ดูแลน้องสาวให้ดี (หลังใช้งาน) (Lisa)

          ของสงวนของผู้หญิงเราก็มีอยู่เพียงหนึ่งเดียว แล้วคุณรู้จักจิ๊มิของคุณดีพอหรือยังที่จะรู้ว่ามีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นหรือเปล่า?

น้องสาวของเราเป็นอวัยวะที่ยืดหยุ่นมาก มันเล็กพอที่จะสอดผ้าอนามัยเล็ก ๆ ไว้กับที่ได้ แต่ก็ใหญ่พอจะคลอดทารกออกมาได้เช่นกัน นี่เป็นเพราะผนังของช่องคลอดนั้นเหมือนกับผนังของกระเพาะอาหารที่ปกติก็จะเล็กและใหญ่ขึ้นเมื่อจำเป็นนั่นเอง อย่างไรก็ดี เคยมีการศึกษาพบว่าช่องคลอดปกติที่ยาว 2.75-3.25 นิ้วนั้นขยายใหญ่ขึ้นเป็น 4.25-4.75 นิ้วเมื่อถูกกระตุ้น อย่างไรก็ดี ไม่เคยมีการพบว่าขนาดของช่องคลอดสัมพันธ์กับการถึงจุดสุดยอดหรือการตั้งครรภ์แต่อย่างใด เพราะยังมีสิ่งอื่น ๆ อีกมากมายที่คุณควรจะรู้


14 เรื่องที่ผู้หญิงทุกคนควรรู้เกี่ยวกับน้องสาว

1. รู้จักสรีระให้ดี ผู้หญิงหลายคนไม่รู้จักสรีระของตัวเอง ส่วนใหญ่ไม่สามารถระบุได้ว่าส่วนไหนคือ เยื่อพรหมจรรย์ ฝีเย็บ ท่อปัสสาวะ หรือปากมดลูก (สมัยก่อนจึงมีความเชื่อผิด ๆ มากมาย ว่าผ้าอนามัยแบบสอดสามารถหลุดเข้าไปถึงปอดได้เลยทีเดียว) อีกความเชื่อผิด ๆ หนึ่งก็คือการคิดว่าช่องปัสสาวะกับช่องคลอดเป็นช่องเดียวกัน

2. รู้จักหน้าตาของน้องสาว ใช้กระจกบานเล็ก ๆ ส่องสำรวจน้องสาว จำเป็นอย่างยิ่งที่คุณควรจะรู้จักลักษณะของช่องคลอดคุณไว้ จะได้รู้ในเวลาที่มันผิดปกติออกไป

3. คุณไม่จำเป็นต้องใช้น้ำยาทำความสะอาดจุดซ่อนเร้น เพราะช่องคลอดของคุณทำความสะอาดตัวเอง คุณควรหลีกเลี่ยงสบู่และน้ำยาต่าง ๆ ที่อาจทำให้สมดุลของแบคทีเรียบริเวณช่องคลอดเปลี่ยนแปลงไป

4. ตกขาวเป็นเรื่องปกติ ช่องคลอดนั้นเป็น Mucus Membrane ดังนั้น จึงเป็นเรื่องปกติที่ผู้หญิงเราจะมีตกขาว ผู้หญิงบางคนอาจจะมีตกขาวมากกว่าคนอื่น ในขณะที่ยาคุมกำเนิดอาจส่งผลกระทบต่อตกขาวได้

5. คอยระวังไม่ให้ติดเชื้อ โดยปกติแล้วหากติดเชื้อยีสต์จะมีตกขาวสีขาวเหมือนคอตเทจชีส คัน แดง แต่ไม่มีกลิ่น ส่วนการติดเชื้อแบคทีเรียนั้น จะมีกลิ่นคาวโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งตกขาวจะมีสีออกเขียวหรือเหลือง

6. อย่าลืมนัดกับคุณหมอสูติฯ นอกจากตรวจภายในแล้ว หากคุณคัน มีผื่นแดง แสบตกขาวผิดปกติ หรือมีอาการอื่น ๆ นานกว่าหนึ่งสัปดาห์ก็ควรจะไปพบแพทย์ ข่าวดีก็คือถ้ามันไม่มีกลิ่นคาว หรือมีสีเขียว ก็มีโอกาสที่จะไม่เป็นอะไรอันตราย

7. ถ้าคันช่องคลอดอย่าซื้อยาทาเอง เพราะคุณอาจจะบรรเทาอาการได้ชั่วคราวเท่านั้น แต่สารที่ก่ออาการระคายเคืองอาจเพิ่มปัญหาให้คุณในภายหน้า ทำให้อาการคันเป็นวัฏจักรไม่รู้จบ

8. ทีแบ็กไม่ได้ทำให้เกิดการติดเชื้อ ตรงข้ามกับความเชื่อ ทีแบ็กไม่ได้ทำให้เกิดอาการติดเชื้อยีสต์ แต่ถ้าคุณมีอาการติดเชื้อยีสต์หรือมีอาการอักเสบอื่น ๆ ทีแบ็กก็อาจทำให้รุนแรงมากขึ้น

9. จะโกนหรือไม่ขึ้นอยู่กับคุณ ผู้หญิงบางคนชอบโกนขนในที่ลับ บางคนชอบแว็กซ์ หรือบางคนก็ปล่อยตามธรรมชาติไปเลย ซึ่งคุณสามารถเลือกที่เหมาะกับคุณมากที่สุดได้ตามใจชอบ

การโกนขนก็อาจเป็นทางเลือกที่ง่ายที่สุด แต่มีข้อเสียก็คือ ผิวระคายเคืองและอาจมีรอยจุดแดง ๆ ควรโกนด้วยตัวเองหลังจากอาบน้ำอุ่นดีกว่า แล้วค่อยใช้น้ำแข็งประคบทีหลัง

10. ควรรู้รอบเดือนตัวเอง หญิงสาวไม่ค่อยเข้าใจว่าประจำเดือนที่ปกตินั้นเป็นอย่างไร การมีรอบเดือน 21-40 วัน ครั้งละ 7 วัน หรือต่ำกว่านั้นเป็นเรื่องปกติ

สิ่งที่ผิดปกติคืออะไร? เช่น ประจำเดือนมา 10 วันไม่หยุด มีลิ่มเลือดมาก หรือปวดประจำเดือนเมื่อทำกิจกรรมบางอย่าง

11. แม้แต่ใช้ถุงยางอนามัย คุณก็ยังติดโรคได้ เพราะถุงยางอนามัยนั้นมีโอกาสล้มเหลวประมาณ 15% แต่เราถูกทำให้คิดว่าถุงยางปลอดภัยป้องกันโรคและการตั้งครรภ์ได้ 100% ซึ่งความจริงไม่เป็นเช่นนั้น

12. แม้แต่กินยาคุมก็ตั้งครรภ์ได้ แม้ว่าคุณจะกินอย่างถูกวิธี แต่ยาคุมกำเนิด ก็มีโอกาสล้มเหลวถึง 5%

13. เซ็กส์ไม่ควรจะเจ็บ ผู้หญิงหลายคนทนเจ็บโดยไม่ปริปากเพราะอายเกินไป คุณควรจะนัดพบสูตินรีแพทย์เพื่อค้นหาสาเหตุที่ทำให้คุณเจ็บ

14. ค้นหาสูติฯ ที่คุณเชื่อใจได้ เป็นสิ่งสำคัญที่ควรจะทำความรู้จักกับสูติฯ ของคุณให้มากพอก่อนที่จะทำการรักษา


Expert’s Corner

ตอบปัญหากวนใจ แต่ไม่กล้าถามของน้องสาวกับเรื่องบนเตียง โดย พญ.สิรนาถ นุชนาถ สูติฯ ศูนย์สุขภาพสตรี ร.พ.สมิติเวช สุขุมวิท

หลังมีเซ็กส์แล้วมีเลือดปนในปัสสาวะปกติรึเปล่า

          ถ้าหลังจากมีเซ็กส์แล้วพอเราไปปัสสาวะมีเลือดปน หมอว่าน่าจะเป็นเลือดออกจากช่องคลอด ไม่ได้มาจากกระเพาะปัสสาวะ เพราะช่องปัสสาวะนั้นคือ ช่องหนึ่ง ส่วนช่องคลอดก็อีกช่องหนึ่ง ถ้าเคยตรวจเช็กทุกปีว่าเราไม่มีมะเร็งปากมดลูกหรือไม่มีโรคอะไรก็ไม่อันตราย แต่บางคนเช็กทุกปี แข็งแรงดี แต่ก็ยังมีเลือดออกได้ มันอาจจะเกิดจากการกระแทกบริเวณช่องคลอดแล้ว เส้นเลือดฝอยแตก อันนี้ก็ไม่อันตรายอะไร แต่วันเดียวก็หายแล้ว สมมติว่ามีกิจกรรมกันตอนกลางคืน หลังจากนั้นส่วนใหญ่อีก 24 ชม. ก็หายแล้ว แต่ถ้าออกเยอะขนาดต้องใส่ผ้าอนามัยละก็อันนี้ก็เป็นปัญหาแล้ว

          แต่ที่กล่าวมานี่เราหมายถึงว่าตรวจเรียบร้อยแล้วนะคะ ไม่ใช่ว่าไม่เคยตรวจแล้วเข้าใจว่าเป็นเส้นเลือดฝอย ก็เลยไม่ตรวจ มันอาจจะเป็นอย่างอื่น เช่น มะเร็งปากมดลูก ซึ่งมีการอักเสบอยู่ พอกระแทกโดนก็อาจมีเลือดออกมาได้ หรือเป็นติ่งเนื้อยื่นออกมามันก็อาจจะมีเลือดออกได้ เพราะฉะนั้นถ้าคุณมีปัญหาแบบนี้ ก็ควรมาตรวจภายในครั้งแรกก่อน แต่ถ้าตรวจไม่พบแล้วก็อาจจะเป็นเส้นเลือดฝอยก็ได้ หรือถ้าไม่เคยตรวจเลย จะสงสัยว่าเป็นเส้นเลือดฝอยไม่ได้ ต้องตรวจให้เรียบร้อยเสียก่อน

ไม่ชอบมีเพศสัมพันธ์เพราะเจ็บมากเกิดจากปัญหาอะไรได้บ้าง

          หลายคนมาหาหมอเพราะเจ็บมาก อย่างแรกก็คือ ต้องตรวจเช็กว่าไม่มีอะไรนะ แน่นอนที่ว่าจะต้องอักเสบเหมือนคนเราที่หากเจ็บคอแล้วยิ่งใช้ก็ยิ่งเจ็บ หรือถ้าเป็นมะเร็งก็อาจเจ็บที่ปากมดลูกได้ หรือหลังคลอดหลายคนฮอร์โมนยังไม่เข้าที่ ช่องคลอดแห้งก็เจ็บ ในวัยทองบางคนก็เช่นเดียวกัน ยุ่งกับแฟนแล้วเจ็บอีก คือต้องหาสาเหตุว่าเกิดจากอะไร จะเป็นเชื้อรา แบคทีเรีย ซึ่งไม่มีเพศสัมพันธ์ก็ติดเชื้อราได้ มันคือการที่ร่างกายอ่อนแอ อย่างเราเป็นฟันคุดแล้วไปซื้อยาแก้อักเสบกินปรากฏว่ามันฆ่าเชื้อเล็กโตบาซิลลัสในช่องคลอดตายหมด ประจวบเหมาะกับการที่เราไปเข้าห้องน้ำไม่สะอาด มีเชื้อสปอร์เต็มไปหมดกระเด็นเข้ามาก็เกิดเชื้อราได้แล้ว ถ้ามีการอักเสบอยู่ ยุ่งกันมันก็เจ็บ หรืออาจจะเป็นติ่งเนื้อฮอร์โมนหรือกินยาคุมนานจนเมนส์ไม่มาเลย ก็ต้องปรับฮอร์โมน หรือมาพบแพทย์ เพื่อจะได้รักษาตามอาการค่ะ

หลังมีเพศสัมพันธ์ต้องทำความสะอาดมากกว่าปกติรึเปล่า

          แนะนำว่าอย่าเพิ่งหลับ ขอให้ลุกขึ้นมาปัสสาวะซะ จะได้ลดการเกิดกระเพาะปัสสาวะอักเสบเพราะจะช่วยไล่ปัสสาวะที่อั้นอยู่ ไล่แบคทีเรียออกไปเสีย แล้วก็ไม่จำเป็นต้องฉีดล้างเข้าไปในช่องคลอด ล้างแค่ข้างนอกก็พอ ไม่ต้องสวนล้างเพราะอสุจิเป็นสิ่งที่สะอาดมากอยู่แล้ว หมอไม่ซีเรียสเรื่องน้ำยาทำความสะอาด น้ำยาอาจจะช่วยได้เวลามีประจำเดือน เพราะช่วงนั้นภูมิคุ้มกันในร่างกายจะลดลงน้อยที่สุด ถ้ามาเจาะเลือดเช็กร่างกายเราจะอ่อนแอ แบคทีเรียข้างในโดนผนังมดลูกลอกออกมา ก็อาจจะติดเชื้อได้ง่ายกว่าปกติ ใช้น้ำยาทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นล้างแค่ข้างนอกก็พอ แค่นี้ก็สะอาดและช่วยขจัดกลิ่นหมักของเลือดได้แล้วค่ะ










ขอขอบคุณข้อมูลจาก