“สบายดี” คำทักทายเพราะๆ ผ่านเสียงหวานๆ จากสองสาวตัวแทนจากบ้านพี่เมืองน้องที่เราไม่เคยลืม ด้วยความสัมพันธ์อันยาวนานและเหนียวแน่นของไทยกับลาว วันนี้ทั้งสองสาวได้เป็นตัวแทนจากภาพยนตร์สัญชาติลาวแท้ๆ “ฮักอ่ำหล่ำ” หนังโรแมนติกคอเมดี้ ที่กำลังจะเข้ามาฉายในประเทศไทยด้วยความร่วมมือของ บริษัท เอ็มพิคเจอร์ โดยทั้งสองสาวได้พูดคุยพร้อมบอกเล่าเรื่องราวชีวิตในประเทศลาวให้เราฟัง คำถามที่มักเกิดขึ้นเสมอๆ ว่าวัยรุ่นไทยกับวัยรุ่นลาวต่างกันอย่างไร สาวลาวที่ว่าน่ารักนั้นน่ารักอย่างไร

วันนี้เราไขข้อข้องใจแล้วว่าต้นเหตุของความน่ารักของสาวลาวเหล่านี้ล้วนมาจากการมีกิริยามารยาทที่งดงาม การแต่งกายที่เรียบร้อยคงความเป็นเอกลักษณ์ของประเทศลาว ความงามอย่างที่ผู้หญิงควรจะมี ถึงจะไม่เซ็กซี่หวือหวาแต่ก็งดงามสบายตาอย่างบอกไม่ถูก

แนะนำตัวกันก่อนเลยครับ
กิ๊ก : สบายดี(สวัสดี)ค่ะ ชื่อ ไพลินดา พิลาวัน ก่อนที่จะก้าวเข้ามาในวงการก็ประกวดอยู่ที่โรงเรียนในประเทศลาว ในปี 2007 เป็นดาวโรงเรียน และได้เป็นพรีเซ็นเตอร์ของคนอร์อยู่ที่ประเทศลาว เดินแบบ ถ่ายวารสาร เป็นพิธีกร และก้าวเข้ามาประกวดมิสลาวในปี 2009 และก็ได้มาแสดงหนังเรื่องนี้เป็นเรื่องแรก

อาลี่ : สบายดี(สวัสดี)ค่ะ ชื่อ พรมนี โพธิสาร หรือว่า อาลี่ อายุ 19 ปี เป็นนักร้องนำวง Shawty Girl อยู่ที่ลาว เริ่มเข้าวงการมาตั้งแต่อายุ 11 ขวบ เริ่มจากวงการเต้นกับสโมสรลาวบั้งไฟก็ไปเต้นตามงานต่างๆ หลังจากนั้นก็มาเป็นนักร้องกับเพื่อนๆ ที่เต้นด้วยกันอีก 5 คน ซิงเกิลที่ผ่านมาปีที่แล้ว ชื่อว่า “บ่อมีฮักบ่อมีเจ็บ” เป็นสไตล์เพลงป็อปแดนซ์ ก็ได้รับผลตอบรับเกินคาด หลังจากนั้นก็มีงานเข้ามาตลอดเลย เช่น ถ่ายปกนิตยสาร เป็นพรีเซ็นเตอร์ เป็น MC แต่ว่าตัวอาลี่เองก็จะเลือกงานที่เหมาะกับตัวเอง ว่าทำได้ไหม หลังจากนั้นก็มีคนติดต่อให้มาแคสติ้งบทภาพยนตร์เรื่อง “ฮักอ่ำหล่ำ” ตอนแรกๆ ก็คิดอยู่ว่าจะไปดีไหม เพราะไม่เคยแสดงหนังเลย แต่ก็อยากหาประสบการณ์ใหม่ๆ ให้ตัวเองดู ก็ลองไปแคสดู ปรากฎว่าถูกเลือกให้มาแสดงภาพยนตร์เรื่องนี้

กิ๊ก (ไพลินดา พิลาวัน)

อาลี่ (พรมนี โพธิสาร) อาชีพดาราในประเทศลาวเป็นอย่างไรบ้างครับ?
กิ๊ก : ตอนนี้ก็เปิดกว้างมาก มีทั้งศิลปิน ดารา พิธีกร ซึ่งจะรวมๆ กัน ส่วนการใช้ชีวิตของการเป็นดาราในประเทศลาวจะปกติ ธรรมดา ไม่หวือหวามาก และดาราถือได้ว่าเป็นอาชีพหนึ่งเลยก็ว่าได้

อาลี่ : อยู่ลาวการเป็นดาราหรือนักร้องก็ไม่ได้ถือว่าเป็นอาชีพ เพราะวงการจะแคบ คนน้อย ประชากรก็มีอยู่แค่ 6-7 ล้านคน ถ้าอยู่ในตัวเมืองจริงๆ ก็จะยิ่งน้อยกว่า แล้วการเข้าวงการก็เหมือนเป็นแค่กิจกรรมยามว่าง หรือสำหรับคนที่มีใจรักการแสดงจริงๆ มีความสุขที่ได้ทำมันมากกว่า แต่จะถือว่าเป็นอาชีพเลยไหมก็คงจะไม่

อาชีพนักแสดงในประเทศลาวถือเป็นอาชีพที่มั่นคงไหม ทำรายได้ดีกว่าอาชีพอื่นๆ หรือเปล่า?
กิ๊ก : อันนี้อาจจะเป็นช่วงๆ มากกว่า อย่างช่วงน้ำขึ้นก็ต้องรีบตัก แต่ถ้าให้ยึดเป็นอาชีพหลักๆ เลย มันอาจจะไม่แน่นอน ด้วยอายุ ด้วยสังขาร ในเวลาที่เราอยู่ในช่วงกำลังขึ้น ก็อาจจะหาอะไรอย่างอื่นทำด้วย อาจจะเป็นขายเครื่องสำอาง สมมติว่าตอนนั้นเราดังอยู่แล้ว เราใช้ตัวนี้แล้วสวย ก็จะเป็นปัจจัยร่วมกันในการทำธุรกิจ ก็ต้องทำอย่างอื่นร่วมด้วย เพราะยังไม่กว้างมาก ส่วนเรื่องค่าตอบแทนก็ได้มากอยู่ หลักหมื่น หลักแสน เพราะที่ลาวจะไม่ค่อยมีการจัดงานรื่นเริงอะไรมากมาย

อาลี่ : ก็เป็นอาชีพที่ทำรายได้ดี แต่ถ้าเทียบกับประเทศไทยก็อาจจะยังน้อยกว่าเยอะ เพราะการจ้างงานที่โน่นค่าแรงงานมันก็โอเคสำหรับคนลาว อาชีพดารานักร้องก็สามารถทำรายได้เยอะกว่าอาชีพอื่นๆ

คำว่า “ซูเปอร์สตาร์” ในประเทศลาวดังมากขนาดไหน มีคนตามกรี๊ดบ้างไหม?
กิ๊ก : อาจจะมีอยู่บ้าง ถ้าอยู่ในเมืองเลยจะไม่ค่อยมีคนมาตามกรี๊ด แต่ถ้าออกไปบ้านนอกก็จะมีบ้าง ส่วนซูเปอร์สตาร์เลยอาจจะยังไม่มี

อาลี่ : ถ้าเป็นคนที่ดังแบบตามกรี๊ดเหมือนแบบฟีเวอร์เลยก็ยังไม่มี เพราะว่าบ้านเราวงการมันแคบก็จะไม่มีคนที่ดังระดับซูเปอร์สตาร์

เคยมีพวกโรคจิตมาตามคลั่งไคล้ดาราของประเทศลาวบ้างไหม?
กิ๊ก : มีบ้าง จะมาในรูปแบบที่ส่งข้อความมาทางโทรศัพท์มากกว่า มาแบบไม่สุภาพเลย เราเลยหลอนๆ เครียดไปเลย ช่วงแรกๆ ก็มีต่อปากต่อคำบ้างแต่มันไม่จบ หลังๆ เราเลยปล่อยไปเขาก็หายไปเอง ไม่เข้าใจว่าเขาต้องการอะไร แต่ตอนนี้ก็ไม่ค่อยมีแล้ว

อาลี่ : คิดว่าไม่มี เพื่อนๆ ก็ไม่เคยเจอโรคจิตที่มาตามคลั่งไคล้ดารา ส่วนมากคนลาวจะขี้อาย นี่ก็อาจจะเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของคนลาว อาจเป็นเพราะเราไม่ได้มีเสรีในการจะพูด หรือทำอะไร เพราะยังจำกัดและปิดอยู่ คนลาวก็เลยขี้อายและยังไม่กล้าแสดงออกมากเกินไป จะอยู่ในขอบเขตของการคลั่งไคล้ดาราหรือนักร้อง ก็จะไม่มีพวกโรคจิตมาตาม หรืออีกอย่างหนึ่งก็คือคนลาวก็ไม่ได้แต่งตัวเปิดเผยหรือเซ็กซี่จนเกินไป เลยไม่ค่อยเจอพวกโรคจิตสักเท่าไหร่

ดาราในประเทศลาวอยากจะมาเล่นหนังในเมืองไทยมากน้อยแค่ไหน อย่างอเล็กซานดร้าที่เคยมาเล่นละครในไทยคิดว่าเขาโกอินเตอร์ไหม?
กิ๊ก : อเล็กซานดร้าถือว่าเป็นคนหนึ่งที่มีความสามารถมากทางด้านการร้องเพลง ก็ถือว่าเขามีโอกาสที่ดีมากที่ได้มาแสดงอยู่ที่ไทย ใครที่ได้มีโอกาสก้าวเข้ามา ส่วนตัวคิดว่าดีและเป็นจุดเปลี่ยนเลย เพราะจะทำให้อนาคตหรืออาชีพการแสดงพัฒนามากขึ้น แต่มันขึ้นอยู่กับโอกาสว่าจะตกถึงใคร ส่วนตัวเราก็อยากลองทำดูเหมือนกัน ถ้าผู้ใหญ่ให้โอกาส

อาลี่ : ก็เคยมีนั่งคิดอยู่บ้างว่า ถ้ามีคนมาติดต่อเราจะไปดีไหม แล้วเราจะทำได้ไหม เพราะเราเองก็เพิ่งเคยแสดงหนังเรื่องนี้เป็นเรื่องแรก ยังไม่มีประสบการณ์แบบเป็นโปรเฟสชันนัลขนาดนั้น มันก็ยังอีกไกล แล้วเราก็ไม่รู้ว่าเราจะทำได้ไหม แต่ถ้ามีโอกาสก็อยากลองเหมือนกัน อย่างอเล็กซานดร้า ก็ถือว่าเป็นการโกอินเตอร์ เพราะไม่ค่อยมีคนลาวที่จะมาร่วมเล่นหนังหรือละครในประเทศไทย ส่วนตัวของอาลี่เองก็อยากมาร่วมแสดงในเมืองไทยด้วย ถ้ามีโอกาส

เคยมีโอกาสได้รู้จักกับหนุ่มไทยบ้างไหม และระหว่างหนุ่มไทยกับหนุ่มลาวชอบแบบไหนมากกว่ากัน ?
กิ๊ก : เคยรู้จักกับหนุ่มไทยอยู่บ้าง แต่ถ้าเทียบหนุ่มลาวกับหนุ่มไทย หนุ่มลาวจะเป็นคนที่ไม่ค่อยเน้นเรื่องการแต่งตัวมากเท่าไหร่ แต่หนุ่มไทยจะเป็นประมาณว่าจัดเต็ม (หัวเราะ) บางทีจัดเต็มมากเราก็แบบว่า เอ่อออออ จะหน้าใสเกินไปกว่าเราไหม ก็จะกลัวๆ หน่อยนึง ถ้าจะเลือกอาจจะเลือกไม่ได้แต่ขอคนที่จริงใจ ใจเดียวแล้วกัน ลาวหรือไทยก็ได้

อาลี่ : ก็ยังไม่เคยได้คุยกับหนุ่มไทยสักเท่าไหร่ หนุ่มที่มาจีบก็ไม่มีคนไทย เพราะว่าเราอยู่ลาวส่วนใหญ่ก็จะมีแต่คนลาวมาจีบ

ชอบนักแสดงชายไทยคนไหนเป็นพิเศษ?
กิ๊ก : จะเป็นตามกระแส ตอนนี้ก็จะเป็น เจมส์ จิรายุ คนจะรู้จักหมด เขาดูเป็นคนน่ารักดี อบอุ่น และก็ณเดชน์ เพราะคนในประเทศลาวส่วนใหญ่จะรู้จัก หน้าเขาดูมีเอกลักษณ์ดี คือทั้งหล่อและน่ารักปะปนกันอยู่ เขาได้หลายลุค เราก็เป็นคนหนึ่งที่ติดตามละคร

อาลี่ : ก็จะมีอยู่ 2 คนที่ชอบเป็นพิเศษ คนแรกก็จะเป็น ณเดชน์ คูกิมิยะ ชอบเพราะเขาเป็นคนอีสาน ชอบในการแสดง เขาเล่นได้หลายบทบาทแล้วก็สามารถตีบทแตก ทำให้เราเห็นว่าเขาเล่นอย่างเป็นธรรมชาติดี ที่ชอบที่สุดก็จะเป็นละครเรื่อง “แรงปรารถนา” ที่เล่นกับ คิมเบอร์รี่ อีกคนก็จะเป็น เจมส์ จิรายุ รู้ข่าวว่าจะมีละครสุภาพบุรุษจุฑาเทพมาฉาย แต่ไม่ค่อยได้ดูเพราะติดเรียนตอนค่ำ ก็เห็นว่าเจมส์ จิรายุ น่ารักดี แต่ความจริงก็ไม่ได้ชอบแค่หน้าตา เพราะเคยได้ฟังเจมส์ จิรายุ ให้สัมภาษณ์ก็รู้สึกว่าเขาให้สัมภาษณ์เป็นธรรมชาติดี มีนิสัยตลก ขี้เล่น ชอบผู้ชายขี้เล่นแบบนี้อยู่แล้ว

เทรนด์แฟชั่นวัยรุ่นในประเทศลาวเป็นอย่างไรบ้าง?
กิ๊ก : เรื่องแฟชั่นในลาวก็ค่อนข้างทันสมัยเหมือนกัน สื่อตะวันตกหรือว่าสื่ออะไรก็แล้วแต่เข้ามามาก ไม่ว่าจะญี่ปุ่น เกาหลี ไทย เทรนด์การแต่งตัวก็จะมีหลากหลาย ในลาวจะมีห้างสรรพสินค้าที่ขายเสื้อผ้าอยู่มาก ส่วนใหญ่จะเข้ามารับในกรุงเทพฯ แต่คนลาวจะไม่ค่อยแต่งเต็มเพราะว่าถ้าแต่งเต็มปุ๊บ จะดูเป็นคนแปลก ต้องมีความมั่น มีความกล้า ส่วนตัวก็เป็นคนหนึ่งนะที่มั่น (หัวเราะ) ชอบการแต่งตัวอยู่แล้วแบบหลายคนจะไม่กล้าใส่ แต่เราก็ใส่ อะไรประมาณนั้น

อาลี่ : การแต่งตัวก็คล้ายๆ กับวัยรุ่นในประเทศไทย ก็จะตามเทรนด์ไปเรื่อยๆ แต่ส่วนมากการนุ่งผ้าซิ่นก็จะเป็นเอกลัษณ์ของสาวลาวโดยเฉพาะอยู่แล้ว การนุ่งผ้าซิ่นเราก็จะนุ่งเฉพาะเวลาไปโรงเรียน หรือไปตามสถานที่ราชการ การทำงานอยู่ในออฟฟิศ ทุกอาชีพที่เป็นผู้หญิงต้องนุ่งซิ่น เข้าวัดอะไรอย่างนี้ แต่เราก็ใส่กางเกงขาสั้นได้แต่ต้องไปที่อื่น ดูหนัง ฟังเพลง ปกติทั่วไปเหมือนวัยรุ่นที่เมืองไทย เทรนด์วัยรุ่นในประเทศลาวก็จะเน้นการแต่งตัวที่น่ารักใสๆ ไม่ค่อยเซ็กซี่

ส่วนตัวชอบเทรนด์การแต่งตัวสไตล์ไหน?
กิ๊ก : ได้หลายสไตล์ บางทีก็เซอร์เลยอาจจะใส่รรองเท้ากีฬาที่เขาฮิตๆ กันอยู่ ไม่ก็ส้นสูงเลย เปรี้ยวก็ได้ ลุคผู้ใหญ่ก็ได้ หรือบางทีอยากแอ๊บก็แอ๊บไป
อาลี่ : ส่วนตัวอาลี่เองก็จะแต่งได้ทุกสไตล์แล้วแต่อารมณ์ว่าวันนี้อยากแต่งตัวแบบไหน แต่ส่วนมากก็จะเป็นสไตล์กางเกงขาสั้น รองเท้าผ้าใบ เสื้อยืดบ้างเสื้อกล้ามบ้าง สบายๆ มากกว่า

ประเทศลาวเขานิยมใส่ชุดบิกินีหรือชุดว่ายน้ำถ่ายปกนิตยสารบ้างไหม ส่วนตัวได้ใส่บ้างหรือเปล่า?
กิ๊ก : ใส่ไม่ได้เลย แต่ถ้าไปว่ายน้ำอาจจะได้ใส่อยู่แต่นานๆ จะใส่ที ส่วนเรื่องใส่ชุดว่ายน้ำจะใส่ออกสื่อไม่ได้เลย แต่ชุดว่ายน้ำส่วนใหญ่จะใส่แบบขาสั้น และจะไปที่คนไม่เยอะ แต่ถ้าจะถ่ายขึ้นปกถ้าสั้นก็สั้นได้แต่ต้องเลยหัวเข่ามาได้แค่นิดนึง

อาลี่ : ที่ลาวใส่ได้แต่ไม่มีการถ่ายออกสื่อหรือลงแมกกาซีนต่างๆ เพราะว่ามันโป๊เกินไป สำหรับประเทศลาวยังปิดเรื่องแบบนี้อยู่ แต่ว่าถ้าจะใส่กันเองถ่ายรูปลงเฟซบุ๊กแบบนี้ได้ แต่ห้ามออกเป็นสื่อแบบเป็นทางการไม่ได้เลย

เขาว่าสาวลาวเรียบร้อยจริงไหม แล้วแบบไหนที่เรียกว่าไม่เรียบร้อย?
กิ๊ก : เรียบร้อยของเราในที่นี้น่าจะเป็นการพูดการจามากกว่า เพราะว่าคนเราจะเรียบร้อยหรือเป็นคนแรงๆ มันไม่ได้อยู่ที่การแต่งตัว มันอยู่ที่จิตใจ การพูดจาหรือไม่ก็การแสดงออกมากกว่า บางคนอาจจะดูแค่ภายนอกไม่ได้ อาจจะดูแรงๆ แต่เขาอาจเป็นคนตรง หรือบางคนอาจจะแบ๊วแต่อาจจะไม่ได้ใสซื่อก็ได้ประมาณนี้ อย่าไปตัดสินแค่การแต่งตัวหรืออะไรหลายๆ อย่างในขณะนั้น

อาลี่ : ปกติคนเรามันก็ต้องมีทุกประเภทอยู่แล้ว แต่หลายคนพอได้ยินคำว่าสาวลาวปุ๊บ ส่วนใหญ่ก็จะเห็นภาพว่าเป็นสาวที่เรียบร้อยนุ่งผ้าซิ่นตลอด แต่ถ้าเป็นเวลาปกติสาวลาวเองก็จะมีได้ทุกรูปแบบ เปรี้ยวบ้าง อย่างตัวอาลี่เองก็จะเป็นคนดื้ออยู่เหมือนกัน

คิดว่าอวัยวะส่วนไหนในร่างกายของเราเซ็กซี่ที่สุด?
กิ๊ก : สายตา ความสูง ผิวค่ะ
อาลี่ : ส่วนโค้งที่เอว สายตาค่ะ

ในเฟซบุ๊กมีเพจสมาคมหลงรักสาวลาวแห่งประเทศไทย รู้สึกยังไงบ้าง? 
กิ๊ก : มันจะมีหลายสมาคมมากที่เราแอบเห็น ก็รู้สึกว่าเป็นคนไทยเองที่สร้างเพจนี้ขึ้นมา แสดงว่าเขาต้องมาเห็นผู้หญิงลาวแน่เลย เขาต้องเห็นถึงมุมมองของผู้หญิงลาวที่เรียบร้อย เห็นถึงความน่ารักที่ธรรมชาติของเรา รู้สึกภูมิใจนะที่เขามาให้ความสนใจคือจะได้รู้ว่าในมุมกว้างๆ บ้านเรายังมีผู้หญิงสวยๆ อีกมาก เพียงแต่ว่าโอกาสที่เขาจะเข้ามาแสดงความสามารถมันมีน้อย

อาลี่ : ก็เคยเห็นรูปตัวเองลงอยู่เหมือนกัน มีคนเอารูปเราไปให้เขาลง ความรู้สึกก็คือ ก็อาจจะมีคนไทยบางคนเห็นถึงความงามของสาวลาว ซึ่งสาวลาวก็อาจจะไม่ได้สวยเวอร์ แต่เป็นความงามที่มีเสน่ห์ในตัวเอง งามแบบเรียบๆ งามแบบธรรมชาติ คนไทยบางคนอาจจะเห็นถึงจุดนั้นก็เลยสร้างเพจนี้ขึ้นมา

นิยามความเป็นสาวลาวว่าแตกต่างจากสาวๆ ประเทศอื่นยังไง?
กิ๊ก : น่าจะเป็นที่มีความมั่นใจอยู่ในตัว จริงใจ บางทีก็จริงใจเกินร้อย ส่วนเสน่ห์ของสาวลาวน่าจะเป็นพูดเก่งและมีภาษาประจำชาติที่ค่อนข้างไพเราะ
อาลี่ : สาวลาวเป็นความงามแบบเรียบง่าย มีความเป็นธรรมชาติ เรียบร้อย มีเสน่ห์ในตัว มีภาษาพูดที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

ในความคิดของเรา เสน่ห์ของผู้ชายอยู่ที่ตรงไหน แล้วผู้ชายแบบไหนที่สามารถเอาชนะใจเราได้
กิ๊ก : น่าจะเป็นที่ความสูง มีกล้ามหน่อยนึง จะดูเป็นที่น่าจับตามองมาก บุคลิกดี การพูดการจา ห้ามมาลามกนะ เราชอบคนที่อยู่ด้วยแล้วมีความสุข ชอบคนที่ตลก แต่อย่ามาตลกเกิน (หัวเราะ) และก็โรแมนติกด้วย

อาลี่ : ความเป็นสุภาพบุรุษ ให้เกียรติผู้หญิง ไม่ว่าผู้หญิงจะขี้เหร่หรือสวยมากเขาก็ยังให้เกียรติอยู่ มันอาจจะเป็นเสน่ห์ที่อาลี่ชอบในตัวผู้ชาย ก่อนอื่นต้องดูที่มุมมองว่าผู้ชายคนนั้นจะมีมุมมองเดียวกัน จะมองโลกในมุมเดียวกับอาลี่หรือเปล่า มีนิยามความรักแบบเดียวกับเราหรือเปล่า นิสัยอาจจะไม่เหมือนกันก็ได้ แต่ขอให้แค่มองโลกในแง่เดียวกันก็อาจจะอยู่ด้วยกันได้ ต่อมาก็อาจจะเป็นความตลกขี้เล่น อาลี่ชอบคนกวนๆ จะทำให้เรายิ้มได้ตลอดเวลา แต่ถ้ากวนเกินไปก็อาจจะทำให้เรารำคาญได้นะ (หัวเราะ)

ในประเทศลาวเขานิยมทำศัลยกรรมกันบ้างไหม
กิ๊ก : อาจจะมีบ้าง แต่นิยมไหมเราว่าแล้วแต่บุคคล เพราะตัวเราเองก็ไม่ได้แอนตี้อะไร ถ้าทำมาแล้วสวย งานเข้า เงินเข้า ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีให้กับตัวเอง ใครจะไม่อยากมีชีวิตที่ดี คือทำมาให้เรามีเสน่ห์ มีบุคลิกที่ดีมันก็น่าจะดีนะ เพราะการทำศัลยกรรมทุกวันนี้ไม่ใช่เรื่องที่น่าเกลียดเสมอไป ในลาวก็น่าจะเปิดกว้างมากขึ้นแล้ว แต่สำหรับกองประกวดความงามจะห้ามเรื่องนี้อยู่ เป็นกฎข้อห้ามเลยว่าห้ามทำศัลยกรรม แต่ในลาวจะไม่มีหมอศัลยกรรม ถ้าทำต้องข้ามมาทำในไทยไม่ก็เวียดนาม

อาลี่ : ก็ไม่ค่อยมี ที่ไปทำก็จะเป็นส่วนน้อยที่ไปทำ ส่วนมากจะเป็นธรรมชาติหมดเลย ไม่ค่อยมีศัลยกรรม

อยากให้พูดถึงหนังเรื่องนี้หน่อย
กิ๊ก : ก็อยากกจะพูดในฐานะที่ตัวเองรับบทเป็นโสภาในเรื่อง อยากจะสื่อให้เห็นถึงความรักของสาวลาวว่าเวลาที่รักใครแล้วก็จะรักเพียงคนเดียว ถึงแม้จะโดนทิ้งไปยังไงก็ยังรออยู่ ยังมีความหวัง หนังเรื่องนี้จะสะท้อนให้เห็นว่าเรื่องของความรักและความฝันเราก็ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งเพราะบางทีความฝันอาจจะไม่ได้สวยงามในแบบที่เราคิดไว้ มันก็จะสะท้อนมาให้เห็นในสังคมนั่นแหละที่เวลาออกจากบ้านเกิดของตัวเองไปอยู่ในเมืองใหญ่ ทุกอย่างอาจจะไม่ได้สวยงามอย่างที่เราคิดไว้ก็ได้ สุดท้ายเราก็อาจต้องกลับคืนสู่บ้านเก่าของเรามาหาพ่อแม่ มาหาคนรัก มาหาความสุขในที่เดิมๆ ของเรา มันก็ออกแนวสะท้อนสังคมในชีวิตจริง

อาลี่ : เรื่องนี้จะพูดถึง ชีวิตความเป็นอยู่ของคนลาวว่าอยู่บ้านนาว่าเป็นยังไง ผูกพันกับธรรมชาติ เนื้อเรื่องก็จะพูดถึงความรักของชายหญิงคู่หนึ่ง ก็คือ เอื้อยกิ๊ก กับอ้ายศักดิ์ รักกันแต่ว่าอ้ายศักดิ์มีความฝันอยากเป็นนักร้อง ก็เลยไปเป็นนักร้องอยู่ในเมืองแล้วก็ไม่ได้ส่งข่าวกลับมา ก็เลยมีเรื่องทำให้ผิดใจกัน โกรธกันง้อกัน จนวันหนึ่งอ้ายศักดิ์ก็ค้นพบว่าชีวิตการเป็นนักร้องดาราไม่ได้เป็นชีวิตที่สวยงามเสมอไป ก็เลยคิดอยากกลับมาบ้านนา ก็มาง้อสาวโสภา แล้วก็จะมีเรื่องวุ่นๆ เกิดขึ้น มีตัวอาลี่เอง รับบทเป็น อาภร ซึ่งเป็นสาวในเมือง น้องสาวของหัวหน้าค่ายที่อ้ายศักดิ์ไปร้องเพลงอยู่ ก็มีเรื่องกัน ตัวอาลี่เองก็ตามอ้ายศักดิ์ไปที่บ้านนา ที่ให้เรื่องวุ่นๆ เกิดขึ้น เป็นสาวในเมือง พอไปบ้านนาก็จะเอาแต่ใจ บ่นโน่นบ่นนี่ วีนทุกอย่าง ก็ไปเจอพระเอกที่คู่กับอาลี่ชื่ออ้ายเจี้ย

อะไรคือความหมายของคำว่า “ฮักอ่ำหล่ำ” ครับ
อาลี่ : ก็อาจจะแปลได้ว่า “การเข้ากันของทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นความรัก ความเหงา ความเศร้า มันจะทำให้ชีวิตมีรสชาติ แล้วจะรวมถึงการใช้ชีวิตทุกอย่าง อุปสรรคในชีวิต แต่ว่ามันจะเป็นการรวมเข้ากันแบบกลมกล่อม...แบบอ่ำหล่ำ” สรุป อ่ำหล่ำ แปลว่ากลมกล่อม นั่นเอง





//www.manager.co.th/Taste/ViewNews.aspx?NewsID=9560000073100