ไม่มีใครเกิดมาสวยเป๊ะแน่นอึ๋มกันทุกหรอกน๊า ครั้นใคร่อยากเลือกอาชีพ “พริตตี้” ย่อมต้องมีการลงทุน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งร่างกับหนังหน้า อัพนม เสริมดั้ง ฉีดคาง เย็บปาก ยัดก้น ฯลฯ แถมต้องเจียดงบฯ รายเดือนบำรุงรักษาสภาพให้โกยเงินได้มากที่สุดภายในระยะเวลาจำกัด

       **************

       “สาเหตุที่ผู้หญิงสวยเข้าขั้นนางเอกมักชอบเข้ามาในวงการพริตตี้กันเยอะ เพราะไม่ต้องใช้ความสามารถอะไรมากมาย อย่างการเป็นดารา ต้องไปแคสติ้ง เรียนแอคติ้ง ต้องเพาะบ่มตัวเองให้มีความสามารถก่อน

       แต่หากเป็นพริตตี้ คุณเป็นใครก็ได้ แค่สวย ความสามารถคุณไม่ต้องมีมาก แค่ยิ้มเก่ง ยืนสวยๆ ก็พอ” แหล่งข่าวอดีตพริตตี้ พูดให้ ผู้จัดการ Live ฟัง

       อาชีพพริตตี้มีอายุการใช้งานประมาณ 10 ปีโดยเฉลี่ย ถ้าเข้ามาในวงการนี้ตั้งแต่อายุ 20 ปี พอล่วงเข้าไปอายุ 30 ปี ก็ไม่มีงานเข้ามาแล้ว หรืออาจจะไปประกอบอาชีพอย่างอื่นแทน แต่พริตตี้บางคนสามารถอยู่ในวงการได้ถึง 15 ปี

       ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเอง ห้ามปล่อยตัวเองให้หน้าเยิน ร่างพัง เพราะเด็กใหม่ๆ กำลังต่อแถวแย่งคิวเข้าวงการยาวเหยียด

ศัลยกรรมสำคัญเว่อร์ ใบเบิกทางสู่งานและเงิน

       เพราะรายได้ต่อครั้งที่พริตตี้จะได้รับขึ้นอยู่กับ ‘หน้า’ ‘นม’ จึงไม่แปลกใจที่พริตตี้จะรีบไปยกเครื่องใหม่ทั้งตัวเบ้าหน้า นม ผิว เพื่อเป็นใบเบิกทางโชว์ตัวได้งาน แต่หากใครมีต้นทุนหน้าที่สวยอยู่แล้ว ก็โชคดีไป แต่สุดท้ายไม่ว่าจะอย่างไร ก็ต้องไปเติมนั่นนิดฉีดนี่หน่อยกันทุกคน

       “ลูกค้าจะระบุชัดเลยว่า ต้องการพริตตี้หน้าอก 34 นิ้วขึ้นไป ขอขาวจริงไม่โบ๊ะ ตัวไม่เทา ขอแคสติ้งจากรูปที่ไม่ใช้แอปพลิเคชั่น ขอตัวจริงสวยเหมือนในรูป” พริตตี้ตัวแม่ เผย

       “อันดับแรกที่พริตตี้ส่วนใหญ่ทำคือ จมูก รองลงมาคือ ตา และคาง ส่วนหน้าอกสำคัญมาก ยิ่งใหญ่ยิ่งดี เพราะเสื้อผ้าส่วนใหญ่ของพริตตี้จะต้องโชว์สัดส่วน

ส่วนใหญ่เป็นเสื้อสายเดี่ยว เกาะอก หากไม่มีหน้าอก จะไม่เห็นร่องและเนินนมทำให้หมดความน่ามอง ไม่เรียกลูกค้า อีกทั้งหน้าอกใหญ่ยังสามารถเลือกงานเซ็กซี่ได้ เพราะงานเซ็กซี่จะได้ค่าจ้างเยอะ อย่างพริตตี้โชว์ล้างรถรายได้ก็วันละเกือบหมื่น ดังนั้นพริตตี้สายเซ็กซี่ และหากใจกล้าด้วย งานจะเยอะ และเงินดี ถ้าอยากให้ได้ทุกงาน ก็ต้องยอมโชว์บ้าง ยอมรับเรื่องเซ็กซี่ได้

ส่วนใครก้นแฟบ ใส่เสื้อผ้าแล้วไม่สวยไร้ส่วนเว้าส่วนโค้งก็จะไปเสริมก้นฉีดสะโพกให้กลมกลึง หรือบางคนต้นแขน ต้นขาใหญ่ ก็ไปดูดไขมันออกเพื่อให้เล็กกระชับมากขึ้น”

       ราคาการทำศัลยกรรมแต่ละครั้งยังขึ้นอยู่กับศัลยแพทย์ด้วย ราคาจะไม่เท่ากัน ซึ่งบางคนอาจจะทำงานเก็บเงินแล้วทยอยทำศัลยกรรมไปทีละส่วนจนครบในที่สุด

       พริตตี้ตัวแม่บอกว่า ทุกคนจะรู้สึกว่าเวลาถ่ายรูปต้องออกมาเป๊ะ ตัวจริงจะเป็นอย่างไรไม่รู้ หน้าจะดูประหลาด ดูหลอก ขาวโบ๊ะเพราะฉีดกลูตาไธโอน จนตัวซีด แต่ถ่ายรูปแล้วออกมาต้องสวยเพอร์เฟกซ์เพื่อได้งาน พวกเธอก็พร้อมจะผ่านความกลัวเรื่องอันตรายจากพิษศัลยกรรมไปได้อย่างไม่คิดมาก

       ดังนั้นพริตตี้จึงจำเป็นต้องรักสวยรักงาม มิฉะนั้นจะสู้คนอื่นไม่ได้ และไม่ได้งาน

       “พริตตี้เกิดใหม่มีมาก ทั้งสวยสูงอึ๋ม จึงจำเป็นต้องเชือดเฉือนงานกันด้วยความสวยและนม”

       ดังนั้นเมื่อเบ้าหน้าเก่าดูไก่กาธรรมดา จึงต้องพึ่งมีดหมอและการศัลยกรรม แม้มูลค่าของการศัลยกรรมจะสูงหลักแสน บางคนเหยียบล้าน แต่เมื่อเทียบกับเงินที่ได้รับต่อเดือนหลักแสนขึ้น ปีเดียวก็ถอนทุนขึ้นแล้ว ดังนั้นคุ้มค่าต่อการลงทุน! เพราะความสวยเป็นใบเบิกทางชั้นดีในทุกวงการ

บำรุงรักษาร่าง ประคองเบ้าหน้าให้เป๊ะทุกเดือน

       หลังจากศัลยกรรมโมดิฟายหน้าและร่างแล้ว การบำรุงรักษาก็เป็นภารกิจที่ขาดไม่ได้ เพื่อคงความสวยเป๊ะเด้งดึ๋งอยู่ดังเดิม

       การดูแลบำรุงรักษาให้สวยสต๊าฟตลอดการทำงาน เช่น ต้องโบท็อกซ์กรามทุก 6 เดือน ฉีดฟิลเลอร์เพิ่มคางให้เรียวและจมูกคมเป๊ะทุกปีต้องมา จำเป็นต้องจ่ายเพื่อรักษาโครงหน้าเรียว (Vshape)

       งานผิวก็อย่าพร่อง ใครผิวขาวก็โชคดีไป แต่หากผิวคล้ำต้องทานวิตามินเสริมให้ผิวผ่อง ฉีดกลูตาไธโฮนให้ออร่า

       นอกจากนี้ การเป็นพริตตี้ยังต้องทำตัวให้สวยเข้าไว้ เรื่องเสื้อผ้า หน้า ผม จึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ ยิ่งหากใช้แบรนด์เนมก็ต่อยอดให้ได้งานได้หลายระดับ

       “หากถือกระเป๋าราคาถูกจะทำให้ภาพลักษณ์พริตตี้คนนั้นดูโลว์ จำเป็นต้องซื้อกระเป๋าแอร์เมส ชาแนล หลุยส์วิคตอง มาถือบ้าง เพราะการสร้างภาพลักษณ์ให้ดูดีจะทำให้ได้งานหลายระดับด้วย ถือแล้วดูอัพเกรด ดูดี เพิ่มมูลค่าให้ตัวเอง” พริตตี้ตัวแม่บอกเคล็ดลับทำตัวแพง แล้วจะได้งานหรูจ่ายหนัก

ยิ้มเก่งๆ ยืนสวยๆ รายได้เดือนละเป็นแสนๆๆ

สำหรับพริตตี้ตัวท็อป รายได้ต่อเดือนประมาณ 100,000 - 200,000 บาท แต่หากพริตตี้ระดับกลางรายได้ก็ประมาณ 30,000 - 50,000 บาทตามลำดับ

อย่างงานมอเตอร์โชว์ พริตตี้แบรนด์รถยนต์จะได้ประมาณวันละ 3,000 - 4,000 บาท และงานจะมีติดกัน 10 วัน ให้เป็นเงินก้อนตอนจบ

กรณีเป็นพวกบูธเครื่องเสียง ฟิล์มกรองแสง หรือพวกแอสเซสเซอรีต่างๆ ของรถยนต์ รายได้ต่อวันจะประมาณ 1,500 - 2,500 บาท ดังนั้นหากลูกค้ามีบัดเจ็ทให้ทางออร์แกไนซ์แค่วันละ 1,500 บาท ก็จะได้พริตตี้สูงไม่ถึง 160 เซนติเมตร หน้าอกไม่ใหญ่นัก หน้าตาธรรมดา

ส่วนงานแถลงข่าว เช่น เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ มักจะจ้างพริตตี้ประจำจุดต่างๆ คอยพาท่านประธานขึ้นเวที ยืนสวยๆ ต้อนรับสื่อมวลชน หรืออยู่ตามบูธเล่นเกมส์ต่างๆ รายได้ประมาณ 1.500 - 3,000 บาทต่องาน

ส่วนใหญ่พริตตี้ไม่ค่อยเลือกงาน จะขยัน หนักเอาเบาสู้ รับงานเช้า ตกเย็นไปอีกงาน ได้เงินหลายทาง ยิ่งคนไหนประหยัดไม่ฟุ้งเฟ้อ เช่น รายได้เป็นแสนแต่ใช้แค่หมื่นเดียว เงินเก็บก็จะเยอะมาก

นอกจากนี้ การเป็นพริตตี้ยังสามารถต่อยอดงานอื่นได้มากมาย เช่น ดารา นางแบบ พิธีกร รีวิวสินค้าครั้งละ 2,000 - 3,000 บาท หากยอดฟอลโลว์เยอะในไอจี เฟซบุ๊ก

       แหล่งข่าวอดีตพริตตี้เม้าท์ให้ฟังว่า บางคน ไม่ได้มีอาชีพพริตตี้อย่างเดียว ยังมีงานเสริมซึ่งงานแบบนี้จะมีมาตลอด เช่น งานเอ็นเตอร์เทน กินข้าว ไปต่างประเทศกับนักธุรกิจ นักการเมือง และกลุ่มในไลน์ของพริตตี้จะมีการโพสต์หาพริตตี้ระบุและวงเล็บไว้เลยว่า ซั่ม หรือไม่ซั่ม ราคาก็จะอีกเรท จะแลกกับชาแนล 1 ใบ หรือเงินสด ตามจะตกลงกัน

พลีร่างเข้าออกห้องผ่าตัด จ่ายบำรุงรักษาอวัยวะทุกเดือน คุ้มไหม?

       “คุ้มที่สุด” พริตตี้สายเซ็กซี่บอก

       “ต้องศัลย์ในช่วงเวลาเหมาะสม ไม่ทำในช่วงเด็กเกิน และไม่ควรทำตอนแก่เกินไป เพราะใช้งานไม่คุ้ม ขึ้น 30 ปี ลูกค้าก็มักจะไม่เรียกใช้งานแล้ว”

       ส่วนรายได้สำหรับพริตตี้ตัวท็อป เธอเปิดเผยว่า

       “หากคิดต่อปีก็แตะ 2 ล้านบาท”

       พริตตี้นางไหนทำตัวสวยคงกระพันวางตัวดีมีมูลค่า มีความสามารถอื่นพ่วง ถึงอายุแตะเลข3 ยังสามารถต่อยอดงานอื่นได้อีกด้วย เช่น ทำธุรกิจผลิตภัณฑ์ความงาม พิธีกร นางแบบ ดารา เพราะทำงานในวงการนี้จะทำให้รู้จักคนเยอะ

       ที่สำคัญ ส่วนมากพริตตี้มักได้แฟนรวย ต่อยอดความรวยจากสิ่งที่ลงทุนไปกับหน้าและร่างขึ้นไปได้อีก มีแต่ได้กับได้!!!

ขอบคุณ ภาพประกอบจาก //www.iphotoall.com

ข่าวโดย ASTVผู้จัดการ Live