bloggang.com mainmenu search
“ปูอลาสก้า” เป็นปูที่มีถิ่นอาศัยอยู่แถบทะเลแบริ่ง และอ่าวอลาสก้า (พื้นที่ทะเลระหว่างสหรัฐอเมริกาและรัสเซีย) และที่ทะเลแบริ่งนี้ก็มีความลึกค่อนข้างมากเพราะใต้ทะเลมีหุบเหว มีความลึกเฉลี่ย 1,600 เมตร และยังมีอุณหภูมิที่ต่ำมาก อาจจะอยู่ที่ 0 องศาเซลเซียส หรือติดลบ

       ทั้งนี้การจับปูอลาสก้าขึ้นมาย่อมต้องต่อสู้กับสภาพอากาศที่หนาวเย็นเป็นอันมาก แถมด้วยคลื่นลมในแถบนั้นก็ยังแรง มีคลื่นสูงมากตลอดเวลา ผู้ที่มีอาชีพจับปูอลาสก้า (หรือที่เรียกว่า Deadliest Catch) จึงต้องเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรงมาก มีการเตรียมพร้อมทั้งร่ายกาย อุปกรณ์การทำประมง และอุปกรณ์ป้องกันอันตรายต่างๆ เพื่อให้สามารถอยู่รอดปลอดภัย จับปูมาขายได้ตามที่ต้องการ และทุกครั้งที่มีการจับปูอลาสก้านั้น จะต้องมีชาวประมงตายจากการจับ ด้วยเหตุที่ว่า ผู้จับตกลงไปในน้ำซึ่งหนาวจัด และเกิดภาวะสูญเสียความร้อนอย่างเฉียบพลัน นั่นเอง และด้วยเหตุนี้เองราคาปูอลาสก้า จึงมีราคาต่อกิโลกรัมค่อนข้างสูง

       แล้วเนื่องจากปูอลาสก้าต้องนำเข้ามาจากต่างประเทศ ราคาที่เข้ามาจัดจำหน่ายในประเทศไทยจึงมีราคาค่อนข้างสูง เฉลี่ยตกกิโลกรัมละ 3,000 บาท และส่วนใหญ่ตามโรงแรมชั้นนำต่างๆจะนำปูอลาสก้ามาประกอบอาหาร ซึ่งสามารถสร้างรายได้และเพิ่มมูลค่าของอาหารระดับมาตราฐานโรงแรมได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ประเทศไทยนำเข้าปูอลาสก้า จากรัฐอลาสก้า ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยจะใช้วิธีน็อตปูด้วยความเย็น แล้วแพ็คใส่กล่องเก็บความเย็นอย่างดี จึงขนส่งมาที่เมืองไทย

       และในช่วงเดือน (กรกฎาคม - กันยายน 2556 ) ทางห้องอาหารจีนดิ เอมเพรส (THE EMPRESSX) โรงแรมรอยัลปริ๊นเซส หลานหลวง ได้จัด “เทศกาลปูอลาสก้า” ขึ้น โดยเชฟสมจิตร เลิศฤทธิ์ เชฟห้องอาหารจีนดิ เอมเพรส ได้กล่าวถึงสาเหตุ ที่เลือกช่วงเวลาดังกล่าวจัดทำโปรโมชั่นปูอลาสก้าขึ้นว่า ปูอลาสก้าในประเทศไทยปัจจุบันนำเข้ามาหลายบริษัท แต่บริษัทที่ทางโรงแรมเลือกใช้นั้น ทางฝ่ายจัดซื้อของทางโรงแรมได้เลือกบริษัทที่มีคุณภาพและเนื้อปูสดใหม่ ส่งตรงจากอลาสก้า จริงอยู่ที่กรรมวิธีของแต่ละบริษัทไม่แตกต่างกันมากนักในการทำให้ปูสด แต่ทางโรงแรมจะนำปูที่ได้รับการน็อคด้วยความเย็นจากทางบริษัท มาแช่ด้วยน้ำเย็นต่อ ทำให้ปูกลับมามีชีวิตอีกครั้งจะเป็นการเพิ่มความสดให้ปูมากยิ่งขึ้น และส่งผลให้ก้ามปูมีสีแดงอมส้ม สดสวยงามน่ารับประทาน รวมถึงช่วงเวลาในการทำโปรโมชั่นเป็นช่วงเวลาที่ปูเนื้อแน่น สด และรสชาติจะหวาน มากกว่าช่วงเดือนอื่นๆของปี

เชฟสมจิตร เชฟใหญ่ประจำห้องอาหารจีนดิ เอมเพรส        สำหรับเมนูที่จัดทำโปรโมชั่นนั้นจะเป็นเมนูสไตล์จีน เนื่องจากเชฟสมจิตร เป็นเชฟใหญ่ประจำห้องอาหารจีนดิ เอมเพรส (THE EMPRESSX) โรงแรมรอยัลปริ๊นเซส หลานหลวง มีความรู้ทางด้านปูอลาสก้า จึงมองเห็นว่าเนื้อปูที่มีอยู่ในโรงแรมมีหลายชนิด หลายขนาด จึงลองนำปูอลาสก้ามาผัดกับซอสต่างๆของจีน ซึ่งมีทั้งรูปแบบปูที่แกะเรียบร้อยแล้วและนำมาผัดกับวัตถุดิบต่างๆ หรือก้ามปูอลาสก้าที่ยังไม่ได้แกะเนื้อออกทั้งหมด มีหลากหลายเมนูที่ชวนลิ้มรส อาทิ เนื้อก้ามปูอลาสก้าผัดแห้งฮ่องกง , เนื้อก้ามปูอลาสก้าผัดซอสพริกฮ่องเต้ หรือ เนื้อปูอลาสก้าผัดซอสพริกสดเสฉวน เป็นต้น ราคาทางโรงแรมจะแบ่งไปตามขนาด มีทั้งไซต์ M และ L ราคาประมาณจานละ 900 บาท++ เป็นต้นไป มาลิ้มรสความอร่อยของปูอลาสก้ากันได้ทั้งมื้อกลางวันและมื้อค่ำ ตั้งแต่เดือนก.ค.-ก.ย. นี้ โทร. 0-2281-3088 ต่อ 147

       * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *


//www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9560000086422
Create Date :15 กรกฎาคม 2556 Last Update :15 กรกฎาคม 2556 21:00:29 น. Counter : 2489 Pageviews. Comments :0