ในช่วงกว่า 2 ปีที่ผ่านมา “ซูบารุ” กลับมาสร้างแบรนด์ได้น่าพอใจ จากการเปิดตัวทำตลาดของ “ซูบารุ เอ็กซ์วี” รถอเนกประสงค์แบบครอสโอเวอร์ แต่ตลาดดังกล่าวก็มีรถรุ่นใหม่ๆ มาแข่งมากขึ้นเช่นกัน จนซูบารุในไทยต้องปรับกลยุทธ์การทำตลาดใหม่ ทั้งในเรื่องตัวสินค้าและโดยเฉพาะการปรับราคาลงเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ทำให้ขณะนี้สถานการณ์ซูบารุพลิกกลับมาทะยานแรง พร้อมได้รับไฟเขียวจากบริษัทแม่มอเตอร์ อิมเมจ และเจ้าขอแบรนด์ฟูจิ เฮฟวีฯ สนับสนุนให้ลุยเต็มที่...

นับว่าสร้างความฮือฮาทีเดียว จากการประกาศปรับโครงสร้างราคาของรถยนต์ซูบารุลงมาเกือบยกแผง ตั้งแต่กว่า 1-5 แสนบาท รวมถึงรถรุ่นธงอย่าง “ซูบารุ เอ็กซ์วี” ที่เพิ่งมีการปรับเพิ่มไลน์ผลิตภัณฑ์และราคาใหม่เมื่อปลายปีที่ผ่านมา โดยจากเดิมมีเพียงรุ่นย่อยเดียวราคา 1.35 ล้านบาท เพิ่มตัวเลือกเป็น 3 รุ่นย่อย ประกอบด้วยรุ่น XV 2.0i ราคา 1.25 ล้านบาท, XV Sports ราคา 1.29 ล้านบาท และตัวท็อปรุ่นตกแต่งรอบคัน XV STI ราคา 1.39 ล้านบาท

แน่นอนการปรับราคาครั้งนี้ย่อมส่งผลต่อลูกค้าเดิม ทำให้ทีซี ซูบารุ ประเทศไทย บริษัทในเครือของมอเตอร์ อิมเมจ (หรือตันจง กรุ๊ป)ที่ได้รับสิทธิทำตลาดรถยนต์ซูบารุในไทยและภูมิภาคอาเซียน ต้องมอบสิทธิพิเศษด้านบริการหลังการขายและอื่นๆ ซึ่งลูกค้าที่ซื้อรถตามโครงสร้างราคาใหม่จะไม่ได้รับ รวมเป็นมูลค่าใกล้เคียงกับจำนวนเงินของราคาใหม่ลดลงและในส่วนของลูกค้าใหม่ก็มีกระแสตอบรับอย่างมาก

ทั้งนี้จะเห็นได้จากช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้(ม.ค.-พ.ค.) ซูบารุมียอดขายกว่า 1,000 คัน ซึ่งหากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาเติบโตประมาณ 40% แต่หากนับยอดจองเพิ่มขึ้นมากกว่าเท่าตัว โดยเฉพาะซูบารุ เอ็กซ์วี ได้รับกระแสการตอบรับดีมาก หรือมียอดขายมากกว่า 80% ของรถทั้งหมด และรถสปอร์ตซูบารุ บีอาร์ซี (Subaru BRZ) ก็เช่นเดียวกันทำได้แล้วประมาณ 40 คัน ซึ่งเทียบเท่ากับยอดขายตลอดทั้งปี 2557 ที่ผ่านมา ทำให้เชื่อว่าตัวเลขการขายของซูบารุในประเทศไทยปีนี้ น่าจะบรรลุเป้าหมาย 3,000 คันแน่นอน จากปีที่ผ่านมียอดขายทั้งหมดประมาณเกือบ 2,000 คัน

อย่างไรก็ตาม โครงสร้างราคาใหม่ของซูบารุ เอ็กซ์วี จะยืนเช่นนี้ตลอดไป หรือจะสิ้นสุดทันที เมื่อรุ่นปรับโฉม หรือไมเนอร์เชนจ์ของเอ็กซ์วีใหม่วางตลาดช่วงปลายปี หรือในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2015 โดยประเทศไทยได้รับเลือกให้เป็นสถานที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในอาเซียน เพราะเป็นตลาดที่ซูบารุประสบความสำเร็จมาก

สำหรับในรุ่นไมเนอร์เชนจ์ของ ซูบารุ เอ็กซ์วี ยังไม่มีรายละเอียดการปรับรูปลักษณ์ หรือสมรรถนะออกมา แต่หลายสื่อคาดว่าจะปรับแต่งหน้าตาไม่มากนัก และบางกระแสระบุจะมีการนำรถต้นแบบรุ่นเอ็กซ์วี สปอร์ต(XV SportConcept) ที่เผยโฉมในงานโตเกียว ออโต ซาลอน 2015 เมื่อต้นปีที่ผ่านมา มาพัฒนาให้เป็นเวอร์ชันไมเนอร์เชนจ์ที่จะแนะนำสู่ตลาดในช่วงครึ่งหลังของปีนี้

นอกจากซูบารุ เอ็กซ์วี ใหม่ ที่จะเป็นไฮไลต์แนะนำสู่ตลาดช่วงปลายปีนี้ ทีซี ซูบารุ ประเทศไทย ยังกำลังพิจารณาเตรียมนำเข้ารถรุ่นใหม่ “ซูบารุ เลโวร์ก”(Subaru LEVORG) รถอเนกประสงค์แบบสเตชันแวกอน หรือกลุ่ม Tourerมาเสริมไลน์ผลิตภัณฑ์ในไทย ซึ่งจะว่าไปเลโวร์กคือตัวถังแบบแวกอนของรุ่นเลกาซี(Legacy) โฉมใหม่ ที่นำมาเปิดตัวพร้อมกับ “ซูบารุ เอาท์แบ็ค”(Outback)ใหม่ เมื่อปลายปีที่ผ่านมา เพียงแต่ทางทีซี ซูบารุ เลือกทำตลาดขายเฉพาะรุ่นเอาท์แบ็คที่ใช้โครงสร้างตัวถังร่วมกัน เพราะเห็นว่าตัวถังแบบซีดานของเลกาซีไม่น่าจะได้รับความนิยมในไทย

ดังนั้นจะว่าไป ซูบารุ เลกาซี โฉมใหม่ หรือเจเนอเรชั่นที่ 6 มีโครงสร้างตัวถังร่วมกัน 3 แบบ คือเป็นรุ่นซีดานในรุ่นเลกาซี ส่วนอีกแบบเป็นครอสโอเวอร์รุ่นเลกาซี เอาท์แบ็ค หรือในตลาดโลกเรียกเอาท์แบ็ค และสุดท้ายเป็นแบบสเตชันแวกอน “เลโวร์ก” ที่เตรียมจะนำเข้ามาทำตลาดในไทยปลายปีนี้ จึงไม่แปลกจะเห็นรูปลักษณ์ของรถทั้งสาม 3 รุ่น มีส่วนคล้ายๆ กันอย่างกรอบไฟหน้าและกระจังหน้า โดยปรับเพียงรายละเอียดภายใน พร้อมกับเปลี่ยนกันชนหน้าและไฟตัดหมอกให้แตกต่างกันออกไปตามสไตล์ของรถแต่ละรุ่น

ขุมพลังของซูบารุ เลโวร์ก ในต่างประเทศมีให้เลือก 2 บล็อก เป็นเครื่องยนต์บล็อกใหม่FB16 แบบ 4 สูบ 16 วาล์ว1.6 ลิตร DIT หรือระบบฉีดเชื้อเพลิงตรงเข้าสู่ห้องเผาไหม้ (Direct Injection) พ่วงด้วยเทอร์โบชาร์จ ให้กำลังสูงสุด170 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตัน-เมตร และบล็อก FA20 ขนาด 2.0 ลิตร DIT 300 แรงม้า ที่วางในรุ่นWRX STIซึ่งทั้งสองต่างติดตั้งระบบขับเคลื่อนแบบสี่ล้อ AWD ส่งกำลังระบบเกียร์ CVT Lineartronicในรุ่น1.6และรุ่น 2.0 เป็นแบบSport Lineartronic

ในส่วนของประเทศไทย น่าจะนำเข้าจากญี่ปุ่นเป็นรุ่น 1.6 DIT เพื่อมาทำตลาดในช่วงปลายปี หรืองานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2015 ซึ่งจะเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าที่ชื่นชอบรถอเนกประสงค์แบบแวกอน หรือ SportTourerจากปัจจุบันที่มีรถอเนกประสงค์ให้เลือก 3 แบบ 3 สไตล์ กับรุ่นธงซูบารุ เอ็กซ์วี, เอาท์แบ็ก และรุ่นใหญ่ฟอเรสเตอร์ โดยราคาของเลโวร์กไม่น่าจะเกิน 2 ล้านบาท...











//manager.co.th/Motoring/ViewNews.aspx?NewsID=9580000065638