bloggang.com mainmenu search











First Time with JACKIE!!
(ภาพยนตร์บันเทิง)
Cover Story เรื่อง : MinG

แม้จะเป็นนักแสดงหน้าใหม่แต่ ภาพยนตร์บันเทิง คอนเฟิร์มได้เลยค่ะ ว่า แจ็คกี้ ชาเคอลีน มึ้นซ์ ซึ่งรับบท "พิมพ์พัสตรา" ในละครเรื่อง "เงาพราย" จะไม่ทำให้คุณผิดหวังเลย แม้เจ้าตัวจะออกปากก่อนว่า การทำงานละครนั้นแสนยาก เพราะไม่มีพื้นฐาน ต้องฝึกฝนและเรียนรู้การแสดงมากกว่าคนอื่น นั่นก็เพราะส่วนหนึ่งมาจากวัยของเจ้าตัวที่เพิ่งจะอายุ 17 ปีเท่านั้น เลยทำให้ไม่มีประสบการณ์มากมายนัก แต่หลังจากที่ได้เรียน และได้ลองแสดงดูแล้ว หลายคนออกปากชมสาวน้อยคนนี้ว่ามีพรสวรรค์ไม่ธรรมดาเลย เรามาทำความรู้จักกับเธอก่อนใครเลยดีกว่าค่ะ

จุดเริ่มต้นของการเข้าวงการ

แจ็คกี้ ชาเคอลีน : หนูเริ่มต้นจากการประกวดร้องเพลงค่ะ คือหนูเริ่มเรียนร้องเพลงมาตั้งแต่อายุ 13-14 แล้ว แล้วก็เข้าประกวดมาเรื่อย ๆ จนมาเวที WTV เป็นช่องทีวีทางเชียงใหม่ ตอนนั้นได้รางวัลที่ 1 ก็เลยได้มารู้จักกับพี่ที่เป็นโมเดลลิ่ง เขาก็ชวนให้มาถ่ายโฆษณา ก็ได้ถ่ายโฆษณาที่เชียงใหม่ แล้วก็มีเข้ามาแคสงานในกรุงเทพฯ โฆษณาพอนด์สแล้วก็อีกหลายอย่าง ซึ่ง พี่ปิ่น ณัฏฐนันท์ เห็นหนูจากโฆษณา ก็เลยชวนให้ลองมาแคสละคร แล้วก็ได้เล่นในเรื่อง "เงาพราย" ค่ะ

จริง ๆ อยากเป็นนักร้องมากกว่านักแสดง

แจ็คกี้ ชาเคอลีน : เคยคิดว่าตัวเองอยากเป็นนักร้องค่ะ คือ หนูชอบงานในวงการบันเทิงมานานแล้ว แต่ไม่คิดว่าตัวเองจะได้ก้าวมาเล่นละคร เพราะหนูไม่ใช่คนสวย คิดว่า ถ้าจะเข้าวงการนี้ ร้องเพลงน่าจะเหมาะกับหนูมากกว่า แต่พอได้โอกาสเล่นละคร ก็ต้องไปเตรียมตัวเยอะมาก ๆ เพราะหนูไม่ได้ถนัดทางนี้เท่าไหร่

เริ่มงาน "เงาพราย" ความยากที่ต้องสู้

แจ็คกี้ ชาเคอลีน : เพอรู้ว่าเราได้เล่นแน่ ๆ พี่ปิ่นก็ให้เรียนการแสดงค่ะ เรียนแอ็กติ้ง โชคดีด้วยตรงที่เรื่องนี้หนูได้ร่วมงานกับพี่ ๆ ที่มีประสบการณ์ทั้งนั้น และ พี่โหน่ง วีระชัย ผู้กำกับฯก็ใจดี คือ เข้าใจว่าเราเป็นเด็กใหม่ ให้โอกาสเราไม่ดุ ในเรื่องคาแรกเตอร์ของหนูต้องรับบทเป็น พิมพ์พัสตรา เขาจะเป็นคุณหนูเลย สวยแล้วก็ชอบบริหารเสน่ห์ ชอบแต่งตัวเป็นสาวมั่นใจ ซึ่งมันต่างกับตัวของหนูมาก ตัวจริงหนูเป็นคนซุ่มซาม โก๊ะ ๆ แล้วเรื่องหว่านเสน่ห์เนี่ย หนูก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไง มันยากที่เราจะเข้าใจตอนแรกค่ะ




ปรับลุกส์ให้เริ่ด ต้องเชื่อมั่น

แจ็คกี้ ชาเคอลีน : ตอนแรกเนี่ยต้องบอกตัวเองอยู่ตลอดเวลาว่า เราสวย (หัวเราะ) คือตอนเรียนแอ็กติ้งจะมีวิธีคิดว่า เราต้องคิดก่อนว่าเราเป็นตัวละครตัวนั้น ไม่ใช่ตัวเรา ต้องพยายามเป็นตัวนั้นให้ได้พอมาทำงาน แต่งหน้าทำผมเสร็จแล้ว หนูจะท่องเลย บอกตัวเอง ฉันสวย ฉันสวยที่สุดในโลก คือ ก่อนมาเนี่ยเราเป็นตัวเอง แต่พอเราเปลี่ยนเสื้อผ้าของเรามาสวมของ พิมพ์พัสตรา แล้ว พอเราถอดรองเท้าของเรา มาสวมรองเท้าส้นสูงของพิมพ์พัสตราแล้ว เราต้องเป็นพิมพ์พัสราที่สวย มีเสน่ห์ให้ได้

บุคลิกที่ต้องเปลี่ยน...ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

แจ็คกี้ ชาเคอลีน : เริ่มตั้งแต่ท่าเดินเลยค่ะ คือต้องหัดเดินแบบคุณหนูมั่นใจ ๆ ไม่ว่าเราเดินไปไหนมาไหนเราต้องเดินเหมือนอยู่บนแคตวอล์กตลอดเวลา ซึ่งตัวหนูไม่ใช่คนแบบนั้น คือปกติหนูจะไม่ค่อยสวมรองเท้าส้นสูง จะใส่แต่รองเท้าแตะไม่ก็รองเท้าไม่มีส้น เพราะว่าหนูจะสูงกว่าเพื่อน ๆ อยู่แล้ว เพื่อนจะบอกเสมอว่าอย่าใส่ส้นสูงมานะ แต่มาเล่นละครมันเหมือนต้องมาหัดเดินใหม่เดินยังไงให้ดูมีเสน่ห์ นี่ก็ยากแล้วค่ะ


ความโก๊ะของแจ็คกี้สร้างปัญหาบ้างไหมคะ

แจ็คกี้ ชาเคอลีน : (หัวเราะ) เรื่องซุ่มซ่ามจนเจ็บตัวไม่มีค่ะ ตกส้นสูงก็ไม่มีนะ แต่จะเป็นเรื่องโก๊ะแบบลืมของมากกว่าค่ะ อย่างพี่คอสตูมบอกเราว่า เดี๋ยวน้องใส่กำไลอันนี้เข้าฉากนะ เราก็รับจากพี่เขามา แต่ยังไม่ได้ใส่ แล้วพอเราไปทำอะไรก่อนแต่งหน้า ทำผม พอจะต้องเข้าฉากหนูก็ลืมไปแล้วว่า เอากำไลอันนั้นไปวางไว้ตรงไหน (หัวเราะ) พี่ ๆ ทีมงานก็ต้องช่วยกันหา คือหนูขี้ลืมค่ะ

ฉากแรก...วันแรก เป็นอย่างไรบ้างคะ

แจ็คกี้ ชาเคอลีน : จำไม่ลืมเลยค่ะ วันแรกที่ไปเข้าฉากต้องเข้ากับ พี่ตุ้ย เกียรติกมล หนูก็เกร็งมาก โห ! จะทำพี่เขาช้าไหม แล้วยิ่งบทของฉากวันนั้น หนูต้องดีใจที่พี่ตุ้ยซื้อของมาให้แล้วก็ต้องไปหอมแก้มพี่เขา มันเขินมาก ก่อนถ่ายก็คิดว่าผู้กำกับฯคงไม่ให้เราหอมจริง ๆ หรอกแต่พอมาซ้อมกัน ก็ต้องหอมจริง ๆ แล้ว ตอนนี้ยังจำได้เลยว่า วันนั้นหอมแก้มพี่ตุ้ยไป 7 ครั้ง คือ พอเราเขินบทอะไรที่เราท่องมา เราก็ลืมบ้าง อะไรบ้าง กว่าจะผ่านมาได้ก็หลายเทคเหมือนกัน แต่พี่ตุ้ยน่ารักค่ะ พี่เขาจะให้กำลังใจ คือพี่เขาทำตัวสนิทสนมกับหนูตั้งแต่เจอกัน มันก็ช่วยทำให้หนูไม่เกร็ง ทำให้หนูผ่อนคลาย แต่กว่าจะผ่านซีนนั้นก็แย่เหมือนกันค่ะ




ให้เลือกซีนอารมณ์กับซีนหว่านเสน่ห์ แจ็คกี้ว่าอะไรยากกว่า

แจ็คกี้ ชาเคอลีน : ซีนหว่านเสน่ห์ค่ะ (หัวเราะ) คือซีนอารมณ์เนี่ยหนูว่า เราทุกคนต้องมีประสบการณ์ดีใจ เสียใจ โกรธ กันมาอยู่แล้ว เราพอจะรู้ว่า เราจะแสดงออกมาแบบไหน แต่การหว่านเสน่ห์เนี่ยหนูไม่รู้จักเลย ทำไม่เป็นด้วย มันก็ยาก ในเรื่องหนูต้องไปหว่านเสน่ห์ พี่หนุ่ม ศรราม เข้าฉากปุ๊บก็ไม่ผ่านเลย เพราะเราไม่เข้าใจว่ามันต้องออกมาแบบไหน พี่หนุ่มก็จะสอนว่า เนี่ยเวลามองต้องทิ้งสายตานานหน่อยนะ ต้องมองให้เขารู้สึกว่า ตามเรามาสิคะอะไรแบบนี้ (หัวเราะ) คือหนูเคยนั่งดูละคร หนูก็ไม่คิดว่ามันจะยากขนาดนี้ คือเวลาเราดูเราสนุก แต่พอต้องมาเล่นจริง ๆ เนี่ย การส่งสายตาเป็นอะไรที่ไม่ง่ายเลย

เล่นละครผี กลัวผีไหมเนี่ย

แจ็คกี้ ชาเคอลีน : กลัวค่ะ หนูเป็นคนเชื่อเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว แต่ตอนถ่ายละครเรื่องนี้ ไม่กลัวนะคะ เพราะบรรยากาศในกองละครเนี่ย สนุกสนานมาก ทั้ง พี่หนุ่ม, พี่ตุ้ย, พี่มากี้ ทุกคนปล่อยมุกัน ก็เลยทำให้บรรยากาศในกองสนุกสนานอีกอย่าง ก่อนการทำงาน หนูจะจุดธูปไหว้ขออนุญาตเจ้าที่เจ้าทางทุกครั้ง ตอนถ่ายละครก็เลยไม่มีอะไรน่ากลัวค่ะ

พี่โหน่ง ชื่นชม ว่าแจ็คกี้ มีพรสวรรค์ และมีพลังในการแสดงมาก

แจ็คกี้ ชาเคอลีน : ต้องขอบคุณมากๆ เลยค่ะ แต่พอได้ฟังมันก็กดดันเหมือนกันเนอะ (หัวเราะ) สำหรับพี่โหน่ง หนูบอกได้เลยว่าหนูโชคดีมาก ที่มาเล่นละครเรื่องแรกแล้วเจอพี่เขา อย่างเวลาหนูเล่นไม่ได้ พี่เขาจะไม่ตะคอกหนูเลย หนูเป็นคนขี้กลัว ถ้าแบบมาตะคอกใส่หนูคงทำงานต่อไม่ได้เลย แต่นี่พี่เขาจะมาแนวทำให้หนูขำ ทำให้หนูผ่อนคลาย ก็เลยคิดว่า ถ้าไม่ได้เจอพี่โหน่ง แล้วเจอผู้กำกับฯดุ ๆ ล่ะก็หนูคงต้องแย่แน่ ๆ เลย




แว่วว่าเรื่องต่อไปถูกวางบทนางเอกให้เรียบร้อย

แจ็คกี้ ชาเคอลีน : ใช่ค่ะ เรื่อง "ตะวันยอดรัก" หนูก็คิดเหมือนกันว่า เรื่องแรกหนูเล่นร้าย แล้วถ้ามาเล่นบทนางเอกหนูจะทำได้ไหม ตัวคาแรกเตอร์ของ ตะวัน จะเป็นคนห้าว ๆ หน่อย คือเก่งมั่นใจ นี่ก็พยายามมองผู้หญิงที่เขามีคาแรกเตอร์แบบนี้ เพื่อที่จะดูว่าเวลาเขาเดิน เขาแสดงออกยังไง เรียกว่าเตรียมตัวก่อนทำงานค่ะ

ตอนนี้แจ็คกี้เรียนอยู่ ม.6 เป็นช่วงกำลังแอดมิชชั่นเลย การทำงานตรงนี้กระทบบ้างไหมคะ

แจ็คกี้ ชาเคอลีน : กระทบบ้างค่ะ แต่หนูคิดว่าถ้าสิ่งที่เราทำมันเป็นความสุข หนูก็มีกำลังใจทำนะคะ เราอาจจะต้องเหนื่อยกว่าคนอื่นหน่อย แต่ยอมค่ะ หนูรักการทำงานตรงนี้ นี่ก็กะว่าจะมาเรียนต่อมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ อยากเรียนศิลปะศาสตร์เอกการแสดงไปเลย คิดว่านี่คือ อาชีพที่เราสามารถทำได้ ตอนนี้เวลาต้องเข้ากรุงเพทฯมาทำงานก็จะขอลาอาจารย์ ซึ่งทางโรงเรียนก็เข้าใจและสนับสนุนเพื่อน ๆ เองก็จะคอยบอกการบ้าน รายงาน ทำให้หนูสามารถทำงานได้ทัน เราแบ่งเวลาได้การทำงานก็ไม่กระทบค่ะ

แจ็คกี้วางแผนอนาคตตัวเองไว้อย่างไรบ้างคะ

แจ็คกี้ ชาเคอลีน : หนูอยากเป็นนักแสดงอาชีพ ที่ถูกจัดว่าเป็นนักแสดงคุณภาพค่ะ อย่าง พี่แอน ทองประสม พี่เขาเป็นไอดอลของหนู คือเขาเก่งในเรื่องของการแสดง เป็นเจ้าหญิงของวงการในความคิดของหนู ซึ่งนอกจากความเก่งพี่เขาก็ยังวางตัวดีแล้วก็เป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิตได้ด้วย พี่เขาเป็นไอดอลที่หนูอยากทำตามค่ะ

ละครลงจอแล้ว...ฝากอะไรถึงแฟน ๆ หน่อย

แจ็คกี้ ชาเคอลีน : ตอนนี้ตื่นเต้นมากค่ะ บอกเพื่อนทั้งโรงเรียนเลยว่าวันที่ 31 พ.ค. นี้ห้ามลืมดูเด็ดขาดเลยนะ ครอบครัวหนูก็ตื่นเต้น เรียกว่านับวันรอเลย แต่ก็กังวลเหมือนกันว่า มันเป็นครั้งแรกของเรา จะออกมาดีไหม กลัวว่าหนูจะทำได้ไม่ดี แต่ยังไงก็ฝากให้ทุกคนติดตามละครเรื่อง "เงาพราย" ด้วยนะคะ เป็นละครเรื่องแรกของหนูค่ะ

ประวัติของ ชาเคอลีน มึ้นซ์ Jcaqueline Muench

ชื่อเล่น : แจ็คกี้ Jackie

อายุ : 17 ปี ลูกครึ่ง เยอรมัน-ไทย

เกิด : 21 ต.ค. 2536 ที่เยอรมัน ราศี ตุลย์

ที่อยู่ปัจจุบัน : เชียงใหม่

สัตว์เลี้ยงแสนรัก : น้องหมาพันธุ์ไทยชื่อ พิ้งค์กี้

เข้าวงการ : ประกวดร้องเพลง WTV

ผลงานสร้างชื่อ : โฆษณา พอนด์ส

แนวเพลงที่ชอบ : อาร์ แอนด์ บี, ป๊อป

ศิลปินคนโปรด : เจนนิเฟอร์ คิ้ม

ไอดอล : แอน ทองประสม

ความสามารถพิเศษ : ร้องเพลง, เล่นอูคูเลเล่

นิยามรัก : ความรักคือสิ่งที่ทุกคนอยากได้ อยากมี เป็นสิ่งสวยงาม

คติประจำใจ : ทำวันนี้ให้ดีที่สุด



ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก



ปีที่ 37 วันที่ 8-14 มิถุนายน 2554
Create Date :18 มิถุนายน 2554 Last Update :18 มิถุนายน 2554 22:48:41 น. Counter : Pageviews. Comments :2