bloggang.com mainmenu search
บรรยากาศชั้นล่างของร้าน        เชื่อว่าอาหารตามสั่งแบบง่ายๆ ที่สั่งกันจนติดปากของใครหลายคนก็คงจะเป็นเมนูผัดกะเพรา ไม่ว่าจะเป็นกะเพราหมู กะเพราไก่ กะเพราปลาหมึก และอีกสารพัดผัดกะเพรา ด้วยรสชาติที่เข้มข้นจัดจ้าน หอมกรุ่นเป็นเอกลักษณ์ ทำให้อร่อยถูกปากถูกใจ ซึ่งถ้าจะเลือกเอากะเพรามาเป็นพระเอก แล้วสรรค์สร้างเมนูใหม่ๆ ขึ้นมาจะเลือกเป็นเมนูอะไร

       ถ้ายังคิดไม่ออก “ผ่านมาแวะกิน” แนะนำให้มาที่ร้าน “กะเพราบุรี” ที่นี่เขาเป็นเมืองแห่งกะเพราเลยทีเดียว เพราะเป็นร้านอาหารจานเดียวที่ขนเอากะเพรามาทำสารพัดเมนูให้เลือกชิมกัน โดยจะเลือกใช้เฉพาะกะเพราแดง เนื่องจากให้กลิ่นและรสชาติที่ฉุนจัดจ้านมากกว่ากะเพราขาว และคัดเลือกวัตถุดิบที่สดใหม่ เพื่อให้รสชาติของกะเพราแต่ละจานนั้นหอมอร่อย

       ซึ่งการมาลิ้มลองความอร่อยที่นี่ ก็มีขั้นตอนดังต่อไปนี้ ขั้นแรกเลือกว่าจะกินกะเพราอะไร เช่น กะเพราไก่กรอบ กะเพราตับหมู กะเพราเบคอน กะเพราทะเล เป็นต้น จากนั้นก็เลือกว่าจะกินคู่กับข้าวสวย หรือเส้นอื่นๆ จะกินแบบราดหรือผัดคลุก และจะเลือกสูตรดั้งเดิมหรือสูตรเครื่องเทศ (ใส่ขมิ้น)

ปลาทูทอดราดกะเพราหมูสับ        พอเลือกกันได้แล้ว ก็มาดูกันว่าหน้าตาเป็นอย่างไร อย่างจานแรก ปลาทูทอดราดกะเพราหมูสับ (78 บาท) ที่ถือว่าเป็นเมนูเฉพาะของที่นี่ จะใช้ปลาทูที่เลาะก้างออกแล้วมาทอดให้กรอบนอกนุ่มใน ราดด้วยกะเพราหมูสับที่ปรุงแบบครบรส เสิร์ฟคู่กับข้าวหอมมะลิร้อนๆ ชิมแล้วผัดกะเพราเผ็ดร้อนเข้มข้น เข้ากับปลาทูที่นุ่มๆ กรอบๆ ถือเป็นอาหารที่กินคู่กันได้อย่างลงตัว

เส้นหมี่ผัดกะเพราเป็ดย่างสูตรเครื่องเทศ        ลองเปลี่ยนมาเป็นเมนูเส้น เส้นหมี่ผัดกะเพราเป็ดย่างสูตรเครื่องเทศ (75 บาท) ที่ใช้เส้นหมี่ขาวมาผัดกับขมิ้น และคลุกเคล้าให้เข้ากับกะเพราเป็ดย่างที่เป็นเป็นชิ้นพอดีคำ ลองชิมเส้นหมี่เหนียวนุ่มได้ความหอมขมิ้นและกะเพรา รสชาติเป็ดย่างออกเค็มนิดๆ เนื้อนุ่มอร่อยดี

สปาเกตตี้ผัดเกาเหลาเนื้อ        อีกเมนูเป็น สปาเกตตี้ผัดเกาเหลาเนื้อ (90 บาท) ทางร้านเลือกใช้เครื่องเกาเหลาแบบครบสูตร ทั้งลูกชิ้นเนื้อ เนื้อสดที่หมักจนได้ที่แล้วลวกพอสุก และเนื้อตุ๋นเครื่องยาจีนจนเปื่อยนุ่ม มาผัดเป็นผัดกะเพราและใส่เส้นสปาเกตตี้ที่ลวกแล้วลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน ยกมาเสิร์ฟตอนร้อนๆ ชิมเส้นสปาเกตตี้ที่เคลือบด้วยรสชาติเข้มข้นของผัดกะเพรา ส่วนเครื่องเกาเหลาก็ได้รสชาติ หอมยาจีนอยู่แล้ว เป็นเมนูที่ถูกใจไม่น้อย

ยำมะม่วงกุ้งแห้งป่น        แต่นอกจากเมนูกะเพราทั้งหลายแล้ว ก็ต้องมาลองเมนูกินเล่นของร้านนี้ที่น่าชิมไม่แพ้กัน อย่างเช่น ยำมะม่วงกุ้งแห้งป่น (65 บาท) เป็นสูตรแบบสงขลา ที่จะเลือกใช้มะม่วงเปรี้ยวมาซอย ปรุงเข้ากับน้ำยำ ใส่หอมแดง พริก ถั่วลิสง และกุ้งแห้งป่นละเอียด เป็นยำแบบแห้งๆ ได้รสความเปรี้ยวจากมะม่วง น้ำยำรสชาติกำลังดี และความเค็มเล็กๆ จากกุ้งแห้งป่นที่เคลือบอยู่บนมะม่วงทุกเส้น

ปีกไก่ทอดซีอิ้วหอม        แถมอีกเมนู ปีกไก่ทอดซีอิ้วหอม (65 บาท) ใช้ปีกกลางไก่หมักกับซีอิ้วและเครื่องปรุงสูตรของทางร้าน จากนั้นนำไปทอดในน้ำมันร้อนๆ จนกรอบ เวลาเสิร์ฟจะโรยหน้าด้วยใบกะเพราทอดกรอบ ชิมปีกไก่ทอดที่เนื้อนุ่มกรอบ หอมกลิ่นซีอิ้ว ได้รสชาติเค็มกำลังดี

ชามะนาว น้ำกระเจี๊ยบ และชานมเย็น        อิ่มแล้วก็มาชิมเครื่องดื่มเย็นๆ สูตรเฉพาะของทางร้าน อาทิ ชามะนาว (35 บาท) น้ำกระเจี๊ยบ (25 บาท) ชานมเย็น (35 บาท) เป็นต้น และเมนูกะเพราอื่นๆ ที่อยากจะแนะนำ อย่างเช่น กะเพราเต้าหู้หมูสับ/ไก่สับ (68 บาท) สปาเกตตี้ผัดกะเพราเบคอน (90 บาท) กะเพราไก่กรอบ (65 บาท) หรือ กะเพราทูน่า (68 บาท)

       หลากหลายเมนูผัดกะเพราที่เลือกสรรได้ตามใจชอบ ต้องมาชิมกันที่ร้าน “กะเพราบุรี” ในซอยอารีย์ 2 เท่านั้น

       * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

ร้าน “กะเพราบุรี” ตั้งอยู่ที่ 1/5 ซ.อารีย์ 2 ถ.พหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม. การเดินทางจากอนุเสาวรีย์ชัยฯ ให้ใช้ถนนพหลโยธินขาออก มุ่งหน้าสวนจตุจักร ตรงมาเรื่อยๆ จนถึงสถานี BTS อารีย์ ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยพหลโยธิน 7 (ซอยอารีย์) ตรงมาเรื่อยๆ สังเกตทางซ้ายมือ จะเห็นซอยอารีย์ 2 ให้เลี้ยวเข้าซอย แล้วตรงไปอีกประมาณ 50 เมตร จะเห็นร้านอยู่ทางซ้ายมือ สามารถจอดรถได้บริเวณร้าน ทางร้านมีบริการเดลิเวอรี่ (เสียค่าส่งเอง) ร้านเปิดวันจันทร์-เสาร์ (หยุดวันอาทิตย์) เวลา 11.00-21.00 น. โทร. 08-8227-7080 www.facebook.com/kapraoburi
//www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9560000037885
Create Date :31 มีนาคม 2556 Last Update :31 มีนาคม 2556 22:22:15 น. Counter : 3516 Pageviews. Comments :1