bloggang.com mainmenu search
ทิ้งระยะห่างเอาเรื่องเหมือนกัน สำหรับโฉมใหม่ของ Q7 จากค่ายออดี้ เพราะผลผลิตที่แชร์พื้นฐานร่วมกันอย่างโฟล์คสวาเกน ทัวเร็ก และปอร์เช่ คาเยนน์ ต่างก็เปิดตัวโฉมใหม่ออกมานานสักหน่อยแล้ว แต่แฝดคนสุดท้ายของตระกูลกว่าที่จะถูกส่งออกมาสู่ตลาดต้องรอกันนาร่วม 2 ปีเลยทีเดียว

Audi Q7 : พร้อมลุยตลาดเอสยูวีหรูครั้งใหม่ Q7 เป็น SUV รุ่นใหญ่ที่ออดี้พัฒนาขึ้นมา เพื่อประกบกับเมอร์เซเดส-เบนซ์ M-Class และ BMW X5 โดยเปิดตัวครั้งแรกในปี 2005 ส่วนรุ่นใหม่ที่เผยโฉมออกมานี้ถือเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 2 ซึ่งยังคงกลุ่มตลาด เอาไว้เหมือนเดิม รวมถึงรูปแบบของตัวถังที่ขายเฉพาะแบบ 5 ประตู โดยที่รูปลักษณ์ภายนอก และพื้นฐานทางวิศวกรรมได้รับการออกแบบใหม่หมด

       ว่ากันว่าในรุ่นใหม่นี้มีน้ำหนักเบาขึ้น 325 กิโลกรัม และมีตัวเลขอยู่ที่ 1,995 กิโลกรัม อันเป็นผลมาจากการใช้วัสดุอย่างอะลูมิเนียมมากขึ้น ขณะเดียวกันก็เน้นความสปอร์ตด้วยการลดความสูง ของจุดศูนย์ถ่วง หรือ Centre of Gravity ให้น้ยลงจากรุ่นเดิม เพื่อความมั่นใจในการขับขี่ โดยเฉพาะเมื่อต้องเข้าโค้ง

       ในแง่การออกแบบนั้นมีการถอดแบบสไตล์ของการสร้างสรรค์รูปลักษณ์มาจากรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ของออดี้ โดยมีจุดเด่นอยู่ที่กระจังหน้าขนาดใหญ่และไฟหน้าทรงเหลี่ยมเฉียงที่มีการแบ่งออกเป็นสัดส่วนต่างๆ ของไฟสูง/ต่ำ ไฟเลี้ยว และ DRL ขณะที่ด้านท้ายให้สัมผัสแห่งความปราดเปรียวด้วยไฟท้ายทรงยาว พร้อมการใช้หลอดแบบ LED ในชุดไฟท้าย และมีการแบ่งเป็นสัดส่วนเหมือนกับไฟท้ายจึงช่วยทำให้ดูสะดุดตามากขึ้น

Audi Q7 : พร้อมลุยตลาดเอสยูวีหรูครั้งใหม่        ขนาดของตัวถังยังคงความใหญ่เอาไว้ด้วยความยาวในระดับ 5.05 เมตร และระยะฐานล้อ 2.99 เมตร ขณะที่ใครที่กังวลในเรื่องความปราดเปรียวและความเพรียวลมก็ขอให้ลืมเรื่องตรงนี้ไปซะ เพราะค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียทาน หรือ Cd ของ Q7 ใหม่ไม่ได้โดดเด่นอะไรมาก มีตัวเลขอยู่ที่ 0.32

       ทุกรุ่นขับเคลื่อนด้วยระบบ ALL-Wheel Drive โดยมีทางเลือกของเครื่องยนต์ 2 แบบสำหรับขุมพลังสันดาปภายใน คือ เบนซินวี6 3,000 ซีซี TFSI ที่มีระบบอัดอากาศเข้ามาช่วย และทำให้มีกำลังในระดับ 333 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 44.8 กก.-ม. ส่วนอีกรุ่นคือเทอร์โบดีเซลที่มีความจุและ รูปแบบเครื่องยนต์เหมือนกัน แต่มีกำลัง 272 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 61.1 กก.-ม.

       ในแง่ของอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงในรุ่นเบนซินใช้เวลา 6.1 วินาทีส่วนเทอร์โบดีเซล เพิ่มขึ้น 0.2 วินาที แต่ประหยัดกว่าเยอะด้วยตัวเลข 17.5 กิโลเมตร/ลิตรในแบบค่าเฉลี่ย

Audi Q7 : พร้อมลุยตลาดเอสยูวีหรูครั้งใหม่        อย่างไรก็ตาม ทางเลือกอื่นๆ ก็จะมีตามมาในอนาคตทั้งรุ่นเทอร์โบดีเซลที่พลังลดลงเหลือ 218 แรงม้า รุ่นเบนซิน 4 สูบ 2,000 ซีซี TFSI 252 แรงม้า รวมถึงตัวไฮบริดแบบ e-Tron ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ระบบไฮบริดแบบเสียบปลั๊กจะเป็นการจับคู่ระหว่างเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซลกับมอเตอร์ไฟฟ้า โดยทั้งระบบผลิตกำลังออกมาได้ 373 แรงม้า

       การเปิดตัวจะมีขึ้นในงานดีทรอยต์ ออโต้โชว์ ต้นเดือนมกราคมปีหน้า ส่วนการวางจำหน่าย น่าจะเริ่มกลางปี โดยจะมีวางขายเกือบทั่วโลกทั้งยุโรป อเมริกาเหนือ และเอเชีย

Audi Q7 : พร้อมลุยตลาดเอสยูวีหรูครั้งใหม่

Audi Q7 : พร้อมลุยตลาดเอสยูวีหรูครั้งใหม่

Audi Q7 : พร้อมลุยตลาดเอสยูวีหรูครั้งใหม่
Create Date :26 ธันวาคม 2557 Last Update :26 ธันวาคม 2557 15:33:53 น. Counter : 1048 Pageviews. Comments :0