มีสถานที่กางเต้นไหมค่ะ อยากไปกางเต้นนอน ส่วนบ้านพักหลัง 1400มีกี่ห้องค่ะ โดย: กุ้ง IP: 182.93.201.209 29 พฤศจิกายน 2555 14:37:30 น.เคยไปมาแล้ว สวยมากเมื่อปีที่แล้ว พี่ตุ่มและภรรยาต้อนรับอบอุ่นมาก เดือนกพ.นี้จะไปอีก พึ่งโทรคุยกับพี่ตุ่มเมื่อกี้เอง ก็บอกพี่ตุ่มว่าได้ดูเวบของคุณละไมแล้ว พี่ต่มบอกว่าผมไม่เคยดูมีแต่ลูกค้าเล่าให้ฟัง ผมดูไม่เป็น แล้วก็หัวเราะ ไม่เป็นไร ถ้าไปถึงจะเปิดเวบให้ดู จะได้ชื่นใจในผลงาน โดย: สารัชธรรม IP: 49.49.197.250 10 มกราคม 2556 11:39:57 น.ขอบคุณมากๆค่ะ สำหรับข้อมูลดีๆดิฉันได้ไปมาเมื่อวันที่ 19 ต.ค.56 นี้เองค่ะ ตั้งใจโดยตรงเพื่อไปพักผ่อนที่บ้านสวนดอยช้างตามที่คุณเเนะนำ เพราะรู้สึกชอบตั้งแต่เข้ามาอ่านข้อมูลในนี้ไม่มีเพื่อนไป ไม่มีรถยนต์ เลยขี่มอไซด์ Yamaha MiO สีแดงคู่ใจที่ใช้มา 10 ปีขึ้นไปคนเดียวเลยค่ะ จากบ้านในตัวเมืองเชียงราย เป็นการไปดอยช้างครั้งแรกด้วยค่ะเพราะเพิ่งจบป.ตรี และมาทำงานในเชียงรายได้แค่ 5 เดือน แต่จริงๆไปตั้งแต่วันที่ 18 แล้วค่ะแต่ไปเส้นทางบ้านห้วยส้าน ทางโหดมากมีฝนตกด้วยจึงทำให้ไปไม่ถึงจึงต้องกลับมาในเมืองก่อน และเช้าวันต่อมาไปใหม่โดยเปลี่ยนเส้นทางไปทางเเม่สรวย บ้านตีนดอยมีฝนรินเล็กน้อยทางดีตลอดเส้นทางวิวสวยมากค่ะ แต่มีตรงก่อนเข้าบ้านสวนที่เป็นดินและชันเนื่องจากก่อนหน้าฝนตกเลยทำให้ขึ้นยากหน่อยเพราะเป็นมอไซด์ มีฝนรินเล็กน้อยแต่ด้วยความตั้งใจก็ไปจนถึงค่ะ ไปถึงเจอน้องมี่มี้ลูกสาวพี่ตุ่มมาตอนรับน่ารักมากค่ะ เลือกพักห้องแม้วตามความตั้งใจบรรยากาศดีมากน่าอยู่มากค่ะ สักพักก็ได้เจอพี่ตุ่มค่ะพี่ตุ่มใจดีและเป็นกันเองมากๆค่ะ และยังขับรถยนต์พาไปเที่ยวโรงมะคาเดเมีย ศูนย์เกษตรด้วยพอตกค่ำพี่ตุ่มและพี่เจินเจิน ก็ชวนให้ทานอาหารด้วยกันเพราะเห็นไปคนเดียวเป็นกันเองมากๆ ประทับใจที่สุดอย่างบอกไม่ถูกและยังไงก็ต้องไปอีกแน่นอนค่ะ ไปคนเดียวแต่รู้สึกอบอุ่นยิ่งนัก ณ บ้านสวนดอยช้างรีสอร์ท โดย: ปาริชาติ IP: 27.145.77.156 21 ตุลาคม 2556 10:28:47 น.และยังไปเจอเจ้าบิวตี้ตัวในรูปด้วยค่ะ จึงถามหาอีกตัวพี่ตุ่มบอกว่าเจ้าข้าวมันตายแล้ว และขอบอกอีกอย่างค่ะดิฉันเป็นคนที่ไม่ดื่มกาเเฟเพราะเคยชิมๆก็เวียนศีรษะแล้วแต่ไปดอยช้างทั้งทีเลยต้องลองหน่อย และพี่ตุ่มก็ใจดีชงกาเเฟสดๆร้อนๆให้หอมมาก ดื่มจนหมดถือเป็นกาเเฟแก้วแรกในชีวิตที่ดื่มอย่างจริงจังและที่สำคัญไม่มีอาการได้ๆเลยค่ะต้องขอบคุณพี่ตุ่มจริงๆ ****ด้วยความตั้งใจไปจึงเตรียมหนังสือ "สุขได้เมื่อใจปล่อยวาง" 6 เล่มที่ร่วมกันทำกับเพื่อนๆจึงนำไปฝากพี่ตุ่มด้วยค่ะ ถ้าใครได้ไปก็อย่าลืมอ่านดูนะค๊ะเล่มเล็กๆสีเขียวๆ ****เข้ามาดูรูปได้นะค๊ะ https://www.facebook.com/#!/parichat.hom/media_set?set=a.641572595894538.1073741835.100001254106169&type=1 โดย: ปาริชาติ IP: 27.145.77.156 21 ตุลาคม 2556 10:42:05 น.สวัสดีค่ะคุณสารัชธรรม และคุณปาริชาติ บังเอิญคิดถึง blog ตัวเองเลยเข้ามาดูซักที กำลังจะไปเยี่ยมพี่ตุ่นอีกครั้งแล้วค่ะ อิอิ น้ำใจของที่นี่ไม่เคยเหือดหายไปเลย ไปแล้วอบอุ่นตลอด ขอบคุณนะคะ แต่คุณปาริชาติขับขึ้นไปคนเดียวน่าเป็นห่วงจังค่ะ ยังงัยก็ตามหาเพื่อนขึ้นไปด้วยก็ดีนะคะ เผื่อมีอะไรฉุกเฉินกลางทางน่ะค่ะ แอบเป็นห่วงค่ะ โดย: ละไม La maii IP: 171.96.25.209 10 พฤศจิกายน 2556 23:18:36 น.ค่ะขอบคุณมากๆค่ะ พูดถึงก็คิดถึงบ้านสวนดอยช้างและพี่ตุ่มเรยค่ะ ตอนนี้คงหนาวน่าดูเลย //ถ้ามีโอกาศได้ไปอย่าลืมอ่านหนังสือที่ดิฉันนำไปฝากพี่ตุ่มไว้นะค๊ะ หนังสือสุขได้เมื่อปล่อยวาง ที่จะวางอยู่ในบ้านพักทุกหลังของพี่ตุ่ม ^^ โดย: ปาริชาติ IP: 27.145.77.156 2 ธันวาคม 2556 20:08:47 น.
โดย: kwan_3023 24 ตุลาคม 2552 7:24:45 น.
โดย: เพียงหมอก 24 ตุลาคม 2552 12:32:56 น.
บ้านพักน่ารัก น่าไปนอนซัก คืน สองคืน
ว๊าวว..มีทะเลหมอกด้วย
ไหนๆก็เข้ามาแล้ว ขออนุญาติเก็บข้อมูล
ด้วยเลยละกันนะคะ
โดย: Nongpurch 24 ตุลาคม 2552 12:35:31 น.
โดย: gadeja 24 ตุลาคม 2552 23:47:37 น.
ถามนิดครับห้องพักหลังหนึ่งนอนได้กี่คนครับ
โดย: BlueDolphin IP: 58.64.64.207 25 ตุลาคม 2552 18:33:39 น.
โดย: ting-p 25 ตุลาคม 2552 19:45:27 น.
โดย: jetmom3425 IP: 119.160.216.82 26 ตุลาคม 2552 17:17:28 น.
โดย: ละไม La maii IP: 124.122.135.149 26 ตุลาคม 2552 22:44:37 น.
อยากกลับ ไป อีกครั้งจัง เรย
เบื่อ กทม. สุด ๆ
ว่าแต่ เจ๊โอ๋น ไม่เอา รูปบ่อน้ำศักสิทธิ์ กับ
ศูนย์ วิจัย เกษตร มาลง เหรอ
โดย: nookie IP: 203.149.28.194 28 ตุลาคม 2552 10:45:26 น.
โดย: Thanya IP: 125.24.198.124 28 ตุลาคม 2552 23:28:46 น.
โดย: นู๋ที 29 ตุลาคม 2552 8:30:02 น.
โดย: nai Pong IP: unknown, 202.32.8.240 29 ตุลาคม 2552 14:40:46 น.
โดย: jina IP: unknown, 202.32.8.240 29 ตุลาคม 2552 16:58:08 น.
โดย: Tuk-ka-ta IP: 58.136.204.222 29 ตุลาคม 2552 18:03:44 น.
โดย: Max IP: 112.142.53.125 30 ตุลาคม 2552 12:41:26 น.
ดูแล้วก้ออยากไปอีกจังงงงง
โดย: oum IP: 192.168.1.113, 58.8.107.244 1 พฤศจิกายน 2552 22:24:37 น.
โดย: ละไม La maii 2 พฤศจิกายน 2552 21:31:15 น.
โดย: kwan_3023 3 พฤศจิกายน 2552 7:09:43 น.
โดย: เพียงหมอก 6 พฤศจิกายน 2552 10:29:18 น.
โดย: ละไม La maii 8 พฤศจิกายน 2552 23:10:49 น.
จะกลับปายเลยติดถึงคุณละไม
โดย: สาวปาย (keichan ) 13 พฤศจิกายน 2552 9:54:40 น.
น่าจะได้เจอกันที่ปายนะคะ
สิ้นปีนี้อยู่ปายจนถึงปีหน้าเดือนมคเลยคะ
โดย: สาวปาย IP: 122.26.50.155 19 พฤศจิกายน 2552 10:41:07 น.
โดย: เพียงหมอก 28 พฤศจิกายน 2552 15:00:39 น.
โดย: Gang IP: 118.172.176.32 12 ธันวาคม 2552 9:41:55 น.
ขอบคุณหลายๆ
โดย: คุณนายเอ.ไอ IP: 124.120.25.168 18 ธันวาคม 2552 21:38:06 น.
เป็นหมู่บ้านที่ทิพย์ได้กำหนดเลยล่ะ ปัจจุบันก็ยังปลูกกาแฟไว้เติมเลย ดีใจ.....ที่ได้เกิดเป็นเิด็กดอย
โดย: ทิพย์ IP: 118.172.37.35 25 มกราคม 2553 10:03:20 น.
โดย: โจ้ IP: 124.121.23.239 25 มกราคม 2553 20:43:48 น.
โดย: TALON IP: 203.144.144.164 25 มกราคม 2553 21:11:15 น.
โดย: โต้ง IP: 10.216.91.88, 202.149.29.83 11 พฤษภาคม 2553 14:52:49 น.
โดย: จีน IP: 182.232.10.127 5 กันยายน 2553 12:29:51 น.
โดย: นุ่น IP: 110.49.173.216 13 ตุลาคม 2553 14:46:24 น.
โดย: sonic IP: 223.206.231.239 22 ตุลาคม 2553 14:21:37 น.
โดย: เด็กวาวี IP: 111.90.190.147 8 มีนาคม 2554 21:01:49 น.
โดย: คนบนดอย IP: 125.25.242.227 18 มกราคม 2555 20:36:06 น.
ขอบคุณเพื่อน ๆ ที่เข้ามาส่งเสียงนะคะ
มีความสุขมาก ๆ ในปีมังกรทองนะคะ ขอให้ปีนี้มังกรแจกทองถึงประตูบ้านทุก ๆ ท่าน รับทรัพย์ รับความสุขกันถ้วนหน้านะคะ
โดย: ละไม La maii 25 มกราคม 2555 22:01:26 น.
ป.ล. เพิ่งกลับมาเมื่อวานนี้ ประทับใจมากมายค่ะ ขอบคุณ blog นี้ค่ะที่ทำให้ได้รู้จักสถานที่ดี ๆ แบบนี้ และขอบคุณ "คุณตุ่ม และ คุณเจินเจิน" สำหรับน้ำใจที่มีให้ค่ะ ^^
โดย: หญิงหญิง IP: 58.11.168.144 20 กุมภาพันธ์ 2555 21:02:31 น.
เพิ่งกลับมาจากไทยเมื่อกุมภาพันนี้เองค่า
ขอบคุณมากๆที่เป็นลูกค้าที่น่ารักของคนเมืองปายนะคะเก๋กลับไปก็ตกลงใจความเปลี่ยนแปลงของปายเช่นกันคะ
แต่เปลี่ยนไปยังไงก็ต้องยอมรับมันคะ
เอาไว้มาแวะเที่ยวหาใหม่นะคะ
โดย: keichan เก๋สาวปายจ้า IP: 113.43.14.231 28 มีนาคม 2555 6:26:26 น.
โดย: จะไปดอย IP: 171.6.160.168 18 พฤศจิกายน 2555 3:27:02 น.
โดย: ละไม La maii IP: 124.120.248.178 25 พฤศจิกายน 2555 22:14:19 น.
โดย: กุ้ง IP: 182.93.201.209 29 พฤศจิกายน 2555 14:37:30 น.
โดย: สารัชธรรม IP: 49.49.197.250 10 มกราคม 2556 11:39:57 น.
ดิฉันได้ไปมาเมื่อวันที่ 19 ต.ค.56 นี้เองค่ะ ตั้งใจโดยตรงเพื่อไปพักผ่อนที่บ้านสวนดอยช้างตามที่คุณเเนะนำ เพราะรู้สึกชอบตั้งแต่เข้ามาอ่านข้อมูลในนี้
ไม่มีเพื่อนไป ไม่มีรถยนต์ เลยขี่มอไซด์ Yamaha MiO สีแดงคู่ใจที่ใช้มา 10 ปีขึ้นไปคนเดียวเลยค่ะ จากบ้านในตัวเมืองเชียงราย เป็นการไปดอยช้างครั้งแรกด้วยค่ะเพราะเพิ่งจบป.ตรี และมาทำงานในเชียงรายได้แค่ 5 เดือน
แต่จริงๆไปตั้งแต่วันที่ 18 แล้วค่ะแต่ไปเส้นทางบ้านห้วยส้าน ทางโหดมากมีฝนตกด้วยจึงทำให้ไปไม่ถึงจึงต้องกลับมาในเมืองก่อน และเช้าวันต่อมาไปใหม่โดยเปลี่ยนเส้นทางไปทางเเม่สรวย บ้านตีนดอยมีฝนรินเล็กน้อยทางดีตลอดเส้นทางวิวสวยมากค่ะ แต่มีตรงก่อนเข้าบ้านสวนที่เป็นดินและชันเนื่องจากก่อนหน้าฝนตกเลยทำให้ขึ้นยากหน่อยเพราะเป็นมอไซด์ มีฝนรินเล็กน้อยแต่ด้วยความตั้งใจก็ไปจนถึงค่ะ ไปถึงเจอน้องมี่มี้ลูกสาวพี่ตุ่มมาตอนรับน่ารักมากค่ะ เลือกพักห้องแม้วตามความตั้งใจบรรยากาศดีมากน่าอยู่มากค่ะ สักพักก็ได้เจอพี่ตุ่มค่ะพี่ตุ่มใจดีและเป็นกันเองมากๆค่ะ และยังขับรถยนต์พาไปเที่ยวโรงมะคาเดเมีย ศูนย์เกษตรด้วยพอตกค่ำพี่ตุ่มและพี่เจินเจิน ก็ชวนให้ทานอาหารด้วยกันเพราะเห็นไปคนเดียวเป็นกันเองมากๆ ประทับใจที่สุดอย่างบอกไม่ถูกและยังไงก็ต้องไปอีกแน่นอนค่ะ ไปคนเดียวแต่รู้สึกอบอุ่นยิ่งนัก ณ บ้านสวนดอยช้างรีสอร์ท
โดย: ปาริชาติ IP: 27.145.77.156 21 ตุลาคม 2556 10:28:47 น.
****ด้วยความตั้งใจไปจึงเตรียมหนังสือ "สุขได้เมื่อใจปล่อยวาง" 6 เล่มที่ร่วมกันทำกับเพื่อนๆจึงนำไปฝากพี่ตุ่มด้วยค่ะ ถ้าใครได้ไปก็อย่าลืมอ่านดูนะค๊ะเล่มเล็กๆสีเขียวๆ ****
เข้ามาดูรูปได้นะค๊ะ https://www.facebook.com/#!/parichat.hom/media_set?set=a.641572595894538.1073741835.100001254106169&type=1
โดย: ปาริชาติ IP: 27.145.77.156 21 ตุลาคม 2556 10:42:05 น.
โดย: ละไม La maii IP: 171.96.25.209 10 พฤศจิกายน 2556 23:18:36 น.
โดย: ปาริชาติ IP: 27.145.77.156 2 ธันวาคม 2556 20:08:47 น.