นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวภายหลังหารือร่วมกับตัวแทนชมรมผู้ประกอบการรถโดยสารประจำทาง หมวด 4 เอกชน กรุงเทพฯ (รถสองแถว) และสมาคมพัฒนารถร่วมเอกชน หรือผู้ประกอบการรถโดยสารร่วมบริการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ว่า เพื่อความรอบคอบในการพิจารณา ในสัปดาห์นี้จะเชิญตัวแทนของผู้ประกอบการทั้งสองกลุ่มมาหารือรายละเอียดเรื่องต้นทุนอีกครั้ง โดยในวันที่ 25 เมษายนนี้ และคงได้คำตอบชัดเจนว่าจะอนุมัติให้ผู้ประกอบการกลุ่มใดปรับขึ้นหรือไม่ปรับขึ้นค่าโดยสาร

ทั้งนี้ คงไม่สามารถยื้อเรื่องออกไปได้อีกแล้ว เพราะบางกลุ่มเดือดร้อนจริงๆ โดยเฉพาะกลุ่มรถสองแถวที่ใช้น้ำมันดีเซลเป็นเชื้อเพลิง แต่รถร่วม ขสมก.ยังพอจะรับภาระได้ เนื่องจากรัฐบาลยังชดเชยราคาก๊าซอยู่

ด้านนายฉัตรไชย ภู่อารีย์ ประธานชมรมผู้ประกอบการรถโดยสารประจำทางหมวด 4 เอกชนกรุงเทพมหานคร (รถสองแถว) กล่าวว่า ได้รับผลกระทบมาก โดยเฉพาะต้นทุนน้ำมันดีเซลมีการปรับเพิ่มขึ้นจากวันละ 600 บาทต่อคัน เป็น 1,000 บาทต่อคัน ส่วนค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทต่อวัน ที่จะปรับเพิ่มขึ้นนั้น คาดว่าจะส่งผลกระทบทำให้ต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านแรงงานเพิ่มขึ้นอีกเดือนละ 1,000 บาทต่อคนต่อเดือน

โดยหากรัฐจะยังคงยืนยันให้ตรึงค่าโดยสารต่อไป ก็ต้องเข้ามาช่วยเหลือชดเชยส่วนต่างราคาน้ำมันดีเซลที่เพิ่มขึ้นจากในช่วงเวลาที่กำหนดค่าโดยสาร 5.50 บาทต่อลิตร ซึ่งหากในวันที่ 25 เมษายนนี้ รัฐบาลยังไม่ยอมให้ปรับราคา ก็จะฟ้องร้องต่อศาลปกครอง เพื่อให้ได้รับความเป็นธรรมต่อไป แต่ยืนยันว่าจะไม่นำรถมาปิดถนนให้ประชาชนเดือดร้อนแน่นอน

สำหรับอัตราค่าโดยสารที่รถสองแถวเสนอขอปรับราคามี 3 ประเภท ได้แก่
1.รถสองแถว ขนาด 4 ล้อ และ 6 ล้อ ขอปรับจาก 5.50 บาท เป็น 8 บาท
2.รถสองแถวขนาดใหญ่ (บัส) ปรับอากาศ ขอปรับจาก 10 บาทตลอดสาย เป็น 13-21 บาท คิดตามระยะทาง
และ3. รถสองแถวขนาดใหญ่ (บัส) ไม่ปรับอากาศ ขอปรับจาก 8 บาท เป็น 10 บาท

Mthai News