ขณะที่ตลาดรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ในบ้านเรากำลังโตวันโตคืน หลายค่ายต่างเสริมทัพเพิ่มทางเลือกและขยายช่องทางจำหน่ายกันอย่างคึกคัก แต่สำหรับค่ายส้อมเสียง “ยามาฮ่า” แม้จะดูไม่หวือหวา เพราะโมเดลที่วางขายอยู่ตอนนี้ยังเป็นเพียงรุ่นที่นำเข้ามาล้วนๆ ทำให้ราคาค่อนข้างสูงหากเปรียบเทียบกับคู่แข่งที่มีไลน์ประกอบในประเทศ อีกทั้งการสื่อสารทางการตลาดยังไม่โดดเด่นชัดเจนเหมือนกับยี่ห้ออื่นๆ

อย่างไรก็ตาม ใช่ว่ากระแสตอบรับจากสิงห์นักบิดจะดูเงียบเหงา เนื่องจากยอดขายยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะบิ๊กสกู๊ตเตอร์ตัวแรงประจำค่ายอย่างรุ่น ทีแม็กซ์ 530 (Tmax530) นับเฉพาะปีนี้เพียง 4 เดือน (ม.ค.-เม.ย.) ที่ผ่านมา โกยยอดขายไปแล้วกว่า 50 คัน



ทำให้เกิดคำถามอยากรู้ขึ้นมาว่าเจ้าสกู๊ตเตอร์ยักษ์รุ่นนี้มีดีอะไร เหตุใดจึงได้รับความนิยมทั้งที่ไม่เห็นมีการโฆษณาและประชาสัมพันธ์มากนัก

อันดับแรกสำรวจรูปลักษณ์ภายนอกของโมเดลล่าสุดดูดุดันล้ำสมัย ซึ่งเป็นการปรับโฉมใหม่หมดจากปี 2011 ไฟหน้าคู่ขนาดใหญ่แบบสปอร์ต ขนาบข้างด้วยไฟเลี้ยวฝังอยู่บนบังลมทั้งสองด้าน ส่วนไฟท้ายดีไซน์ถอดแบบมาจากรุ่นพี่สังกัดเดียวกันอย่าง YZF-R1 พิกัด 1,000 ซีซี. หน้าปัดเรือนวัดความเร็วขนาดใหญ่บอกสถานะครบถ้วน แสดงข้อมูลทั้งแบบอนาล็อกและดิจิตอล แฮนด์บังคับฝั่งขวาติดตั้งสวิตซ์ออฟ-รัน และปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ ส่วนฝั่งซ้ายใช้ปรับไฟสูง-ต่ำ ไฟเลี้ยว แตร และเบรกมือสำหรับการจอดบนทางลาดชัน



สำหรับมิติตัวรถเห็นครั้งแรกก็รู้ว่าแตกต่างจากสกู๊ตเตอร์ตามท้องตลาดทั่วไป เพราะดูโดยรวมแล้วขนาดใหญ่กว่ามาก ด้วยความกว้าง 775 มม. ยาว 2,195 มม. สูง 1,445 มม. ความสูงเบาะ 800 มม. ระยะฐานล้อ 1,580 มม. และมีน้ำหนักรวมอยู่ที่ 217 กก. ซึ่งเบากว่าโฉมเดิมประมาณ 5 กก. เนื่องจากใช้เฟรมแบบใหม่เป็นอลูมิเนียม

ส่วนระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบเทเลสโคปิก ด้านหลังเป็นสวิงอาร์มใช้โช้กเดี่ยววางนอน การห้ามล้อใช้ดิสก์เบรกหน้าคู่ หลังดิสก์เดี่ยว แต่ไม่มีมีระบบ ABS ติดตั้งมาให้ด้วย ด้านวงล้อใช้ขนาด 15 นิ้ว โอบรัดด้วยยางหน้าไซส์ 120/70 และยางหลัง 160/60





ขณะที่ขุมพลังเครื่องยนต์แบบ 4 จังหวะ 2สูบ DOHC ขยับขึ้นจากเดิม 500 ซีซี. มาเป็นขนาด 530 ซีซี. ระบายความร้อนด้วยน้ำ จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ ให้กำลังสูงสุด 45 แรงม้าที่ 6,750 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 52 นิวตัน-เมตรที่ 5,250 รอบต่อนาที ระบบขับเคลื่อนออโตเมติก ส่งกำลังด้วยชุดสายพานแบบใหม่

ทั้งนี้รถที่ศูนย์ยามาฮ่าไรเดอร์คลับเตรียมไว้ให้ลูกค้าสำหรับใช้ทดลองขี่ มีการเปลี่ยนแปลงอุปกรณ์จากเดิมไปสองจุด คือ ชิลด์บังลมด้านหน้าเป็นของแต่งยี่ห้อ Ermax รวมถึงท่อไอเสียจากแบรนด์ดัง Akrapovic



ในส่วนของการสัมผัสสมรรถนะ อัตราเร่งมาติดมือ บิดสนุก และใช้เวลาเพียงอึดใจสามารถทำความเร็วไต่ระดับได้ทะลุ 160 กม./ชม. แต่ไม่รู้ว่าถ้าใส่ท่อเดิมแล้วความแรงจะแตกต่างจากนี้มากหรือไม่

ด้านการควบคุมรถขณะเข้าโค้งสามารถทำได้อย่างมั่นใจ ระบบช่วงล่างเซ็ตมาค่อนข้างแข็งสำหรับวิ่งด้วยความเร็วสูงโดยเฉพาะ ส่วนการใช้งานวิ่งฝ่าการจราจรที่หนาแน่นในเมืองทำได้คล่องตัว จนแทบไม่รู้สึกว่ากำลังคร่อมรถที่มีขนาดใหญ่ซึ่งมีน้ำหนักตัวกว่า 200 กก.

ขณะเดียวกัน หากเทียบกับบิ๊กสกู๊ตเตอร์สัญชาติเดียวกันที่ผู้เขียนเคยได้สัมผัส สำหรับฮอนด้า อินเทกรา (Honda Integra) แม้จะไม่ใช่คู่แข่งโดยตรงแต่ก็ถือว่าพอจะขึ้นเวทีแลกหมัดกันได้ ต้องยอมรับว่า ทีแม็กซ์ 530 ทำได้เหนือกว่าในส่วนของอัตราเร่งและให้อารมณ์การขี่ที่สนุกกว่ามาก

แต่ในส่วนของความสะดวกสบาย ซึ่งเป็นอีกจุดเด่นของรถประเภทนี้ยังไม่ประทับใจเท่าที่ควร เพราะท่านั่งยังรู้สึกเกร็งๆ ไม่ค่อยผ่อนคลาย ส่วนช่องเก็บของใต้เบาะก็ดูเล็กเกินไป ใส่หมวกเต็มใบได้เพียงใบเดียวและเหลือพื้นที่อีกไม่มากนัก แม้ว่าจะมีช่องเก็บของด้านหน้าอีกสองช่องเล็กๆ ระหว่างแฟริ่งบังลมมาให้ด้วยก็ตาม

ด้านอัตราบริโภคน้ำมัน จากการทดลองขี่ระยะทางประมาณ 100 กม.วัดค่าเฉลี่ยได้ที่ 19 กม./ลิตร

สรุปโดยรวมแล้วบุคลิกของยามาฮ่า ทีแม็กซ์ 530 เป็นบิ๊กสกู๊ตเตอร์หัวใจสปอร์ตที่ขี่สนุกเร้าใจ น่าซื้อใช้เป็นอย่างมาก ติดอย่างเดียวตรงที่สนนราคา 525,000 บาท ถือว่าสูงมากพอสมควรเมื่อเทียบกับตัวเลือกอื่นในท้องตลาด แต่สำหรับนักบิดที่กระเป๋าเงินหนา ต้องการรถวิ่งในเมืองคล่องตัว ชอบขี่เที่ยวทางไกลแบบสบายๆ มากกว่าบิ๊กไบค์ประเภทมีเกียร์ คันนี้ตอบโจทย์ความต้องการให้ได้แน่นอน






//www.manager.co.th/Motoring/viewNews.aspx?NewsID=9560000060117