บรรยากาศโต๊ะนั่งด้านในห้องแอร์ร้าน “เฮือนลำพูน”        อยู่กรุงเทพฯ หากนึกอยากกินอาหารเมืองเหนือขึ้นมา “ตระเวนกิน” ขอบอกว่าไม่ต้องถึงกลับตีตั๋วรถไฟ รถทัวร์ หรือเครื่องบิน ไปเยือนถึงถิ่นภาคเหนือให้เสียสตางค์และเสียเวลา เพราะว่าในกรุงเทพฯ มีร้านอาหารเหนือชื่อดัง เจ้าประจำที่เรามักชอบแวะเวียนไปฝากท้องอิ่มเสียทุกครั้ง เมื่อนึกอยากกินอาหารเหนือลำแต้ๆ เจ้า

       ร้านที่ว่านี้ก็คือ “เฮือนลำพูน” มีสาขาแรกอยู่ที่ซอยสวนผัก-ตลิ่งชัน แต่ร้านที่เราจะขอพามานั่งกินกันในมื้อนี้ คือ สาขาที่ตั้งอยู่ตรงถ.ราชพฤกษ์ เพราะด้วยบรรยากาศของร้านที่นี่ช่างกว้างขวาง ดูโปร่งโล่งร่มรื่นด้วยแมกไม้ และทางร้านจัดโต๊ะนั่งได้บรรยากาศที่ชวนนั่งมากมาย มีทั้งโต๊ะนั่งเป็นซุ้มๆ นั่งกินข้าวรับลมเย็นๆ สบายๆ โซนโต๊ะนั่งริมน้ำที่จัดเป็นแบบขันโตก หรือถ้าใครชอบนั่งในห้องแอร์เย็นฉ่ำก็มีให้เลือกนั่งตามใจชอบ แล้วยังมีดนตรีโฟล์คซองเล่นสดให้ฟังแบบเพลิดเพลินในทุกวัน ตั้งแต่ 19.00 น. เป็นต้นไป ช่วยเพิ่มอรรถรสให้กับการกินอาหารเหนือได้เป็นอย่างดี

มุมโต๊ะนั่งกินข้าวแบบขันโตก        ที่ “เฮือนลำพูน” แห่งนี้ เขาเน้นขายอาหารเมืองเหนือแต้ๆ เจ้า แถมยังเป็นแบบโฮมเมด เพราะว่าทางร้านปรุงขึ้นมาเองหมดทุกอย่าง ซึ่งจะเลือกสรรเอาวัตถุดิบพื้นบ้านอย่างพวกเครื่องเทศ เครื่องสมุนไพร และเครื่องปรุงอื่นๆ ที่ต้องสั่งตรงมาจากภาคเหนือ เน้นเรื่องความสดใหม่ และปลอดสารพิษ เพื่อนำมาปรุงเป็นเมนูเมืองเหนือรสเลิศที่ชวนกินมากหลาย อีกทั้งทางร้านก็ยังมีอาหารไทยภาคกลาง และอาหารอีสานเพิ่มเติมมาให้ได้ลิ้มลองกันด้วย

น้ำพริกเห็ดหล่ม        แต่ว่าในมื้อนี้เราขอเลือกสั่งมาแต่อาหารเหนือรสเด็ด ที่เป็นเมนูเด่นชูโรงของทางร้านมาชิมกันให้หายอยากอาหารเหนือกันดีกว่า ประเดิมท้องด้วยเมนูนี้ น้ำพริกเห็ดหล่ม (140 บาท) เป็นน้ำพริกพื้นบ้านของคนเหนือ โดยทางร้านนำเอาเห็ดหล่มสดมาโขลกกับเครื่องน้ำพริก ใส่หอมและกระเทียมเผา แล้วจึงนำมาผัดกับน้ำมันนิดหน่อย เสิร์ฟเคียงมากับผักสดและผักต้มนานาชนิด ลิ้มรสน้ำพริกหอมๆ รสชาติเข้มข้นกลมกล่อมอร่อยถูกปากดีจริง

แหนมย่างใบตอง        เสิร์ฟมาติดๆ ด้วย แหนมย่างใบตอง (70 บาท) เป็นแหนมที่ทางร้านทำเองตามสูตรของคนเหนือแบบดั้งเดิม แล้วห่อด้วยใบตอง นำมาย่างด้วยเตาถ่านจนแหนมสุกได้ที่ ส่งกลิ่นหอมของใบตองอ่อนๆ หั่นชิ้นแหนมส่งเข้าปากเคี้ยวแล้วได้รสชาติแหนมรสดีอมเปรี้ยวนิดๆ กินเคียงกับขิง กระเทียม หัวหอม และพริกขี้หนูโดนใจปากกันไป

ลาบคั่วปลากะพง        ต่อด้วยเมนูใหม่ที่ทางร้านขอนำเสนอ ลาบคั่วปลากะพง (140 บาท) เป็นลาบแบบเมืองเหนือ ซึ่งทางร้านเลือกนำเอาเนื้อปลากะพงมาสับและนำมาคลุกเคล้ากับพริก และเครื่องเทศของทางเหนือ อย่างมะแขว่นและดีปลี แล้วนำมาคั่วแบบแห้งๆ โรยหน้าด้วยหอมเจียว และใบมะกรูดทอดกรอบ ลิ้มรสลาบคั่วช่างถูกปากรส เนื้อปลาชุ่มรสถึงเครื่องลาบจริงๆ ยิ่งกินคู่กับผักพื้นบ้านที่ทางร้านปลูกเองแบบปลอดสารพิษ อร่อยจนเกลี้ยงจาน

ขนมจีนน้ำเงี้ยว        และถ้ากินอาหารเหนือก็ต้องไม่พลาดเมนูนี้ ขนมจีนน้ำเงี้ยว (45 บาท) สีสันชวนกิน เพราะทางร้านโขลกเครื่องพริกแกงเองทำให้ได้น้ำเงี้ยวที่เข้มข้น ใส่ดอกงิ้วช่วยชูรสและให้กลิ่นหอม ใส่ซี่โครงหมูที่ตุ๋นจนเปื่อยนุ่ม และใส่เลือดหมูด้วย ส่วนขนมจีนเป็นขนมจีนสดเส้นเล็กกำลังดี กินแล้วขอยกนิ้วให้เลยในความกลมกล่อมเข้มข้นของน้ำเงี้ยวรสชาติดีถูกปากสุดๆ

แกงแคเห็ดเผาะ        จากนั้นมาซดน้ำร้อนๆ กับ แกงแคเห็ดเผาะ (140 บาท) เป็นอีกหนึ่งเมนูใหม่ที่ทางร้านแนะนำให้ชิมกัน ทางร้านโขลกเครื่องพริกแกงเอง มีส่วนผสมของเครื่องเทศต่างๆ ด้วย และใส่ข้าวคั่วด้วยเพิ่มความเข้มข้น แกงใส่เห็ดเผาะ ตำลึง ถั่วฝักยาว มะเขือพวง มะเขือเปราะ ถั่วพู และผักเผ็ดเป็นผักพื้นเมืองเหนือ เรียกว่าอุดมไปด้วยผักนานาชนิด ลองลิ้มซดน้ำแกงร้อนๆ หอมกลิ่นเครื่องแกงขึ้นจมูก รสชาติเข้มข้นกลมกล่อมปากมาก

ผัดหมี่ชาวเหนือ        แล้วมาชิมเมนูนี้กัน ผัดหมี่ชาวเหนือ (80 บาท) เป็นเส้นหมี่ขาวนำมาผัดกับซีอิ้วดำ ใส่หมูชิ้น และผักคะน้า ปรุงรสผัดคลุกเคล้าให้เข้ากัน และมีเส้นหมี่ขาวทอดกรอบใส่มาด้วย เวลากินให้เคล้าเคล้าเส้นหมี่กับหมี่กรอบให้เข้ากัน ชิมแล้วได้ 2 อารมณ์ในคำเดียวคือ หมี่กรอบเคี้ยวกรอบกรุบผสานรสชาติเข้ากับเส้นหมี่เคี้ยวนุ่มรสชาติดี โดยไม่ต้องปรุงเพิ่ม

ปลาทูทรงเครื่อง        ปิดท้ายมื้ออิ่มสุดๆ กับเมนูนี้ ปลาทูทรงเครื่อง (100 บาท) ทางร้านเลือกนำปลาทูหอมจากแม่กลอง นำมาทอดแล้วราดด้วยเครื่องสมุนไพร มีหอมแดง ตะไคร้ พริกชี้ฟ้าแดง และใส่ไข่ด้วย กินแล้วถูกปากไม่ใช่น้อย ปลาทูเนื้อแน่นเค็มนิดๆ มันๆ อร่อยถูกปาก และได้รสชาติของเครื่องสมุนไพรหอมๆ

บรรยากาศโต๊ะนั่งเป็นซุ้มๆ        แม้ว่าเราจะปิดมื้ออิ่มแบบพุงกางกับเมนูเหล่านั้นไปแล้ว แต่ว่าก็ยังแอบเห็นว่าในรายการยังมีอาหารเหนือ อาหารไทย-อีสาน รวมถึงขนมหวานและเครื่องดื่มอื่นๆ ที่น่าลิ้มลองอีกมากมาย อาทิ ไก่ย่าง (ตัวละ 260 บาท ครึ่งตัว 130 บาท) ข้าวซอยไก่ (55 บาท) ข้าวคลุกงา (25 บาท) แกงผักหวานไข่มดแดง (120 บาท) ลอดช่องแตงไทย (30 บาท) ข้าวเหนียวมะม่วง (70 บาท) ออเดิร์ฟเหนือ (130 บาท) แกงโฮะ (90 บาท) น้ำลำใย (40 บาท) น้ำมะพร้าว (40 บาท)

       เรียกว่าหากมิตรรักนักกินคนไหนชื่นชอบอาหารเหนือ หรืออยากจะลองลิ้มอาหารเหนือขึ้นมาเหมือนอย่าง “ตระเวนกิน” ขอบอกว่ามาที่ร้าน “เฮือนลำพูน” แล้วไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน เพราะว่าอาหารเหนือของที่นี่เขาลำแต้ๆ เจ้า

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

“เฮือนลำพูน” (สาขาราชพฤกษ์) ตั้งอยู่ที่ 45/2 ม.13 ถ.ราชพฤกษ์ แขวงตลิ่งชัน เขตตลิ่งชัน กทม. การเดินทางจากสะพานพระปิ่นเกล้า วิ่งตรงมาถ.บรมราชชนนีจนถึงหน้าสน.ตลิ่งชัน และให้ขึ้นสะพานไปทางขวาลงถ.ราชพฤกษ์ และวิ่งตรงมาก็จะเห็นร้านเฮือนลำพูน อยู่ซ้ายมือ มีป้านร้านให้เห็นชัดเจน มีที่จอดรถบริการ เปิดทุกวัน (หยุดวันจันทร์) เวลา 10.00-22.00 น. โทร. 0-2884-4213, 08-4529-3113, 08-4529-3223 และยังมีอีก 2 คือ สาขาสวนผัก อยู่ตรงข้ามซ.สวนผัก 35 โทร. 0-2448-4847, 08-1827-2525, 08-1961-7300 และสาขาเดอะ บริโอ มอลล์ ถ.พุทธมณฑลสาย 4 โทร. 0-2116-5697, 09-8260-4355

*    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *